ในยุคแรกเริ่มรถกระบะจะเน้นการใช้งานไปในเชิงพาณิชย์ ความสะดวกสบายจึงหาได้ยากยิ่ง ปัจจุบันผู้คนจำนวนไม่น้อยใช้รถกระบะเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ตลอดระยะเวลา 40 ปี มิตซูบิชิมุ่งมั่นออกแบบและพัฒนารถกระบะให้เพียบพร้อมไปด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยี และความแกร่งทนทาน เมื่อเทรนด์ปัจจุบันเปลี่ยนไป ความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับสูงจึงกลายมาเป็นมาตรฐานที่รถกระบะยุคใหม่พึงมี
Mitsubishi Triton ยังคงได้รับการพัฒนาขึ้นตามแนวคิดดังกล่าว นับเป็นหนึ่งในรถกระบะที่มีอุปกรณ์ครบครันมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทั้งในด้านระบบความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยี
หัวใจของความปลอดภัยและความสะดวกสบายในคือโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (Reinforced Impact Safety Evolution) ประกอบกับแชสซีส์ที่แกร่งทนทานพร้อมคุณสมบัติยืดหยุ่นที่สามารถดูดซับแรงกระแทกและต้านทานการเสียรูปทรงเพื่อการปกป้องผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแกร่งและทนต่อแรงบิดตัวสูง ทีมวิศวกรจึงสามารถทำการปรับแต่งระบบกันสะเทือนเพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างเต็มที่ โครงสร้างที่มั่นคงยังลดการสั่นสะเทือนและการเสียดสี ส่งผลให้เสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือน และความกระด้างลดลง Triton ใหม่จึงมอบความนุ่มสบายให้กับภายในห้องโดยสารมากยิ่งขึ้น
ระบบความปลอดภัยอันทันสมัยโดดเด่นด้วย กล้องมองภาพรอบคัน เป็นการใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคันพร้อมภาพมุมสูง และ เซ็นเซอร์กะระยะจอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อยังมาพร้อมกับ ระบบควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน ที่ช่วยรักษาความเร็วรถให้คงที่ขณะลงทางลาดชัน พร้อมกันนี้ยังมี ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และ ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ระบบความปลอดภัยเหล่านี้สามารถพบได้แต่ในเฉพาะในรถระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่ปัจจุบันติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Mitsubishi Triton แล้ว
ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งดิสก์เบรกขนาดใหญ่แบบมีช่องระบายความร้อนพร้อมคาลิปเปอร์หน้า 2 ลูกสูบ แชสซีส์และตัวถังที่แข็งแกร่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการควบคุมและการยึดเกาะถนน การขับขี่จึงมีความนุ่มนวลและมั่นใจได้ในทุกสภาพเส้นทาง นอกจากนี้ ความสูงใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้นช่วยให้สามารถขับผ่านสิ่งกีดขวางได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อระบบความปลอดภัยยอดเยี่ยมแล้ว ความสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารคืออีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของรถกระบะมิตซูบิชิ ห้องโดยสารของ Triton ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มคุณภาพสูง มีช่องเก็บของและจุดวางเครื่องดื่มหลายจุด รวมถึงมีช่อง USB ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งานสำหรับผู้โดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลัง ชุดหน้าปัดมีจอแสดงข้อมูลในการขับขี่แบบสีพร้อมอะนิเมชั่นสามมิติ และมาตรวัดแบบไฮคอนทราสต์และกราฟฟิกที่มีความละเอียดสูงขึ้น
ระบบนำทางได้รับพัฒนาใหม่เพื่อให้มองเห็นได้สะดวกชัดเจนยิ่งขึ้น ความสะดวกสบายอื่นๆ ยังรวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ สวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลในการขับขี่ที่พวงมาลัย และกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน ภายในห้องโดยสารยังมีช่องระบายความเย็นติดตั้งบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ขุมพลังขับเคลื่อนของ Mitsubishi Triton คือเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง MIVEC Clean Diesel ความจุ 2.4 ลิตร พ่วงเทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดรุ่นใหม่ มีระบบ Auto Stop and Go ซึ่งจะดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดนิ่งเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง
Mitsubishi Triton ใหม่ อัดแน่นด้วยสมรรถนะสำหรับขับขี่บนถนนปกติและเส้นทางออฟโรด ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล นี่จึงเป็นกระบะแกร่งสไตล์ออฟโรดขนานแท้ มาพร้อม 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมด 2H (2WD High-Range) ขับเคลื่อน 2 ล้อปกติ, โหมด 4H (4WD High-Range) ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control, โหมด 4HLc (4WD High-Range with Locked Transfer) ขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง และโหมด 4LLc (4WD Low-Range with Locked Transfer) ขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมโหมดออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ Gravel, Mud/Snow, Sand และ Rock รวมถึงระบบล็อกเฟืองท้ายเพื่อสมรรถนะที่เหนือระดับบนเส้นทางที่ท้าทาย
เอกลักษณ์ดีไซน์แบบ Advanced Dynamic Shield ช่วยให้ Mitsubishi Triton ใหม่มีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและทรงพลัง ครบครันด้วยด้วยไฟหน้า Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติและไฟตัดหมอก
Mitsubishi Triton มีจำหน่ายทั้งรุ่นดับเบิ้ลแค็บ 4 ประตู, รุ่นเมกะแค็บ 2 ประตู และรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ 2 ประตู ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 654,000 บาท
ติดตามข่าวสารข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมของ Mitsubishi Triton ได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th, www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH และทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของบริษัท