Overview Of Car
การปรากฏตัวของรถยนต์แห่งอนาคตได้ก้าวหน้าขึ้นมาอีกระดับ Taycan คือ ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% แถมเป็นรุ่นแรกของปอร์เช่ DNA ความเป็นสปอร์ตสูง ปอร์เช่จับเจ้าชายกบใส่ถ่านสมรรถนะล้นเหลือ แบกม้า 625 ตัว ทะยานสู่ความเร็วสูงสุด 269 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยไฟฟ้าล้วน 100% มาพร้อมค่าตัว 9,900,000 บาท
Taycan คือยนตรกรรมสปอร์ตซาลูน 4 ประตูที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่งมอบสมรรถนะชั้นเลิศ พร้อมรองรับการใช้งานในทุกกิจกรรมของชีวิตประจำวัน โดยยังคงรักษาไว้ซึ่งกระบวนการผลิตคุณภาพสูง เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัยมากมาย ถูกเปิดตัวกับ 2 โมเดลแรกคือ Taycan Turbo S และ Taycan Turbo ผลผลิตจากนวัตกรรมพลังขับเคลื่อนสุดล้ำ Porsche E-Performance นี่คือรถสปอร์ตที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสายการผลิตปกติ
ซึ่งก่อนจะมาเป็นสปอร์ตไฟฟ้าสมรรถนะสูง ปอร์เช่ ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในการลงทุนด้วยเม็ดเงินก้อนใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์กว่า 6,000 ล้านยูโร สำหรับการสร้างสรรค์ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า งบประมาณราว 500 ล้านยูโรจะถูกนำไปใช้สำหรับโครงการพัฒนาปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) รวมถึงรุ่นอื่นๆ ภายใต้อนุกรมเดียวกัน และประมาณ 1,000 ล้านยูโร ที่จะถูกใช้เป็นงบประมาณ ในการเสริมศักยภาพด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและระบบไฮบริดในรถยนต์รุ่นปัจจุบัน
รวมถึงอีกหลายร้อยล้านยูโรสำหรับค่าใช้จ่ายในการขยายโรงงานผลิต ส่วน 700 ล้านยูโรจะถูกใช้เพื่อการค้นคว้านวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของระบบชาร์จ พลังงานรวมไปถึงระบบยานยนต์อัจฉริยะ
ไม่เพียงแค่เป็นสปอร์ตไฟฟ้าที่ทรงพลังเท่านั้นแต่ยังมีการแสดง DNA ที่ชัดเจนของปอร์เช่ ที่ ณ ขณะนี้กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในระดับโลก ด้วยความเป็นครั้งแรกของสปอร์ตไฟฟ้าจากค่ายปอร์เช่จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก นั่นหมายถึงทีม What Car ? Thailand ที่กำลังโดนเจ้าชายกบใส่ถ่านทำเสน่ห์ใส่เข้าให้เต็ม ๆ เราจึงตัดสินใจนำ Porsche Taycan Turbo โลดแล่นสู่ท้องถนนเพื่อทดสอบสมรรถนะความเป็นสปอร์ตไฟฟ้าสุดเท่คันนี้
สเปครถยนต์
Body Style: | สปอร์ตซาลูน |
---|---|
Description: | สปอร์ตซาลูนไฟฟ้า 4 ประตู |
Engine: | มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว |
Fuel Consumption: | na |
Fuel Type: | – |
Make: | Porsche |
Max Power: | 680 แรงม้า |
Max Torque: | 850 นิวตันเมตร |
Model: | Porsche Taycan Turbo |
Price Guide: | 9,900,000 บาท |
Release Date: | |
0-100 km/h: | 3.6 วินาที |
Transmission: | อัตโนมัติ 2 สปีด |
สมรรรถนะการขับขี่เกินต้านทาน
รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า 100% นี้ถูกเซ็ตมาให้ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All Wheel Drive ให้กำลัง 625 แรงม้า และสามารถทำการ Overboost ได้ถึง 680 แรงม้า 500 กิโลวัตต์ แรงบิด 850 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับ Launch Control ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 3.6 วินาที ภายใต้การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ให้ความเร็วสูงสุด 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและทำระยะทางได้กว่า 450 กิโลเมตร
จากเริ่มแรกกดคันเร่งออกตัวในโหมด Normal ได้อย่างนุ่มนวล ลัดซ้ายเลาะขวาได้อย่างกระฉับกระเฉง ถึงแม้เป็นโหมดธรรมดาที่เราเลือกใช้ลองในครั้งแรกก็ตามแต่มันกลับพิสูจน์ได้ว่า ต่อให้สมรรถนะสปอร์ตทั้งคันมันก็สามารถนำไปขับใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน
รถถูกขับเคลื่อนไปอย่างสุขุมจนเข้าใกล้เขตชานเมือง ถนนโปร่ง รถโล่ง ไม่รอช้าที่จะเหยียบคันเร่งจับระยะทางและเวลาตั้งแต่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระชากวิญญาณนักแข่งหลังเกือบติดเบาะทำเวลาได้ภายใน 3.83 วินาที ในโหมด Normal นี้มีการใช้ช่วงล่างแบบ Adaptive Air Suspension หรือถุงลมที่สามารถปรับระดับได้เพิ่มความมั่นใจและการขับขี่ที่ดีไม่แข็งกระด้าง
ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้ เราทะยานสู่เส้นทางถนนที่สุดจะโล่งด้วยโหมด Sport+ แน่นอนว่าเบาะติดหลังของจริงมันอยู่ตรงนี้ กดจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อมโหมด Launch Control ระบบช่วยออกตัวมอบความเร้าใจให้เราด้วยเวลา 3.44 วินาทีเท่านั้น แรงเกินคาด พุ่งเกินความเป็นไฟฟ้า
ซึ่งความโดดเด่นของ Porsche Taycan อยู่ตรงที่ปอร์เช่ ได้ออกแบบ Taycan มาเพื่อให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารสัมผัสได้ถึงความสนุกของพลังงานไฟฟ้าที่สามารถทำได้เทียบเท่ากับเครื่องยนต์สันดาปภายในรวมถึงเสียงคำรามที่จะพาเราสู่ยานอวกาศแบบไม่รู้ตัว
ช่วงล่างที่แสนจะเพอร์เฟกต์ถูกติดตั้งไว้กับรถสปอร์ตจากค่ายม้าลำพองนี้แล้ว ไม่ว่าเราจะเจอโค้งหนักแค่ไหน Taycan เก็บอยู่หมัดด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและมีการรักษาสมดุลป้องกันตัวถังเอียงขณะเข้าโค้งต่อให้ขมีน้ำหนักถึง 2.3 ตัน ผนวกกับพวงมาลัยที่เฉียบคม ควบคุมง่าย ระยะฟรีค่อนข้างน้อยให้ความแม่นยำทุกทิศทางการเลี้ยวถือเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างที่หายากมากในช่วงเวลานี้
ทุกคนอาจจะเข้าใจว่าเมื่อเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รถคันนั้นจะไม่มีระบบเกียร์เลยแต่กับ Porsche Taycan นี้ ติดตั้งระบบส่งกำลังแบบ two-speed transmission ในชุดขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์แรกรับหน้าที่สร้างอัตราเร่ง เกียร์ที่ 2 มีอัตราทดที่ยาวกว่าเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทำงานและรักษาพละกำลังสูงสุดให้ถ่ายทอดได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในการขับขี่ที่ความเร็วสูงก็ตาม
นวัตกรรมมอเตอร์ขับเคลื่อน
Taycan คือรถสปอร์ตรุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงขับเคลื่อนสูง 800 โวลต์ แทนที่ระบบทั่วไปซึ่งมีแรงขับเคลื่อนเพียง 400 โวลต์ ภายในระยะเวลาเพียง 5 นาที ระบบชาร์จพลังงานย้อนกลับ high-power charging network จะทำหน้าที่สะสมพลังงานให้แก่แบตเตอรี่ด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จนสามารถเดินทางได้เป็นระยะทางสูงสุดกว่า 100 กม. (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP) ใช้เวลาในการชาร์จพลังงานตั้งแต่ความจุแบตเตอรี่ 5 – 80% เพียง 22.5 นาที ภายใต้สภาพแวดล้อมปกติ และมีกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่ 270kW ประสิทธิภาพความจุโดยรวมของแบตเตอรี่อยู่ที่ 93.4 kWh นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถชาร์จพลังงานผ่านไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ขนาด 11kW ที่ใช้อยู่ในที่พักอาศัยทั่วไป
