Thirst refusal
เปิดตัวด้วยระบบไฮบริด ทั้ง Honda Jazz และ Toyota Yaris ควรจะต้องเป็นรถยนต์ที่ประหยัด แต่ทั้งคู่จะมาพร้อมข้อดีรอบด้านของการเป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดอย่าง Volkswagen Polo หรือไม่ เรามาหาคำตอบกัน
NEW Honda Jazz 1.5 i-MMD Hybrid SR
ราคาปกติ 20,585 ปอนด์ (ราว 1,029,250 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 20,052 ปอนด์ (ราว 1,002,600 บาท)
แฮทช์แบ็กรุ่นเล็กของ Honda เปิดตัวมาในรูปแบบ All-new ที่มาพร้อมพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่าเดิม เช่นเดียวกับ Yaris ช่วยคุณประหยัดด้วยพลัง Hybrid
NEW Toyota Yaris 1.5 VVT-i Hybrid Icon
ราคาปกติ 19,910 ปอนด์ (ราว 995,500 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 19,445 ปอนด์ (ราว 972,250 บาท)
หนึ่งในรถยนต์ hybrid ขนาดเล็กรุ่นบุกเบิกเปิดตัวเจเนอเรชั่นใหม่ลั่นคำสัญญาในการเพิ่มพื้นที่ภายในและอัตราการประหยัดพลังงานที่น่าตื่นตาเทียบรุ่นปัจจุบัน
Volkswagen Polo 1.0 TSI 95 Match
ราคาปกติ 17,970 ปอนด์ (ราว 898,500 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 16,858 ปอนด์ (ราว 842,900 บาท)
ผู้ช่วยไฟฟ้า Eschews มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร แต่ Polo ก็ยังเป็นรถยนต์รุ่นเล็กคันโปรดของเราในด้านการขับขี่ที่สบายและพื้นที่ภายใน
รถยนต์สมัยใหม่มักถูกผลิตมาพร้อมภาระหน้าที่อันหนักหนา มันต้องทั้งขับขี่ดี, นั่งสบาย, ประหยัด, อุปกรณ์ครบครัน และไม่งอแง โดยสรุปแล้วมีแต่รถยนต์ระดับสูงทั้งนั้นที่มาพร้อมความสามารถรอบด้านแบบนี้
HONDA JAZZ
Volkswagen Polo ถูกจัดอยู่ในตำแหน่งท็อปตั้งแต่ปี 2019 ในฐานะที่เป็นรถที่ความความคุ้มค่ากับราคาด้านระยะวิ่งและขยับตัวไปอยู่ตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับ Seat Ibiza ทั้ง ๆ ที่มีอายุมากกว่าสามปี จึงไม่แปลกใจเลยที่ Polo ยังคงน่าครอบครอง แต่ก็ยังแอบสงสัยว่ามันจะดูตกยุคไปบ้างหรือไม่
TOYOTA YARIS
ที่จริงแล้วมันทำงานด้วยน้ำมัน ยังไม่มีรุ่นไฟฟ้าล้วนหรือ hybrid ที่จะสามารถเพิ่มการประหยัดเชื้อเพลิงได้ และเพื่อหาคำตอบ เราจะนำ Polo รุ่นโปรดของเรา มาลงสนามแข่งกับรถยนต์ hybrid น้องใหม่สัญชาติญี่ปุ่น
VOLKSWAGEN POLO
คันแรกคือ All-new Toyota Yaris รถยนต์ที่ให้ความประหยัดเชื้อเพลิงอันยอดเยี่ยม, ประสิทธิภาพดี และมีการออกแบบอย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใน แต่ก็ยังต้องการการจัดการที่ดีเพื่อให้สามารถจุสัมภาระได้เท่ากับ all-new Honda Jazz ที่ว่ากันว่าขับขี่สนุกมากขึ้นกว่ารุ่นบรรพบุรุษเสียอีก
การขับขี่
สมรรถนะ, การขับขี่, เสถียรภาพ, ความประณีต
