ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่สำหรับทุกคนในทุกเส้นทางมาพร้อมคุณค่าที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย
โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 และจัดแสดงเป็นครั้งแรกที่งาน Big Motor Sale 2022 ตั้งแต่วันที่ 19 – 28 สิงหาคม 2565 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ทั้งนี้ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ จะเป็นหนึ่งในทางเลือกของรถเอสยูวีที่พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่ 19 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
ดีไซน์ภายนอก










- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สะท้อนความโดดเด่นยิ่งขึ้นในรุ่น EL ที่มาพร้อมสี Piano Black
- กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน (รุ่น EL)
- ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น EL)
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ (รุ่น EL)
- คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน (รุ่น EL)
- ราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น EL) และขนาด 16 นิ้ว (รุ่น E)
ภายในห้องโดยสาร
- ห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง สะดวกสบายทุกที่นั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานและสุนทรียภาพในทุกการเดินทาง
- โดดเด่นด้วยคอนโซลดีไซน์ใหม่ ยกระดับความพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่งแบบ Piano Black เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งการออกแบบช่องเก็บของอย่างเหมาะสม รวมทั้งที่วาง
แก้วน้ำ 8 ตำแหน่ง พร้อมพนักเท้าแขนด้านหน้าและด้านหลัง ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้โดยสารทุกคน - มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
- ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยห้องเก็บสัมภาระท้ายมากขึ้นกว่าเจเนอเรชันก่อน พร้อมเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้หลากหลายรูปแบบ
- เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบ
จังหวะเดียว (One Motion) โดยสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอนได้ 3 ระดับ - เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น โดยสามารถพับแยกแบบ 50:50 และพนักพิงปรับเอนได้
2 ระดับ
- เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบ
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 2 นิ้ว
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น EL)
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 3 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
ระบบสาระบันเทิง
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
- ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
ความปลอดภัย
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงาน
หลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ* อาทิ
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock By Speed)
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- กล้องส่องภาพด้านหลัง
- ถุงลม 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
เครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ขนาด 5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที
- ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลัง มอบอัตราการประหยัดน้ำมัน 1 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
ราคาและรุ่น
ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น |
สีขาวทาฟเฟต้า |
สีดำคริสตัล (มุก) |
สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) |
EL |
– |
973,000 บาท |
977,000 บาท |
E |
915,000 บาท |
921,000 บาท |
– |
โดยมีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (เฉพาะรุ่น EL) สีดำคริสตัล (มุก) (รุ่น EL และรุ่น E) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น E) โดยรุ่น EL สีภายในจะเป็นสีดำ และรุ่น E สีภายในจะเป็นสีทูโทน (ดำ/มอคค่าเกรย์)
มาพร้อมข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% พร้อมรับฟรีบัตรน้ำมัน มูลค่า 5,000 บาท และฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 2 ปี 6 เดือน หรือ 50,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) มูลค่า 2,915 บาท เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 – 30 กันยายน 2565
เสริมความพรีเมียมและประโยชน์ใช้สอยในสไตล์รถเอสยูวี ให้กับฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ ไปอีกขั้น ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ที่มาพร้อมแนวคิด “Premium & Utility” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ คิ้วตกแต่งฝากระโปรงท้าย ราคา 1,900 บาท คิ้วกันสาด ราคา 2,600 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,800 บาท คิ้วตกแต่งกระจกมองข้าง ราคา 800 บาท ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส ราคา 580 บาท ม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลัง ราคา 2,500 บาท เป็นต้น หรือเลือกความคุ้มค่าในรูปแบบแพ็กเกจ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 แพ็กเกจ ได้แก่
- Utility Package ราคา 2,950 บาท ประกอบด้วย แผ่นกันรอยเบาะพนักพิงหลัง และกระบะใส่ของท้ายรถ
- Value Package ราคา 1,050 บาท ประกอบด้วย ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส และคิ้วบันไดสเตนเลส
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th/brv โดยลูกค้าสามารถทดลองขับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นที่สนใจกับแคมเปญ “Happy Day Happy Drive” โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมทดลองขับได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 – 30 กันยายน 2565 พร้อมรับของสมนาคุณ “You’re e:HEV Family Bottle ขวดน้ำ LocknLock” มูลค่า 249 บาท** ฟรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรืออ่านข้อมูลทางเว็บไซต์ www.honda.co.th/testdrive
* รายละเอียดของข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคและอุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
– ราคาอุปกรณ์ตกแต่ง ไม่รวม VAT 7% ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/th/line-up/honda-brv/
-เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