• About
  • Advertise
  • Terms & Conditions
  • Privacy & Policy
  • Team
  • Contact
What Car? Thailand
Mazda-CX-3-Banner-whatcar-728x90-102023
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact
No Result
View All Result
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact
No Result
View All Result
What Car? Thailand
No Result
View All Result
Home Reviews Road Test

Toyota C-HR HEV GR Sport 2022 ใหม่ ปรับปรุงการออกแบบทั้งภายนอก และภายในภายใต้แนวคิด GR Sport  

June 22, 2022
in Road Test
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

Overview Of Car

Toyota C-HR HEV GR Sport GR Sport 2022 สวยเกินต้าน และให้การขับขี่ที่เร้าใจอย่างไร้ขีดจำกัด เฉี่ยว คม ดุดัน ไม่ใช่แค่ดีไซน์ แต่คือสไตล์การขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีสปอร์ตจากสนามแข่งให้สัมผัสที่แตกต่าง สะท้อนตัวตนของคนที่หลงไหลในสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต ปรับปรุงการออกแบบทั้งภายนอก และภายในภายใต้แนวคิด GR Sport 

Toyota C-HR HEV GR Sport 2022 ใหม่ มีการตกแต่งภายนอกเพิ่มความเป็นเรซซิ่ง และภายในที่พรีเมียมแต่ยังดูเรซซิ่งเช่นกัน สิ่งที่ได้มาอย่างจัดเต็มเลยคือชุดแต่ง GR Sport อีกทั้งยังมีช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ ได้แก่คอยล์สปริงและโช๊คช็อคแอบซอร์บเบอร์

        ถ้าคุณจะต้องการเลือกรถสักคนเพื่อต้องการนำมาตัดสินใจเปรียบเทียบกับรุ่น GR ก็ต้องเปรียบกับโคโรล่าครอส GR Sport เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้ ขายความเป็น GR Sport และ Hybrid เหมือนกัน แต่ราคาจะต่างกันประมาณ 60,000 บาท ซึ่งเราก็สามารถตัดสินใจได้ตามการใช้งานที่เหมาะสมได้เลย โดยในวันนี้ทีม What Car? Thailand ก็จะพาคุณไปสัมผัสรุ่น C-HR HEV GR Sport กัน

         เราจะมาเริ่มต้นกันที่เครื่องยนต์กันก่อนเลย ซึ่ง C-HR HEV GR Sport ใหม่ เป็นเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 1.8 ลิตร ในรุ่นนี้ให้กำลัง 98 แรงม้า ทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า 53 kW เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับไฟฟ้าจะได้กำลัง 122 แรงม้า และแรงบิดรวมกัน 163 นิวตันเมตร ส่วนแบตเตอรี่ใช้แบบ Nickel metal Hydride มีจุดแข็งนเรื่องของความคงทน แต่แรงอัดของแบตเตอรี่น้อยไปนิดนึงทำให้ แต่ก็เพียงสำหรับการใช้งานในเมืองหรือนอกเมืองในบางเวลา

          ระบบช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตัท ส่วนด้านท้ายอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone) ซึ่งทั้งด้านหน้าและหลังมาพร้อมเหล็กกันโคลง 

           มาตามดูกันในส่วนของด้านหน้า กระจังหน้าจะกลมกลืนกันไปทั้งหมดและเป็นสีดำเงา  ลักษณะของกระจังหน้ายังคงถูกสร้างขึ้นบน Platform Toyota New Global Architecture (TNGA) เหมือนกับ Toyota C-HR ในรุ่นปกติ  แต่พอมีสเกิร์ตและคิ้วด้านหน้าด้านหน้ามันดูเข้ากันสมกับเป็นรถเรซซิ่ง ในส่วนของสเกิร์ตดูโฉบเฉี่ยวมีความเป็นเรซซิ่งมากกว่ารุ่นปกติ อีกทั้งไฟตัดหมอกมาใหม่เป็นแบบ LED และมีสัญลักษณ์ GR ที่บ่งบอกความเป็น GR Sport ได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง อยู่บริเวณด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านข้าง 2 ตำแหน่ง

         โลโก้ของโตโยโต้ามาในรูปแบบกระจกตามความต้องการของตลาด ถัดมาที่ไฟหน้า กรอบของไฟฟ้าเป็นกรอบแบบเดิม ส่วนไฟข้างในเป็นไฟโปรเจคเตอร์ Full  LED ไฟเลี้ยว LED และไฟ Day time running แบบ LED เต็มระบบ ซึ่งตัวนี้จะเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางวัน และไฟหน้าสามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติ พร้อมปรับสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติอีกด้วย

            ล้อแม็กในรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่น Premium Safety ที่มีขนาด 17 นิ้ว ซึ่งในรุ่น GR Sport มีขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมลวดลายเฉพาะของ GR Sport เป็นสีทูโทนรมดำเงา ยางเป็นเกรดพรีเมียมที่มีขนาด 225/50 R18  ซึ่งเมื่อดูแล้วให้ความรู้สึกเต็มซุ้มล้อมีความเป็นเรซซิ่ง 