รถยนต์ญี่ปุ่นทั้งสองรุ่นคือสิ่งที่การตลาดอ้างว่า ‘ชาร์จแบตได้ด้วยตัวเอง’ ทั้งคู่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่จะชาร์จพลังเมื่อรถยนต์สูญเสียพลังงานไประหว่างการเบรก อย่างไรก็ตามมันสามารถบรรจุไฟฟ้าได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ลืมไปเสียหากคุณคาดหวังว่ามันจะทำงานได้ราวกับ plug-in hybrid โดยที่ไม่ต้องชาร์จไฟเลย
จริงที่ว่าทั้งสองมาพร้อมโหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งสามารถทำงานได้บนถนนที่ราบเรียบและด้วยการเร่งเครื่องเพียงเล็กน้อย คุณสามารถไปได้ไกลไม่เกินสิบกิโลก่อนที่จะสับเปลี่ยนการทำงานไปใช้น้ำมันแทน แต่ในความจริงมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมที่จะทำงานคู่กับเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มการประหยัดพลังงานและเพิ่มสมรรถนะ หากคุณต้องการรถยนต์แฮทช์แบ็กที่สามารถเดินทางด้วยแบตเตอรี่ในระยะสั้น ๆ ได้ คุณอาจต้องมองหารถยนต์ที่ใหญ่กว่าและราคาแรงกว่า เช่น Hyundai Ioniq Plug-in หรือ Seat Leon e-Hybrid
HONDA JAZZ
โดยรวมแล้ว hybrid ทั้งสองคันมีการขับขี่ที่นุ่มนวลเพราะทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT เพราะนั่นหมายความว่ามันจะมีการเร่งเครื่องที่นุ่มนวลและไม่มีอาการกระตุกเมื่อวิ่งด้วยความเร็วต่ำ
เมื่อมีการเร่งความเร็ว เครื่องจะชะงักเล็กน้อยก่อนที่รอบจะพุ่งสูงขึ้น คุณจะรู้สึกคล้ายเครื่องปั่นที่ปั่นด้วยโหมดสมูทตี้จนกว่าคุณจะละจากคันเร่งเมื่อถึงระดับความเร็วที่พอใจ เสียงเร่งเครื่องของ Jazz ดังกว่าและรู้สึกสั่นมากกว่า Yaris
กระนั้นทั้งสองก็ยังมีการเร่งความเร็วที่น่าพอใจ โดย Jazz สามารถพุ่งตัวจาก 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 8.6 วินาที จึงไม่รู้สึกว่าช้าไปสำหรับถนนที่ต้องการความเร็วสูง Yaris ก็แทบจะไม่ต่างกัน มันสามารถทำเวลาได้ 9 วินาที
หากคุณกังวลในเรื่องนี้ อย่าลืมว่าเรายังมีรถยนต์คันที่สามมาให้พิจารณา นั่นคือ Polo ที่เราเชื่อว่าแทบจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก
Toyota Yaris
เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตรทำหน้าที่ขับเคลื่อน โดยมีคุณเป็นผู้กำหนดรอบเครื่องยนต์เพราะมันมาพร้อมคลัทช์และระบบเกียร์แมนวล 5 ระดับ
การเปลี่ยนเกียร์มีน้ำหนักเบาและน่าพึงพอใจ หากคุณเร่งเครื่องยนต์ด้วยรอบสูงก่อนเปลี่ยนเกียร์ Polo จะสั่นไม่ต่างจาก Yaris แต่กลับมีเสียงที่น่ากลัวน้อยกว่ามาก ดังนั้น Polo จึงดูเป็นรถยนต์สร้างความกังวลให้เราน้อยที่สุดเมื่อวิ่งบนความเร็วสูง
แม้ในการขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ Polo ยังคงมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด ทั้งเสียงลมและเสียงรบกวนจากถนน Jazz มีเสียงรบกวนจากลมมากที่สุด และ Yaris มีเสียงยางดังที่สุดเมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 110 กม./ชม.
Polo ขับขี่ดีที่สุดในหลาย ๆ ด้าน ทั้งความนุ่มนวลและการอยู่ภายใต้การควบคุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเร็วต่ำ ระบบช่วงล่างที่นุ่มนวลกว่าของ Jazz อาจเผลอทำให้คุณคิดว่ามันน่าจะนั่งสบายที่สุด แต่เมื่อวิ่งบนฝาท่อหรือรอยปะของถนน กลับมีการกระแทกแรงที่สุด ตามด้วยการสั่นสะเทือนของตัวถัง แต่ Jazz ก็เป็นรุ่นที่นั่งสบายที่สุดเมื่อเดินทางบนมอเตอร์เวย์
VOLKSWAGEN POLO
โดยรวมแล้ว Yaris มีความเฟิร์มกว่าและเคลื่อนที่ไปตามรูปทรงของถนน คุณจะถูกเหวี่ยงและเอียงไปตามการเคลื่อนที่เช่นกัน มันอาจจะไม่แฟร์หากจะตีตราว่ามันนั่งไม่สบายแค่ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดหากความสบายเป็นความสำคัญอันดับแรกของคุณ
ระบบช่วงล่างที่เฟิร์มของ Yaris ช่วยในการเลี้ยวหรือไม่ มันยึดเกาะได้ดีเพียงพอที่จะไม่โยนตัวมากเกินไปเมื่อเลี้ยว นั่นเพราะมันอาจจะมีความการตอบสนองที่ช้าสำหรับการบังคับเลี้ยว เราขอเตือนคุณไว้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นในJazz ที่มีความสูงมากจึงมีการเอียงตัวขณะเลี้ยวและเข้าโค้งบนทางคดเคี้ยวที่มากกว่า คุณอาจไม่อยากบอกว่ามันขับขี่สนุก แต่ก็น่าพึงพอใจในการเลี้ยว ณ ความเร็วที่เหมาะสม
Polo อาจไม่ใช่รถยนต์ที่ขับสนุก (คุณอาจต้องหันไปหา Ford Fiesta หรือ Ibiza หากเรื่องความสนุกเป็นสิ่งสำคัญ) แต่มันมีน้ำหนักที่เป็นธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกสัมพันธ์กันระหว่างล้อหน้าและเท้าคุณมากกว่า
หลังพวงมาลัย
ตำแหน่งคนขับ, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต
ทั้ง Jazz และ Yaris ต่างไม่มีส่วนซัพพอร์ตหลังส่วนล่าง แม้ว่ามันจะกลายเป็นประเด็นในปีหลังมานี้ เพราะมันซัพพอร์ทการนั่งของคุณน้อย ฐานเบาะนั่งของ Yaris อยู่ในด้านที่เฟิร์ม แต่ Jazz มีการซัพพอร์ตทางด้านข้างที่จะพยุงและรองรับตัวคุณขณะเลี้ยวมากกว่า คุณสามารถปรับเบาะนั่งและพวงมาลัยได้หลากหลายทิศทาง ผู้ขับจึงหมดกังวลที่จะพบปัญหานี้
HONDA JAZZ
Polo มีตำแหน่งคนขับที่ดีที่สุด คุณจะได้รับส่วนซัพพอร์ตช่วยบรรเทาอาการปวดหลังขณะขับขี่ระยะทางไกล และยังสามารถปรับต่าง ๆ ได้มากกว่า Yaris เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปดั่งที่คุณต้องการ
ต่างจากรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ รถยนต์ทั้งสามคันมาพร้อมปุ่มกดแบบธรรมดาในการใช้ควบคุมระบบปรับอากาศ จึงไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับปุ่มกดระบบสัมผัส หรือแม้กระทั่งหน้าจอ เมื่อคุณต้องการปรับอุณหภูมิภายในรถยนต์ เราขอเตือนคุณไว้ก่อน ปุ่มควบคุมของ Polo จะอยู่สูงสักหน่อย
Toyota Yaris
แม้ Polo จะมีการออกแบบภายในที่ดูมีระดับที่สุด ส่วนสำคัญของแดชบอร์ดทำมาจากพลาสติกเนื้อแน่น พวงมาลัยและเกียร์ถูกหุ้มด้วยหนัง ซึ่งทำให้ดูหรูหรามากขึ้นสำหรับรถยนต์ในระดับราคานี้ ภายในอาจจะดูเป็นสีเทา หากคุณต้องการเพิ่มความสดใสก็สามารถเพิ่มแดชบอร์ดสีสดใสในราคา 135 ปอนด์ หรือ 6,750 บาท
VOLKSWAGEN POLO
Jazz ไม่ได้ทิ้งห่างจากนี้มากนัก การออกแบบภายในของมันดูประกอบเข้ากันเป็นอย่างดี ปุ่มกดและด้านจับประตูดูมีราคากว่า Polo พลาสติกสีขาววาวบนพวงมาลัยและที่วางแก้วช่วยเพิ่มสีสันภายใน แต่เสียดายที่ไม่มีพวงมาลัยหนังในรุ่น SR คุณจะต้องอัพเกรดเป็นรุ่น EX ที่ดูมีราคามากขึ้น
Yaris ไม่ได้สร้างความประทับใจใด ๆ แก่พวกเราเลย จริงที่ว่าปุ่มมีการใช้วัสดุเป็นพลาสติกบนแดชบอร์ด แต่ Yaris ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์ราคาถูกจนเกินไป ระบบภายในค่อนข้างฉลาดกว่า Hyundai i20
พื้นที่และความอเนกประสงค์
พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นของเบาะนั่ง, พื้นที่ท้ายรถ
ต้องมีพื้นที่เท่าไรจึงจะพอ นั่นคือคำถามที่คุณจะต้องตอบ เพราะจากการวิจัยของเราพบว่าลูกค้า 1 ใน 3 คนเท่านั้นที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ขนาดเล็กให้ความสนใจเรื่องพื้นที่ใช้สอยเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่ง 1 ใน 5 ให้ความสนใจพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ
HONDA JAZZ
แม้ว่าจะเป็นรถยนต์ที่เฟิร์มที่สุด Yaris ก็ยังเป็นรถยนต์ที่นั่งสบาย เช่นเดียวกับคู่แข่งของมัน มันเป็นรถยนต์ 5 ประตูที่ผู้โดยสารราว 180 ซม. สองคนสามารถนั่งได้ แต่อาจจะไม่สบายเท่าใดนัก เพราะคุณจะเหลือพื้นที่อย่างจำกัดที่บริเวณเหนือศีรษะและวางขา หน้าต่างด้านหลังค่อนข้างสูงทำให้ไม่ค่อยมีแสงลอดเข้ามามากนัก ยิ่งเพิ่มความรู้สึกอึดอัด
Polo มีพื้นที่มากกว่า ผู้โดยสารสูง 180 ซม.อาจจะรู้สึกสบายตัวกว่าแม้เดินทางระยะไกล
Toyota Yaris
แม้ว่าพวกเขาจะแฮปปี้กว่าเมื่ออยู่บนเบาะหลังของ Jazz ซึ่งมาพร้อมพื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางขามากที่สุด และหน้าต่างข้างที่สูงกกว่าช่วยให้แสงเข้ามาได้มากกว่า มันยังเป็นรถยนต์ที่เข้า-ออกง่ายที่สุดและสามารถจุผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ถึงสามคน ทั้งนี้ต้องขอบคุณพื้นหลังที่เรียบ มันจึงเหมาะเป็นรถยนต์สำหรับขนคนโดยเฉพาะ
VOLKSWAGEN POLO
หากไม่เอาชั้นวางของออก คุณจะสามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางได้ 15 ใบบน Polo และ Jazz รุ่นแรกมีความยาวมากกว่าแต่รุ่นหลังสูงกว่าแต่สำหรับ Yaris มีความสั้นกว่า พื้นที่ท้ายรถแคบกว่าอีกทั้งยังมีขอบทางเข้าสูงกว่าจึงเก็บกระเป๋าเดินทางเพียง 4 ใบเท่านั้น
รถยนต์ทั้งสามคันมาพร้อมเบาะพับได้แบบ 60/40 สำหรับการเดินทางในโอกาสพิเศษเมื่อไปอิเกีย แต่ Jazz มีทริคพิเศษ เบาะที่สามารถพับได้แบบในโรงภาพยนต์ เพิ่มพื้นที่ในส่วนหลังสำหรับสุนัขหรือกระถางต้นไม้ได้ตามต้องการ
การซื้อและการเป็นเจ้าของ
ราคา, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
นี่คือสิ่งที่ Yaris ได้เปรียบที่สุด ส่วนหนึ่งมาจากความสามารถในการประหยัดน้ำมัน มันเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่สุด โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 96 กม./ลิตร ในขณะที่ Yaris สามารถทำได้ถึง 128 กม./ลิตร
อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยของ 90 กม./ลิตร และ Polo 83 กม./ลิตร ซึ่งกินน้ำมันมากกว่ารถยนต์ Hybrid แต่ Jazz แทบจะไม่ต่างจาก Yaris เมื่อวิ่งบนมอเตอร์เวย์ ดังนั้นค่าน้ำมันจะขึ้นกับยางที่คุณใช้ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าน้ำมันของ Polo น่าจะมากกว่า Yaris
เพียงมองแค่แวบเดียวที่โบรชัวร์ราคาของผู้ท้าชิง ไม่ว่า Polo จะเป็นแท่งเหล็กหรือรถยนต์ไฮบริดก็ยังมีราคาค่อนข้างแพง และเมื่อคุณลองใช้ส่วนลดของ Polo ราคาก็ยังทิ้งระยะห่างมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม Jazz และ Yaris มีค่าเสื่อมราคาที่ช้ากว่า ดังนั้น Polo จะมีราคาน้อยที่สุดเมื่อใช้งานมาสามปี แต่เมื่อคำนวณทุกอย่างแล้ว ทั้งสามคันกลับมีราคาไม่ต่างกันเท่าใดนัก
หากคุณเลือกใช้บริการการผ่อนแบบ PCP Yaris แทบจะเท่า Polo โดยคุณจะมีค่าผ่อนต่อเดือนที่ 240 ปอนด์ หรือ 12,000บาท (คาดการณ์ว่า 3 ปีด้วยเงินมัดจำ 2500 ปอนด์ หรือ 125,000 บาท ที่ลิมิต 10,000 ไมล์) Jazz จะมีราคาสูงกว่าประมาณ 35 ปอนด์ หรือ 1,750 บาท
มีการปล่อย CO2 ประมาณ 91 กรัม/กม. (รุ่น Icon และ Design) จึงทำให้ Yaris เป็นรถยนต์บริษัทที่ถูกที่สุดด้านภาษี หากคุณอยู่ในช่วงอัตราเสียภาษี 40% คุณจะต้องสละประมาณ 138 ปอนด์ ราว 6,900 บาท
ราคาที่กล่าวไปคือราคาที่ไม่ได้มีการเพิ่มออปชั่นใด ๆ จึงต้องระลึกไว้ว่าคุณจะได้รับอุปกรณ์ทุกอย่างที่ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในแต่ละรุ่นเท่านั้น เช่น ล้ออัลลอยด์ และไฟเบรกฉุกเฉิน ยกเว้นไฟหน้าที่เป็น LED ทั้ง Jazz และ Yaris มาพร้อมเซ็นเซอร์ที่ปัดน้ำฝน, ระบบปรับอากาศ และ cruise control แบบปรับได้ ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าระยะห่างระหว่างรถคุณกับรถยนต์คันหน้าได้ คุณสามารถเพิ่มทั้งสามสิ่งนั้นใน Polo ในราคาประมาณ 1,245 ปอนด์ (62,250 บาท) ไฟหน้าแบบ LED จะมีราคามากกว่า 1,000 ปอนด์ (50,000 บาท)
สำหรับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยก็เช่นกัน ในขณะที่ทั้งสามรุ่นมาพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชนขณะวิ่งด้วยความเร็วต่ำ Jazz และ Yaris ก็ยังมาพร้อมระบบรักษาเลนและแสดงตัวเลขจำกัดความเร็วของถนนที่คุณกำลังวิ่งอยู่ได้อีกด้วย หากคุณต้องการเพิ่มสิ่งนี้ใน Polo แน่นอนว่าต้องควักเงิน
Jazz และ Yaris ได้รับการชื่นชมจาก Euro NCAP ภายใต้มาตรฐานการทดสอบการชนแบบใหม่ ทั้งคู่ก็ยังคงได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาวไปครอง Jazz ดูจะค่อนข้างดีกว่าในภาพรวมและการประเมินรอบด้าน ส่วน Polo นั้นเราไม่มีคำพูด
แต่ระดับความน่าเชื่อถือของ Polo อยู่ในระดับกลาง ๆ จากการสำรวจล่าสุดของ What Car? เช่นเดียวกับแบรนด์Volkswagen รถยนต์จากญี่ปุ่นที่ไม่ได้อยู่ในการทดสอบนี้ แต่เหตุผลที่เรายังมองในแง่บวกอยู่ก็คือ Toyota ถูกจัดอยู่ในอันดับที่สาม (จาก 31) ในขณะที่ Honda อยู่ในอันดับที่ 8
. . WHATCAR? SAY . .
หาก Jazz คว้าดาวจำนวนมากจากความอเนกประสงค์อันน่าทึ่งเพียงอย่างเดียว มันก็น่าจะไม่คู่ควรกับอันดับหนึ่งในการแข่งขันนี้ เรารู้ว่าพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังและความยืดหยุ่นของเบาะนั่งอาจจะไม่มีผลกับการตัดสินใจเท่าไรนักสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก
ทว่านี่เป็นโบนัสที่ Jazz มอบให้กับคุณ ถึงแม้คุณจะไม่นำคะแนนด้านความอเนกประสงค์มาคำนวณ ทั้งนี้ก็ยังต้องขอบคุณตำแหน่งคนขับที่เหมาะสม, ค่าเสื่อมราคาที่ลดลงช้า และจำนวนอุปกรณ์หรูหราและอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยที่คุณจะได้รับมาเป็นมาตรฐาน
Yaris และ Polo ค่อนข้างมีคะแนนไม่ทิ้งห่างกันเท่าใดนัก ตัวแรกได้เปรียบด้วยพละกำลังอันแข็งแกร่ง รวมถึงความประหยัดน้ำมันและอันดับความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถเทียบได้กับ Polo ด้าน คุณภาพภายใน, ระบบสาระบันเทิง หรือความสบายในการขับขี่ รวมถึงมันยังเป็นรถยนต์ที่มีเสียงรบกวนและมีความอเนกประสงค์น้อยที่สุดอีกด้วย จึงทำให้มันถูกจัดอยู่ในอันดับที่สาม
ข้อดี มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานและความปลอดภัยหรูหราครบครัน ตำแหน่งคนขับดี มีความอเนกประสงค์ สมรรถนะแข็งแกร่งและมีค่าเสื่อมช้าที่สุด
ข้อเสีย ราคาผ่อนแบบ PCP ต่อเดือนสูงที่สุด ขับขี่ไม่สนุกเท่าไร
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ ไม่มี
ข้อดี ภายในมีระดับมากที่สุด เงียบ ขับขี่สนุก ส่วนลดเยอะห้องโดยสารกว้างขวาง
ข้อเสีย คุณอาจจะต้องการเพิ่มออปชั่น, ประสิทธิภาพต่ำที่สุด
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ ฟังก์ชั่นควบคุมอุณหภูมิ 420 ปอนด์ หรือ 21,000 บาท, แพ็คเกจ Light & Sight 205 ปอนด์ หรือ 10,250 บาท, กล้องมองหลัง 260 ปอนด์ หรือ 13,000 บาท
ข้อดี ประหยัดน้ำมันอย่างเหลือเชื่อ อันดับความน่าเชื่อถือของ Toyota อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยครบครัน ความรู้สึกในการขับขี่เหมาะสม
ข้อเสีย การขับขี่แข็งเกินไป ห้องโดยสารด้านหลังแออัด ท้ายรถมีขนาดเล็ก เสียงรบกวนต่ำเมื่อขับขี่ด้วย
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ ไม่มี