• About
  • Advertise
  • Terms & Conditions
  • Privacy & Policy
  • Team
  • Contact
What Car? Thailand
Mazda-CX-3-Banner-whatcar-728x90-102023
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact
No Result
View All Result
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact
No Result
View All Result
What Car? Thailand
No Result
View All Result
Home Reviews First Drive

First Drive – Ford Ranger Wildtrak 4×4 2.0L Bi-Turbo แกร่งรอบด้าน…สมคำล่ำลือ

August 15, 2018
in First Drive, New Car
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

            เทรนด์การ Downsize เครื่องยนต์กำลังได้รับความนิยมในหมู่ค่ายรถยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน นับเป็นความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดที่พลังและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ไม่ได้กำหนดอยู่ที่ปริมาตรกระบอกสูบเพียงอย่างเดียว เมื่อก่อนหากพูดว่าเครื่องเล็กซีซีน้อยแรงกว่าเครื่องใหญ่ซีซีมากได้คงน่าขำ แต่ปัจจุบันมันเป็นไปแล้ว

            ฟอร์ดเป็นค่ายหนึ่งที่เห็นความสำคัญของการ Downsize เครื่องยนต์และนำมาปรับใช้กับรถยนต์ของตัวเองอย่างจริงจัง ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับนั้นไม่เพียงแต่พละกำลังที่เพิ่มขึ้น ความประหยัดและปล่อยมลพิษน้อยลงคืออานิสงส์ของการปรับลดปริมาตรเครื่องยนต์เป็นเงาตามตัว ดังเห็นได้จากเครื่องยนต์ Ecoboost ทั้งใน Focus หรือ Mustang ที่แม้ว่าจะมีปริมาตรความจุน้อยแต่ก็ยังให้พละกำลังได้อย่างไม่เป็นรองเครื่องยนต์บล็อกใหญ่

            เมื่อพูดถึงกระบะ Ranger เมื่อก่อนถ้ามองในมุมความแรงและพลังอันมหาศาล เครื่อง 3.2 Duratorq ดูจะเป็นที่สุดแห่งวงการโดยไม่มีใครค้าน แต่มันก็ดูจะเกินจำเป็นสำหรับผู้ใช้รถทั่วไป ฟอร์ดรู้ถึงข้อจำกัดนี้และได้ทำการแก้เกมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการแก้เกมที่น่าสนใจซะด้วยโดยการแนะนำเครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร Bi-Turbo พ่วงด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดลูกใหม่ ติดตั้งลงไปใน Ranger สาวกที่เห็นน่าจะตาลุกวาวเพราะเครื่องและเกียร์ชุดนี้ยกมาจาก Ranger Raptor ทั้งดุ้น ความแกร่งและความแรงมันพิสูจน์มาหมดแล้ว และน่าจะโดนใจกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ไม่น้อย

            หลังจากการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ฟอร์ดไม่รอช้ารีบจัดทริปทดสอบ Ranger ใหม่โดยทันทีที่ จ. เชียงราย เส้นทางมีให้ขับทุกรสชาติทั้งทางเรียบและออฟโรด รถที่ทดสอบเป็น Ranger Wildtrak 4×4 เครื่อง 2.0L Bi-Turbo 213 แรงม้า และ Ranger Limited รุ่นย่อยใหม่ที่มาพร้อมเครื่อง 2.0 Turbo 180 แรงม้า ทริปนี้เราอยู่กับเจ้าสุดหล่อ Wildtrak เต็มๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา สตาร์ทเครื่อง รัดเข็มขัด เข้าเกียร์ D แล้วเหยียบคันเร่งไปพร้อมกัน…

