Owner’s Favourite “พีท ทองเจือ”

 Life of Pete 

อะไรคือเหตุผลโดนใจที่ต้องเลือกใช้รถยนต์คันนี้? คุณรู้หรือไม่ว่าสุดยอดนักแข่งดาวรุ่ง นักแสดงสุดฮอต และสุดยอดคุณพ่ออย่าง “พีท ทองเจือ” ถึงเลือกใช้รถยนต์ BMW 5 Series Estate ที่มีให้เห็นบนถนนเมืองไทยน้อยมาก มาเป็นพาหนะส่วนตัวคู่ใจของคนในครอบครัว ดังนั้นในคอลัมน์ Owner’s Favourite เราจะนำพาผู้อ่านไปรู้จักกับเขาคนนี้เอง

“เวลาของคนเรามันมีไม่มากเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นควรเลือกในสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่เราอยากทำจะดีกว่า”

นี่คือข้อคิดหนึ่งในช่วงท้ายๆ ของการสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากพระเอกสุดฮอตอย่าง “คุณพีท ทองเจือ” ผู้ชายที่เรากล้าเอ่ยได้ว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่เลือกใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ทั้งความประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และการเป็นผู้นำครอบครัวยุคใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างที่ “คุณพีท” ได้เล่าเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ให้กับทีมงานของเราทราบว่า

“ในตอนนี้ผมมีสิ่งที่ทำอยู่ค่อนข้างมากครับ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร Galaxy17 ที่เขาใหญ่ ธุรกิจเครื่องดื่ม Energy Drink Hero Star ธุรกิจจำหน่ายรถ Polaris งานนักแสดงในวงการบันเทิงที่ผมพูดเลยว่า ต้องเจียดเวลาตัวเองมาถ่ายละครเรื่อง “ล่าดับตะวัน” ซึ่งทำได้เพียง 1-2 วันต่อสัปดาห์ หรือจะเป็นงานในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์อย่าง อย่างมอเตอร์สปอร์ต และ โปรดักส์เทรนนิ่งครับ แน่นอนว่าในช่วงนี้ (ช่วงสัมภาษณ์) ผมก็กำลังเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลแข่งขันใหม่ในช่วงหน้าร้อนนี้ครับ ซึ่งในปีนนี้ผมตั้งใจจะคว้าชัยการแข่งขันคราวหน้ามาให้ได้ครับ”  

แน่นอนว่าผู้อ่านหลายคนคงจะรู้สึกว่า หน้าที่การงานส่วนตัวในปัจจุบันของสุดยอดนักขับพระเอกสุดฮอตมีอยู่มากมายและคงจะแน่นเต็มตารางในทุกวัน แต่เชื่อหรือไม่ว่า นักขับดาวรุ่งอย่าง “คุณพีท” สามารถบาลานซ์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว แถมยังมีเวลาคอยสอนเหล่าบรรดาลูกชายลูกสาว ให้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อีกต่างหาก แน่นอนว่าคุณพีทเล่าเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า  

“ตอนนี้ผมให้ลูกๆ มาช่วยงานร้านอาหารที่เขาใหญ่ครับ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่รับแขก รับออเดอร์ หรือจะเป็นแคชเชียร์ ซึ่งหลายคนคงจะทราบอยู่แล้ว หรืออาจเคยพบแล้ว ซึ่งผมมองว่ามันจะเป็นการใช้เวลาว่างได้ดีกว่าการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ครับ และปัจจุบันนี้ พ่อแม่ยุคใหม่ มักจะยุ่งและไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูกตัวเอง และต้องปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังมากเกินไป”

