Comparison : BMW 530e vs Mercedes-Benz E300e

Crown duals

รถยนต์หรูผู้มั่งคั่งพบกับรถยนต์ประหยัดน้ำมันในการประชันบนเวทีซาลูนหรูรุ่น plug-in hybrid


BMW 5 Series 530e M Sport Pro Pack

ราคาขาย 54,820 ปอนด์

(ราว 2,741,000 บาท)

ราคาที่น่าลงทุน 48,507 ปอนด์

(ราว 2,425,350 บาท)

ผู้ครองบัลลังก์รถยนต์หรูแห่งปีด้วยการออกแบบภายในที่มีระดับผสานกับระยะวิ่งด้วยไฟฟ้า ดูเหมาะสมเป็นบังลังก์ที่โค่นได้ยากนัก


NEW Mercedes-Benz E-Class E300e AMG Line Premium

ราคาขาย 52,540 ปอนด์

(ราว 2,627,000 บาท)

ราคาที่น่าลงทุน 49,306 ปอนด์

(ราว 2,465,300 บาท)

คู่แข่งของ 5 Series ได้รับการปรับโฉมใหม่ สด ๆ ร้อน ๆ ในปี 2021 ด้วยรูปลักษณ์และระบบสาระบันเทิงที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ แต่ด้านการทำงานยังคงเป็น plug-in hybrid เหมือนเดิม


        ไม่ต้องสงสัยในคำกล่าวที่ว่าประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ลองดูตัวอย่างเช่น plug-in hybrid (PHEVs) เราอาจจะเถียงว่าพวกมันมีความคล้ายคลึงกับรถยนต์ดีเซลทั่วไปมากกว่าที่คุณคิด

        รถยนต์บริษัทที่เคยใช้พลังหัวจ่ายน้ำมันสีดำเคยเป็นตัวเลือกที่เหนือกว่าใคร และดึงดูดผู้ที่ต้องการประหยัดพลังงานในการใช้งานหรือการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ไม่งอแงบ่อย เมื่อเวลาผ่านไปเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขึ้น ทำให้มันกลับกลายเป็นตัวเลือกที่แสนธรรมดาของการเป็นรถยนต์บริษัทปัจจุบันคุณสามารถเปลี่ยนจาก “หัวจ่ายน้ำมันสีดำ” เป็น “สายชาร์จ” แทนเพราะสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในครั้งนั้นกำลังเกิดขึ้นกับ PHEVs

BMW 5 Series 530e

ระบบช่วงล่างแบบปรับได้ช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างความแรงและความสบายส่งผลให้ 530e ขับขี่ได้ดีกว่า E300e

        นอกจากรถยนต์ในหมู่ plug-in hybrid ทั่วไปแล้ว PHEVs ยังคว้าตำแหน่งรถยนต์เอ็กเซคคูทีฟที่ดีที่สุด Luxury SUV ที่ดีที่สุดและรถยนต์หรู (Luxury Car) ที่ดีที่สุดในรางวัลรถยนต์แห่งปี 2021 ของเรา ด้วยเหตุผลนี้เราจึงขอนำ BMW 530e ผู้ชนะในการจัดลำดับล่าสุดของเรามาเข้าร่วมการประชันครั้งนี้

Mercedes-Benz E-Class E300e

E300e มีการเอียงตัวมากขณะเลี้ยว การขับขี่ก็ไม่สบายเท่าที่คิด เสียงรบกวนจากลมที่แทรกผ่านทางหลังคาพาโนรามิกก็น่ารำคาญอีก

        รุ่น Plug-in ตระกูล 5 Series ได้รับการปรับโฉมใหม่ในปี 2020 หลังจากวางขายมาระยะหนึ่ง โดยการเพิ่มขนาดกระจังหน้าและมีการปรับแต่งส่วนอื่นเล็กน้อยแต่ข่าวใหญ่ที่น่าสนใจอยู่ภายใต้เปลือกหรูที่ห่อหุ้มนั่นคือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และพละกำลังที่มากขึ้นพร้อมอัตราการปล่อย CO2 ที่ 33 กรัม/กม.

        แน่นอนว่าคู่แข่งที่สูสีกันอย่าง Mercedes-Benz E-Class ก็ไม่ยอมแพ้ E-Class ได้ทำการปรับโฉมใหม่และอัพเดทระบบสาระบันเทิงและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ซึ่งมันจะเพียงพอที่ E300e รุ่น plug-in จะสามารถเอาชนะ 530e ได้หรือไม่ ทั้งระยะขับขี่และอัตราการปล่อย CO2 ของทั้งคู่แทบจะไม่ต่างกันช่างเป็นการต่อสู้ที่สูสีเสียจริง


การขับขี่

สมรรถนะ, การขับขี่, เสถียรภาพ, ความประณีต

        รถยนต์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จขนาด 2.0 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ระบบอัตโนมัติและขนาบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว อย่างไรก็ตาม E300e มาพร้อมขุมพลัง 316 แรงม้า และ 288 แรงม้า ใน 530e 

BMW 5 Series 530e

‘530e สามารถวิ่งได้ไกลถึง 36.2 กิโลเมตรก่อนแบตเตอรี่หมด E300e สามารถทำได้เพียง 34.2 กิโลเมตร’

        ขุมพลังที่มากกว่าของ E300e ช่วยให้มันสามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.3 วินาที เทียบกับ 530e ที่ 5.4 วินาที นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องใช้ดอกยางจนหมด

        จากการออกตัวด้วยความเร็ว 50 – 110 กม./ชม. ซึ่งเป็นค่าตัวแทนความเร็วบนมอเตอร์เวย์ขณะถนนลื่นไม่มีอะไรที่สามารถแยกความแตกต่างได้คุณจะต้องวางแผนมากกว่านั้นเมื่อใช้งาน E300e แม้ว่าการเปลี่ยนเกียร์จะตอบสนองช้าเล็กน้อยเมื่อวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนและใช้เวลาในการเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน

        อัตราเร่งที่ไวอาจเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่จุดที่น่าทึ่งคือการที่ทั้งสองรุ่นสามารถเคลื่อนที่ด้วยไฟฟ้าล้วน ในวันที่อากาศหนาวทั้งสองรุ่นไม่สามารถแตะถึงระยะอย่างเป็นทางการได้แต่ 530e ทำคะแนนนำด้วยระยะ 36 กม. ก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดเกลี้ยงตามด้วย E300e ที่ 34 กม.

        เมื่อพูดถึงความสบายในการขับขี่รถยนต์ที่เราทดสอบทั้งสองไม่ต่างกันนัก E300e ต่างจากรุ่น AMG E-Class ทั้งหลายตรงที่มันไม่ได้รับการติดตั้งระบบช่วงล่างแบบปรับได้ที่คุณจะสามารถปรับให้เฟิร์มหรือนุ่มก็ตามใจได้เลย และนั่นจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บน 1970s Cadillac

Mercedes-Benz E-Class E300e

‘ระบบช่วงล่างแบบนุ่มแต่ปรับไม่ได้ของ E300e ให้ความรู้สึกเหมือน 1970s Cadillac ที่มักจะส่ายไปมา’

        สปริงที่ดีจะเสริมให้ E300e มอบความนุ่มนวลกว่าในการขับอยู่บนมอเตอร์เวย์แม้จะอยู่บนล้อขนาดเล็กเพียง18นิ้ว ทำให้ช่วนหงุดหงิดใจตลอดเรื่องการสั่นสะเทือนตามรอยต่อต่าง ๆ บนถนน

        มันค่อนข้างจะไม่น่าประทับใจเมื่อคุณวิ่งบนถนนนอกเมือง ความสามารถในการควบคุมรถที่หละหลวมทำให้คุณรู้สึกถึงการส่ายไปมาจนผู้โดยสารอาจเกิดอาการเวียนหัว ทุกคนจะรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกจากฝาท่อและลูกระนาด

        แม้ว่าช่วงล่างของ 530e จะมีความเฟิร์มมากกว่า นั่นอาจเป็นเพราะล้อขนาด 20 นิ้ว (ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนเป็น 19 นิ้ว ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย) คุณจะพบว่ามันน่ารำคาญน้อยกว่าขณะเดินทางซึ่งต้องขอบคุณช่วงล่างแบบปรับได้ที่มาพร้อมกับแพ็กเสริม M Sport Pro Pack ยึดเกาะถนนได้ดีและรับมือกับลูกระนาดได้ยอดเยี่ยมกว่า ควบคุมง่ายและมั่นคงมากกว่าเรื่องความสมดุล 530e เป็นรถยนต์ที่สร้างความพึงพอใจในการขับขี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเป็นผู้โดยสาร

        ซึ่งเราหมายความว่า 530e ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่เฉียบคมมากกว่าความปราดเปรียวในตระกูล 5 Series รุ่นธรรมดา แต่คุณก็จะต้องออกแรงจนเหนื่อยกว่าจะรู้สึกถึงน้ำหนักของแบตเตอรี่ โดยส่วนใหญ่คุณจะรู้สึกดื่มด่ำกับความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ พวงมาลัยที่แม่นยำและการยึดเกาะที่เหนียวแน่น

        E300e เป็นรถยนต์ที่ค่อนข้างสงบแม้วิ่งด้วยความเร็ว 110 กม./ชม. เมื่อทำการวัดเดซิเบล แม้ว่าเราจะรู้สึกถึงความน่ารำคาญของเสียงลมลอดเข้ามาจากหลังคาพาโนรามิกที่มากกว่าเสียงรบกวนจากยางรถของ 530e เครื่องยนต์ของ E300e มีเสียงดังมากกว่าเมื่อเคลื่อนที่บนรอบเครื่องยนต์สูง


หลังพวงมาลัย

ตำแหน่งคนขับ, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต

        เบาะคนขับของรถยนต์ทั้งสองสามารถปรับได้หลากหลาย รวมทั้งมีระบบซัพพอร์ตหลังเพื่อป้องกันปัญหาปวดหลัง แต่พวงมาลัยเบาะและคันเร่งของ 530e มีความเหมาะสมกับตำแหน่งที่นั่งที่สูงมากกว่าคุณสามารถเพิ่มแพ็ค Comfort ในราคา 74,750 บาท เพื่อเพิ่มการปรับด้วยระบบไฟฟ้าล้วนบน 530e แต่คุณจะต้องเพิ่มเงินถึง 125,000 บาท สำหรับการเพิ่มแพ็ค AMG Line Night Edition Premium Plus บน E300e

BMW 5 Series 530e

1 รุ่น M Sport ใช้วัสดุหุ้มแผงแดชบอร์ดด้วยหนังเพิ่มความรู้สึกในการสัมผัสแต่ไม่ได้เพิ่มความมีระดับ

ปุ่มกดและสวิตช์ต่าง ๆ สำหรับระบบควบคุมอากาศและระบบควบคุมเครื่องเสียงใช้งานง่ายและแม่นยำ

3 แม้แต่ส่วนล่างสุดของประตูยังทำจากพลาสติกคุณภาพสูง ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลว่าจะรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าสถิตขณะเอื้อมไปหยิบขนม

ระบบสาระบันเทิง

หากพูดตรง ๆ นี่คือระบบสาระบันเทิงที่ดีที่สุดที่เคยมี หน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วคมชัดและว่องไว ในขณะที่หน้าตาเมนูก็มีความชัดเจน คุณสามารถควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัสที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วหรือคุณจะใช้งานปุ่มแบบหมุนควบคุมที่อยู่ระหว่างเบาะนั่งก็ย่อมได้ ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยและความแม่นยำขณะขับขี่ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใช้งานอีกมากมาย

        ทัศนวิสัยของรถยนต์ทั้งสองรุ่นไม่แย่นัก แต่ทัศนวิสัยจากด้านหลังของ E300e จะดูลำบากกว่าเล็กน้อยด้วยขอบกระจกหลังที่ค่อนข้างหนา ทั้งสองมาพร้อมเซ็นเซอร์ช่วยจอดทั้งด้านหน้าและหลังรวมถึงไฟหน้า LED ที่มีมาเป็นมาตรฐาน 530e มีกล้องด้านหลังเพิ่มเข้ามา E300e ล้ำหน้ากว่านั้นเล็กน้อยด้วยกล้อง 360 องศาและไฟหน้าแบบปรับได้ช่วยให้คุณไม่ทำร้ายดวงตาของเพื่อนร่วมทาง

Mercedes-Benz E-Class E300e

มีการแต่งด้วยไม้เพิ่มความหรูหราแต่เสียงเอี๊ยดอาดกลับทำให้รู้สึกผิดหวัง

2 ฝาปิดที่อยู่ใต้แผงควบคุมอากาศซ่อนที่วางแก้วไว้และกล่องขนาดพอเหมาะสามารถเก็บของใช้ส่วนตัวได้ดี

3 พวงมาลัยสีดำมาพร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch-sensitive ที่อาจใช้งานยาก มันตอบสนองรวดเร็วเกินไป

ระบบสาระบันเทิง

หน้าจอระบบสัมผัส 12.3 นิ้ว ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐานและมี touchpad ระหว่างเบาะนั่งและบนพวงมาลัยฟังก์ชั่น ซึ่งคุณสามารถควบคุมได้จากหลายตำแหน่ง แต่มันกลับใช้งานไม่ง่ายเหมือนของ 530e แต่หากคุณใช้งานระบบควบคุมบนพวงมาลัยจนคล่องแล้ว คุณจะสามารถสั่งการต่าง ๆ ได้ขณะขับขี่อย่างคล่องตัวเพราะระบบมาพร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่นเดียวกับ 530e กราฟฟิกมีความคมชัดแต่เมนูค่อนข้างใช้งานยาก

        รถยนต์ทั้งสองมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแแบบดิจิทัลโดย E300e สามารถแสดงค่าต่าง ๆ ในระดับที่ละเอียดกว่าของ 530e ทั้งสองมาพร้อมกราฟฟิกที่คมชัดอ่านง่าย

        ภายในของ E300e มาพร้อมหน้าจอ 12.3 นิ้ว ใช้สั่งการและเป็นหน้าจอสาระบันเทิงระบบปรับอากาศด้วยโลหะหรูหราและแดชบอร์ดหุ้มด้วยไม้ให้ความรู้สึกหรูหราดึงดูดสายตาเมื่ออยู่ในโชว์รูมมากกว่า 530e อย่างไรก็ตามภายในมีการใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกขอบมันเงา รวมทั้งพวงมาลัยสีดำมันวาว อีกทั้งสวิตช์ที่ยังทำงานไม่แม่นยำและแผงด้านหน้าที่มีขนาดบางส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเมื่อคุณลองกดลงไป


พื้นที่และความอเนกประสงค์

พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นของเบาะนั่ง, พื้นที่ท้ายรถ

        หลังคากระจกพาโนรามิกที่เรากล่าวถึงก่อนหน้านี้ช่วยให้แสงส่องเข้ามาภายใน E300e ได้เป็นอย่างดี แต่มันกลับกินพื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารด้านหน้าคุณรุ่น 530e แม้จะเป็นเพียงโลหะด้านบนแต่คุณก็จะยังเหลือพื้นที่เหนือศีรษะอย่างเหลือเฟือ

BMW 5 Series 530e

        มันอาจดูคับแคบเล็กน้อยเมื่อเราพิจารณาพื้นที่วางขาด้านหน้าและความกว้าง ในขณะที่ทั้งสองมีที่วางแขนที่กว้างและกล่องอเนกประสงค์ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยคุณสามารถวางโทรศัพท์และกุญแจต่าง ๆ ระหว่างเบาะนั่งรวมถึงวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ ช่องใส่ของข้างประตูมีขนาดเหมาะสมทั้งคู่และไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นไหนคุณจะได้กล่องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ใต้ที่เท้าแขนตรงกลางซึ่งเหมาะกับการใช้งานในการเดินทาง

        เราสามารถแยกรถทั้งสองรุ่นออกจากกันได้โดยง่าย เมื่อพิจารณาพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลัง 530e มีพื้นที่วางขามากกว่าในขณะที่หลังคาพาโนรามิกของ E300e กินพื้นที่เหนือศีรษะเล็กน้อย พื้นที่วางเท้าใต้เบาะหน้าของ E300e ค่อนข้างแคบทั้งสองคันไม่เหมาะแก่การรองรับผู้โดยสารสามคนด้วยพื้นที่นูนขึ้นตรงกลางทำให้ลดพื้นที่เหนือศีรษะลงไปอีก

Mercedes-Benz E-Class E300e

        ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองมีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ทันสมัย คุณจะยังรู้สึกว่าพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีจำกัดเมื่อเทียบกับ 5 Series และ E-Class รุ่นธรรมดา สำหรับ 530e มีพื้นที่เรียบแต่สูงกว่ารุ่นปกติในทางกลับกัน E300e มีส่วนที่นูนขึ้นมาค่อนข้างใหญ่ทำให้พื้นไม่เรียบและจัดวางสัมภาระอย่างยุ่งยาก

        แม้ว่า E300e จะมาพร้อมรูปทรงที่แปลกมันกลับสามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางแบบ Carry-on ได้มากกว่า 530e (6 ต่อ 5) อีกทั้งคุณยังสามารถพับเบาะหลังได้แบบ 40/20/40 โดยคุณจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 19,750 บาท สำหรับการติดตั้งเบาะพับได้บน530e เพื่อให้สามาถพับได้แบบ 40/20/40


การซื้อและการเป็นเจ้าของ

ราคา, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัยและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย

        รถยนต์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมสายชาร์จ Type 2 สำหรับการชาร์จที่บ้านและอีกหนึ่งสายสำหรับการเสียบกับเต้ารับสามตา คุณจะใช้เวลาในการชาร์จ 530e ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งเพื่อให้ถึงระดับสูงสุดซึ่งค่อนข้างน่าผิดหวังที่ 3.7 kW E300e สามารถรองรับไฟฟ้าได้สูงสุด 7.4 kW จึงทำให้ชาร์จไฟได้ไวกว่าโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แม้จะมีแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่าคุณก็ไม่สามารถใช้งานการชาร์จด้วยความเร็วสูง CCS ได้อยู่ดี

        อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของ 530e อยู่ที่ 80.06 กม./ลิตรและ 75.08 กม./ลิตรสำหรับ E300e ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความประหยัดหากคุณหมั่นชาร์จไฟและใช้งานในการเดินทางระยะสั้น

        หากคุณวิ่งด้วยน้ำมันล้วนจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง 530e ก็ยังคงเป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพคันหนึ่งโดยแสดงผลอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานที่15.09 กม./ลิตรในการทดสอบของเราเทียบกับ E300e ที่14.45 กม./ลิตร

        โดยสรุปแล้วคุณจะประหยัดมากขึ้นถึง 22,000 บาท เมื่อใช้งานน้ำมันและไฟฟ้าร่วมกันในระยะเวลาสามปีในการขับขี่530e โดยคาดการณ์การเดินทาง 64 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม

        530e ยังมีค่าบริการและประกันภัยที่ต่ำกว่ารวมถึงคุณจะได้รับส่วนลดมากกว่าด้วยเมื่อคำนวณทุก ๆ อย่างแล้ว 530e จะช่วยให้ผู้ซื้อรถยนต์ส่วนตัวประหยัดได้เกือบ 250,000 บาท ในระยะเวลาสามปี หากคุณซื้อด้วยการผ่อนแบบ PCP 530e จะมีราคา 3,850 บาทต่อเดือนน้อยกว่าในระยะเวลาสามปีด้วยมัดจำ 270,000 บาทและจำกัด 10,000 กิโลเมตรต่อปี 530e อาจจะต้องยอม E300e หากคำนึงด้านภาษีสำหรับรถยนต์บริษัทแต่จะมีค่าใช้จ่ายต่างกันเดือนละ 450 บาทเท่านั้น

        E300e มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานมากกว่ารวมถึงระบบควบคุมอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (530e มีแยกสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า) พร้อมระบบไร้กุญแจประตูท้ายไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เรากล่าวถึงก่อนหน้านี้



. . WHATCAR? SAY . .

คุณน่าจะพอเดาคำตอบได้แล้ว และผลที่ออกมาคือ E300s คว้ารางวัลเหรียญเงินจากเราไปครองด้วยรายการอุปกรณ์มาตรฐานที่ยาวกว่า และหลาย ๆ คนอาจจะประทับใจองค์ประกอบอันน่าตื่นตาของการออกแบบภายใน อย่างไรก็ตามแม้จะมีการประหยัดอัตราภาษี BIX แต่ก็ไม่สามารถชดเชยความน่าเบื่อในการขับขี่ได้

ดังนั้น 530e จึงกลายเป็นเจ้าของรางวัลผู้ชนะในการทดสอบนี้และยังคงเป็นรถยนต์หรูคันโปรดของเรา ไม่เพียงเพราะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม (เมื่อคุณติดตั้ง M Sport Pro Pack) และความเร็วที่มากพอที่จะสะกดใจผู้ขับขี่เท่านั้น มันยังมาพร้อมการตกแต่งภายในคุณภาพเยี่ยม ระบบควบคุมที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังที่กว้างขวาง โดยสรุปแล้ว 530e มีความคุ้มค่าและตอบโจทย์รอบด้าน แม้คุณจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มอีกสักหน่อยสำหรับผู้ที่ซื้อในนามรถยนต์บริษัท


ข้อดี ขับขี่ยอดเยี่ยมและมีเสถียรภาพสมดุล, การออกแบบภายในมีคุณภาพสูง, ระบบสาระบันเทิงชั้นนำ, พื้นที่ด้านหลังกว้างขวาง, ราคาในการซื้อและใช้งานเป็นรถยนต์ส่วนตัวถูกกว่า

ข้อเสีย แพ็กเสริมราคาสูง, แบตเตอรี่ใช้เวลาในการชาร์จนานกว่า

ออปชั่นเสริมที่แนะนำ ไม่มี

ข้อดี อุปกรณ์ครบครันมากกว่า, เบาะนั่งด้านหลังมีความยืดหยุ่นกว่า, ราคาผ่อนแบบ PCP และภาษี BIX ต่อเดือนต่ำกว่า

ข้อเสีย การขับขี่และเสถียรภาพไม่คงที่, ระบบไฮบริดไม่ดีเท่า, คุณภาพการประกอบแย่กว่า, ท้ายรถมีรูปทรงแปลก

ออปชั่นเสริมที่แนะนำ ไม่มี

Exit mobile version