การขับขี่

            ขุมพลังใหม่ที่มาประจำการใน Ranger Wildtrak 4×4 ตามสเปกให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เครื่องยนต์นี้เป็นการทำงานผสานกันของเทอร์โบ 2 ตัว ทำงานในรอบเครื่องยนต์ที่ต่างกันควบคุมด้วยวาล์วบายพาส ตัวแรกจะทำงานในรอบต่ำตั้งแต่สตาร์ทเครื่องจนถึง 1,500 รอบ จากนั้นจะหยุดทำงานและปล่อยเทอร์โบลูกที่ 2 ทำงานไปจนถึงราว ๆ 2,500 รอบ ถ้าลากรอบไปมากกว่านั้น เทอร์โบทั้ง 2 ลูกก็จะทำงานร่วมกันเพื่อเรียกพละกำลังของรถออกมาให้มากที่สุดอย่างต่อเนื่อง ข้อดีของการใช้เครื่องยนต์ระบบนี้ก็คือความต่อเนื่องของกำลังในทุกๆ ช่วงรอบเครื่องยนต์ และเสียงเครื่องยนต์ที่เงียบลงจากการที่ไม่ต้องลากเค้นเครื่องยนต์ตลอดเวลา

            จากการขับขี่ Ranger Wildtrak ของเราให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยมตั้งแต่ออกตัว ความรู้สึกคือรถจะค่อยๆ พุ่งทะยานขึ้นไปอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง ไม่กระขากแบบหลังติดเบาะแต่ก็ไม่ได้เฉื่อยช้าจนเกินไป สามารถเร่งถึงความเร็ว 100 – 110 กม./ชม. ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว เราสัมผัสได้ถึงเรี่ยวแรงที่มีมาให้เห็นตั้งแต่ต่ำกว่า 2,000 รอบ และความต่อเนื่องของพละกำลังเครื่องยนต์ที่ได้จากการทำงานสอดประสานกันอย่างไร้ที่ติของเทอร์โบทั้ง 2 ตัว

            จำนวนเกียร์ที่มากถึง 10 สปีดทำให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์แทบไม่รู้สึกเพราะอัตราทดชิดกันมาก จุดนี้มอบความนุ่มนวลใกล้เคียงรถเกียร์ CVT ได้เลย เกียร์สามารถที่จะเปลี่ยนแบบข้ามเกียร์ 1-3-5-7-9 ได้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักการเหยียบคันเร่ง การคิ๊กดาวน์เพื่อเร่งแซงทำได้รวดเร็ว เพียงกดคันเร่งลึกขึ้นเกียร์จะชิฟท์ดาวน์ลงมา 2-3 ตำแหน่งพร้อมกับกำลังฉุดที่มาในเกือบจะทันที ทำให้การเร่งแซงเป็นไปอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง กำลังมีเหลือๆ ไม่ต้องลุ้นต้องเผื่อระยะให้มากความ

            ข้อดีของเกียร์ 10 สปีดก็คือความประหยัดที่มีมากกว่ารุ่น 3.2 อย่างเห็นได้ชัดเพราะเครื่องยนต์ไม่ต้องลากรอบมากจนเกินไปกว่าจะเปลี่ยนเกียร์แต่ละเกียร์ ผลจากการไม่ลากรอบนี้ก็ทำให้เสียงเครื่องยนต์ที่เข้าสู่ห้องโดยสารมีน้อยลงด้วย

            การขับขี่บนทางเรียบไม่มีปัญหาสำหรับ Ranger Wildtrak ขับง่าย ขับสบาย วิ่งทางไกลระหว่างจังหวัดไม่เหนื่อย ขณะเดียวกันเมื่อเจอทางลาดชันก็ไม่ต่างกันเพราะพละกำลังของเครื่องยนต์มีเหลือๆ ทำให้สามารถขับขึ้นเขาได้อย่างไม่มีปัญหา ปุ่ม +/- ที่เกียร์ช่วยให้เราเลือกเกียร์ได้ด้วยตัวเองเมื่อต้องการกำลังแรงบิดสำหรับการขับขึ้นเขาหรือใช้เป็นเกียร์ต่ำขณะลงเขาเพื่อลดภาระของเบรก นอกจากนี้ผู้ขับสามารถกำหนดจำนวนเกียร์ที่ต้องการใช้งานได้ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อขับขี่ในช่วงขึ้นเขาลงเขา เราต้องการที่จะใช้กำลังจากเครื่องยนต์จากเกียร์ต่ำ เราสามารถที่จะกำหนดจำนวนเกียร์ไว้เพียงเกียร์ 1-4 เพื่อเป็นการบังคับไม่ให้ระบบเกียร์เปลี่ยนขึ้นไปสูงเกินกว่านี้ได้ การกดยกเลิกการจำกัดจำนวนเกียร์ก็เพียงกดปุ่ม + ที่หัวเกียร์ค้างไว้ประมาณ 2 วินาที

