ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย AAS Auto Service ขยายไลน์อัพสปอร์ตเอสยูวีรุ่นใหญ่ เปิดตัว Porsche Cayenne E-Hybrid อย่างเป็นทางการที่งาน Gaysorn Menllennial ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ เพิ่มทางเลือกสำหรับคนหัวใจสปอร์ตแต่ยังขับขี่ปกติทั่วไปได้อย่างประหยัด
Cayenne E-Hybrid คือหนึ่งในผลงานอันเป็นตัวแทนที่แสดงออกถึงทิศทางการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคตของปอร์เช่ ใต้ฝากระโปรงประจำการด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร เทอร์โบ 340 แรงม้า เสริมพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 136 แรงม้า เมื่อรวมทั้ง 2 ระบบ ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 462 แรงม้า ที่ 5,250-6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,000-3,750 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-wheel Drive
สมรรถนะของ Cayenne E-Hybrid ร้อนแรงไม่ต่างจากรถสปอร์ต 911 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 5 วินาที 0 – 200 กม./ชม. ใน 19.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 253 กม./ชม. เรื่องความแรงไม่มีข้อกังขาแต่เรื่องความประหยัดของรถรุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน อัตราสินเปลืองเฉลี่ย 29.4 – 31.2 กม./ชม. หรือ 3.4-3.2 ลิตร/100 กม. แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 78-72 กรัม/กม.
Cayenne E-Hybrid สามารถเดินทางได้ 44 กม. และทำความเร็วได้ถึง 135 กม./ชม. เมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.9 – 20.6 kWh ต่อระยะทาง 100 กม.
ชุดแต่ง Sport Chrono Package ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นั่นหมายความว่าแรงบิดสูงสุดจะพร้อมตอบสนองต่อการบังคับควบคุมทุกครั้งที่สัมผัสคันเร่ง โหมด Sport และ Sport Plus เน้นการดึงสมรรถนะตัวรถออกมาจนถึงขีดสุด พลังงานจากแบตเตอรี่ทั้งหมดจะได้รับการนำมาใช้เพื่อสร้างอัตราเร่ง โหมด Sport การชาร์จแบตเตอรี่จะเกิดขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการเสริมพละกำลัง ส่วนโหมด Sport Plus แบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โหมดการขับขี่อื่นๆ นั้นเหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด
แบตเตอรี่ของ Cayenne E-Hybrid มีความจุ 14.1 kWh มีระบบระบายความร้อนแบบ fluid-cooled สามารถชาร์จจนเต็มความจุได้ใน 7.8 ชั่วโมง ด้วยแรงดันไฟฟ้า 230V ผ่านสายต่อขนาดกระแส 10A ในกรณีที่ใช้อุปกรณ์พิเศษ on-board charger 7.2 kW ด้วยไฟฟ้าแรงดัน 230V ผ่านสายต่อขนาดกระแส 32A แทนที่ระบบชาร์จมาตรฐานแบบ 3.6 kW แบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จพลังงานจนเต็มความจุภายในระยะเวลาเพียง 2.3 ชั่วโมงเท่านั้น
Cayenne E-Hybrid มอบความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยระบบ Porsche Traction Management (PTM) ส่งผลใหเครื่องยนต์มีการกระจายแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนอย่างเหมาะสม รองรับทั้งการขับขี่สไตล์สปอร์ตความเร็วสูงที่ต้องการเสถียรภาพในการทรงตัว หรือแม้แต่ในยามบุกตะลุยไปบนเส้นออฟโรด
ระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Active Suspension Management (PASM) ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้สามารถเลือกสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษอีกหลากหลายรายการ อาทิ ระบบ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ระบบ roll stabilisation และระบบลากจูงที่รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 3.5 ตัน
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Cayenne E-Hybrid มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเฉกเช่นกับ Cayenne S ล้ออัลลอย 19 นิ้วถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน รองรับได้สูงสุดถึง 22 นิ้ว มาพร้อมคาลิเปอร์เบรกสีเหลืองมะนาวสุดโดดเด่น มิติตัวรถยาว 4,918 มม. กว้าง 2,194 มม. สูง 1,696 มม. ความยาวฐานล้อ 2895 มม. น้ำหนักรถรวมของเหลว 3,030 กิโลกรัม
ภายในจัดเต็มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบช่วยเหลือการขับขี่หลากหลายรายการ อาทิ หน้าจอ head-up display แสดงข้อมูลด้านหน้าผู้ขับขี่, ระบบดิจิทัลช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Porsche InnoDrive, ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ, เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบนวดไฟฟ้า, ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า, ระบบทำความร้อนภายในห้องโดยสารแยกตำแหน่งอิสระควบคุมด้วยรีโมท
Cayenne E-Hybrid ยังมาพร้อมระบบ Porsche Communication Management (PCM) เป็นมาตรฐาน โดดเด่นด้วยฟังก์ชันสั่งการระบบปรับอากาศ ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ครบวงจร นอกจากนี้ยังรองรับการค้นหาสถานีชาร์จพลังงาน รวมทั้งบันทึกตำแหน่งที่ตั้งของสถานีลงในระบบนำทาง
Porsche Cayenne E-Hybrid มาในราคาค่าตัว 7,500,000 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมปอร์เช่ทั้ง 3 แห่ง Porsche Centre Bangkok โทร. 02-522-6655, Porsche Centre Pattanakarn โทร. 02-369-1111 และ Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911 หรือ www.facebook.com/porsche.thailand.AAS/
Gallery