Taycan Turbo มีอัตราการใช้กำลังไฟฟ้าเฉลี่ย 26.0 kWh/100 กม. ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็น 0 เท่านั้น เราชอบตรงที่ต่อให้รถมันจะแรงแค่ไหนก็ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมและปอร์เช่ ได้ทำการเพิ่มโหมดการขับขี่ Range เข้ามาเพื่อให้ประหยัดแบตเตอรี่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากระยะทางที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอนั้นไม่เพียงพอต่อการขับขี่เพียงแค่ปรับเข้าสู่โหมด Range ตัวรถจะสามารถทำระยะทางได้ไกลมากกว่าเดิม
เราประทับใจอีกหนึ่งความแตกต่างของ Taycan กับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วไปคือ ปุ่ม Recuperation บนพวงมาลัยสปอร์ตมัลติฟังก์ชั่นด้านซ้าย สามารถเลือกเปิดหรือปิดฟังก์ชั่นนี้ได้ หรือเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า Porsche Rucuperation (PRM) เป็นการกักเก็บพลังงานที่เหลืออยู่จากการขับขี่ย้อนกลับเข้าสู่แบตเตอรี่นั่นเอง
ซึ่งปอร์เช่ เซ็ตมาโดยค่าเริ่มต้นจากการสตาร์ทรถเจ้า Recuperation จะถูกปิดอยู่เพราะความต้องการของปอร์เช่ ให้ Taycan มีคาแร็คเตอร์ในการขับขี่ที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมากที่สุด หากเปิดใช้ระบบนี้อัตราการเก็บไฟฟ้าก็ต่างออกไปอีกเช่นกัน สำหรับระบบนี้มันช่วยลดการหน่วงระหว่างการดึงพลังงานกลับสู่แบตเตอรี่ขณะขับขี่ ไม่กระชากจนหัวทิ่มแต่มันจะค่อย ๆ ดึงจนกว่าความเร็วของรถจะหยุดไปแบบผู้ดีมากที่สุด
น่าเสียดายตรงที่หากเจ้าของ Porsche Taycan ท่านใดไม่มี Wall Box และต้องเสียบชาร์จต่อกระแสไฟจากที่พักอาศัยสู่รถยนต์นั้นนทำได้ค่อนข้างช้ามาก ๆ อาจจะใช้เวลาถึง 1 วันในการชาร์จแบตให้ได้ 3.7 kWH ซึ่งขีดจำกัดของการชาร์จอยู่ที่ 11kW เพราะฉะนั้นระยะเวลาในการชาร์จจะอยู่ 9 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ภายนอกสะท้อนภาพ DNA ของ Porsche
มิติถัง 4 ประตูซีดานที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นตัวเองด้วยการออกแบบของปอร์เช่ไว้อย่างครบถ้วนตั้งแต่ภายนอกสู่ภายในให้เป็นยนตรกรรมแห่งความพรีเมียมที่แฝงความเร้าใจทุกการเดินทาง อาทิ ตราสัญลักษณ์ปอร์เช่ที่สะท้อนประกายสวยงาม หรือ glass-effect Porsche logo อุปกรณ์ที่รวมอยู่กับแผงไฟ light bar บริเวณท้ายรถ
ด้วยงานออกแบบที่เรียบหรูของ Taycan ถูกสื่อสารแก่ผู้พบเห็นอย่างตรงไปตรงมาในฐานะสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นยุคใหม่ของ Porsche ในขณะเดียวกัน รถสปอร์ตคันนี้ยังคงรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ในงานออกแบบตาม DNA ของ Porsche อย่างสมบูรณ์แบบ เริ่มต้นตั้งแต่มุมมองด้านหน้าที่กว้างและแบนราบ ขนาบด้วยซุ้มล้อที่โค้งมน ยกระดับรูปทรงโดยรวมให้ปราดเปรียว เฉียบคม ด้วยแนวหลังคาสไตล์ สปอร์ตที่เทลาดลงอย่างต่อเนื่องกลมกลืนจรดด้านท้าย
แนวตัวถังด้านข้างเปี่ยมไปด้วยบุคลิกเฉพาะตัว มุมมองจากห้องโดยสารที่ปลอดโปร่ง แนวโค้งของเสา C-pillar ที่วางตัวผสานกับซุ้มล้อหลัง เป็นหนึ่งเดียวกับสปอยเลอร์ ท้ายรถตอกย้ำถึงความกร้าว แกร่งทรงพลัง อันเป็นสมรรถนะติดตัวรถยนต์ปอร์เช่ทุกคัน เสริมความโดดเด่นด้วย นวัตกรรมล้ำสมัยรายรอบคัน อาทิ ตราสัญลักษณ์ปอร์เช่ ฉายสะท้อนบนกระจก หรือ glass-effect Porsche logo ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่รวมอยู่กับ light bar บริเวณท้ายรถ