            ช่วงล่างของ Ranger Wildtrak มีการปรับเซ็ตใหม่เน้นเพิ่มความนุ่มนวลลดความกระด้างแบบกระบะ โดยรวมนั่งแล้วรู้สึกมีความสุข การดูดซับแรงสะเทือนจากรอยปะถนน คอสะพาน รอยต่อ ผิวทางที่ไม่เรียบต่างๆ ทำได้ดีมาก ขณะเดียวกันยังให้อารมณ์หนึบแน่น เกาะถนน มั่งคง และนิ่งในทุกช่วงความเร็ว

            ทางโค้งลัดเลาไปตามเขาไม่สามารถทำอะไร Ranger Wildtrak ได้ โดยพื้นฐานรถมีความหนึบแน่นดีอยู่แล้ว ดังนั้นการเข้าโค้งจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจ อาการโยนมีบ้างประปรายตามธรรมเนียมรถยกสูงแต่ไม่มากจนน่ากลัว การทรงตัวขณะเข้าโค้งอยู่ในเกณฑ์ดี ควบคุมง่าย

            พวงมาลัยที่มีความแม่นยำและรวดเร็วทำให้การเข้าโค้งเป็นไปอย่างสนุก ควบคุมง่าย ที่ความเร็วต่ำหนืดพอประมาณ ปรับเปลี่ยนเลนได้อย่างกระฉับกระเฉง พอขึ้นความเร็วสูงก็หนืดขึ้นอย่างเหมาะสม ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ดี

            ระบบเบรกยังคงให้อารมณ์นุ่มนวล ต้องกดค่อนข้างลึกหน่อยจึงจะเริ่มหน่วง แรกๆ อาจรู้สึกเบรกไม่ค่อยหนึบ แต่เมื่อขับไปสักพักจะเริ่มรู้จักและคุ้นชินกับมัน จากนั้นก็จะกะระยะเบรกได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ 

            ตลอดการขับทดสอบทั้งขับเองและเป็นผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง เรามีความรู้สึกว่า Ranger Wildtrak ใหม่มีการป้องกันเสียงรบกวนดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าในระดับนึงเลย ทั้งนี้เป็นเพราะฟอร์ดได้ปรับปรุงวัสดุป้องกันเสียงรบกวนใหม่ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เราขับขี่ทางราบที่ความเร็ว 100-110 กม./ชม. เสียงภายนอกไม่เล็ดลอดเข้ามากวนใจมากนัก

            แน่นอนว่าความจุเครื่องยนต์ที่น้อยลงย่อมส่งผลต่อตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเครื่อง 3.2 ตัวเก่า จากการขับขี่เน้นการใช้งานจริง ขับทางราบผสมทางภูเขา และไม่เน้นประหยัด ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองบนหน้าปัดทำได้ราว 12 กม./ลิตร ถือว่าเหมาะสมกับขนาดตัวรถและพลังเครื่องยนต์

ไม่เกี่ยงงานออฟโรด

                Ranger Wildtrak ที่เราขับทดสอบมากพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย เส้นทางทดสอบในครั้งนี้ฟอร์ดจัดให้มีทางออฟโรดได้ลุยกันพอหอมปากหอมคอ การเปิดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทำได้อย่างง่ายดายด้วยการบิดปุ่มไปที่ตำแหน่งที่ต้องการ 2H 4H และ 4L การใช้งานขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทางที่ต้องฟันฝ่า ในการทดสอบครั้งนี้เป็นทางออฟโรดที่ไม่โหดมาก เป็นเพียงทางดินที่เป็นลักษณะทางราบ ไม่ต้องใช้กำลังปีนป่ายอะไรมากมาย มีหลุมโคลนบ้างเล็กน้อย เราจึงใช้ 4H ในการลุย ก็สามารถขับผ่านได้อย่างสะดวกสบาย

            ช่วงล่างรับหน้าที่รองรับการกระแทกอย่างขยันขันแข็ง มอบความนุ่มนวลในห้องโดยสารได้ดี ประกอบกับระยะความสูงใต้ท้องรถ 230 มม. ทำให้ลุยได้หลากหลายพื้นผิว นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันติดตั้งมาให้ ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายขณะคลานลงเขาได้เป็นอย่างดี

ยกระดับความสะดวกสบาย

                ภายในของ Ranger Wildtrak ใหม่ เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนไม่มาก ห้องโดยสารมาในโทนสีดำ มีไฟสร้างบรรยากาศเพื่อความสวยงาม โดดเด่นด้วยการเดินตะเข็บสีส้มทั่วทั้งห้องโดยสารตั้งแต่เบาะหนังสีดำ พวงมาลัย แผงประตู แคชบอร์ดหน้า หัวเกียร์มีการปรับดีไซน์ใหม่เพื่อรองรับ Manaul Mode ของเกียร์ 10 สปีด

            สิ่งที่อัพเกรดเข้ามาใหม่คือระบบ SYNC 3 ที่รองรับการสั่งการภาษาไทยได้แล้ว รวมถึงการแสดงผลบนหน้าจอก็เป็นเมนูภาษาไทย นอกจากนี้ระบบยังสามารถโทรไปที่ 1669 ได้โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติเพื่อความสะดวก

            ระบบ SYNC 3 หน้าจอสัมผัส 8 นิ้วนี้รองรับการเชื่อมต่อครบครันทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมบลูทูธ มีระบบแผนที่นำทาง Navigation System จากการใช้งานพบว่าระบบมีความยืดหยุ่น ลื่นไหล หน้าจอคมชัดสีสันสวยงาม หน้าตาเมนูสวย ดูง่าย ตอบสนองรวดเร็ว ระบบนำทางมีความแม่นยำและยังหาพิกัดค่อนข้างไว แถมยังนำทางเป็นเสียงภาษาไทยด้วย

            ด้วยความที่เป็นรถยกสูงทัศนวิสัยการขับขี่จึงดีเยี่ยม มองข้างหน้าได้ไกลและชัดเจน กระจกมองข้างขนาดใหญ่ทำให้มุมมองด้านข้างชัดเจนขึ้น พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายทั้งตอนหน้าและเบาะหลัง มีที่ว่างเหนือศีรษะและที่ว่างช่วงขามากพอสำหรับคนตัวสูง การขึ้นลงรถสะดวกง่ายดาย เบาะหลังตรงกลางดึงลงมาเป็นที่พักแขนและวางแก้วน้ำได้ และอำนวยความสะดวกสูงสุดด้วยระบบฝาท้ายผ่อนแรง เปิด-ปิดเบาแรงลงไปได้เยอะ

อัพเกรดความปลอดภัย

                ไฮไลท์สำคัญของ Ranger Wildtrak ใหม่ นอกจากการขับขี่ที่ดีเยี่ยมแล้วคือระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาใหม่ได้แก่ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ระบบนี้ออกแบบมาให้ช่วยหยุดรถเพื่อหลีกเลี่ยงการชนที่อาจจะเกิดขึ้นด้านหน้าตัวรถ สามารถตรวจจับได้ทั้งรถและคนเดินถนน ช่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยที่เรดาร์จะทำการตรวจจับรถยนต์ หรือ คนเดินถนน ได้ตั้งแต่ความเร็ว 3.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่การตรวจจับคนจะจำกัดความเร็วในการตรวจจับได้ไม่เกิน 62 กม./ชม. ส่วนรถยนต์จะไม่มีการจำกัดความเร็วในการตรวจจับ โดยระบบจะทำการแจ้งเตือนบนหน้าปัดรถยนต์เมื่อรถยนต์ใกล้กับรถคันหน้า หรือ คนเดินถนนมากเกินไป แล้วผู้ขับขี่ยังไม่เบรก รถก็จะเบรกให้อัตโนมัติ

