All-New Toyota Corolla Altis เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ นำเสนอ 4 จุดเด่น ได้แก่ TNGA Platform ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 และระบบเชื่อมต่อ T-Connect Telematics สู่บทบาทใหม่ของรถยนต์ C-Segment ยอดนิยม
ราคาอย่างเป็นทางการ
- รุ่น 1.6 J LIMO ราคา 829,000 บาท
- รุ่น 1.6 G CVT ราคา 869,000 บาท
- รุ่น 1.8 GR Sport ราคา 999,000 บาท
- รุ่น 1.8 Hybrid Entry ราคา 939,000 บาท
- รุ่น 1.8 Hybrid MID ราคา 989,000 บาท
- รุ่น 1.8 Hybrid High ราคา 1,099,000 บาท
กว่า 50 ปี 11 เจนเนอเรชั่น ที่รถยนต์ Corolla สร้างตำนานบนเส้นทางสายยานยนต์ วันนี้ All-New Toyota Corolla Altis เจนเนอเรชั่นที่ 12 เปิดตัวในไทยแล้วอย่างเป็นทางการ การกลับมาครั้งนี้เป็นการปฏิวัติใหม่หมดในทุกๆ ด้าน นำเสนอจุดเด่นที่แสดงถึงการก้าวกระโดดครั้งสำคัญ และเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้ดูดียิ่งขึ้น
ขุมพลัง 3 ทางเลือก
Corolla Altis ใหม่มีเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 3 รูปแบบครอบคลุมทุกการใช้งาน เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร รหัส 1ZR-FBE 4 สูบ Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,050 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ทำงานคู่กับระบบ G AI Shift Control พร้อม Sequential Shift โหมด +/- อัตราทดเกียร์ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์นี้อยู่ในรุ่น 1.6 Limo และ 1.6 G
ขยับความเร้าใจขึ้นมาอีกสเต็ปกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ทำงานคู่กับระบบ G AI Shift Control พร้อม Sequential Shift โหมด +/- อัตราทดเกียร์ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์นี้ประจำการอยู่ในรุ่น GR Sport มีโหมด 2 การขับขี่ คือ Normal และ Sport
ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร ที่เป็นการทำงานผสานกันระหว่างเครื่องเบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE VVT-i ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่เป็นแบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
โตโยต้าเคลมว่าเครื่องยนต์ไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 นี้ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม./ลิตร เงียบขึ้น ทรงพลังมากขึ้น มี 4 โหมดการขับขี่ คือ EV, ECO, Normal และ Sport โตโยต้าพร้อมมอบความอุ่นใจด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี
ใหม่หมดหัวจรดท้าย
Corolla Altis ใหม่ มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความโฉบเฉี่ยวดูทันสมัยภายใต้แนวคิด “Shooting Robust” กับเส้นสายที่ให้ความหนักแน่น ตัวรถออกแบบพัฒนาภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้าง TNGA (Toyota New Global Platform) ที่ช่วยทำให้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถโดยรวมลดลง เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวทั้งการขับขี่ทางตรงและในขณะเข้าโค้ง โครงสร้างตัวถังแข็งแกร่งขึ้นพร้อมเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถช่วยรองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน
มิติตัวรถ ยาว 4,630 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,455 มม. (รุ่นเรื่องยนต์เบนซินจะเตี้ยกว่าที่ 1,345 มม.) ระยะฐานล้อ 2,700 มม. เท่ากันทั้ง 6 รุ่นย่อย ระยะต่ำสุดจากพื้น 155 มม. (รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 135 มม.) ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร (รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 50 ลิตร) ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 470 ลิตร
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบอิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกขนาด 15 นิ้ว 4 ล้อ พร้อมกับระบบพวงมาลัย EPS ทุกรุ่นย่อย
ดีไซน์ภายนอกของรุ่นไฮบริดมาพร้อมกับความหรูหราพรีเมี่ยมชวนให้นึกถึงพี่ใหญ่อย่าง Camry ไฟหน้า, ไฟท้าย, ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์, ไฟตัดมอก เป็นแบบ LED ทั้งหมด มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ และปรับระดับอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง กระจังหน้าและมือจับประตูแบบโครเมี่ยม มีระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) สามารถปลดล็อกประตูได้โดยอัตโนมัติ รุ่น Hybrid High จะได้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว หุ้มยาง 225/45 R17 ส่วนรุ่น Hybrid Mid และ Entry จะได้ล้อ 16 นิ้ว หุ้มยาง 205/55 R16