และด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.22 รวมทั้งระบบอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมจากการออกแบบรูปทรงตัวถังที่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้คืออัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ประหยัดและเดินทางได้ไกลมากขึ้น
ห้องโดยสารเปี่ยมเอกลักษณ์
สำหรับภายในแสดงออกถึงบรรยากาศของยนตรกรรมล้ำอนาคต ปลอดโปร่งด้วยโครงสร้างและสถาปัตยกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางอุปกรณ์รายรอบ แผงหน้าปัทม์ทรงโค้งมนในตำแหน่งบนสุดของแผงคอนโซลหน้า ให้มุมมองที่ชัดเจนที่สุดจากสายตาของผู้ขับขี่
ทุกอย่างของ Porsche Taycan แทบจะสมบูรณ์แบบเสียอย่างเดียวก็ตรงคอนโซลกลางที่ติดตั้งหน้าจอระบบสาระบันเทิงขนาด 10.9 นิ้ว พร้อมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเป็น อุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม วางตัวต่อเนื่องกันด้วยแผ่นกระจกที่ให้สัมผัสสไตล์ black-panel
ทุกคนกำลังสงสัยใช่ไหมว่าแล้วมันไม่ดียังไง เราต้องขอบอกเลยว่า รถยนต์ที่มีปุ่มกดหรือปุ่มหมุ่นสำหรับเปลี่ยนเมนูหรืออะไรก็ตามถือเป็นอาหารมื้อเย็นที่มีอาหารครบ 5 หมู่มากที่สุด มันใช้งานง่ายกว่าระบบสัมผัสและยิ่งมาอยู่บน Porsche Taycan ยิ่งอยากกุมขมับอีกหนึ่งที ด้วยความที่ Porsche Taycan เป็นระบบสัมผัสหมดทั้งแผง มันเลยยากต่อการใช้งาน แม้กระทั่งการปรับทิศทางของแอร์ก็จะต้องผ่านขั้นตอนการสัมผัส ซึ่งถ้าไม่จอดรถหรือติดไฟแดงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้นแม้จะมีระบบความปลอดภัยแค่ไหนก็ตาม
ในข้อเสียย่อมมีข้อดีรองรับอยู่เสมอ Porsche นำเสนอมิติใหม่ของงานตกแต่งภายในที่ปราศจากการใช้วัสดุหนังเป็นครั้งแรก ชิ้นงานภายในประกอบด้วยนวัตกรรมวัสดุรีไซเคิล ชุดแบตเตอรี่ติดตั้งในบริเวณที่พักเท้าของห้องโดยสารตอนหลัง เบาะนั่งจะวางตัวในระดับต่ำตามลักษณะเฉพาะตัวของรถสปอร์ตพันธ์แท้ พื้นที่บรรทุกสัมภาระมีให้ใช้งาน 2 จุด โดยด้านหน้ามีความจุ 81 ลิตร และด้านท้ายมีความจุถึง 366 ลิตร
สรุปความน่าใช้
นี่คือ รถยนต์หรือกระสวยอวกาศ ? สปอร์ตซีดาน 4 ประตูนี้มอบความเร้าใจให้ทุกการขับขี่คือเรื่องจริง Porsche Taycan กลายเป็นสปอร์ตไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด การใช้งานที่หลากหลายแม้เป็นสปอร์ตแต่กลับมอบสมรรถนะและระบบช่วงล่างที่ทรงพลัง ไม่เพียงแค่มอบความสนุกสนานในการขับขี่แต่ Porsche Taycan ยังมาพร้อมความประหยัดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ที่สำคัญ Taycan ควรได้รับรางวัลสปอร์ตไฟฟ้าที่เงียบที่สุดทั้งภายนอกและภายใน
The Review
Porsche Taycan
ความคุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่น Porsche Taycan สปอร์ตเต็มแรงเหยียบด้วยไฟฟ้าล้วน 100% โดดเด่นด้านความแรงจากพลังงานแบตเตอรี่
PROS
- ตอบโจทย์คนรักความมันส์
- มี Recuperation สำหรับกักเก็บพลังงาน ที่มีการทำงานไม่เหมือนใคร
- การควบคุมของพวงมาลัยที่เฉีบลคม
- ระบบช่วงล่างทำงานดีเกินคาด
- ฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีรอบคัน
- เสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่ไม่รบกวนผู้อื่น
CONS
- การควบคุมต่าง ๆ ที่ต้องผ่านหน้าจอกลาง ค่อนข้างใช้งานยากขณะขับขี่
- ถ้าไม่มี Wall Box จะต้องชาร์จไฟจากที่พักอาศัย ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
Porsche Taycan DEALS
We collect information from many stores for best price available