ปิดแอร์ เปิดกระจก เปิดเพลงโปรดให้ดังลั่น มักเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้เพื่อให้รู้สึกตื่นตัวขณะขับรถ ความจริงคือวิธีเหล่านี้มักไม่ได้ผลและยังก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา
จากผลการศึกษาพบว่าการเปิดเพลงดังมากๆ ขณะขับรถมักจะก่อปัญหาบนท้องถนนมากกว่าแก้ง่วง ทั้งขับรถชวนหวาดเสียวมากขึ้น คึกคะนองมากขึ้นตามอารมณ์เพลง ไม่ได้ยินเสียงสัญญาณแตรจากรถคันอื่น หรือจดจ่อกับสภาพแวดล้อมรอบข้างได้น้อยลง ส่วนอีกหนึ่งวิธีผิดๆ คือทานของหวานเพื่อช่วยให้ตื่นตัว มันช่วยได้ก็จริงแต่แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นภาวะอ่อนเพลียเฉียบพลันจะตามมา
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องปิดวิทยุหรือทนหิวตลอดทาง วิธีที่เราจะแนะนำต่อไปนี้จะช่วยขจัดความง่วงให้คุณสามารถขับรถได้อย่างสบายใจและปลอดภัยในเวลาเดียวกัน
เปิดเพลงที่เข้ากับจังหวะการเต้นของหัวใจ
เพลงที่เหมาะกับการขับรถคือเพลงที่มีจังหวะความเร็วพอๆ กับจังหวะการเต้นของหัวใจ ซึ่งก็คือประมาณ 60-80 bpm ต่อนาที หากเพลงมีจังหวะเร็วหรือเสียงดังเกินไป คนขับมักจะขับรถก้าวร้าวมากขึ้น ในขณะที่ถ้าเพลงช้าไปก็อาจจะทำให้รู้สึกเฉื่อยชาตามไปด้วย ดังนั้นสร้างเพลลิสต์ดีๆ สำหรับเวลาขับรถขึ้นมาและเปิดให้ดังพอเหมาะ จะช่วยให้รู้สึกสบาย คลายเครียดและเพิ่มสมาธิในการขับรถได้ดียิ่งขึ้น
หลีกเลี่ยงของหวานและอาหารจานด่วน
หมั่นจิบน้ำหรือชากาแฟบ้างบางครั้งคราว นอกจากจะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นแล้ว ยังทำให้เราได้แวะพักเข้าห้องน้ำบ่อยๆ และได้ยืดเส้นยืดสายอีกด้วย พยายามหลีกเลี่ยงของหวานและอาหารจานด่วนที่จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ระลึกไว้ว่าให้หยุดรถเสมอเมื่อจะทานของว่าง
พักผ่อนก่อนร่างกายจะไม่ไหว
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนขับรถบรรทุกที่ต้องขับทางไกลนานๆ คนทำงานเป็นกะ พ่อแม่มือใหม่ หรือวัยรุ่น ทุกคนสามารถเกิดอาการง่วงขณะขับรถได้ทั้งนั้น สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเหนื่อยล้าเกินกว่าจะขับรถได้ มีตั้งแต่ ลืมตาไม่ค่อยไหว หาวบ่อย มีสมาธิในการขับรถได้ยากขึ้น ไม่สามารถจำช่วงเวลาที่ตัวเองขับรถในช่วงไม่กี่กิโลที่ผ่านมาได้ ลืมมองป้ายจราจรหรือทางเลี้ยว ควบคุมความเร็วได้ยากและขับรถกินเลน เป็นต้น หากคุณมีแผนที่จะเดินทางไกลและรู้ว่าตัวเองจะไม่ไหว ลองหาคนมาช่วยสลับกันขับ ดีกว่าเสี่ยงขับรถทั้งๆ ที่ง่วง
เติมพลังให้ร่างกายง่ายๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ยืดกล้ามเนื้อที่ปวดหรือเมื่อยล้า
- นวดกดจุดที่ตึงได้ง่าย เช่น บริเวณขมับและหลังคอเพื่อคลายความตึงหรือเคล็ด
- ออกกำลังกายแบบเร็วๆ เช่นกระโดดตบหรือวิ่งอยู่กับที่เพื่อให้ร่างกายตื่นตัวมากขึ้น
หากรู้สึกเหนื่อยล้ามาก ควรหาที่พักเพื่องีบหลับหรือค้างคืนในที่ที่ปลอดภัย หากตื่นเช้ามาแล้วยังรู้สึกง่วง ให้ดื่มกาแฟหรือชาสักถ้วยเพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าพร้อมออกเดินทางต่อไป