Toyota เผยโฉม Highlander เจเนอเรชั่นที่ 4 สเปกยุโรป โดดเด่นด้วยขุมพลังไฮบริด เบนซิน-ไฟฟ้า ประสิทธิภาพสูงที่มอบพลังการขับเคลื่อนควบคู่กับความประหยัดที่ดียิ่งขึ้น
Highlander รุ่นล่าสุดนี้เปิดตัวครั้งแรกที่งาน นิวยอร์ค มอเตอร์โชว์ ปีที่แล้ว มันพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม TNGA-K Global Architecture เช่นเดียวกับ Camry หากเทียบกันตามขนาด Highlander จะใหญ่กว่า RAV4 และมีเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง คู่แข่งโดยตรงก็คือ Peugeot 5008
ขุมพลังของ Highlander คือเครื่องยนต์ไฮบริด เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร แบบ Atkinson-cycle ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาหน้าและเพลาหลังอย่างละตัว รวมกำลังทั้งระบบ 241 แรงม้า และเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อแบบแปรผัน ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 146 กรัม/กม. และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 15.1 กม./ลิตร ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP โหมดขับขี่มี 4 แบบ ได้แก่ EV ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน, Eco โหมดประหยัดพลังงาน, Normal โหมดปกติ และ Trail สำหรับบุกตะลุยทางออฟโรด นอกจากนี้ยังรองรับน้ำหนักการลากจูงได้ถึง 2 ตัน
ความยาวตัวถัง 4,950 มม. กว้าง 1,930 มม. สูง 1,730 มม. ห้องเก็บสัมภาระจุ 658 ลิตร เพิ่มได้สูงสุดเป็น 1,909 ลิตร จากการพับเบาะแถวสองและสามลง เบาะแถวสองสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ 180 มม. สำหรับเพิ่มพื้นที่ช่วงขาของเบาะแถวสาม
ภายในของ Highlander มีช่องเก็บของขนาดใหญ่หลายช่อง พร้อมด้วยช่องเสียบ USB ที่เบาะหน้าและเบาะแถวสอง อุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ Head-up display แสดงข้อมูลการขับขี่ที่กระจกหน้าผู้ขับ, ช่องชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ระบบสาระบันเทิงที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบทำความเย็นที่เบาะนั่ง และกระจกมองหลังแบบดิจิตอล
Highlander ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่ประกอบด้วย ระบบป้องกันการชน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยรักษาให้รถอยู่ในเลน และระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร
Highlander จะเข้ามาเติมเต็มไลน์อัพรถเอสยูวีของโตโยต้าเคียงข้างกับ Yaris Cross, C-HR, RAV4 และ Land Cruiser กำหนดวางขายในอังกฤษช่วงต้นปีหน้า สเปก ราคา และรายละเอียดออปชั่นต่างๆ จะเปิดเผยในช่วงใกล้การเปิดตัว คาดว่าราคาน่าจะเริ่มต้นที่ราว 36,000 ปอนด์ (1.8 ล้านบาท)