Renault Captur เฟสลิฟท์ ปรับแต่งดีไซน์ใหม่พร้อมเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ๆ เข้ามา ราคาเริ่มต้นที่ 15,355 ปอนด์ (7.7 แสนบาท) พร้อมวางขายทันทีและส่งมอบรถคันแรกได้ในเดือนกรกฎาคม
คู่แข่งของ Kia Soul และ Nissan Juke คันนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็น ครอสโอเวอร์ระดับบีเซกเมนต์ ที่ขายดีที่สุดในยุโรป ด้วยยอดขายกว่า 215,000 คัน ในปี 2016 ที่ผ่านมา ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับเสริมเติมแต่งให้มีความสดใหม่ขึ้นมาในปีนี้
ดีไซน์ภายนอกและภายในของเจ้านี่ได้รับหารอัพเดทใหม่รวมทั้งอุปกรณ์หลายอย่าง มันมี 5 รุ่นตกแต่ง ได้แก่ Expression+, Dynamique Nav, Dynamique S Nav, Signature X Nav และ Signature S Nav มาพร้อมราคา 21,405 ปอนด์ (ราว 1,070,250 บาท) ในรุ่นท็อป
ฟีเจอร์มาตรฐานได้แก่ ล้ออัลลอย 16 นิ้ว, แฮนด์ฟรี คีย์การ์ด, เครื่องปรับอากาศ และวิทยุดิจิตอล ส่วนรุ่นสูงขึ้นมาจะได้ระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน R-Link, ระบบนำทางด้วยดาวเทียม, บลูทูธ ตลอดจนล้ออัลลอย 17 นิ้ว และ ชุดลำโพง 6 ตัวจาก Bose
Captur ใหม่ยังคงมีบอดี้เป็นสีทูโทนเหมือนรุ่นก่อนหน้าและมีสีใหม่เพิ่มมาอีก 2 สี รวมทั้งมีสีหลังคาใหม่ ทั้งหมดรวมอยู่ในชุดสีของรถที่มีให้เลือกกว่า 36 ชุดสี ตลอดจนมีแพ็คเกจปรับเปลี่ยนสีภายนอกและภายในได้ตามใจให้เลือก
เช่นเดียวกับ Renault โมเดลอื่นๆ Captur ใหม่มีชุดไฟหน้า LED เป็นออปชั่นเสริม พร้อมด้วยไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ ด้านหน้า มีความคล้ายคลึงกับ Renault Kadjar ครอสโอเวอร์รุ่นพี่ การเปลี่ยนแปลงภายนอกได้แก่แถบโครเมี่ยมที่กระจังหน้า ตลอดจนแผ่นกันกระแทกใต้กันชนหน้าและหลังแบบใหม่ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหลังคากระจกใหม่เป็นแบบทูโทน
ตัวเลือกเครื่องยนต์ยังยกมาจากรุ่นก่อนหน้า มีทั้งเครื่องเบนซิน 0.9 ลิตร, เบนซิน 1.2 ลิตร และ ดีเซล 1.5 ลิตร มีแรงม้าระหว่าง 89 ถึง 118 แรงม้า เครื่องที่ประหยัดที่สุดคือเครื่องดีเซลที่มีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ 27.79 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 95 กรัมต่อกิโลเมตร ส่วนเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร เป็นเครื่องที่มีศักยภาพมากที่สุด สามารถเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 9.9 วินาที