           ด้านข้างก็ยังคงเหมือนรุ่น C-HR  รุ่นปกติ ในรุ่นนี้นอกจากสเกิร์ตหน้าและหลังแล้วก็ยังมีด้านข้างทั้งซ้ายและขวา ซึ่งสเกิร์ตทำให้รถดูเตี้ยลงแต่ไม่ได้เตี้ยลงจริงๆ ถือว่าเป็นการหลอกตาที่แนบเนียนมาก สเกิร์ตเป็นสีดำเงาสลับกับดำด้านสามารถกันพวกกรวดทรายที่อาจจะกระเด็นมาจากล้อรถ โดยสเกิร์ตตัวนี้จะหนานูนออกมาทำให้ดูบึกบึนและแข็งแกร่งบนความเป็นสปอร์ต มือจับที่ประตูรถเป็นสีดำสีเดียวกับตัวรถ มาพร้อมกระจกมองข้างที่เป็นสีบรอนซ์ซึ่งในรุนนี้จะทำสีทูโทน ซึ่งมีสีขาหลังคาสีดำ สีแดงหลังคาสีดำ และสีดำหลังคาสีบรอนซ์ กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวแบบ LED ซึ่งสามารถปรับพับไฟฟ้าแบบอัตโนมัติและสามารถปรับแบบแมนนวลได้ ในส่วนของกระจกรถเป็นไฟฟ้าทั้ง 4 บาน ซึ่งเป็นระะบบออโต้แบบนิรภัยกันหนีบ

         ถัดมาที่หลังคาเป็นสีบรอนซ์เงาตัดสลับกับสีดำ ซึ่งเราชอบมากเพราะสีดำดูให้คสวามรู้สึกหรูหราไปกับความสปอร์ตและความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าสีขาวและสีแดง อีกทั้งมีเสาอากาศแบบครีบฉลามเสริมความเรซซิ่ง และไฮไลท์สำคัญคือมือจับด้านหลังที่ออกแบบเนียนเรียบไปกับตัวประตูซึ่งถือว่าสวยที่สวย ตามมาด้วยสปอยเลอร์ที่ลาดยาวไปตามหลังคา โดยในปกติก็มีอยู่แล้วแต่รุ่น GR sport เป็นสีทูโทนเลยทำให้ดูเด่นขึ้นมา อีกทั้งยังมีไฟเบรก LED ดวงที่สามที่ฝังอยู่กับตัวสปอยเลอร์ด้านบนที่ช่วยในเรื่องของแอโรไดนามิกและมีที่ปัดน้ำฝนด้านหลังมาให้เพราะก่อนหน้านี้ฝนตกทำให้เราได้ใช้งานจริงซึ่งถือว่าใช้งานได้ดี การออกแบบที่ไฟท้ายเป็นการใช้ไฟ LED แบบเต็มระบบทั้งไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟหรี่ ซึ่งตัวไฟท้ายให้มิติที่ดูสปอร์ตมากขึ้นด้วยโคมสีดำ ถัดมาที่โลโก้โครเมียมเงาบ่งบอกถึงรุ่น C-HR และโลโก้โตโยต้าที่ไม่ใหญ่แบบด้านหน้าและโลโก้ไอบริดแสดงขึ้นเครื่องยนต์ และที่สำคัญที่สุดคือสัญลักษณ์ GR Sport ที่แสดงความเป็นสปอร์ตและเรซซิ่งมากขึ้น ถัดลงมาที่กันชนซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนักจากตัวปกติ มีตัวสะท้อนแสงมาให้ มีเซ็นเซอร์มาให้ 4 จุด ดูเนียนไปรถไม่ได้ดูเป็นการเจาะรู ถัดมาที่สเกิร์ตด้านท้ายซึ่งมีความพิเศษเพราะมันมี Diffuser โดยรวมแล้วด้านท้ายสวยสมส่วนกับด้านหน้า

 

 

1 of 32
- +

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

11.

12.

13.

14.

15.

16.

17.

18.

19.

20.

21.

22.

23.

24.

25.

26.

27.

28.

29.

30.

31.

32.

สเปครถยนต์

Body Style :  SUV
Description:  รถ SUV 5 ประตู
Engine: เบนซินไฮบริด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี
Fuel Consumption: 24.4 กม./ลิตร (ข้อมูลอ้างอิงจาก ECO Sticker)
Fuel Type: เบนซินไฮบริด
Make: Toyota C-HR
Max Power: 98 แรงม้า
Max Torque: 142 นิวตันเมตร
Model: Toyota C-HR GR Sport 2022
Price Guide: 1,189,000 บาท
Release Date: 23/5/2022
0-100 km/h: 12.24 วินาที
Transmission:  เกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock
สเปครถ Toyota C-HR HEV GR Sport 2022

การขับขี่

         C-HR GR Sport มีอัตราเร่งจาก 0- 100 กม. ด้วยเวลา 12.24 วินาที และอัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 24.24 กม./ลิตร ซึ่งเป็นข้อมูลของ Eco Sticker ถือว่าประหยัดมากเลยทีเดียวหลังจากที่ได้ทดลองขับในเมืองและนอกเมือง

         ในระหว่างการขับความเร็วเฉลี่ย 100 กม./ชม. ความประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 18-20 กม./ลิตร ก็ถือว่าประหยัดในระดับหนึ่ง หากเราใช้ความเร็วสูงๆ ก็จะอยู่ที่ประมาร 18 กม./ลิตร ซึ่งก็ยังพอรับได้และจากที่ได้ลองใช้โหมด Eco ก็ถือว่าประหยัดพอสมควรสำหรับการที่เราอยู่ในเมืองที่เจอรถติดก็เฉลี่ยถึง 20 กม./ลิตร หากเราขับในโหมด Normal ความประหยัดก็จะลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 15-16 กม./ลิตร ซึ่งก็ต้องแล้วช่วงเวลาหรือความหนานแน่นของท้องถนนด้วย

         เมื่อเราได้ลองขับขี่ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือพวงมาลัยค่อนข้างเบาในความเร็วที่เราใช้ในเมืองนั้นคือความเร็วต่ำ การเลี้ยวตามซอกซอย C-HR คันนี้ทำได้ดีพอสมควรเพราะตัวไซส์เป็นขนาดเล็กกระทัดรัดและวงเลี้ยวก็แคบใช้ได้ ส่วนเรื่องโหมดของการขับขี่มีมาให้ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Sport โหมด Normal และโหมด Eco ซึ่งโหมดที่เราใช้มากที่สุดคือโหมด Normal ก็ถือว่าโหมดนี้ตอบสนองตามการขับขี่ของผู้ใช้งานก็คคือไม่ได้อืดหรืออาการย้วยของคันเร่ง ส่วนโหมด Eco ก็จะรู้สึกหน่วง ๆ หน่อยเวลาเหยียบคันเร่งเมื่อเหยียบไปก็ต้องรอสักพักหนึ่งเพราะตัวนี้ก็จะดึงพลังงานแบตเตอรี่มาใช้งานก่อน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะด้วยตัวมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยที่ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ทำให้เมื่อเหยียบแล้วแรงบิดมาเร็ว ในขณะที่เราวิ่ง 80-100 กม. มีเสียงลมเข้ามาบ้างเล็กน้อย

          ต่อไปเราจะใช้โหมดสปอร์ตซึ่งเสียงเครื่องจัด ๆ มาทันที รอบก็มาทันที่เช่นกัน มันค่อนข้างตอบสนองได้ดีในเรื่องของคันเร่งและแรงบิดก็มาในทันที ส่วนแรงลมก็เข้ามาพอสมควรในอัตราการวิ่ง 100-120 กม. แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ากระจกหน้าเป็นแบบซับเสียงทำให้พวกเสียงลมปะทะก็ค่อนข้างลดลงไปทีเดียว ในเรื่องของทัศนวิสัยในการขับขี่มีการออกแบบมาได้ดี เราได้ปรับตำแหน่งของเบาะนั่งในอยู่ในตำแหน่งมาตรฐานซึ่งทำให้เราเห็นทางข้างหน้าชัดจนและมองเห็นรถข้างหน้าอีก 2-3 คัน ถือว่าให้ความปลอดภัยดี พวกรถสูง ๆ หรือ SUV จะให้ความมั่นใจกับเราเมื่อเราขับรถไปตามตามจังหวัดหรือขับเร็ว ๆ  เราจะกะระยะได้มากขึ้น ส่วนในเรื่องการมองกระจกมองข้างก็ชัดเจนเพราะได้มีการออกแบบเสา A ได้ค่อนข้างที่จะเหมาะสมและก็มีส่วนของกระจกที่เสิรมเข้ามาที่เสา A ทำให้เรามองเห็นได้กว้างขึ้นและในส่วนของกระจกมองหลังอาจจะมีอุปสรรคเล็กสักนิดเพราะว่าการออกแบบค่อนข้างเล็กและแคบ แต่จริงๆ มันก็เพียงพอสำหรับการเดินทางในเมืองและนอกเมือง แต่ถ้าใครที่ขับรถใหญ่ ๆ อาจจะต้องปรับตัวกันสักเล็กน้อย

        รุ่นนี้มีการปรับเซตคอยล์สปริงค์และโช็คแอบชอบเบอร์ซึ่งจากการใช้งานในเมืองมันมีความนุ่มนวลพอสมควรเลยแต่ความกระด้างก็ไม่ได้หายไปหมดเพราะในรุ่นนี้ใช้ล้อแม็กขอบ 18 นิ้ว โดยต่างจากรุ่นปกติที่ขอบ 17 นิ้ว โดยรวมช่วงล่างน่าประทับใจ

          พวงมาลัยคมแต่ยังความสมูทไม่ใช่ว่าพอหักพวงมาลัยแล้วหน้ารถสั่น มันก็มีช่วงฟรีให้เราได้ผ่อนคลายกันบ้างไม่ได้คมจัดเหมือน Mazda CX-30 ในส่วนของเบรครุ่นนี้เป็นดิสเบรค 4 ล้อ ขนาดใหญ่ ระยะเบรคเมื่อมาในความเร็ว 100-120 กม. เบรคค่อนข้างสั้นพอสมควรให้ความรู้สึกมั่นใจในความเร็วสูงและในความเร็วต่ำ ส่วนในเรื่องระบบความปลอดภัยในรุ่นนี้มีระบบเตือนมุมอับสายตามาให้ทั้งกระมองซ้ายและขวา เมื่อสักครู่มีรถขับผ่านไปด้านขวาตัวสัญญาณเตือนก็ขึ้นมาที่ขอบมุมกระจกและหากเราเผลอออกนอกเลนโดยไม่เปฺิดไฟเลี้ยวก็จะทำการเตือนรวมทั้งประคองกลับเข้ามาให้อยู่ในเลนด้วยทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งมีระบบ Adaptive Cruise Control สามารถปรับคมาเร็วแปรผันตามคันหน้าและคันนี้จุดเด่นของเขาก็คือถึงจุดหยุดนิ่งด้วย ถือว่าใช้ได้ทีเดียวซึ่งจะใช้เรดาห์ที่อยู่หน้ารถเพื่อจับรถคันหน้า ตัวของเรดาห์จับรถคันหน้าจับความเร็วคันหน้าและแปรผันความเร็วตามคันหน้ารวมไปถึงหยุดตามคันหน้าอีกด้วย ซึ่งน่าประทับใจสุดๆ

สุนทรียภาพขณะเดินทาง

         ต่อไปเราไปดูที่ด้านในกันบ้าง ก่อนอื่นเลยเรามาชมตัวกุญแจรถกัน โดยตัวกุญแจเป็นพลาสติกมีความเงาปนอยู่ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาแต่มันดูไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ แต่สามารถมองข้ามจุดนี้ไปได้เพราะน้ำหนักที่เบาพกพาง่ายและใช้งานได้ง่ายและมีกุญแจอีก 1 ดอกซ้อนไว้สำหรับกรณีจำเป็นต้องใช้ ซึ่งแค่นี้ก็ครบจบแล้ว

C-HR GR Sport 2022
C-HR GR Sport 2022
C-HR GR Sport 2022

ภาพรวมของด้านในมีความเป็นเรซซิ่งพอสมควรซึ่งจะเป็นห็นได้ชัดเจนเลยคือแดชบอร์ดด้านมีสีดำรับกับสีดำเงาหรือที่เรียกว่าเปียโนแบล็ค ซึ่งเราชอบเลยทีเดียวเพราะถ้าเป็นรุ่นปกติด้านหน้าจะมีสีน้ำตาลและแผงขอบประตูที่เป็นเกล็ดๆ 3 มิติ ก็จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ที่รองแขนก็เป็นสำน้ำตาลเข้มเช่นกันแต่พอเป็นสีดำในรถกลับดูหรูหรา ดูมีความสปอร์ตเพิ่มเข้ามา

         เริ่มจากปุ่ม Start เป็นแบบ Push ซึ่งมีสัญลักษณ์ของ GR Start อยู่ด้วย ถัดมาที่หน้าจอระบบสาระบันเทิงเป็นแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับ Android Auto และ Apple CarPlay ได้ แต่เราต้องมีสายเชื่อมถึงจะสามารถเชื่อต่อได้ แต่หากจะเชื่อมต่อกับบลูทูธก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เมื่อลองใช้แบบใช้งานได้ง่าย ถือว่าคล่องตัว ความเร็วจากระบบสัมผัสและความละเอียดของจอถือว่าใช้ได้แต่ไม่ได้ถึงกับดีมากนัก และเราก็สามารถเปิดเพลงผ่าน spotify ได้ด้วย ลำโพงมีให้ 6 จุดด้วยกัน ส่วนเรื่องของเสียงก็ถือว่าชัดเจนโอเคเลย และก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Toyota T connect ได้ด้วย ซึ่งตัวนี้ก็เป็นตัวที่คอยบอกเราในเรื่องของการเช็คระยะตามระยะทางต่าง ๆ จากศูนย์บริการ

          เบาะนั่งวัสดุที่ใช้เป้นหนังสลับกับวัสดุ PVC ตัวนี้เดินด้วยด้ายสีเทาไม่ใช่สีแดง มันก็จะดูกลกลมกลืนกับตัวเบาะนั่งและมีการปั้มสัญลักษณ์ GR แบบขึ้นรูป ไม่ใช่เป็นการปักเย็บเหมือน GR ในกระบะ การที่มีสัญลักษณ์นี้ก็เป็นการบ่งบอกว่าเป็นรุ่น GR Sport เบาะของเขาก็ยังคงเหมือนตัวรุ่นปกติทั่วไป เบาะเป็นอีกจุดที่เราชอบเพราะมันโอบกระชับและตัวหนุนหัวดูมีความเป็นสปอร์ตกลมกลืนกันดี การปรับเบาะไม่ใช่แบบไฟฟ้าอย่างโคโรล่า GR Sport แต่สามารถปรับได้ 6 ทิศทาง สามารถเอนเบาะ เลื่อนขึ้น-ลงได้ ซึ่งจะเป็น 4 ทิศทาง สำหรับผู้โดยสารและ 6 ทิศทาง สำหรับคนขับแต่ที่พิเศษเลยคือมีปุ่มดันหลังที่นั่งคนขับมาให้ทำให้ขณะขับขี่ไม่เมื่อยหรือปวดหลังเพราะถ้าเวลาเรานั่งจะสังเกตได้ว่าจะมีส่วนเว้าของหลังทำให้นั่งไม่เต็มเบาะ ปุ่มดันหลังนี้จะทำให้การขับขี่สบายขึ้น สรีระการนั่งถือว่านั่งสบายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า

            พวงมาลัยก็ปรับได้ 4 ทิศทาง ซึ่งเหมาะสำหรับคนตัวสูงหรือตัวใหญ่ ซึ่งพวงมาลัยเป็นหนังแท้สลับกับหนังเจาะรู เมื่อจับแล้วรู้สึกกระชับมือ มีการเดินด้ายเป็นสีดำเข้ากับส่วนอื่นๆภายในรถ อีกทั้งเป็นพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นโดยด้านซ้ายเป็นเรื่องของการปรับบังคับระบบ infotainment  รับ-วางโทรศัพท์และระบบสั่งการด้วยเสียงด้วย ส่วนด้านขวาเป็นเรื่องของระบบความปลอดภัยต่างๆ อีกทั้งยังมีก้านตัว Adaptive Cruise Control ที่เป็นเอกลักษณ์ของโตโยต้า และก็เปิด-ปิดระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน มีระบบเปิด-ปิดเซ็นเซอร์ต่างๆ  เช็คระยะทาง เช็คความสิ้นเปลืองน้ำมัน ในส่วนของก้านปัดน้ำฝนเป็นแบบปัดอัตโนมัติซ้ายเป็นเรื่องของพลังงานแบตเตอรี่ ไฮบริดต่างๆ แล้วก็มาตรวัดความร้อนน้ำในหม้อน้ำ ด้านขวาเป็นเรื่องของความเร็วสูงถึง 220 กิโลเมตร และมาตรวัดระดับเชื่อเพลิง

       การออกแบบตกแต่งต่างๆยังคุมโทนสีดำ ตัวบุผ้าหลังคาก็ยังเป็นสีดำ ยังคงมีลวดลายเอกลักษณ์แบบ C-HR ในรุ่นปกติ มีมือจับมาให้เช่นกันซึ่งแน่นอนว่าเป็นสีดำเพื่อคุมโทน เป็นแบบ Total Look มีไฟแผนที่และไฟเก๋งมาให้ ที่กันแดดมาพร้อมกระจกแต่งหน้าและไฟส่องสว่างทั้งฝั่งผู้โดยสารและผู้ขับขี่ กระมองหลังเป็นออโต้เวลาขับขี่รู้สึกสบายตาทันที ระบบแอร์เป็นจอดิจิตอลแต่เป็นปุ่มสัมผัส แอร์ตัวนี้สามารถปรับแยกอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา แต่จุดเด่นของแอร์ตัวนี้อยู่ที่ระบบปรับอากาศนาโนมาให้ด้วย ซึ่งระบบนี้เป็นระบบกรองอากาศ รวมถึงสามารถฟอกอากาศได้ด้วยทำให้หมดห่วงเรื่องแอร์มีกลิ่น หรือเชื้อโรคแบคทีเรียที่เป็นสิ่งแปลกปลอม ถัดมาที่คอนโซลกลาง หัวเกียร์เป็นแบบโครเมียมมีลักษณะเงาๆด้านๆ มีที่วางแกวน้ำขนาดใหญ่มาให้ 2 จุด ในรถคันนี้มีเบรกมือไฟฟ้าซึ่งบรกมือไฟฟ้าจะทำงานอัตโนมัติอยู่ตลอดเมื่อเรากดสตาร์ท เราจะปลดเบรกมือก็ต่อเมื่อเราจะออกรถหรือใส่เกียร์ D เท่านั้น อีกทั้งยังมีปุ่ม EV Mode มาให้ ซึ่งโหมดนี้เงียบมากเวลาขับขี่ และมี Auto Brake Hold เมื่อเราเบรกติดไฟแดงแล้วรู้สึกขี้เกียจเหยียบเบรกเราสามรถใช้ Auto Brake Hold ได้ วึ่งจะทำงานปลดล็อกก็ต่อเมื่อที่เราเหยียบคันเร่ง มีโหมดกันลื่อนไถลมาให้ซึ่งเราแนะนำว่าอย่ากดปิดเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้มีไฟ ambient light มาให้อีกด้วย ถ้าเป็นตอนกลางคืนไฟจะเป็นสีฟ้าในช่องวางแก้วน้ำ ช่องมือจับ แผงประตู ในส่วนของที่วางแขนใหญ่พอสมควรมาพร้อมกับ Power outlet ให้ 1 จุด โดยรวมแล้วสำหรับคนขับกับผู้โดยสารด้านหน้ายังให้ความรู้สึกสบาย เพดานศรีษะเหลือๆ 

       เราไปต่อกันที่ด้านหลังซึ่งทางโตโยต้าบอกว่ามีจุดศูนย์ถ่วงต่ำทำให้รถข้างนอกดูเล็กแต่ข้างในกลับไม่ได้แคบอย่างที่คิดแต่ก็ไม่ได้สบายมากมายขนาดนั้น เมื่อนั่งแล้วคนที่สูง 180 ซม. บริเวณเข่ายังเหลือ ส่วนศรีษะเหลือประมาณ 1 กำปัน ตัวหมอนรองศีรษะไม่ได้ปรับขึ้นเลยแต่กลับพอดี แต่สิ่งที่เป็นจุดด้อยอย่างหนึ่งของ C-HR คือกระจกมองข้างเล็กแต่ดีไซน์เข้ากับข้างนอก บริเวณประตูยังคงคุมโทนสีดำและที่แผงประตูด้านข้างมีที่วางแก้วน้ำมาให้ 2 จุด ที่เปิดประตูเป็นแบบโครเมียมแต่ก็ยังคงดูกลมกลือกับสีดำในบริเวิณอื่น ในส่วนของวัสดุเบาะนั่งด้านหลังก็เป็นเหมือนด้านหน้าที่ใช้หนังสลับกับ PVC เดินด้ายสีเทาแต่ไม่มีที่วางแขนมาให้ ส่วนการพับเบาะที่ด้านหลังปรับได้ 40:60 สามารถพับลงเพื่อเก็บของได้มากขึ้นและด้านท้ายมาพร้อมกับแผงผนังกั้นของมาให้เป็นสีดำเผื่อที่คนข้างนอกมองเข้ามาข้างในแล้วจะไม่เห็นและเรื่องคามปลอดภัยก็ต้องพ้นเข้มขัดนริภัยซึ่งคันนี้ให้มา 3 จุด ครบถ้วน เรารู้สึกนั่ง 2 คน กำลังดีถ้า 3 คนจะรู้สึกอึดอัดไปหน่อย ยกเว้นว่าเป็นเด็กก็จะสามารถนั่งได้สบายๆ อีกทั้งยังมีที่ใส่คาร์ซีทสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กอีกด้วย

          C-HR ออกแบบมาอย่างครบถ้วนและค่อนข้างดีตั้งแต่ต้น มีการออกแบบให้เป็นแนวเรซซิ่งเพื่อให้เหมาะสมกับความเป็น GR และยังคุมโทนสีดำซึ่งใครชอบสีดำคันนี้ถือว่าตอบโจทย์มากในรุ่น GR Sport

          ถัดมาที่ด้านท้ายกันบ้างซึ่งประตูท้ายรถไม่ใช่ไฟฟ้าทำให้สิ่งนี้กลายเป็นจุดด้อยอีก 1 จุด ในรุ่นนี้เมื่อกดปลดล็อกประตูจะไม่ขยับขึ้นเลยทำให้ต้องใช้แรงในการยกประตูขึ้นแต่ก็ยังดีที่เมื่อเปิดขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้วตัวโช็คจะทำงานทำให้ประตูท้ายค่อยๆยกขึ้น เมื่อเปิดขึ้นจะเห้นว่าด้านท้ายมีความขนาดใหญ่ในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น ทางโตโยต้าจะมีชุดซ่อมยางมาให้ มีหูจับสำหรับใส่ตาข่ายกันของกลิ้งไปมา เมื่อเราลองปรับเบาะลงจะสามารถใส่ของที่มีลักษณะยาวได้ และถ้าแผงกั้นสัมภาระเกะกะก็สามารถอดออกได้ ถัดมาที่เรื่องของระบบความปลอดภัยกันบ้างทางโตโยต้าให้มาอย่างจัดเต็มใน Toyota safety sense ได้แก่

  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย
  • ระบบ SRS สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า ท้ายและที่มุมกันชน 8 จุด
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed Range
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน

สรุปความน่าใช้

          หากคุณเป็นคนที่ชอบขับขี่ ชอบในเรื่องความสนุกหรือในเรื่องความแม่นยำ พวงมาลัยหรือการควบคุม ในรุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบ รถคันนี้ก็จะให้ความนุ่มหนึบและนุ่มนวลกว่ารุ่นปกติ แต่ถ้าคุณคาดหวังว่ารุ่น GR Sport ที่มีการตกแต่งให้สปอร์ตมากขึ้นแล้วช่วงล่างมันต้องมีความฮาร์ดคอที่จะสามารถรับรู้ทุกพื้นผิวถนนซึ่งเราขอบอกเลยว่าคันนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น โดยโตโยต้าทำรุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อปรับแต่งช่วงล่างให้เป็นรถครอบครัวมากยิ่งขึ้นและแน่นอนว่าหากเป็นรถครอบครัวเราไม่ได้โดยสารไปเพียงคนเดียวจึงทำให้การขับขี่ต้องนุ่มนวลพอสมควรแต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ทิ้งช่วงล่าง ช่วงล่างยังมีความแม่นยำ ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบ Double Wishbone แน่นอนว่าอยู่ในรถสปอร์ตที่มีการปรับแต่งช่วงล่างเพื่อให้มีสมรรถนะสูงๆ เมื่อขับขี่ก็ยังมีความคล้ายเดิมเพียงแต่ว่าเพิ่มเติมความนุ่มนวลขึ้นมาและความไวของพวงมาลัย

       หากต้องบอกว่า Toyota C-HR HEV GR Sport คันนี้เหมาะกับใคร บอกได้เลยว่าเหมาะกับคนที่ชอบเรื่องการขับขี่และเน้นใช้งานปกติ 1- 2 คน นั่งเพียงด้านหน้าเท่านั้นหรืออาจจะเป็นบุคคลที่สร้างครอบครัวใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีลูกและโดยสารไปกับแฟนหรือภรรยา อีกทั้งยังเหมาะกับผู้หญิงที่ชื่นชอบในการขับขี่และดีไซน์ความสปอร์ตของรถแต่ยังคงเน้นเรื่องความประหยัดอยู่ ซึ่ง C-HR คันนี้ก็คุ้มค่าน่าสนใจเพราะว่าเพิ่มเติมในเรื่องของสเกิร์ตมารอบคันทำให้ดูเตี้ยลง สปอร์ตโฉบเฉี่ยวขึ้น 

          Toyota C-HR HEV GR Sport 2022 ราคาอยู่ที่ 1,118,900 บาท เพิ่มจากรุ่น Premium safety 50,000 บาท แต่เรานำมาเปรียบเทียบกับโคโรล่า ครอส GR Sport ราคาจะแพงกว่า C-HR GR Sport อยู่ที่ 60,000 บาท ซึ่งใครที่ชอบในเรื่องของดีไซน์ การขับขี่ บังคับควบคุม สรรถนะ ช่วงล่างขับมันๆ ประหยัดและคล่องตัวในเมืองต้อง C-HR GR Sport คันนี้เท่านั้น แต่ถ้าคุณชอบความใหญ่โตของห้องโดยสารและมีครอบครอบครัวไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ ผู้สุงอายุหรือเด็กต้องเป็นโคโรล่า ครอส GR Sport เท่านั้นเพราะด้านหลังนั่งสบาย เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถเอนได้ อีกทั้งยังมีความกว้างขวางของ Head room และ Leg room มากพอสมควร รวมไปถึงห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายก็มีมาให้อย่างจุใจสำหรับนักเดินทางที่เป็นสายครอบครัว

The Review

Toyota C-HR GR Sport 2022

4.5 Score

C-HR HEV GR Sport ใหม่ มีการตกแต่งภายนอกและภายในเพื่อเพิ่มความเป็นเรซซิ่งมากขึ้น ซึ่งต่างจากรุ่นปกติที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดยปี 2022 โตโยต้าได้เพิ่มรุ่น GR Sport เข้ามาในไลน์เพื่อให้เราได้มีตัวเลือกมากขึ้น อีกทั้งยังมีช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่อีกด้วย

PROS

  • ขับขี่ง่าย
  • สะดวกสบายในการใช้งานจริง และการใช้ในชีวิตประจำวันในเมือง
  • มีการแต่งสไตล์ GR รอบคันแบบจัดเต็ม
  • ภายในตกแต่งเท่และพรีเมียม
  • มี toyota sensing และระบบความปลอดภัยครบครัน
  • ช่วงล่างดี ยึดเกาะเยี่ยมมีความนุ่มนวล

CONS

  • ไม่มีกล้องรอบคัน
  • ภายในไม่ได้กว้างขวางมาก คนตัวใหญ่อาจรู้สึกอึดอัด
  • ห้องโดยสารตอนหลังไม่ปลอดโปร่งเท่าที่ควรเพราะกระจกแคบลง
  • สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ครบครัน
  • แต่ง GR Sport แต่การใช้งานจริงไม่ได้ดุดัน หากใครที่ชอบความดุ C-HR HEV GR Sport อาจไม่ใช่คำตอบ

Review Breakdown

  • Driving
  • Engine&Trans
  • Fuel Consumption
  • Practicality
  • Price and Features
  • Design
  • Saftey

Toyota C-HR GR Sport 2022 DEALS

We collect information from many stores for best price available

Best Price

฿1189000
  • Toyota C-HR HEV GR Sport 2022
    ฿1189000 Buy Now
Tags: C-HRGR SportHEVTOYOTAToyota C-HR HEV GR Sport

Related Posts

Bmw-320d-2023-website-whatcar
Road Test

รีวิว BMW 320d M Sport 2023 ที่เน้นเรื่องการขับขี่เป็นหลัก

Road Test

BMW iX xDrive40 2023 รถยนต์ไฟฟ้าล้วน ภายนอกโดดเด่น ห้องโดยสารกว้าง พร้อมสมรรถนะเยี่ยม

Road Test

Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD R-Design สุดยอดเอสยูวี แรงม้าเยี่ยม ประหยัดสุดยอด

Road Test

All New Mazda CX-30 รุ่นใหม่ ครอสโอเวอร์เอสยูวี โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ถูกใจคนในเมือง คู่ต่อสู้อีกหลายแบรนด์

Road Test

BMW 630i GT M-SPORT การผสมผสานระหว่างซีดานและเอสยูวี ขับดี ขับซิ่ง สนุกได้แม้เป็นซีดาน

NEW MAZDA CX-8 Minorchange 2022
Road Test

NEW MAZDA CX-8 Minorchange 2022 ครอสโอเวอร์ 3 แถว ปรับโฉมใหม่ให้หรูหราขึ้น

Leave Comment

What Car? Thailand

 

นิตยสารและเว็บไซต์ whatcar.co.th เนื้อหาลิขสิทธิ์รถยนต์ที่แรกที่เดียวในไทย เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ จาก What Car? whatcar.com ประเทศอังกฤษซึ่งได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกมายาวนานกว่า 45 ปี.

Follow us

Categories

  • Awards
  • Big Bike
  • Comparison
  • CSR
  • Feature
  • First Drive
  • Insights
  • Inter News
  • New Car
  • News
  • PR
  • Promotion
  • Reviews
  • Road Test
  • Road Trips
  • Tip Technic
  • Uncategorized
  • Your Cars

Instagram

  • ลาก่อน EQS สวัสดี S-Class รถยนต์ไฟฟ้า : Mercedes จะรวมทั้งสองรุ่นเข้าด้วยกันในปี 2030 ⚡
  • พักเบรกกับค่ายจีน 🇨🇳ที่กำลังลงมาเล่นตลาด ⚡🔋
รถยนต์ไฮบริด (Hybird) นั่งกันไม่ติดและ ญี่ปุ่น 🇯🇵
.
ไม่รู้ว่านุดมีแมว...หรือแมวมีนุดกันแน่ 😆
 "ประกาศิต" ก็เป็นทาสจ๊ะ 555
.
แม่น้ำตาลเป็นแมวที่อายุใกล้ 20 ปี ก็จะดูวัยรุ่นหน่อย 😸
โลกนี้ให้ความสำคัญกับแมวอยู่นะ.... “วันแมวโลก”  International Cat Day 
8 สิงหาคมของทุกปี
.
#InternationalCatDay 
#แม่น้ำตาลหวานเจียบ
  • เดินทางด้วยรถ Benz E 220 d AMG Line 😆🌊🌴
จากเส้นทางภูเก็ต - พังงา ถึง รร.เยาววิทย์ 
ทริป /CSR เมอร์เซเดสเบนซ์ ประเทศไทย
.
ขนาดตัวถัง
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,935 x 1,852 x 1,460 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,939 มิลลิเมตร
.
เครื่องยนต์
.
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก EQ Boost พละกำลัง 23 แรงม้า 205 นิวตันเมตร Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง
.
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.6 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed 238 km/h
.
ภายนอก
- ชุดตกแต่งภายนอก AMG Body Styling
- ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว
- ไฟหน้า LED High Performance
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist
- ระบบกุญแจ Keyless-GO
- ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบเปิด-ปิด ฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate
- ระบบช่วยปิดประตู Power Closing Doors (ประตูดูด)
.
ภายใน และระบบอำนวยความสะดวก
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม Memory Seat
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม Memory Seat
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 2-Zones
- ระบบปรับสมดุลอากาศ - ฟอกอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL (HEPA)
- ม่านบังแดดประตูคู่หลัง
- ม่านบังแดดกระจกบังลมหลัง
- หน้าจอ MBUX Multimedia HyperScreen และ หน้าจอมาตรวัดแบบ 3D
- Passenger Screen หน้าจอแยก สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ที่แยกควบคุมกับจอกลางได้ โดยไม่รบกวนการควบคุมของส่วนกลางภายในรถ
- ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist
- กล้องรอบคัน 360 องศา
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Assist
- ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูลงจากรถ Exit Warning
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Active Distance Assist DISTRONIC with Stop&Go
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Lane Tracing Package
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร Active Lane Keeping Assist
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Collision Warning
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Advanced Driving Assistance System
.
.
#MercedesBenz #EClass #E220d #E220dAMGLine
  • สีดำ....หล่อแบบเข้ม เข้ม 😆
เผยโฉม ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด
ด้วยการตกแต่งภายนอกสีดำสุดเท่ ประกอบด้วย ไดนามิก ชีลด์และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา บันไดข้างตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ 
.
เครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ให้กำลังสูงสุดที่ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ผสานช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น 
.
เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) 
-ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM) 
-ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) 
-ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) 
-ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) 
-ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto High Beam: AHB) 
-กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) 
-พร้อมระบบตรวจจับและแจ้งเตือนวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection: MOD) 
.
ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะทั้งหมดนี้ สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ ด้วยเซ็นเซอร์และเรดาร์ที่ละเอียด แม่นยำ พร้อมปกป้องคุณให้ปลอดภัยในทุกเส้นทางที่ไปในแบบ 360 องศา
.
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน อาทิ หน้าจอขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay ที่พร้อมเชื่อมต่อแบบไร้สาย และ Android Auto 
.
#WHATCARThailand
#MitsubishiMotorsThailand #mitsubishitritonblackedition
#triton #blackedition
  • A5 Sedan ใหม่ ตัวแทน Audi A4 Sedan คู่แข่งใหม่ BMW 3 Series และ Mercedes C-Class
.
ภายนอกออกแบบใหม่ด้วยกระจังหน้าเพรียวขึ้น ไฟหน้าแบบ LED daytime running และไฟท้ายแบบ OLED ที่สามารถปรับการแสดงผลได้สูงสุด 8 รูปแบบ ที่นอกจากจะแสดงความแตกต่างเพื่อความสวยงามแล้ว สำหรับไฟท้ายยังสามารถใช้เป็นการสื่อสารกับรถคันหลังได้อีกด้วย
.
ภายในออกแบบหน้าจอ  3 ชิ้น โดยเลือกใช้แนวคิดการยึดหลักผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ virtual Cockpit ใช้เทคโนโลยีหลอดไฟแบบ OLED ขนาด 11.9 นิ้ว ทำงานร่วมกับหน้าจอกลางขนาด 14.5 นิ้ว เป็นระบบสัมผัส ทั้งยังมีออฟชั่นหน้าจอสำหรับความบันเทิงของผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 10.9 นิ้ว
ความพิเศษยังอยู่ที่ A5 Sedan ที่ติดตั้งฝากระโปรงท้ายแบบยกเปิด เสมือนเป็นรุ่น Sportback จากโรงงาน
.
เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
2.0 TDI
เครื่องยนต์ดีเซล TDI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร  สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch
.
2.0 TFSI
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อคู่หน้าเท่านั้น และรุ่นอัพเกรด 204 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ultra ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch
.
รุ่น S5
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 367 แรงม้า (PS) พร้อมด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48-volt เพื่อลดมลพิษสำหรับการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ
.
#WHATCARThailand
#AUDI #A5Sedan
  • #Promotion #Toyota ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถในงาน #MOTORSHOW2024
#PR #promote #whatcar #whatcarthailnd 🥳👍🫰
  • #Tesla #Cybertruck ลองกระสุนเบอร์ไหนเข้า...? คุ้มนะถ้า 2.5m Baht คนไทยพร้อมซื้อ (รวย)😆🥳😃🧐🤓
#whatcar #whatcarthailand
  • พาชม #Porsche ในงาน Motor Show 2024
#whtacarthailand #whatcar
  • พาชม #Mitsubishi ในงาน Motor Show 2024
#whatcar #whatcarthailnd

Newsletter

© 2022 What Car? Thailand - Designed by Coinfinity Power.

  • About
  • Advertise
  • Terms & Conditions
  • Privacy & Policy
  • Team
  • Contact

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และอำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ รวมถึงช่วยให้เราปรับปรุงการนำเสนอเนื้อหาตรงตามความต้องการของท่าน โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้นโยบายคุกกี้ กด “ยอมรับ”
Cookie settingsยอมรับ
Manage consent

Privacy Overview

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.
Necessary
Always Enabled
Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. These cookies ensure basic functionalities and security features of the website, anonymously.
CookieDurationDescription
cookielawinfo-checkbox-advertisement1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Advertisement" category .
cookielawinfo-checkbox-analytics1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Analytics" category .
cookielawinfo-checkbox-functional1 yearThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessary1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Necessary" category .
cookielawinfo-checkbox-others1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to store the user consent for cookies in the category "Others".
cookielawinfo-checkbox-performance1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to store the user consent for cookies in the category "Performance".
CookieLawInfoConsent1 yearRecords the default button state of the corresponding category & the status of CCPA. It works only in coordination with the primary cookie.
Functional
Functional cookies help to perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collect feedbacks, and other third-party features.
Performance
Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.
CookieDurationDescription
_lscache_vary2 daysNo description available.
Analytics
Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.
CookieDurationDescription
_ga2 yearsThe _ga cookie, installed by Google Analytics, calculates visitor, session and campaign data and also keeps track of site usage for the site's analytics report. The cookie stores information anonymously and assigns a randomly generated number to recognize unique visitors.
_gat_gtag_UA_51917967_11 minuteSet by Google to distinguish users.
_gid1 dayInstalled by Google Analytics, _gid cookie stores information on how visitors use a website, while also creating an analytics report of the website's performance. Some of the data that are collected include the number of visitors, their source, and the pages they visit anonymously.
Advertisement
Advertisement cookies are used to provide visitors with relevant ads and marketing campaigns. These cookies track visitors across websites and collect information to provide customized ads.
CookieDurationDescription
_fbpsessionThis cookie is set by Facebook to display advertisements when either on Facebook or on a digital platform powered by Facebook advertising, after visiting the website.
advanced_ads_browser_width1 monthThis cookie is set by Advanced ads plugin.This cookie is used to measure and store the user browser width for adverts.
personalization_id2 yearsTwitter sets this cookie to integrate and share features for social media and also store information about how the user uses the website, for tracking and targeting.
Others
Other uncategorized cookies are those that are being analyzed and have not been classified into a category as yet.
CookieDurationDescription
jnews_view_counter_visits[0]2 months 2 days 15 hoursNo description
muc_ads2 yearsNo description
pvc_visits[0]1 dayThis cookie is created by post-views-counter. This cookie is used to count the number of visits to a post. It also helps in preventing repeat views of a post by a visitor.
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo
No Result
View All Result
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact

© 2021 What Car? Thailand - Designed by Coinfinity Power.