เหตุผลโดนใจทำไมต้องใช้รถคันนี้ !!! เมื่อหนึ่งในนักร้องเสียงใสแห่งวง Season Five คุณ ‘จั๊ก’ สิโรดมหล่อกัณภัยต้องใช้รถยนต์ขับขี่ไปไหนมาไหนในเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่อะไรคือสาเหตุที่ดลใจให้ Suzuki Swift กลายเป็นยานพาหนะคู่ใจสำหรับหนุ่มหล่อผู้รักความแรงคนนี้
OWNER’S PROFILE
- คุณสิโรดม หล่อกัณภัย
- อายุ 33 ปี
- อาชีพ ศิลปิน (นักร้องวง Season Five)
- รถยนต์ที่ใช้ Suzuki Swift
ณ คอฟฟีช็อปแห่งหนึ่ง ผู้ชายเสียงนุ่มในสุ้มเสียงสไตล์ Baritone กำลังนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเรา ระหว่างการพูดคุยท่ามกลางบรรยากาศสงบเงียบเชียบ แต่อบอวลด้วยกลิ่นกาแฟผสมเพลงแจ๊ส ระยะห่างของเขากับเรานับว่าไม่ห่างไกลเกินกันเท่าไหร่นัก ซึ่งหากให้วัดก็คงได้ออกมาราวความเป็นกันเองที่เหมือนกับคนคุ้นหน้าที่เคยคุ้นตากันมาก่อน
เขากำลังนั่งอยู่ในอารมณ์สบาย เห็นได้ชัดจากการที่เราทั้งคู่สนทนาไปพลาง ตักเค้กและจิบกาแฟไปพลาง พร้อมพูดคุยกันถึงรสชาติของรถที่เขาขับขี่ ความละมุนละไมในยานพาหนะคันโปรดที่เขาเลือกเป็นเจ้าของในฐานะยนตรกรรมมือหนึ่งคันแรก
ในวันที่ฟ้าเปิดกว้าง อากาศร้อนอับอกแต่ไม่ถึงขั้นตับแตกของย่านดาวน์ทาวน์ เขา… สิโรดม หล่อกัณภัย หรือ จั๊ก หนึ่งในสมาชิกวง Hybrid A Cappella ที่ใครหลายคนรู้จักกันในนาม Season Five เจ้าของเพลงฮิตที่ติดอยู่ในสำเนียงฮึมฮัมของผู้ฟังมากมาย อาทิ Event, พูดไม่คิด, แหลก ฯลฯ กำลังไม่แยแสกับสภาพดินฟ้าที่ส่งแสงแดดลงมาแผดเผา และพูดคุยกับเราถึงความจิ๋ว แจ๋ว และเจ๋งของเจ้า Suzuki Swift รถยนต์คันโปรดอย่างสบายอกสบายใจ
“รถยนต์คันนี้ ผมใช้งานมา 3 ปีกว่า เกือบจะ 4 ปีแล้ว จริงๆ มันเป็นรถป้ายแดงคันแรกของผมเลยนะ แต่ก่อนที่ผ่านมาผมใช้รถมือสองมาทั้งหมด เช่น Alfa Romeo Berlino รุ่นปี 1977 เป็นต้น
นอกจากนี้ ความที่ผมเป็นคนชื่นชอบหลายสิ่งหลายสิ่งอย่างในสไตล์วินเทจ ด้วยมักจะรู้สึกว่าของเก่ามันดูสวย อย่างเช่นรถคลาสสิกอะไรทำนองนี้ ดังนั้นสำหรับผมแล้ว เจ้า Suzuki Swift เนี่ย มันมีทั้งความเป็นวินเทจและความคลาสสิคอยู่ในตัว”
ดูเหมือนว่า เริ่มต้นมาได้ไม่เท่าไหร่ ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อรถยนต์มือหนึ่งคันนี้ก็คลับคล้ายจะเอ่อล้นออกมาจากใจนักร้องหนุ่มราวกับความรักที่เขามีให้ต่อเสียงเพลงเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เหตุผลโดนใจทั้งหลายทั้งปวงยังคงไม่หมดเพียงเท่านี้ และเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงความรู้สึกที่มีต่อรถคันหนึ่งของคุณจั๊ก Season Five เราจึงแยกออกมาเป็นข้อย่อยให้ผู้อ่านได้เคลิบเคลิ้มกัน
ความสวยงาม
“ครั้งแรกที่เห็น Suzuki Swift ต้องยอมรับว่า มันโดนใจเลย คือตอนนั้นมีคนขับรถยนต์โมเดลนี้ผ่านหน้าผมไป แวบแรกเลยผมคิดว่า ‘เฮ้ย Suzuki มีรถที่สวยขนาดนี้ด้วยหรือ?’ ผมตกหลุมรักมันทันทีเลยนะ รักถึงขนาดที่ไปซื้อหนังสือรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่นมาอ่านเพื่อหาข้อมูลเลยล่ะ”
“แต่ความชอบของผมอาจจะไม่เหมือนกับที่หลายๆ คนพูดกันว่า มันเหมือนกับรถยนต์ยี่ห้อ Mini หรือเป็น Japanese Mini หรอก ผมชอบมันเพราะว่าเส้นสายรอบคันของมันดูสวย อีกทั้งในความรู้สึกของผม มันยังดูคลาสสิกอีกต่างหาก”
“นอกจากนี้ ผมยังชอบดีไซน์ทั้งไฟหน้า-ไฟท้ายของมันด้วย ขณะที่การออกแบบภายในผมก็ชอบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกับระบบสาระบันเทิงที่พวกปุ่มต่างๆ ยังคงใช้แบบหมุน ทำให้รู้สึกเหมือนรถเก่า เรียกว่ามันยังมีความคลาสสิกอยู่อะไรทำนองนั้น อันที่จริง ตอนผมจะซื้อเจ้า Suzuki Swift คันนี้ ผมเลือกอยู่ระหว่างมันกับ Mazda 2 แต่พอได้ลองปั๊บ ผมก็เลือกปุ๊บทีเดียว”
สมรรถนะเครื่องยนต์
“เรื่องสมรรถนะและการทำงานของเครื่องยนต์จัดว่าราบรื่น การขับขี่ก็ให้ความรู้สึกสนุก แม้ว่าช่วงออกตัวอาจจะรู้สึกช้าอยู่สักหน่อยก็เถอะ แต่อัตราเร่งนับว่าดี และด้วยความที่เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก มันก็ดูเหมาะสมสำหรับการโลดแล่นในเมืองแล้ว”
“ขณะเดียวกัน ด้วยความที่เป็นคนรักความเร็ว การที่ผมเปลี่ยนไปใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว ก็ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้น แถมยังรองรับได้ดีอีกต่างหาก ซึ่งผมคิดว่า มันเหมาะสมกับผมแล้วล่ะ ถ้าให้กลับไปใช้ล้อขนาดเท่าเดิม ผมคงขับขี่ได้ไม่มั่นใจเท่าที่ควรนัก”
ประสิทธิภาพการใช้งาน / ความสะดวกสบาย
“ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ผมใช้งานรถยนต์คันนี้ชนิดเต็มที่เลยนะ ซึ่งมันก็ตอบโจทย์ผมได้เยอะทีเดียว แน่ล่ะ ผมรู้ว่ามันอาจจะมีข้อด้อยต่างจากรถคันอื่นที่ผมเคยใช้มา อย่างเช่น Honda Jazz ถึงอย่างนั้น เท่าที่ได้คลุกคลีกับมัน แค่นี้ก็นับว่าโอเคแล้ว และตอนผมไปออกกำลังกาย ผมสามารถพับเบาะหลังให้ราบเรียบ แล้วขนสิ่งของใหญ่ๆ อย่างจักรยานไปได้ด้วย”
“ส่วนกับการรองรับผู้โดยสารอื่นๆ นั้น เบาะนั่งด้านหน้าผมว่าให้ความรู้สึกที่สบายทีเดียว แต่กับด้านหลังก็อาจจะรู้สึกแคบอยู่บ้าง ถึงอย่างนั้น ข้อด้อยอันนี้ผมทราบมาตั้งแต่ซื้อมาใหม่ ๆ แล้ว ซึ่งผมก็ยอมรับมันได้ ไม่มีปัญหา”
“อย่างไรก็ตาม การใช้งานระบบสาระบันเทิงต่างๆ ถือว่าสะดวกสบาย ผมสามารถใช้งานมันได้โดยที่สายตาไม่ต้องละออกจากถนนเลย ขณะที่พวงมาลัยก็จับได้ถนัดมืออีกต่างหาก โดยมันให้ความรู้สึกเหมือนกับรถยนต์จากทางแถบยุโรปด้วย เพราะว่ามันจะมีน้ำหนักมากกว่าคู่แข่งอื่นๆ ซึ่งผมก็ชอบทีเดียว”
ความสุนทรีย์ในการขับขี่
“ถ้าพูดถึงเรื่องการเก็บเสียงแล้ว Suzuki Swift นับว่าเป็นรถที่ทำคะแนนด้านนี้ได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นทั้งเสียงจากข้างในที่ออกไปข้างนอก หรือเสียงจากข้างนอกที่เข้าไปข้างใน โดยเฉพาะตรงหลังคารถ ซึ่งหากมีฝนตกลงมาจะได้ยินเสียงเหมือนกับฝนตกใส่สังกะสีเลยทีเดียว”
“นอกจากนี้ ตอนขับขี่ในความเร็วสูงๆ เสียงลม เสียงถนน รวมไปถึงเสียงเครื่องยนต์ถือว่าหลุดลอดเข้ามามาก ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว ประเด็นดังกล่าวนับเป็นจุดเสียสำคัญของรถยนต์โมเดลนี้เลย”
ความทนทาน / ค่าใช้จ่ายต่างๆ
“อัตราการซดน้ำมันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นักในความคิดของผม โดย Suzuki Swift เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แบบนี้ คนอื่นอาจจะทำตัวเลขได้ประมาณ 13 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ถ้าผมขับคงได้ไม่ถึง 12 กิโลเมตรต่อลิตรแน่นอน”
“ถึงอย่างนั้น เรื่องเกี่ยวกับซ่อมบำรุงหรืออะไรต่างๆ ทำนองนี้ต้องถือว่าพบไม่บ่อย ครั้งเดียวเท่านั้นที่มีปัญหาเกี่ยวกับยางรองแท่นเครื่อง นอกเหนือจากนั้นก็เช็กระยะตามปกติ ซึ่งกับรถยนต์ราคาประมาณ 640,000 บาทคันนี้ ผมถือว่ามันคุ้มค่า และคงจะอยู่คู่กับมันไปอีกนาน”
Season Five-Golden Era
หลังจากเริ่มเป็นที่รู้จักและสามารถเข้าไปจับจองพื้นที่ภายในหัวใจของแฟนเพลงมากมายด้วยซิงเกิลสุดฮิตอย่าง ‘พูดไม่คิด’ ซึ่งมียอดชมบนยูทูบสูงถึงกว่า 37 ล้านวิว ล่าสุดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา 4 หนุ่ม วง Season Five ก็ได้ฤกษ์ปล่อยอัลบั้มเต็มครั้งแรกของพวกเขาเองออกไปเป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ชื่อว่า Golden Era
ทั้งนี้ แม้ว่านี่อาจจะเป็นอัลบั้มเต็มครั้งแรกในฐานะสมาชิกค่ายสนามหลวงของเครือแกรมมี่ ทว่าแต่ละซิงเกิลที่ทยอยออกไปสู่โสตประสาทกลับกระแทกใจคอเพลงหลายคนเข้าอย่างจัง จนกลายเป็นที่รู้จักและอยู่ในสำเนียงฮึมฮัมของผู้นิยมเสียงเพลงมากมายในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘Event’ ที่ตอนนี้มียอดชมบนยูทูบมากกว่า 40 ล้านวิวเข้าไปแล้ว ขณะที่เพลงช้าอย่าง ‘แหลก’ ก็มีคนอินถึงขั้นน้ำตาแตกกลางคอนเสิร์ตมาให้เห็นกันด้วย
ดังนั้นกับอัลบั้ม Golden Era นี้ ก็อาจจะไม่เป็นที่สงสัยสักเท่าไหร่ หากว่าความไพเราะของมันจะส่งให้วงสไตล์ Hybrid A Cappella อย่าง Season Five ได้มีโอกาสเข้าสู่ยุคทองของตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ ถ้าไม่เชื่อลองหากันมาฟังดูได้เลย !!!