ความร้อนแรงให้ตลาดรถยนต์ช่วงกลางปี ให้เกิดความคึกคัก ด้วยการเปิดตัวซูเปอร์คาร์ในรูปแบบ Hatchback 5 ประตู “The New Audi RS3 Sportback” ยนตรกรรม RS รุ่นที่ 9 ตอกย้ำ DNA แห่ง Racing Sport
The New Audi RS3 Sportback รถซูเปอร์คาร์ไซส์คอมแพค เร้าใจเหมือนอยู่ในสนามแข่งและตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกวัน นับเป็นการเปิดตัวรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นที่ 9 ของ อาวดี้ ประเทศไทย เจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่อันน่าตื่นเต้นให้กับแฟนๆ RS ดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยว สปอร์ตสุดๆ ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต สมรรถนะอันโดดเด่น ดุดัน The New Audi RS3 Sportback
DNA ความเป็นรถสปอร์ต
การออกแบบ The New Audi RS3 Sportback เน้นให้รถมีความสปอร์ตและดุดันมากยิ่งขึ้น กันชนหน้าแบบ RS และช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น มาพร้อมกระจังหน้าลายรังผึ้ง อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล RS พร้อมชุดแต่งภายนอกแบบ Glossy black และ Audi Ring และป้ายชื่อรุ่นสี Glossy black ทำให้รถสปอร์ตคอมแพ็คคันนี้ดูดุดันมากขึ้น อุปกรณ์มาตรฐาน ไฟหน้า Matrix LED และไฟท้าย LED แบบ Dynamic ซึ่งจุดเด่นของไฟหน้าจะมี digital daytime running light แบบพิกเซลล์ขนาด 3×5 ที่มาพร้อมกับเอฟเฟกต์ light staging แบบ RS3-signature ด้านฝั่งคนขับ เมื่อปลดล็อครถได้ ส่วน Daytime running light จะแสดงในรูปแบบของธงตราหมากรุก ช่องระบายอากาศบริเวณซุ้มล้อหน้าและซุ้มล้อหน้าที่กว้างขึ้นกว่ารุ่นเดิม 33 มิลลิเมตร และซุ้มล้อหลังกว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร ทำให้รถดูดุดันมากยิ่งขึ้น ล้อขนาด 19 นิ้ว ลาย Y spoke ปั้มลาย RS และคาลิปเปอร์เบรกสีแดงปั้มลาย RS ทำให้รถดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสาร
The New Audi RS3 Sportback ใช้วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลาย Carbon Atlas Structure และมาพร้อมไฟเรื่องแสง นอกจากนี้มีพวงมาลัยท้ายตัดมัลติฟังชัน สไตล์ RS sport หุ้มหนังพร้อม paddle shift และยังมีปุ่มปรับโหมด RS performance บนพวงมาลัยฝั่งด้านขวาเพื่อให้ง่ายต่อการปรับโหมด โดยไม่ต้องเอามือออกจากพวงมาลัยและมีเบาะหน้าแบบ RS sport stitching ลาย diamond cut ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support อีกทั้งมีระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat และเบาะหลังหุ้มหนัง Dinamica microfibre/synthetic โดยที่เบาะนั่งด้านหลังสามารถแยกพับ 40 : 20 : 40 และพับเรียบได้ นอกจากนี้มีคันเกียร์แบบ Electronic e-Shifter มาพร้อมกระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ดีไซน์แบบไร้กรอบ และมีระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 3-Zones อีกด้วย อีกทั้งมีไฟส่องสว่างแบบ LED ที่ประตูคู่หน้าและเข็มขัดนิรภัยสีดำตกแต่งด้วยขอบสีแดง รวมไปถึงพรมในห้องโดยสาร สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ RS มีระบบกุญแจ Comfort Key นอกจากนี้ภายในยังมีการออกแบบที่มีเฉพาะในรุ่น RS เท่านั้น หน้าจอ Virtual cockpit plus มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แสดงรอบเครื่องยนต์ในรูปแบบ bar graph เรียกว่า RS runway design ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก runway สนามบิน และ virtual cockpit plus แสดงค่า G- forces จับเวลารอบสนามแข่ง และจับเวลา 0-100, 0-200 หรือ ¼ mile และยังมี RS -Blinking shift indicator ระบบกระพริบไฟเพื่อบอกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ paddle shift เพื่อเปลี่ยนเกียร์ในโหมด manual หน้าจอกลางขนาด 10.1 นิ้ว ที่มีชื่อว่า RS Monitor ซึ่งแสดงข้อมูล อุนหภูมิของระบบหล่อเย็น เครื่องยนต์ และน้ำมันเกียร์ รวมไปถึงค่าลมยาง
ระบบอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในรถไม่ว่าจะเป็นหลังคา panoramic sunroof ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน และระบบช่วยจอด (Park assist) ซึ่งระบบจะช่วยหาที่จอดและควมคุมพวงมาลัยให้ โดยจะมีคำแนะนำเพิ่มเติมให้บนหน้าจอ MMI เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าเกียร์เดินหน้า-ถอยหลัง เบรกหรือเร่ง
ระบบสาระบันเทิง
หน้าจอระบบสัมผัส MMI Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้ว มาพร้อมระบบ MMI Radio Plus สามารถเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth อีกทั้งมีระบบ Audi Smartphone Interface ที่รองรับ Apple CarPlay / Android Auto นอกจากนี้ก็มีระบบเครื่องเสียงพรีเมียม Bang &Olufsen 15 ลำโพง และระบบเสียง 3 มิติ
ความปลอดภัย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบเสริมแรงเบรก EBA
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
- ระบบควบคุมการทรงตัว ESC
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชั่น Audi Hold Assist
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- ระบบช่วยจอด Parking Assist
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
- ชุดปฐมพยาบาล
สมรรถนะ
ระบบช่วงล่าง RS Sport suspension มาพร้อมกับระบบกันแรงสั่นสะเทือนและวาล์วที่ออกแบบใหม่ให้กับ The New Audi RS3 Sportback โดยเฉพาะ ทำให้ช่วงล่างตอบสนองต่อการขับขี่หลากหลายสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การตั้งองศาแคมเบอร์ให้องศาลบทำให้การตอบสนองของพวงมาลัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น และเข้าโค้งได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับ A3 ล้อหน้าจะถูกตั้งค่าให้มีแคมเบอร์ลบเพิ่มขึ้น 1 องศา และล้อหลังจะถูกตั้งค่าให้มีแคมเบอร์ลบเพิ่มขึ้น 0.5 องศา ทำช่วงล่างให้เตี้ยลงและเฟิร์มขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยให้เกาะถนนมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งระบบใหม่ใน The New Audi RS3 Sportback คือ ระบบ modular vehicle dynamics controller (mVDC) ซึ่งเป็นตัวกลางที่จะนำข้อมูลจาก Torque splitter, adaptive dampers และ wheel selective torque control มารวมกันทำให้รถมีความคล่องตัวเข้าโค้งมากยิ่งขึ้น
The New Audi RS3 Sportback มาพร้อมกับระบบเบรก 6 พอต แบบเจาะรูระบายอากาศออกแบบมาใหม่ให้ใหญ่ขึ้นและเบรกได้อย่างมั่นใจ เพื่อให้สามารถควบคุมพละกำลังมหาศาลจากเครื่องยนต์ 5 สูบได้ และระบบควบคุมอากาศที่ทำให้เบรกเย็นลงเร็วขึ้นกว่าเดิม 20 % ซึ่งจะทำให้เบรกไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถลดการเสื่อมสภาพของผ้าเบรกให้ช้าลง เรียกได้ว่าเป็น Hatchback สมรรถนะซุเปอร์คาร์ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน
ราคา The New Audi RS3 Sportback รถซูเปอร์คาร์ไซส์คอมแพ็ค เร้าใจเหมือนอยู่ในสนามแข่ง และตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกวัน ราคา 5.399 ล้านบาท มีให้เลือก 6 สี คือ Glacier white, Mythos black, Python yellow, Tango red, Kyalami green และ Kemora grey เปิดให้จองพร้อมกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่โชว์รูมอาวดี้ทั่วประเทศ
Audi เป็นรถยนต์นำเข้ามาตรฐานเยอรมัน ลูกค้าที่ออกรถใหม่จะได้รับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รถไฟฟ้า Audi e-tron ใหม่ ทุกรุ่นรับประกันแบตเตอรี่อยู่ที่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี