Ford Ranger ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กระบะสายพันธุ์รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น เปิด 20 รุ่นย่อย ราคาตั้งแต่ 5.89 แสน – 1.699 ล้านบาท
Ford Ranger รถกระบะนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมขุมพลังที่เหนือกว่าและฟีเจอร์อันทันสมัยเพื่อสานต่อศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
Ranger ใหม่ทุกรุ่นได้รับการยกระดับให้ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่มากมาย รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างเช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift และระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assist เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น
แข็งแกร่งดุดัน
Ranger ใหม่วางจำหน่ายในไทยมีทั้งหมด 20 รุ่นย่อย แบ่งเป็น Wildtrak, XLT, XLS, XL กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) และมีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ Limited มาขั้นกลางระหว่างรุ่น XLT กับ Wildtrak เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า และยังรวมถึง Ranger Raptor กระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่จะเป็นตัวท็อปของไลน์อัพ
รูปลักษณ์ภายนอกของ Ranger ใหม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก เริ่มจากกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความดุดันยิ่งขึ้น วัสดุจะแตกต่างไปตามแต่ละรุ่นย่อย ปรับดีไซน์กันชนหน้าให้มีช่องนำอากาศกว้างขึ้น ไฟตัดหมอกใหม่ สวยงามดุดันกว่าเดิม รุ่น Wildtrak และ Limited มาพร้อมไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ LED และไฟหน้า HID โคมโปรเจคเตอร์เพื่อทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น ดีไซน์ด้านข้างและด้านท้ายไม่มีการเปลี่ยนแปลง เสาอากาศย้ายไปด้านหลังตัวเก๋ง
Ranger ใหม่แต่ละรุ่นยังมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันชัดเจน ด้วยสีและการตกแต่งที่สื่อถึงลักษณะที่โดดเด่นของแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่พร้อมรองรับทุกงานหนัก เช่น XL XLS การตกแต่งเส้นสายด้วยโครเมียมในรุ่น XLT และ Limited รวมไปถึงการตกแต่งแบบโดดเด่นในรุ่น Wildtrak สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละรุ่นได้เป็นอย่างดี รุ่น Wildtrak ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่เฉพาะรุ่น นั่นคือสีส้มประกายบลอนด์ Seber ซึ่งตัดกันอย่างงดงามกับกระจังหน้าสีเทาเข้ม สปอร์ตบาร์และล้ออัลลอย 18 นิ้ว เสริมความโดดเด่นให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องโดยสารของ Ranger ใหม่ ตกแต่งในโทนสีดำ เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งรายละเอียดด้วยโครเมียมและการเดินด้ายสีเงิน โดดเด่นด้วยระบบ SYNC 3 จอสัมผัสขนาด 8.0 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนี้ ระบบ SYNC 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น
ระบบ SYNC 3 สามารถโทรฉุกเฉินไปยังหมายเลข 1669 เพื่อติดต่อในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ และติดตั้งเป็นมาตรฐานในรถทุกคันที่มีระบบ SYNC 3
นอกจากนี้ Ranger Wildtrak 4×4 ยังเพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) เพิ่มความเงียบยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถยนต์อัตโนมัติ
ขุมพลังที่เหนือกว่า
Ranger ใหม่ มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกถึง 3 แบบ ประกอบด้วย เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ และเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ตัดเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรเดิมออกไป
เครื่องยนต์ Bi-Turbo 2.0 ลิตร ใช้ระบบ Sequentail Turbocharging ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (Vartiable Turbocharger) จะช่วยเร่งการตอบสนองของคันเร่ง และลดช่วงการรอรอบตอนใช้ความเร็วต่ำ ในขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองซึ่งเป็นระบบเทอร์โบ Fixed-geometry จะรับหน้าที่ต่อเพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง
เครื่องยนต์ Bi-Turbo ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด โดยเครื่องบล็อกนี้จะวางใน Ranger Wildtrak รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้งยังรองรับการลากจูงได้สูงสุดถึง 3,500 กิโลกรัม