            อีกหนึ่งระบบคือระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบจะทำการค้นหาช่องจอดและควบคุมพวงมาลัยให้โดยอัตโนมัติ การทำงานของระบบนี้เซ็นเซอร์จะตรวจหาช่องว่างในระยะ 1.5 – 2 เมตร โดยจะค้นหาแบบเทียบข้างเท่านั้น ความเร็วในการค้นหาช่องจอดต้องไม่เกิน 30 กม./ชม. ในขณะที่เข้าจอดต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. ในขณะที่ระบบกำลังทำงานนั้นผู้ขับมีหน้าที่ควบคุมคันเร่ง เบรก และเกียร์เอง ระบบจะค้นหาช่องจอด, หมุนพวงมาลัยให้เท่านั้น โดยระบบจะยกเลิกการทำงานเมื่อผู้ขับจับพวงมาลัย

             การทดสอบครั้งนี้ฟอร์ดจัดให้ทดลองระบบทั้งสองด้วยตัวเอง ต้องบอกเลยว่ามันเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ที่บางครั้งอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแล้วอาจเบรกไม่ทัน รวมถึงอำนวยความสะดวกในการจอดรถได้จริง

            นอกจากนี้ Ranger Wildtrak ยังเพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยชั้นนำอาทิ ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนดานหน้า ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ตลอดจนถุงลมนิรภัย 6 จุด เรียกได้ว่าครบจริงๆ

หน้าตาปรับไม่มาก

            ภายนอกของ Ranger Wildtrak ใหม่มีการปรับเปลี่ยนไม่มาก เดิมทีหน้าตามันก็ดูหล่อเข้มดีอยู่แล้ว การไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้จึงปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ได้แก่ ปรับกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ เบ้าไฟตัดหมอกใหม่ เพิ่มไฟเดย์ไทม์ รันนิ่งไลท์ แบบ LED เปลี่ยนไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED ด้านข้างและด้านท้ายรถไม่มีการเปลี่ยนแปลง และสุดท้ายมาพร้อมกับสีตัวถังใหม่คือสีส้มเซเบอร์ที่ปรับโทนสีให้อ่อนลงจากรุ่นก่อนหน้า

            Ranger Wildtrak ใหม่ ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Bridgestone Dueler H/T 684 II ขนาด 265/60 R18 พร้อมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งเสริมหล่อภายนอกรอบคัน อาทิ บันไดข้าง แร็คหลังคา สปอร์ตบาร์ และพื้นปูกระบะ เรียกได้ว่าไม่ต้องไปเติมแต่อะไรก็หล่อครบจบในคันเดียว

สรุปความน่าใช้

            การไมเนอร์เชนจ์ของฟอร์ดในครั้งนี้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับ Ranger และวงการกระบะบ้านเรา จากการที่ได้ลองขับบอกเลยว่า Ranger Wildtrak 4×4 แกร่งทุกด้านสมคำล่ำลือไม่ว่าจะเป็นพลังเครื่องยนต์ การขับขี่ การควบคุม ช่วงล่าง ความสามารถในการลุยทางออฟโรด ความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ออปชันต่างๆ ที่ให้มา รวมทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัย เรามองว่า Ranger Wildtrak 4×4 คือตัวท็อปของตลาดแล้วตอนนี้ ราคาค่าตัว 1.265 ล้านบาทกับสิ่งที่ได้มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

            ความได้เปรียบของ Ranger ใหม่อีกประการคือมีให้เลือกหลายรุ่นย่อยแล้วแต่ความต้องการ ซึ่งรุ่น Limited ถือเป็นอีกรุ่นที่มีความน่าสนใจ ได้ออปชันลดลงมาหน่อยกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 180 แรงม้า แต่ก็ยังคุ้มค่ากับราคา 1.029 ล้านบาท หรือถ้าต้องการความเป็นที่สุดก็ยังมี Ranger Raptor ราคา 1.699 ล้านบาท ให้เลือก

            หลายปีก่อนกระบะฟอร์ดยังเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ในตลาด พอเปิดตัว Ranger เจนเนอเรชันปัจจุบันยอดขายก็เริ่มขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นที่ 3 ในตลาด มันพอบอกอะไรได้หลายอย่างว่า Ranger นั้นมีดีจึงเป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ใช้รถชาวไทย และตอนนี้ Ranger ใหม่ที่ได้รับการปรุงแต่งมาอย่างพิถีพิถัน ก็พร้อมแล้วที่จะสานต่อความสำเร็จตามนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ ให้แกร่งขึ้นไปอีกขั้น

Gallery

 

1 of 32
- +

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

11.

12.

13.

14.

15.

16.

17.

18.

19.

20.

21.

22.

23.

24.

25.

26.

27.

28.

29.

30.

31.

32.

 

 

Tags: First drivefordRangerRanger WildtrakreviewTest drive

Related Posts

New Car

New Porsche Macan all-electric SUV  มาคันน์ เอสยูวี ไฟฟ้า 100 % น้องใหม่จากค่าย ปอร์เช่

January 27, 2024
New Car

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic  2024 (Facelift) 

January 26, 2024
First Drive

รีวิว รถยนต์ All-New Honda Accord รุ่น EL (ลองขับ)

December 25, 2023
New Car

Mazda6 20th Anniversary Edition

December 2, 2023
New Car

‘MAZDA ICONIC SP’ รถต้นแบบสปอร์ตคอมแพ็คคาร์

November 1, 2023
New Car

Volkswagen ID.X Performance Concept เปิดตัว  EV 550 แรงม้า พร้อม Aggressive Aero

September 10, 2023
Leave Comment

What Car? Thailand

 

นิตยสารและเว็บไซต์ whatcar.co.th เนื้อหาลิขสิทธิ์รถยนต์ที่แรกที่เดียวในไทย เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ จาก What Car? whatcar.com ประเทศอังกฤษซึ่งได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกมายาวนานกว่า 45 ปี.

Follow us

Categories

  • Awards
  • Big Bike
  • Comparison
  • CSR
  • Feature
  • First Drive
  • Insights
  • Inter News
  • New Car
  • News
  • PR
  • Promotion
  • Reviews
  • Road Test
  • Road Trips
  • Tip Technic
  • Uncategorized
  • Your Cars

Instagram

  • ลาก่อน EQS สวัสดี S-Class รถยนต์ไฟฟ้า : Mercedes จะรวมทั้งสองรุ่นเข้าด้วยกันในปี 2030 ⚡
  • พักเบรกกับค่ายจีน 🇨🇳ที่กำลังลงมาเล่นตลาด ⚡🔋
รถยนต์ไฮบริด (Hybird) นั่งกันไม่ติดและ ญี่ปุ่น 🇯🇵
.
ไม่รู้ว่านุดมีแมว...หรือแมวมีนุดกันแน่ 😆
 "ประกาศิต" ก็เป็นทาสจ๊ะ 555
.
แม่น้ำตาลเป็นแมวที่อายุใกล้ 20 ปี ก็จะดูวัยรุ่นหน่อย 😸
โลกนี้ให้ความสำคัญกับแมวอยู่นะ.... “วันแมวโลก”  International Cat Day 
8 สิงหาคมของทุกปี
.
#InternationalCatDay 
#แม่น้ำตาลหวานเจียบ
  • เดินทางด้วยรถ Benz E 220 d AMG Line 😆🌊🌴
จากเส้นทางภูเก็ต - พังงา ถึง รร.เยาววิทย์ 
ทริป /CSR เมอร์เซเดสเบนซ์ ประเทศไทย
.
ขนาดตัวถัง
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,935 x 1,852 x 1,460 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,939 มิลลิเมตร
.
เครื่องยนต์
.
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก EQ Boost พละกำลัง 23 แรงม้า 205 นิวตันเมตร Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง
.
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.6 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed 238 km/h
.
ภายนอก
- ชุดตกแต่งภายนอก AMG Body Styling
- ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว
- ไฟหน้า LED High Performance
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist
- ระบบกุญแจ Keyless-GO
- ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบเปิด-ปิด ฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate
- ระบบช่วยปิดประตู Power Closing Doors (ประตูดูด)
.
ภายใน และระบบอำนวยความสะดวก
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม Memory Seat
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม Memory Seat
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 2-Zones
- ระบบปรับสมดุลอากาศ - ฟอกอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL (HEPA)
- ม่านบังแดดประตูคู่หลัง
- ม่านบังแดดกระจกบังลมหลัง
- หน้าจอ MBUX Multimedia HyperScreen และ หน้าจอมาตรวัดแบบ 3D
- Passenger Screen หน้าจอแยก สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ที่แยกควบคุมกับจอกลางได้ โดยไม่รบกวนการควบคุมของส่วนกลางภายในรถ
- ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist
- กล้องรอบคัน 360 องศา
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Assist
- ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูลงจากรถ Exit Warning
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Active Distance Assist DISTRONIC with Stop&Go
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Lane Tracing Package
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร Active Lane Keeping Assist
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Collision Warning
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Advanced Driving Assistance System
.
.
#MercedesBenz #EClass #E220d #E220dAMGLine
  • สีดำ....หล่อแบบเข้ม เข้ม 😆
เผยโฉม ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด
ด้วยการตกแต่งภายนอกสีดำสุดเท่ ประกอบด้วย ไดนามิก ชีลด์และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา บันไดข้างตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ 
.
เครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ให้กำลังสูงสุดที่ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ผสานช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น 
.
เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) 
-ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM) 
-ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) 
-ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) 
-ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) 
-ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto High Beam: AHB) 
-กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) 
-พร้อมระบบตรวจจับและแจ้งเตือนวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection: MOD) 
.
ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะทั้งหมดนี้ สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ ด้วยเซ็นเซอร์และเรดาร์ที่ละเอียด แม่นยำ พร้อมปกป้องคุณให้ปลอดภัยในทุกเส้นทางที่ไปในแบบ 360 องศา
.
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน อาทิ หน้าจอขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay ที่พร้อมเชื่อมต่อแบบไร้สาย และ Android Auto 
.
#WHATCARThailand
#MitsubishiMotorsThailand #mitsubishitritonblackedition
#triton #blackedition
  • A5 Sedan ใหม่ ตัวแทน Audi A4 Sedan คู่แข่งใหม่ BMW 3 Series และ Mercedes C-Class
.
ภายนอกออกแบบใหม่ด้วยกระจังหน้าเพรียวขึ้น ไฟหน้าแบบ LED daytime running และไฟท้ายแบบ OLED ที่สามารถปรับการแสดงผลได้สูงสุด 8 รูปแบบ ที่นอกจากจะแสดงความแตกต่างเพื่อความสวยงามแล้ว สำหรับไฟท้ายยังสามารถใช้เป็นการสื่อสารกับรถคันหลังได้อีกด้วย
.
ภายในออกแบบหน้าจอ  3 ชิ้น โดยเลือกใช้แนวคิดการยึดหลักผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ virtual Cockpit ใช้เทคโนโลยีหลอดไฟแบบ OLED ขนาด 11.9 นิ้ว ทำงานร่วมกับหน้าจอกลางขนาด 14.5 นิ้ว เป็นระบบสัมผัส ทั้งยังมีออฟชั่นหน้าจอสำหรับความบันเทิงของผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 10.9 นิ้ว
ความพิเศษยังอยู่ที่ A5 Sedan ที่ติดตั้งฝากระโปรงท้ายแบบยกเปิด เสมือนเป็นรุ่น Sportback จากโรงงาน
.
เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
2.0 TDI
เครื่องยนต์ดีเซล TDI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร  สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch
.
2.0 TFSI
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อคู่หน้าเท่านั้น และรุ่นอัพเกรด 204 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ultra ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch
.
รุ่น S5
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 367 แรงม้า (PS) พร้อมด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48-volt เพื่อลดมลพิษสำหรับการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ
.
#WHATCARThailand
#AUDI #A5Sedan
  • #Promotion #Toyota ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถในงาน #MOTORSHOW2024
#PR #promote #whatcar #whatcarthailnd 🥳👍🫰
  • #Tesla #Cybertruck ลองกระสุนเบอร์ไหนเข้า...? คุ้มนะถ้า 2.5m Baht คนไทยพร้อมซื้อ (รวย)😆🥳😃🧐🤓
#whatcar #whatcarthailand
  • พาชม #Porsche ในงาน Motor Show 2024
#whtacarthailand #whatcar
  • พาชม #Mitsubishi ในงาน Motor Show 2024
#whatcar #whatcarthailnd

Newsletter

© 2022 What Car? Thailand - Designed by Coinfinity Power.

  • About
  • Advertise
  • Terms & Conditions
  • Privacy & Policy
  • Team
  • Contact

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และอำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ รวมถึงช่วยให้เราปรับปรุงการนำเสนอเนื้อหาตรงตามความต้องการของท่าน โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้นโยบายคุกกี้ กด “ยอมรับ”
Cookie settingsยอมรับ
Manage consent

Privacy Overview

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.
Necessary
Always Enabled
Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. These cookies ensure basic functionalities and security features of the website, anonymously.
CookieDurationDescription
cookielawinfo-checkbox-advertisement1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Advertisement" category .
cookielawinfo-checkbox-analytics1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Analytics" category .
cookielawinfo-checkbox-functional1 yearThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessary1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Necessary" category .
cookielawinfo-checkbox-others1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to store the user consent for cookies in the category "Others".
cookielawinfo-checkbox-performance1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to store the user consent for cookies in the category "Performance".
CookieLawInfoConsent1 yearRecords the default button state of the corresponding category & the status of CCPA. It works only in coordination with the primary cookie.
Functional
Functional cookies help to perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collect feedbacks, and other third-party features.
Performance
Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.
CookieDurationDescription
_lscache_vary2 daysNo description available.
Analytics
Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.
CookieDurationDescription
_ga2 yearsThe _ga cookie, installed by Google Analytics, calculates visitor, session and campaign data and also keeps track of site usage for the site's analytics report. The cookie stores information anonymously and assigns a randomly generated number to recognize unique visitors.
_gat_gtag_UA_51917967_11 minuteSet by Google to distinguish users.
_gid1 dayInstalled by Google Analytics, _gid cookie stores information on how visitors use a website, while also creating an analytics report of the website's performance. Some of the data that are collected include the number of visitors, their source, and the pages they visit anonymously.
Advertisement
Advertisement cookies are used to provide visitors with relevant ads and marketing campaigns. These cookies track visitors across websites and collect information to provide customized ads.
CookieDurationDescription
_fbpsessionThis cookie is set by Facebook to display advertisements when either on Facebook or on a digital platform powered by Facebook advertising, after visiting the website.
advanced_ads_browser_width1 monthThis cookie is set by Advanced ads plugin.This cookie is used to measure and store the user browser width for adverts.
personalization_id2 yearsTwitter sets this cookie to integrate and share features for social media and also store information about how the user uses the website, for tracking and targeting.
Others
Other uncategorized cookies are those that are being analyzed and have not been classified into a category as yet.
CookieDurationDescription
jnews_view_counter_visits[0]2 months 2 days 15 hoursNo description
muc_ads2 yearsNo description
pvc_visits[0]1 dayThis cookie is created by post-views-counter. This cookie is used to count the number of visits to a post. It also helps in preventing repeat views of a post by a visitor.
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo
No Result
View All Result
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact

© 2021 What Car? Thailand - Designed by Coinfinity Power.