สมาชิกใหม่ของตระกูล A-Class เจนเนอเรชันที่ 4 เผยโฉมอย่างเป็นทางการ Mercedes-AMG A35 4MATIC จัดหนักด้วยเครื่อง 2.0 ลิตร เทอร์โบ 302 แรงม้า จับคู่เกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด ขับสี่แต่กำเนิด พร้อมโลดแล่นบนท้องถนนปลายปีนี้
ฮอตแฮทช์ AMG โมเดลใหม่นี้มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน ปารีส มอเตอร์โชว์ ต้นเดือนหน้า ราคาค่าตัวคาดว่าจะอยู่ที่ราว 35,000 ปอนด์ (1.75 ล้านบาท) โดยจะวางตำแหน่งขั้นกลางระหว่าง A250 และ A45 4MATIC ที่กำลังจะคลอดออกมา คู่ปรับประจำก๊วนได้แก่ BMW M140i, Audi S3 ตลอดจน Volkswagen Golf R
หัวใจของ A35 4MATIC คือเครื่องยนต์ M260 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ขยายความกว้างกระบอกสูบเป็น 83 มม. ช่วงชัก 92 มม. ข้อเหวี่ยงเป็นแบบ die-cast Aluminium มอบพละกำลังสูงสุด 302 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 3,000-4,000 รอบต่อนาที วางเครื่องในแนวขวางกับตัวรถ
ระบบอัดอากาศแบบ Twin-scroll Turbocharger ได้รับการปรับจูนใหม่เพื่อลดแรงดันย้อนกลับ ปรับระบบควบคุมวาล์วแปรผัน Camtronic ใหม่ กระบอกสูบขึ้นรูปแบบพิเศษ และระบบระบายไอเสียแบบพิเศษที่สามารถควบคุมควบคุมการเปิด-ปิดได้เองโดยอัตโนมัติในแต่โหมดการขับขี่
ระบบส่งกำลังดูอัลคลัทช์ 7 สปีด ของ A35 มาพร้อมกับระบบ Speedshift ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์แต่ละจังหวะรวดเร็วและต่อเนื่องยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Race Start ที่จะช่วยเรียกอัตราเร่งสูงสุดขณะออกตัว และมีแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัยมาเป็นมาตรฐาน
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกัน มันจะกระจายกำลังขับเคลื่อนแปรผันตามโหมดการขับขี่ตั้งแต่ขับเคลื่อนหน้า 100% ไปจนถึงขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ 50:50 ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้จากปุ่ม AMG Dynamic Select อันประกอบด้วย Slippery, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual ทั้งนี้ โหมด Slippery เป็นโหมดใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนถนนเปียกโดยจะช่วยลดแรงม้า แรงบิด และเพิ่มความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ยิ่งขึ้น
ฟังก์ชันใหม่ที่ชื่อว่า Gliding จะช่วยให้ผู้ขับสามารถเลือกคาร์แร็กเตอร์ของ Engine Brake ได้ว่าจะให้หน่วงมากน้อยแค่ไหนยามเมื่อยกคันเร่งในโหมด Individual เมื่อเปิดโหมด Sport+ และฟังก์ชัน Race Start เจ้า A35 คันนี้สามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.7 วินาที เท่านั้น ความเร็วสูงสุดทำได้ 250 กม./ชม. อัตราสินเปลืองเฉลี่ย 13.7 กม./ลิตร ปล่อย CO2 167 กรัม/กม. ตามข้อกำหนดของ NEDC
เพื่อตอบสนองต่อสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นจากระบบขับเคลื่อนใหม่ของ A35 4MATIC, Mercedes-AMG ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวถังด้วยการเพิ่มสิ่งที่เรียกว่า shear panel ใต้เครื่องยนต์ โครงสร้างอลูมิเนียมถูกยึดกับตัวถังเหล็กและเชื่อมติดกับเหล็กยึดทแยงมุมอีก 2 เส้น ดังนี้ด้านหน้าของรถจึงแข็งแกร่งและทนต่อแรงบิดงอได้มากยิ่งขึ้น
โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท ที่ทำจากอลูมิเนียม AMG บอกว่ามันช่วยลดน้ำหนักใต้สปริงและเพิ่มการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น กันสะเทือนหลังเป็นระบบโฟร์ลิงก์
โช๊คอัพแบบพาสซิฟติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน โช๊คอัพแปรผันปรับระดับความแข็งได้ 3 ระดับมีให้เลือกเป็นออปชันเสริม พวงมาลัยเป็นพาวเวอร์ไฟฟ้าแปรผันน้ำหนักตามความเร็ว ระบบเบรกหน้าเป็นแบบโมโนบล็อกคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ จาน 350 มม. เบรกหลังคาร์ลิเปอร์สูบเดียว จาน 330 มม.
A35 4MATIC ถูกขัดเกลาเรือนร่างภายนอกให้แตกต่างจาก A-Class ปกติด้วยกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต กันชนหน้าพร้อมช่องสูดอากาศขนาดใหญ่ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์ท้าย และกันชนท้ายที่มาพร้อมดิฟฟิวเซอร์สำหรับจัดระเบียบลมใต้ท้องรถ ประกบกับปลายท่อไอทรงกลมสีดำสุดดุดัน
ภายในติดตั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ต พวงมาลัย AMG ฐานตัดพร้อมทัชแพด หน้าปัดดิจิตอลสไตล์ AMG พร้อมโหมด Supersport โชว์มตรวัดรอบขนาดใหญ่เต็มตา ฟีเจอร์อื่นๆ ได้แก่ AMG Track Pack ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสาระบันเทิง MBUX มันสามารถบันทึกข้อมูลการขับขี่ในแต่ละรอบสนามพร้อมช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขับขี่ต่างๆ อาทิ อัตราเร่ง เบรก และเวลาต่อรอบ
รหัสความแรง 35 บนเรือนร่างของ A-Class เจนเนอเรชันที่ 4 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของซับแบรนด์ AMG ในการผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นเริ่มต้นใหม่เรียกได้ว่าเป็นการแตกรุ่นย่อยใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งรุ่นให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งรหัสความแรงนี้จะสืบทอดไปยังโมเดลอื่นๆ ของ Mercedes อย่าง CLA, CLA Shooting Brake, GLA และ GLB เอสยูวีพื้นฐาน A-Class ที่จะเปิดตัวในอนาคต ต่อไป
Gallery