มาสด้าได้เปิดตัว NEW MAZDA CX-8 ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมแบบ 3 แถว ดีไซน์ใหม่สุดหรู เทคโนโลยีใหม่เต็มคัน ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว มาพร้อมแนวคิด “THE PRECIOUS MOMENTS TOGETHER” ให้ทุกช่วงเวลามีคุณค่าร่วมกัน
การเปิดตัวครั้งนี้จึงได้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้นโดยในวัน 9-10 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ทาง WHAT CAR? Thailand ได้ร่วมพิสูจน์สมรรถนะเครื่องยนต์ SKYACTIV technology ของ New Mazda CX-8 รถยนต์อเนกประงสงค์เอสยูวีที่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว ภายใต้การออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันสง่างาม
ใต้สุดแดนสยามเบตง-หาดใหญ่
ทาง WHAT CAR? Thailand ได้ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเพื่อไปลงที่สนามบินเบตง ซึ่งทางเราได้อยู่ใน Group B โดยการเดินทางในครั้งนี้เป็นการทดสอบสมรรถนะ New Mazda CX-8 เป็นการทดสอบเส้นทางที่สุดท้าทายความสามารถทั้งรถและคนขับโดยเราได้ทดสอบที่ใต้สุดแดนสยามเบตง-หาดใหญ่ ในระยะทางกว่า 300 กม. ที่มีทั้งเส้นทางทั้งในเมือง ทางนอกเมือง ในตลอดระยะเวลา 2 วัน คือ 9-10 สิงหาคม เราได้เดินทางด้วย NEW MAZDA CX-8 2.5 SP ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.5 เป็นห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) โดยเราได้เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดปัตตานีหรือไปชมความงามของสถานที่ แต่ทั้งนี้ตามสถานที่ต่างๆเหล่านั้นได้เป็นการทดสอบสถรรนะของรถยนต์ไปในตัวเพราะมีทั้งทางธรรมดาที่ขับระยะไกลหรือมีขึ้นทางลาดชัน ซึ่งในการทดสอบสมรรถนะครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เราจะมาพิสูจน์กัน
เดินทางด้วย New Mazda CX-8
เริ่มต้นในวันที่ 9 สิงหาคม เราได้บินตรงไปถึงสนามบินเบตง เราได้แวะรับประทานอาหารกลางวันและเข้าเช็คอินที่โรงแรมแกรนด์วิว แลนด์มาร์ค โฮเทล เบตง ซึ่งตั้งอยู่ที่เทศบาลเมืองเบตง จังหวัดยะลา โดยเป็นโรงแรมที่ครองใจนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปภาคใต้ อีกทั้งมีราคาที่สามารถจับต้องได้และสะอาดรวมไปถึงมีความปลอดภัยอีกด้วย
การเดินทางในครั้งนี้เราได้เดินทางด้วย NEW MAZDA CX-8 2.5 SP ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มาสด้าจัดเต็ม นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นและนำมาติดตั้งใน CX-8 เป็นรุ่นแรก ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ ยกระดับความหรูหราด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำเปียโน มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ รวมไปถึงไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวันแบบ LED Signature และบริเวณด้านท้ายเป็นไฟท้ายแบบ LED Signature พร้อมสปอยเลอร์หลัง เสาอากาศแบบครีบฉลามและท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ต พร้อมปลายท่อโครเมียม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้ว ในรุ่นนี้มีมิติตัวรถยาว 4,900 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อ 2,930 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม. น้ำหนักรถโดยเฉลี่ย 1,781-1,924 กก. NEW MAZDA CX-8 2.5 SPมารพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร (Skyactiv-D 2.2) พร้อมเทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร พร้อมทั้งยังมีการติดตั้งระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ Off-Road (Off-Road Traction Assist) เพิ่มเติมในรุ่นที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD เพิ่มความมั่นใจให้ทุกคน ออกไปพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ในทุกเส้นทาง
โดยสถานที่แรกที่เราได้ออกเดินทางไปที่ด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อถ่ายรูปคู่กับป้ายใต้สุดแดนสยามซึ่งเป็นการายืนยันว่า What Car Thailand? ได้เดินทางมาถึงที่นี้แล้ว ซึ่งด่านนี้เป็นการบอกว่าเราได้อยู่ใต้สุดของประเทศไทยก่อนที่จะออกไปประเทศมาเลเซีย โดยด่านนี้เป็นด่านการค้าชายแดนระหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย สำหรับที่นี้ถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ มาเลเซีย สิงโปร์ และคนไทยในมาเลเซีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน อ.เบตง จ.ยะลา
เมื่อถึงเวลาเราได้กลับที่พักเพื่อฟังบรรยายสรุปข้อมูลของ NEW MAZDA CX-8 ซึ่งทุกคนสามารถ อ่านรายละเอียดของ NEW MAZDA CX-8 ได้ที่นี่
ตลอดทั้งวันที่เราได้ขับคันนี้การใช้งานภายในตอบโจทย์เราเป็นอย่างมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือห้องโดยสารมีขนาดกว้างทำให้การเดินทางไกลไม่อึดอัด ใน MAZDA CX-8 มีให้เลือกถึง 5 รุ่นย่อย และมีให้เลือกทั้งห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) และแบบ 6 ที่นั่ง (6-Seat) แบบใหม่ โดยได้รับการยกระดับให้ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว และเพิ่มพื้นที่ให้กับทุกคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น โดยในรุ่น 6 ที่นั่ง (6-Seat) มาพร้อมกับ 2 ทางเลือก ได้แก่ ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat แยกอิสระซ้าย ขวา (Captain seats with center walk-through (6-Seat) ที่สามารถเดินเชื่อมได้ถึงเบาะนั่งแถวที่สาม และห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat ปรับไฟฟ้า (Power captain seats (6-Seat) พร้อมคอนโซลกลาง ซึ่งเราได้ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) ในรุ่น 2.5 SP
นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวางนั่งสบายในทุกตำแหน่ง และมาพร้อมระบบระบายอากาศเบาะนั่งคู่หน้า ที่ช่วยระบายอากาศและความชื้น ทำให้เพิ่มความสบายให้กับผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง อีกทั้งครั้งแรกกับระบบ MRCC แบบ Stop & Go ที่ได้รับการพัฒนาและติดตั้งในรถมาสด้า CX-8 ใหม่เป็นรุ่นแรกและยังได้ถูกยกระดับความสะดวกสบาย เพื่อเติมความสุขให้กับผู้โดยสารทุกคนตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ สามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสาร หรือ รับ-ส่ง ข้อความ จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth และเพลิดเพลินไปกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลด้วย Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android AutoTM ที่เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander ที่จัดวางในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger และ USB สำหรับชาร์จไฟบริเวณเบาะนั่งแถวที่สามได้ถูกเพิ่มเข้ามาในรถรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน จึงทำให้รถรุ่นนี้ ไม่เพียงแค่เป็นรถที่มอบความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่ทันสมัยไปอีกขั้น สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
ในวันต่อมา 10 สิงหาคม เราได้เริ่มต้นของวันด้วยการออกเดินทางไปชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวงเพื่อชมทะเลหมอกแลพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ซึ่งทะเลหมอกอัยเยอร์เวงตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเบตง ประมาณ 40 กิโลเมตร ในพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร การขึ้นไปที่ทะเลหมอกนี้เป็นทางลาดชันและทางบนเส้นภูเขาที่มีทางโค้งสลับไปมาแบบต่อเนื่อง สำหรับ Mazda CX-8 ก็ให้การขับขี่ที่ดีและสนุกสนาน ทั้งมีระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่ครบครัน ได้แก่
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane-keep assist System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Alert)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Control)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (Lane Departure Warning System)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive LED Headlamps)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Smart City Brake Support-Reverse)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support)
- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go (Mazda Radar Cruise Control with Stop & Go)
นอกจากนี้ NEW MAZDA CX-8 ยังเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้โดยสารตลอดเส้นทางในทุกสถานการณ์การขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยทั้งแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) อาทิ ระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง พร้อมมุมกล้องในแบบ Top View ผ่านหน้าจอ Center Display ขนาด 8 นิ้ว รวมถึงระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุดและด้านหลัง 4 จุด ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น และแบบปกป้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุ (Passive Safety) อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง ทำให้มั่นใจเมื่ออยู่หลังพวงมาลัยในรถรุ่นนี้ อีกทั้งสามารถมอบความั่นใจในทุกการควบคุมทั้งพวงมาลัยที่แม่นยำอีกด้วย ช่วงล่างเกาะถนนได้ดีเมื่อขับผ่านทางโค้งด้วยความเร็ว อีกทั้งในความเร็วนั้นอาการโคลงหรือโยนจากความสูงของรถนั้นน้อยมาก
หลังจากนั้นได้เดินทางออกจากโรงแรมเพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดปัตตานีเพื่อไปแวะชมสถานที่สำคัญของจังหวัดปัตตานี้คือมัสยิดกรือเซะ หรือ มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์ ซึ่งเป็นมัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีในจังหวัดปัตตานี และสถานที่ถัดมาก็คือ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองปัตตานีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วเราได้ออกเกินทางอีกครั้งจากจังหวัดปัตตานี-อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเพื่อที่จะเดินทางกลับกรุงเทพ ด้วยระยะทางไกลขนาดนี้ทำให้เราเห็นว่า NEW MAZDA CX-8 สามารถประหยัดน้ำมันถึง 17.5 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย