หนึ่งในเอสยูวีที่สร้างปรากฏการณ์มากที่สุดในวงการ Range Rover Velar เผยโฉมตัวจริงครั้งแรกในประเทศไทยก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน BIG Motor Sale 2017
Velar เป็นสมาชิกลำดับที่ 4 ของตระกูล Range Rover วางตำแหน่งอยู่ตรงกลางระหว่าง Evoque และ Range Rover Sport ในประเทศไทยนำเข้ามาขาย 3 รุ่นย่อย โดยบริษัท อินช์เคป ประเทศไทย จำกัด ราคาดังนี้
- Range Rover Velar S ราคา 5,999,000 บาท
- Range Rover Velar S R-Dynamic ราคา 6,499,000 บาท
- Range Rover Velar HSE ราคา 6,999,000 บาท
Range Rover Velar รวมเอาเทคโนโลยีการออกแบบขั้นสูงผสานความสวยงามลงตัวเข้าไว้ด้วยกันอย่างดีเยี่ยม รูปลักษณ์ภายนอกมีความล้ำสมัย สปอร์ตโฉบเฉี่ยวและดุดัน โดดเด่นด้วยไฟหน้า Matrix LED ดีไซน์บางเฉียบเน้นความโฉบเฉี่ยว กระจังหน้ารังผึ้งขนาดใหญ่ มือจับประตูกลืนไปกับตัวรถเพื่อลดแรงต้าน หลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟ (เฉพาะรุ่น HSE) ไฟท้าย LED ทรงเรียวบางแบบสปอร์ต สปอยเลอร์ท้าย และกันกันท้ายดีไซน์สปอร์ตพร้อมปลายท่อไอเสียคู่สวยงามลงตัว มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วในรุ่น HSE 21 นิ้วในรุ่น S และ S R-Dynamic
ตัวถังสร้างขึ้นจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง มีระยะฐานล้อ 2,874 มม. ความสูงจากพื้นถนนถึงตัวรถ 251 มม. ลุยน้ำลึกได้ 650 มม. ความสามารถในการลากจูงสูงสุด 2,500 กิโลกรัม ห้องเก็บสัมภาระความจุ 673 ลิตรพร้อมประตูท้ายเปิดไฟฟ้า Land Rover บอกว่า Velar ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในทุกรุ่นที่เคยผลิตมา
ภายในของ Velar ออกแบบเน้นความเรียบหรูแบบผู้ดีอังกฤษ ปุ่มกดต่างๆ ถูกลดจำนวนลงให้ดูกลมกลืนกับสายตา เบาะนั่งใช้วัสดุเป็นผ้ากันน้ำคุณภาพสูงแทนการใช้หนังแท้ พัฒนาโดยบริษัท Kvadrat ผู้ผลิตสิ่งทอชั้นนำของยุโรป มีให้เลือก 2 สี คือ เทา (Light Oyster) กับดำ (Ebony) มาพร้อมเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 20 ทิศทาง (รุ่น HSE) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ระบบเครื่องเสียง Meridian Sound System และกุญแจ Activity Key
ไฮไลต์หลักอยู่ที่ระบบสาระบันเทิง Incontrol Touch Pro Duo สุดไฮเทค ประกอบด้วย 2 หน้าจอระบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 10 นิ้วติดตั้งอยู่กึ่งกลางแดชบอร์ด ระบบนี้ควบคุมทั้งเครื่องเสียง ระบบนำทาง เครื่องปรับอากาศ และแสดงข้อมูลโหมดการขับขี่รถยนต์
Velar มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Ingenium 4 สูบ ให้พละกำลัง 180 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ All Wheel Drive อัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 18 กิโลเมตร/ลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 145 กรัม/กิโลเมตร
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ (Double-wishbone) ด้านหลังเป็นแบบอินทิกรัลลิงค์ทุกรุ่นย่อย Velar รวบรวมเอาเทคโนโลยีในการควบคุมระบบการขับขี่ในรถยนต์ รวมถึงระบบตั้งค่าโหมดขับขี่อัตโนมัติตามสภาพภูมิประเทศและพิ้นผิวถนน (Terrain Response) ระบบควบคุมความเร็วตามสภาพถนน (All Terrain Progress Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีบนพื้นถนนลื่น (Low Traction Launch) ระบบควบคุมขณะขับลงทางลาดชัน (Hill Descent Control) และระบบควบคุมการปล่อยเบรกขณะเคลื่อนตัวบนทางลาดชัน (Gradient Release Control)
ด้านความปลอดภัย Velar ให้มาครบถ้วนได้แก่ ถุงลมนิรภัย 6 จุด (หน้า 2 ตัว ด้านข้างคู่หน้า 2 ตัว และม่านถุงลมนิรภัย 2 ตัว) เบรก ABS ระบบเสริมแรงเบรก EBD ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ EBA เบรกมือไฟฟ้า กล้องมองหลัง ตลอดจนเทคโนโลยีขั้นสูงในระบบช่วยเหลือคนขับ อาทิ เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินเท้า ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชันหยุดและออกตัวอัตโนมัติ และระบบแจ้งเตือนระยะห่างรถคันหน้า
สัมผัส Range Rover Velar ตัวจริงได้ที่งาน BIG Motor Sale 2017 วันที่ 19-27 สิงหาคม 2560 ณ ไบเทค บางนา ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.landroverthailand.com หรือ เฟสบุ๊กแฟนเพจ: Jaguar Land Rover Thailand