แม้เราจะยกเนื้อหาสัมภาษณ์มาเขียนเพียง 2 เรื่องสั้นๆ จากบทสัมภาษณ์เกือบ 1 ชั่วโมงที่เราได้มา แต่นั่นก็เป็นเพราะว่า สองอย่างนี้คือการบาลานซ์ หรือการเลือกใช้ชีวิตที่ลงตัวของ “คุณพีท” นั่นเอง เพราะการเลือกรถยนต์มาไว้ใช้งานของเขาก็มักจะคำนึงถึงเรื่องราวข้างต้น คือ เกี่ยวข้องกับงาน และ ครอบครัว และเหตุนี้เอง เราจึงอยากบอกให้ผู้อ่านรู้ว่า สุดยอดนักแข่งดาวรุ่งคนนี้ ถือว่าเป็นสุดยอดคุณพ่อตัวจริง เพราะการเลือกรถยนต์อย่าง BMW 520d Estate ไว้ใช้งานแต่ละวัน “คุณพีท” ยังคำนึงถึง เรื่องละเอียดอ่อนอย่างการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกับคนในครอบครัวในทุกที่ทุกเวลา ที่นอกเหนือไปจากการคำนึงถึงรูปแบบการใช้งาน 

“ผมไม่ได้เป็นคนที่ชื่นชอบรถยนต์ครับ แต่ผมเป็นคนชอบขับรถ และมาจนถึงตอนนี้รถยนต์หลักๆ ที่ผมเคยขับอย่างจริงจัง มีเพียงแค่ 3 ยี่ห้อ คือ โฟลกเต่าแต่งเต็มที่  ซึ่งเป็นรถคันแรกใช้งานตอนวัยเรียน อีกยี่ห้อหนึ่งคือ BMW ไว้ใช้งาน ส่วนถ้าเป็นรถที่ไว้แข่งลงสนามผมจะเลือกเป็นรถที่ใช้เครื่องโรตารี่ ซึ่งก็คือ Mazda นั่นเอง แต่ทั้งนี้ผมไม่ได้ติดกับแบรนด์นะครับ ผมผูกติดใจกับเครื่องยนต์ของมันมากกว่า เพราะมันเป็นเครื่องยนต์เล็กที่ให้กำลังสูงมาก แต่ถ้ามีคนถามเรื่องเป็นเจ้าของรถ Super car ผมมองว่ามันเป็นรถที่สวยนะ แต่เอาเข้าจริงแล้วผมไม่ซื้อครับ เพราะผมจะซื้อรถยนต์ที่ใช้งานได้จริง ดังนั้น การเลือกใช้ 520d Estate คันนี้จึงสมเหตุสมผลที่สุด”

สมรรถนะเครื่องยนต์ 

“จริงๆ แล้วผมมีความต้องการรถยนต์ที่ใช้งานได้ทนทาน แข็งแรงมากกว่าครับ และรถยนต์คันนั้นไม่จำเป็นต้องมีเครื่องยนต์ที่จี๊ดจ๊าดทรงพลังมาก แต่ผมจะขอเน้นความเรียบลื่น และใช้งานอื่นๆ ได้ดีมากกว่า ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้ รถ BMW มันก็ตอบโจทย์ได้ และอีกอย่างรถคันนี้เป็นเครื่องดีเซลด้วย นั่นจึงทำให้มันมีแรงบิดมหาศาล แถมยังมีอัตราความประหยัดถึง 14-15 กม./ลิตร สำหรับวิ่งในเมือง แล้วผมจะบอกว่า 520d Estate คันนี้ คงจะเป็นรถ “City car” สำหรับครอบครัวผมมากกว่า เพราะมันโดยสารได้พอดีสำหรับคนในครอบครัวครับ”

การขับขี่และการควบคุมรถยนต์ 

“รถ BMW ถือเป็นรถที่ขับได้สนุกคันหนึ่งครับ แถมอารมณ์ในการขับทั้งรถทั้งคนขับยังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรถอีกต่างหาก มันสามารถควบคุมได้ง่าย เป็นไปอย่างนุ่มนวล และยังเป็นมิตรกับคนขับอีกด้วย แต่ทั้งนี้มันก็ยังไม่ได้ดั่งใจผมเท่าไหร่นะครับ เพราะมันไม่ใช่รถสปอร์ตอย่างเต็มขั้น” 

สุนทรียภาพในการขับขี่

“รถคันนี้เป็นรุ่นสูงสุดที่มีการจำหน่ายในต่างประเทศ ดังนั้นเบาะนั่งรถคันนี้จึงนิ่มมากครับ ให้ความสบายได้มาก เวลาขับในระยะทางไกลๆ บางครั้งก็ทำให้รู้สึกง่วงอยู่เหมือนกันครับ” 

เบื้องหลังพวงมาลัย 

“สำหรับรถ Estate ผมว่าจุดอับสายตามีค่อนข้างเยอะพอสมควร ไม่เพียงแต่กระจกด้านหลังที่เล็กแล้ว มุมมองด้านหน้าโดยเฉพาะกับเสา A Pillar ข้างซ้ายค่อนข้างมีปัญหา แต่ถ้าเราเข้าใจปัญหานี้ ก็สามารถหลบเลี่ยงได้ หรือเปลี่ยนวิธีการมองให้ตัวเองสะดวกก็ทำได้ครับ” 

ระบบสาระบันเทิงและอุปกรณ์ต่างๆ 

“สำหรับรถคันนี้ถือว่ายอดเยี่ยมเลยครับ และเครื่องเสียงยังเป็นของเดิมที่มากับรถ แถมยังมีจอทีวีที่เบาะหลัง และจอด้านหน้า ส่วนเครื่องเล่นเพลงของรถนับว่าฉลาดมาก เพราะมันสามารถเล่นแผ่นเพลงสำรองจากต้นฉบับก็ได้ นอกจากนี้รถที่ใช้ยังมีออปชันประตูแบบดูด หลังคาแก้ว แล้วก็เซนเซอร์แจ้งเตือนทุกชนิดรอบคันครับ” 

ระบบความปลอดภัย

“ระบบความปลอดภัยในรถคันนี้ที่ให้มาถือว่าโอเคครับ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการลื่นไถล หรือระบบเซฟตี้อื่นๆ อีกอย่างปัญหารถ Estate ในเรื่องความโคลงตัวของตัวถัง ถือว่ามีอาการน้อยมาก เนื่องจากว่ารถรุ่นนี้เป็นรุ่นสูงสุด และสปริงด้านหลังยังเป็นสปริงลมอีกด้วย นั่นจึงทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลและเกาะถนนได้ดี” 

 คุณภาพและความน่าเชื่อถือ 

“BMW มันเป็นรถที่ขับดีคันหนึ่งครับ และผมเชื่อว่าถ้าลองไปสัมภาษณ์ใครที่ใช้รถยี่ห้อนี้อยู่ก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันอย่างแน่นอน” 

พื้นที่และการใช้งานจริง 

“พื้นที่และฟังก์ชันในรถคันนี้โอเคมากครับ เพราะเราเลือกมาแล้วว่ารถยนต์ที่ไว้ใช้สำหรับรับส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนจะต้องเพียงพอกับสัมภาระของพวกเขา และรถคันนี้ยังทำให้เรากับเด็กมีปฏิสัมพันธ์กันได้ง่ายมากขึ้นด้วยครับ เพราะเด็ก ๆ ก็ชอบมากทีเดียว”

การซื้อและการเป็นเจ้าของ

“รถรุ่นนี้เราสั่งซื้อและนำเข้ามาผ่านตัวแทนจำหน่ายอิสระครับ และเป็นรุ่น Full Option อีกด้วย เพราะ BMW Thailand ไม่มีรถ Estate เข้ามาจำหน่ายในไทย ส่วนการเข้า Service แต่ละครั้ง ก็ใช้บริการที่ตัวแทนอิสระที่รู้จักกันครับ” 

OWNER’S POINT