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ติดตั้งในรุ่น Wildtrak 4×2 และรุ่น Limited มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด สำหรับรุ่น Limited ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย
เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค 2.2 ลิตร เทอร์โบมอบกำลัง 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบต่อนาที และแรงบิด 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ติดตั้งในรุ่น XLT XLS และ XL
เทคโนโลยีชั้นเยี่ยม
Ranger ใหม่ มาพร้อมระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะด้านหน้า และจะทำการช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กม./ชม. ขึ้นไป
ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist – APA) ถูกติดตั้งใน Ranger ใหม่เป็นครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน ระบบจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น
Ranger รุ่น Wildtrak และ Limited ยังมาพร้อมระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ด้วยกลไกซึ่งช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70% ช่วยให้เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ยังมีอยู่เช่นเดิม นอกจากนี้ฟอร์ดยังเพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในรุ่น XL และ XLS เป็นครั้งแรก
อุปกรณ์มาตรฐาน
Ranger XL
เครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2 ลิตรพร้อม VG Turbo Intercooler กำลังสูงสุด 160 แรงม้า, แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร
ภายนอก
- กระจังหน้า มือจับประตู และกระจกมองข้าง สีดำ
- กันชนหน้าโฉมใหม่และสีเดียวกับตัวรถ (เฉพาะรุ่นโอเพ่นแค็บ)
- บันไดข้าง (เฉพาะรุ่น XL+)
- กระจกมองข้างแบบปรับไฟฟ้า (เฉพาะรุ่นโอเพ่นแค็บ)
- ล้อกะทะเหล็ก 16” พร้อมยางขนาด 215/70 R16
- ล้ออัลลอย 16” พร้อมยางขนาด 255/70 R16 (เฉพาะรุ่น XL+)
ภายใน
- พวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
- หน้าต่างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบเปิด-ปิดแบบสัมผัสเดียวด้านคนขับ (เฉพาะรุ่นโอเพ่นแค็บ)
- ระบบปรับอากาศ
- ระบบเซ็นทรัลล็อก
- ช่องต่อไฟ 12V
- วิทยุพร้อมช่องต่อ AUX และ USB, ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
ความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ระบบป้องกันลล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
Ranger XLS (เพิ่มเติมจากรุ่น XL และ XL+)
ภายนอก
- กระจังหน้า และกระจกมองข้าง สีเทา
- บันไดข้าง (เฉพาะรุ่น Hi-Rider)
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ไฟส่องสว่างกระบะท้าย
- กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ
- ล้ออัลลอย 16” พร้อมยางขนาด 215/70 R16
- ล้ออัลลอย 16” พร้อมยางขนาด 255/70 R16 (สำหรับรุ่น Hi-Rider)
ภายใน
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- กุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้
- หน้าจอข้อมูลบนหน้าปัดแบบสี ขนาด 2 นิ้ว
- วิทยุพร้อมเครื่องเล่น CD/MP3 แบบแผ่นเดียว, ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC
ความปลอดภัย
- จุดยึดสำหรับเบาะนั่งเด็ก ISOFIX (เฉพาะดับเบิ้ลแค็บ)
Ranger XLT (เพิ่มเติมจากรุ่น XLS)
ภายนอก
- ไฟหน้าโปรเจกเตอร์
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- กระจังหน้าโครเมียม
- กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้า
- ล้ออัลลอย 17” พร้อมยางขนาด 265/65 R17
ภายใน
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง
ความปลอดภัย
- สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
Ranger Limited (เพิ่มเติมจากรุ่น XLT)
เครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ขนาด 0 ลิตรพร้อม VG Turbo Intercooler กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร
ภายนอก
- ล้ออัลลอย 18” พร้อมยางขนาด 265/60 R18
- ไฟหน้า HID โปรเจกเตอร์ พร้อมไฟวิ่งกลางวัน LED
- ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift
ภายใน
- กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
- เบาะหนัง
- คอนโซลทำความเย็น Cool Box
- ระบบกุญแจ My Key
- หน้าจอข้อมูลบนหน้าปัดแบบสี ขนาด 2 นิ้ว 2 จอ