รุ่น GR Sport เป็นการพัฒนาภายใต้แนวคิด Gazoo Racing Sport โดยจะมาพร้อมกับแพ็คเกจตกแต่งพิเศษเป็นสเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง และสปอยเลอร์หลัง ซึ่งจะเพิ่มแอโรไดนามิกและภาพลักษณ์แบบสปอร์ตให้กับรถ พร้อมกับล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว หุ้มยาง 225/45 R17
เรื่องราวของภายใน
ห้องโดยสารของรุ่นไฮบริดจะมาในโทนสีดำ แดชบอร์ดและแผงประตูเป็นวัสดุซอฟท์ทัช เบาะหนังแท้ผสมวัสดุสังเคราะห์ ขณะที่รุ่น GR Sport มีการตกแต่งแซมด้วยสีแดงให้ดูเร้าอารมณ์ยิ่งขึ้น เบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้าพร้อมตัวดันหลัง เบาะหลังพับได้ 60/40 พร้อมที่วางแขนช่องวางแก้วน้ำ
Corolla Altis ใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์ใหม่ๆ มากมาย อาทิ Head Up Display, ระบบ Push Start, มาตรวัด Optitron Meter พร้อมจอ MID ขนาด 7 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบ Dynamic Radar Cruise Control, ระบบกรองอากาศ Nanoe, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ มีระบบ Auto Brake Hold และเบรกมือไฟฟ้า ช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง ตลอดจนม่านบังแดดที่กระจกหลัง (ปรับมือ)
กึ่งกลางแดชบอร์ดเป็นจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้วแบบลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay มีระบบนำทาง Navigator รองรับการเชื่อมต่อ T-CONNECT Telematics ที่มีฟังก์ชั่นเจ๋งๆ มากมายอย่างบริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง และตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟน ระบบเครื่องเสียงลำโพง 6 ตัว รองรับบลูทูธและ USB
ระบบความปลอดภัย
Corolla Altis ใหม่ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense มีเฉพาะรุ่นท็อป Hybrid High เท่านั้น ประกอบด้วย 4 ฟังก์ชั่นหลัก ได้แก่
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed ที่สามารถควบคุมและปรับลดความเร็วได้ถึง 0 กม./ชม. และสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ได้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า พร้อมทั้งยังมีระบบ Lane Tracing Assist ช่วยประคองให้รถอยู่กลางเลน
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชนและเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Warning With Steering Assist
นอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ล้ำสมัยอีกมากมายลดหลั่นกันไปตามแต่ละรุ่นย่อย อาทิ
- Back Guide Monitor กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ
- Hill-start Assist Control ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- Blind Spot Monitor ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
- Back Sonar สัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ
- Tire Pressure Monitoring System ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ
- Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
- Vehicle Stability Control ระบบควบคุมการทรงตัว
- Anti-lock Brake System ระบบป้องกันล้อล็อก
- Electronic Brake-force Distribution ระบบกระจายแรงเบรก
- Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรก
- ถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง ทุกรุ่นย่อย
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย
Corolla Altis ใหม่ทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย White Pearl, Phantom Brown, Super White II, Attitude Black Mica, Silver Metallic, Red Mica Metallic และสีใหม่ Celestite Gray สำหรับสีพิเศษ White Pearl มีเฉพาะรุ่น Hybrid และรุ่น GR Sport เพิ่มเงิน 10,000 บาท ส่วนรุ่น GR Sport จะมีให้เลือกเพียง 3 สี คือ White Pearl, Red Mica Metallic, Attitude Black Mica
พิเศษสำหรับลูกค้า All-New Corolla Altis ผ่อนเริ่มต้นเพียง 8,500 บาท ต่อเดือน หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 48 เดือน
ร่วมสัมผัสและทดลองขับ All-New Corolla Altis ได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน เป็นต้นไป และศูนย์ทดสอบขับรถ Toyota Driving Experience Park (บางนา กม.3)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.toyota.co.th หรือ www.facebook.com/toyotamotor.th/
Gallery
