VOLTY POWERSด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง Audi E-tron GT และ Porsche Taycan เป็นหนึ่งในรถยนต์สมรรถนะสูงที่สร้างความตื่นเต้นที่สุดที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ มาดูกันว่าใครจะเหนือกว่ากัน
NEW Audi E-tron GT quattro
ราคาขาย 79,900
(ราว 3,995,000 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 79,900
(ราว 3,995,000 บาท)
E-tron GT เป็นฝาแฝดที่มาพร้อมภายในแทบจะเหมือนกับ Taycan ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มีราคาที่น่าจับตามากกว่าและอุปกรณ์มาตรฐานมากกว่า
Porsche Taycan 4S Performance Battery Plus
ราคาขาย 87,541 ปอนด์
(ราว 4,377,050 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 87,541 ปอนด์
(ราว 4,377,050 บาท)
รถยนต์สมรรรถนะสูงเจ้าของบรรลังก์รถยนต์แห่งปีเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความรวดเร็วและน่าตื่นเต้นที่สุดที่เราเคยขับ จะมีใครโค่นมันลงได้จริงหรือ
คุณสามารถบอกว่า Porsche เป็นรถที่ขับขี่ยอดแย่ได้หรือไม่ ทุกคนรับรู้ถึงความโด่งดังของ 911 ในขณะที่ 718 Cayman มาพร้อมการเลี้ยวที่นุ่มนวลกว่าและ Macan พิสูจน์แล้วว่า SUV สามารถมอบการขับขี่ที่ตื่นเต้นได้
จากนั้นมีการเปิดตัว Taycan ที่ทำให้เราตาลุกวาวกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่สามารถรองรับการขับขี่อันน่าตื่นเต้น และแน่นอน Porsche ทำสิ่งที่ดูเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ รถยนต์ EV น้ำหนักกว่า 2,500 กิโลกรัม มาพร้อมการเลี้ยวที่เปี่ยมไปด้วยพลังโดยสามารถเอาชนะ Tesla Model S และคว้ารางวัลรถยนต์ Performance แห่งปี 2021 จากเราไป
วันนี้ Porsche จะต้องพบกับคู่แข่งหน้าใหม่ new Audi E-tron GT การทดสอบครั้งนี้จะต้องน่าหนักใจกว่าครั้งไหน ๆ เพราะ E-tron GT เป็นเสมือน Taycan 4S ที่เพิ่ม Vorsprung durch Technik ลงไปเล็กน้อย ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว และแบตเตอรี่ 93kWh เป็นแบบเดียวกับที่อยู่ใน Taycan รุ่นที่เราเลือก
การทดสอบนี้จะมีผลการตัดสินบางประการที่แตกต่างกันออกไป เช่น ช่วงล่างของ E-tron GT มีความนุ่มนวลกว่าและอาจมีความลำเอียงเกิดขึ้นอันเนื่องมาความเชื่อที่เกี่ยวกับ GT แถมมันยังมีราคาถูกกว่าอีกด้วย
การขับขี่
สมรรถนะ, การขับขี่, เสถียรภาพ, ความประณีต
รถยนต์ทั้งสองรุ่นมอบความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน เมื่อมันเริ่มเร่งความเร็วจากหยุดนิ่ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อที่มีเป็นมาตรฐานสามารถเชื่อมระหว่างรถยนต์และถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เกิดการลื่นไถล และแน่นอนว่าไม่มีการปล่อยพลังงานเสีย แต่ทั้งหมดมาจากพลังและแรงบิดอันมหาศาล อีกสิ่งที่ต่างจากรถยนต์เบนซิน performance ทั่วไปคือคุณจะต้องรอเล็กน้อยเมื่อมีการเข้าสู่รอบสูง ๆ
AUDI E-TRON GT
E-tron GT มีเสียงรบกวนจากถนนมากกว่า แต่การขับขี่จะเงียบสงบเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงระดับมอเตอร์เวย์
มีการใช้พลังงานจำนวนมากตั้งแต่เริ่มต้น มอเตอร์ของทั้งสองส่งเสียงคำรามบ้าพลัง มอเตอร์ของ E-tron GT ส่งพละกำลังขนาด 469 แรงม้า และ Taycan 483 แรงม้า แต่รถยนต์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมฟังก์ชั่นบูสเตอร์ที่สามารถส่งพลังได้มากถึง 523 แรงม้า และ 563 แรงม้า ตามลำดับในระยะประมาณ 2.5 นาที นั่นเป็นการอธิบายว่าทำไม E-tron GT ช้ากว่าในการเคลื่อนที่จาก 0-96.5 กม./ชม. (3.9 วินาที เทียบกับ Taycan 3.6 วินาที) ทั้งสองยังคงเป็นลาวาที่พุ่งจากปล่องภูเขาไฟเมื่อพยายามแซงบนถนน โดย E-tron GT สามารถพุ่งจาก 48.2 – 112.63 กม./ชม. ด้วยระยะเวลา 3.1 วินาที และ Taycan ทำได้ในเวลา 2.8 วินาที จากการทดสอบ E-tron GT มาพร้อมระบบช่วงล่างที่นุ่มนวลกว่าคู่แข่ง แต่มันกลับเสียคะแนนขณะเลี้ยว เมื่อคุณได้ทดลองจะพบว่ามันเป็นรถยนต์ EV ที่สร้างความบันเทิงในการขับขี่ที่สุด รถยนต์ที่เราทดสอบมีการใช้งานล้อกว้างเป็นพิเศษ ขนาด 21 นิ้ว และมีการติดตั้งแพ็คพิเศษในราคา 445,500 บาท ซึ่งคุณจะได้ระบบช่วงล่างปรับได้แบบถุงลม (ช่วงล่างมาตรฐานเป็นแบบปรับได้เช่นกันแต่มีการเพิ่มสปริงโลหะลงไป)
AUDI E-TRON GT
ระบบสาระบันเทิง
หากคุณเคยใช้งานระบบ Audi MMI คุณจะเรียนรู้การใช้งานระบบนี้ได้อย่างรวดเร็ว หน้าจอระบบสัมผัสมีความชัดเจน และตอบสนองว่องไว ซึ่ง Taycan มาพร้อมระบบ Apple CarPlay ในขณะที่ E-tron GT รองรับระบบ Android Auto นอกจานี้คุณยังสามารถเพิ่มเงิน 179,500 บาท เพื่อติดตั้งแพ็คเสริม Comfort and Sound แบบในรถยนต์ที่เราทดสอบ โดยที่ในราคานี้คุณจะได้รับเครื่องเสียง 710-watt B&O และชุดลำโพง 16 ตัวที่มีเสียงใสชัดเจน
เมื่อใช้งานโหมด Sport ช่วงล่างจะเฟิร์มขึ้นและมีการเอียงตัวขณะเลี้ยวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเช่นเดียวกับ Taycan ที่มีระบบช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้เป็นมาตรฐาน E-tron มีสมดุลของเสถียรภาพที่ขี้เล่นมากกว่า รถยนต์ทั้งสองเคลื่อนที่อย่างน่าพึงพอใจและสามารถคาดการณ์การเลี้ยวได้ขณะทั้งเข้าและออก
แต่ Taycan ล้ำหน้าไปหนึ่งก้าวด้วยความสามารถในการรักษาการทรงตัวแม้บนพื้นผิวต่างระดับ และระบบเลี้ยวที่แน่นหนึบกว่า แต่เราขอบอกคุณว่าระบบเลี้ยวของ E-tron ดีกว่า ซึ่งได้เปรียบมากกว่าเมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ
ทั้งสองมีการเบรกที่ดีกว่ารถยนต์ EV ส่วนใหญ่ ทั้งในด้านระยะเบรก (มากกว่า 43 เมตร ที่ความเร็ว 112.63 กม./ชม. ซึ่งเป็นระยะที่น่าทึ่งสำหรับรถยนต์ที่มีน้ำหนักมาก) และการหยุดนิ่งอย่างนุ่มนวล คุณจะเห็นว่ามีการใช้มอเตอร์ในการกักเก็บพลังงานขณะลดความเร็ว หรือที่เรียกว่าการเบรกแบบสะสมพลังงาน สำหรับระบบลักษณะเดียวกันของรถ EV รุ่นอื่น ๆ ที่มีการผสานระหว่างเบรกธรรมดาและการเบรกลักษณะนี้กลับให้ความรู้สึกเงอะงะ ทั้งสองรุ่นทำได้ดีแต่อาจไม่สมบูรณ์แบบ เท่า Tesla บางรุ่น
PORSCHE TAYCAN
Taycan มีความเงียบมากกว่าเมื่อขับขี่บนถนนที่ขรุขระ และมีพวงมาลัยที่ใหญ่ ซึ่งทำให้มั่นใจในขณะขับขี่มากขึ้น
ที่ 112.63 กม./ชม. Taycan 4S เงียบกว่า Taycan Turbo ที่เราทดสอบเมื่อปีที่แล้ว ความแตกต่างนี้เป็นเพราะล้อและยางของ 4S ที่มีขนาดเล็กกว่า ทำให้สร้างเสียงคำรามน้อยกว่าล้ออ้วน ๆ ของ E-tron GT ทั้งสองสามารถจัดการกับเสียงลมได้ เป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีเสียงส่งขึ้นมาจากด้านล่างนาน ๆ ครั้งเมื่อมีการเร่งเครื่องอย่างหนักซึ่งเป็นเสียงของระบบเกียร์อัตโนมัติสองระดับที่ช่วยขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งมักจะส่งเสียงคำรามเมื่อมีการปรับการใช้งานในอัตราที่สูงขึ้นขณะขับขี่
PORSCHE TAYCAN
ระบบสาระบันเทิง
การสั่งการหน้าจอระบบสัมผัสอยู่ค่อนข้างต่ำและอาจจะทำให้กดไปโดนคำสั่งอื่นโดยไม่ตั้งใจขณะคุณพักแขนบนที่วางแขน อีกทั้งมันยังมีระบบที่ซับซ้อน พร้อมเมนูที่กระจัดกระจายทั้งด้านบนและด้านล่างของหน้าจอ แต่อย่างน้อยหน้าจอก็มีความคมชัด และตอบสนองรวดเร็ว เครื่องเสียงที่มีมาเป็นมาตรฐานมีคุณภาพพอสมควร คุณสามารถติดตั้งลำโพง Bose 14 ตัว (47,800 บาท) หรือลำโพง Burmester 21 ตัวที่มีคุณภาพดีกว่าในราคา 210,000 บาท
ช่วงล่างของ E-tron GT เคลื่อนที่ผ่านพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบด้วยระดับเสียงรบกวนที่สูงกว่า แม้ช่วงล่างที่นุ่มนวล กว่าจะสร้างความสงบที่น่าประทับใจขณะเคลื่อนที่บนมอเตอร์เวย์ Taycan ทำผลงานได้ดีเยี่ยมด้วยความเร็วสูง และนิ่งกว่า Tesla Model S ด้วยช่วงล่างที่แข็งและแน่นกว่า จะไม่ค่อยพบการโคลงเท่ากับ E-tron GT เมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ แต่แลกกันกับความรู้สึกของการกระแทกที่มากกว่าเมื่อเคลื่อนที่ผ่านลูกระนาด
ระยะอย่างเป็นทางการของ Taycan (ติดตั้งแพ็ค Performance Battery Plus 195,300 บาท) คือ 463.3 กิโลเมตร ในขณะที่ E-tron GT ไปได้ไกลถึง 474.65 กิโลเมตร ในการทดสอบระยะวิ่งจริง ณ ลู่วิ่งที่เราจัดขึ้นเพื่อจำลองการวิ่งในเมือง ชนบท และมอเตอร์เวย์ พบว่าทั้งสองมีการใช้พลังงานไม่ต่างกันและมีระยะวิ่งเกิน 370.07 กิโลเมตรเล็กน้อย
หลังพวงมาลัย
ตำแหน่งคนขับ, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต
เมื่อมองจากหลังพวงมาลัย เบาะนั่งอยู่ในระดับต่ำและสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า 8 ระดับ รถยนต์ที่เราใช้ในการ ทดสอบสามารถปรับได้ 14 ระดับ รวมถึงมีส่วนรองรับหลังส่วนล่างซึ่งได้รับการยอมรับแล้วว่านั่งสบาย เบาะของ E-tron GT มาพร้อมส่วนซัพพอร์ทด้านข้างรองรับการเลี้ยวด้วย
ขอบข้างกระจกของรถยนต์ทั้งสองค่อนข้างหนาและกระจกหลังมีทัศนวิสัยแคบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจอดในที่แคบ ๆ หากคุณใช้การฟังเสียงเซ็นเซอร์ทั้งหน้าและด้านหลังช่วยก็จะทำให้การขับขี่ง่ายขึ้น E-tron GT มาพร้อมกล้องหลัง ซึ่งคุณสามารถติดตั้งเพิ่มบน Taycan ได้ในราคา 24,000 บาท ทั้งคู่มาพร้อมไฟหน้า LED สว่างชัดเจน
AUDI E-TRON GT
1 แผงควบคุมประกอบด้วยปุ่มกดแบบธรรมดา ทำให้คุณสามารถปรับค่าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายขณะขับขี่
2 รถยนต์ทั้งสองมาพร้อมตำแหน่งคนขับแบบธรรมดาและสามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง
3 ภายในของ E-tron GT ดูแข็งแกร่งน้อยกว่า Porsche Taycan ที่ถูกผลิตออกมาอย่างแข็งแกร่ง
AUDI E-TRON GT
ความแตกต่างหลักของแดชบอร์ดคือเลย์เอาท์ ซึ่ง Porsche มาพร้อมความรู้สึกทันสมัยมากกว่า ทั้งหน้าจอระบบสัมผัส 3 จอที่ถูกติดตั้งบน Taycan โดยมีหน้าจอสาระบันเทิงขนาด 10.9 นิ้ว ข้างหน้าจอแสดงผลขนาด 16.8 นิ้ว และใต้จอสาระบันเทิง มีจอขนาด 8.4 นิ้ว สำหรับปรับระบบปรับอากาศ
หน้าจอตรงกลางทั้งสองเป็นระบบสัมผัส แต่กลับใช้งานยากเล็กน้อย เราจึงชอบระบบของ E-tron GT มากกว่า หน้าจอ 12.3 นิ้ว พร้อมปุ่มหมุนแบบธรรมดาสำหรับการเลือกหรือตั้งค่าใด ๆ และปุ่มจริง ๆ สำหรับการปรับเครื่องปรับอากาศและการขับขี่ควบคุมด้วยการสัมผัสเบา ๆ
PORSCHE TAYCAN
1 หน้าจอระบบสัมผัสแทนที่ปุ่มกดแบบธรรมดาทำให้คุณต้องละสายตาจากถนนหากต้องการปรับค่าใด ๆ
2 รถยนต์ทั้งสองคัน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มหากต้องการเบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้า 14 ทิศทาง แต่ทั้งคู่มาพร้อมส่วนรองรับหลังส่วนล่าง
3 เช่นเดียวกับ E-tron GT คุณสามารถเพิ่มการแต่งภายใน
PORSCHE TAYCAN
รถยนต์ทั้งสองมาพร้อมตัวเลือก ภายในแบบ ‘extended leather’ ภายในของ E-tron GT ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านหากคุณเพิ่มไฟคอนทัวร์และไม้วีเนียร์แทนคาร์บอนไฟเบอร์
สีดำและแต่งภายในด้วยสีดำล้วน น่าเสียดายที่ภายในของมันมีส่วนของพลาสติกเงา ๆ หลายจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์ Audi ราคาแตะ 5 ล้านบาท ภายในของ Taycan สวยงามไร้ข้อกังขา ทุกส่วนดูประกอบเข้ากันเป็นอย่างดี
พื้นที่และความอเนกประสงค์
พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นของเบาะนั่ง, ท้ายรถ
ทั้ง 2 คันเหมือนกันกระทั่งพื้นที่ห้องโดยสารภายใน ประตูของทั้งสองค่อนข้างแคบ แต่เมื่อคุณได้เข้าไปแล้วจะรู้สึกถึงความใหญ่ คุณมีพื้นที่วางขาที่กว้าง หากคุณไม่ได้สูงกว่าปกติ คุณจะยังคงมีพื้นที่เหนือศีรษะมากพอ ผู้โดยสารสูง 180 ซม. สามารถโดยสารเบาะหลังทั้งสองได้อย่างสบาย ๆ หากมีคนตัวสูงนั่งด้านหน้า E-tron GT มีพื้นที่เหนือศีรษะเหลือมากกว่าเมื่อปรับที่นั่งเหยียดตรง โดยหลังคาพาโนรามิกเป็นตัวเลือกเสริมบน Taycan ในราคา 56,850 บาท และต้องเพิ่มอีก 16,800 บาท สำหรับการติดตั้งเบาะกลางด้านหลังซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ โดย E-tron GT มีมาให้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว
AUDI E-TRON GT
ส่วนท้ายของรถยนต์ทั้งสองรุ่นสามารถจุกระเป๋าเดินทางแบบ carry-on ได้ 6 ใบ ทั้งยังมีพื้นที่เหลือสำหรับกระเป๋าถืออีกเล็กน้อย หากคุณต้องการพื้นที่มากขึ้นคุณยังสามารถพับเบาะลงได้ สำหรับ E-tron GT คุณสามารถพับเบาะได้แบบ 40/20/40และสำหรับ Taycan หากคุณติดตั้งเบาะหลังสามที่นั่งโดยสามารถพับได้ในลักษณะ 60/40
PORSCHE TAYCAN
หากคุณไม่ได้อัพเกรดลำโพง คุณสามารถจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ใต้พื้นท้ายรถได้ และยังมีพื้นที่ใต้ฝากระโปรงที่ใหญ่เพียงพอสำหรับใช้เก็บสายชาร์จ (หรือกระเป๋าเดินทางแบบ carry-on อีกสักใบ)
การซื้อและการเป็นเจ้าของ
ราคา, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
เมื่อเทียบราคาที่น่าลงทุน Taycan ยังมีราคาสูงกว่าและเมื่อติดตั้งแพ็ค Performance Battery Plus (195,300 บาท) เพื่อให้มีแบตเตอรี่เท่ากับ E-tron GT 93kWh ยิ่งเป็นการทำให้ราคาสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากคุณต้องการเพิ่มระบบช่วงล่างแบบถุงลมบน E-tron GT (เพื่อให้เหมือนกับ Taycan) คุณจะต้องติดตั้งชุด Comfort and Sound Pack Plus (445,500 บาท) นั่นทำให้มีราคาสูงกว่า Taycan ถึง 60,000 บาท ในกรณีที่มีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดเท่ากัน
อย่างไรก็ตามแพ็คที่ติดเสริมเข้ามายังมาพร้อมอุปกรณ์อื่น ๆ หรือหากไม่ได้ติดตั้งแพ็คเหล่านี้เพิ่ม E-tron GT ก็ยังมาพร้อมความสบายที่มากกว่ารถยนต์ทั้งสองมาพร้อมค่าเสื่อมที่ลดลงช้า E-tron GT ครอบคลุมการใช้จ่ายที่ถูกกว่าประมาณ 95,000 บาท
หากพิจารณาด้านการเงิน วางเงินมัดจำ 500,000 บาท และผ่อนแบบ PCP 4 ปี (ใช้งานไม่เกิน 12,800 กิโลเมตรต่อปี) Taycan จะมีภาระ 46,400 บาทต่อเดือน ซึ่งมากกว่าอีกรุ่นหนึ่ง หากคุณซื้อในนามรถยนต์บริษัท จากการคำนวณภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในระดับ 40% (จนถึงเดือนเมษายน 2024) หากคุณเลือก E-tron GT คุณจะเสียภาษี 74,550 บาท และ 81,700 บาท สำหรับ Taycan
. . WHATCAR? SAY . .
เราเลือก Taycan ให้เป็นผู้ชนะในการทดสอบนี้เพราะเราประทับใจการขับขี่และไวกว่า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับรถยนต์ในระดับนี้ มันมีห้องโดยสารที่เงียบกว่าเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงและมีการออกแบบภายในที่ประณีตสมบูรณ์มากกว่า และข้อบกพร่องของ E-tron GT นั้นเป็นข้อบกพร่องที่เล็กน้อย มันยังคงเป็นรถยนต์ EV ที่เร็วแรงและขับสนุก ทั้งยังมอบความสบายไม่ต่างจาก Taycan
หากคุณมีใจโอนเอียงไปทาง E-tron GT เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่หากพูดถึงการตอบวัตถุประสงค์ ของการเป็นรถยนต์ประเภทนี้มันยังคงเป็นรอง Taycan
ข้อดี มีความเร็วและความรู้สึกในการขับขี่ที่น่าประทับใจ, เคลื่อนที่เงียบ, คุณภาพการผลิตยอดเยี่ยม
ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้งานสูง, หน้าจอระบบสัมผัสใช้งานยาก
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ เบาะนั่งปรับได้ 14 ทิศทาง Comfort Seats (58,500 บาท), ระบบไร้กุญแจ (38,700 บาท), กล้องหลัง (24,000 บาท)
ข้อดี การควบคุมของแดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น, อุปกรณ์ครบครัน; ถูกกว่า (ก่อนติดตั้งตัวเลือกเสริม)
ข้อเสีย คุณภาพการประกอบธรรมดาเมื่อเทียบกับราคา, เสียงดังที่ความเร็ว 112.63 กม./ชม.
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ ชุด Comfort and Sound Pack Plus (445,500 บาท)