- เครื่องเสียงจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC™3 ภาษาไทย รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
ความปลอดภัย
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistance
- กล้องมองหลังขณะถอยจอด
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) ระบบช่วยการทรงตัวขณะลากจูง (TSC) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (ROM)
- สัญญาณกันขโมย
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC (เฉพาะ 4×4)
- เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป (เฉพาะ 4×4)
Ranger Wildtrak (เพิ่มเติมจากรุ่น Limited)
เครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 0 ลิตรพร้อม VG Turbo Intercooler กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร
- เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 0 ลิตรพร้อมเทอร์โบคู่ (Bi-Turbo) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร (เฉพาะรุ่น 4×4)
อุปกรณ์ภายนอก
- ไฟตัดหมอกหน้า LED
- ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ
- สปอร์ตบาร์และราวหลังคา
- พื้นปูกระบะท้าย พร้อมช่องต่อไฟ 12 โวลต์
อุปกรณ์ภายใน
- ไฟตกแต่งห้องโดยสาร Ambient light
- ช่องต่อไฟ 230V
- ปรับเบาะที่นั่งคนขับแบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ชุดตกแต่งภายในแบบไวล์ดแทรค
- ระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (เฉพาะรุ่น 4×4)
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น 4×4)
- ระบบนำทาง Navigation
ความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยเพิ่มเป็น 6 จุด: คู่หน้า / ด้านข้าง / และม่านถุงลมนิรภัย
- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า
- เฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential
- เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (Advanced- Driving Assist technology) (เฉพาะ 4×4)
- ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB)
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
- ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control)
ราคารถยนต์
Ford Ranger ใหม่ วางจำหน่ายทั้งหมด 20 รุ่น ราคาดังนี้
Ranger รุ่นมาตรฐาน
- SWB 2.0L Turbo 4×2 6MT ราคา 589,000 บาท
- SWB 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT ราคา 799,000 บาท
- Standard Cab 2.0L XL 6MT ราคา 559,000 บาท
Ranger XL
- Open Cab 2.0L XL 6MT ราคา 599,000 บาท
- Open Cab 2.0L XL+ Hi-Rider 6MT ราคา 649,000 บาท
Ranger XLS
- Open Cab 2.0L XLS Hi-Rider 6MT ราคา 659,000 บาท
- Open Cab 2.0L XLS Hi-Rider 6MT ราคา 699,000 บาท
- Open Cab 2.0L XLS Hi-Rider 6AT ราคา 739,000 บาท
- Double Cab 2.0L XLS Hi-Rider 6MT ราคา 789,000 บาท
Ranger XLT
- Open Cab 2.0L XLT Hi-Rider 6MT ราคา 749,000 บาท
- Open Cab 2.0L XLT Hi-Rider 6AT ราคา 789,000 บาท
- Double Cab 2.0L XLT Hi-Rider 6MT ราคา 829,000 บาท
- Double Cab 2.0L XLT Hi-Rider 6AT ราคา 869,000 บาท
Ranger Limited
- Double Cab 2.0L Turbo Limited Hi-Rider 6MT ราคา 899,000 บาท
- Double Cab 2.0L Turbo Limited Hi-Rider 10AT ราคา 949,000 บาท
- Open Cab 2.0L Turbo Limited 4×4 6MT ราคา 889,000 บาท
- Double Cab 2.0L Turbo Limited 4×4 10AT ราคา 1,029,000 บาท
Ranger Wildtrak
- Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT ราคา 1,029,000 บาท
- Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10AT ราคา 1,265,000 บาท
Ranger Raptor
- Double Cab 2.0L Bi-Turbo Raptor 4×4 10AT ราคา 1,699,000 บาท
Ranger ใหม่มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่สีใหม่ 2 สีคือ สีส้ม Seber (เฉพาะรุ่น Wildtrak) และสีฟ้า Lightning Blue สีมาตรฐานอีก 5 สีได้แก่ สีเงิน Aluminuim Metallic, สีดำ Absolute Black Metallic, สีเทา Meteor Grey Metallic, สีขาว Frozen White และสีแดง True Red
ลูกค้า Ford Rnger ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบายด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะสูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี
Ford Ranger ใหม่ ผลิตที่โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (FTM) จังหวัดระยอง สำหรับการจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.ford.co.th หรือ www.facebook.com/fordthailand
Gallery