Porsche 911 Carrera 2018 ดรีมคาร์รุ่นเริ่มต้น ความสปอร์ตที่อร่อยกำลังดี

Overview Of Car

สปอร์ตรุ่นเริ่มต้นกับความสามารถที่ไม่ธรรมดา เครื่องยนต์ 370 แรงม้าจับคู่เกียร์ PDK 7 สปีด มอบสมรรถนะที่ดีงามพร้อมกับสนุกสนานในการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง นี่ไม่ใช่เพียงแค่รถในฝัน แต่ยังเป็นของขวัญล้ำค่าของคนที่หลงใหลในแบรนด์ Porsche ราคา 11,600,000 บาท

911 คือรถสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ Porsche ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนานกว่า 50 ปี มันจึงเป็นดั่งไอคอนของวงการรถสปอร์ตโลก รูปลักษณ์ที่สง่างามพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมเป็นสิ่งที่มัดใจผู้คนที่หลงใหลรถที่ได้ฉายาว่า “เจ้าชายกบ” ทั่วโลก

                Carrera คือหนึ่งในตระกูลย่อยของ 911 มันเป็นรถสปอร์ตรุ่นเริ่มต้นที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะและความสะดวกสบาย ขับขี่ง่าย ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ปัจจุบันตระกูล Carrera ประกอบด้วย Carrera, Carrera S, Carrera 4 และ Carrera 4S มีทั้งตัวถังคูเป้ 2 ประตู และเปิดประทุน

               และวันนี้เราก็อยู่กับ 911 Carrera สีเงินเรียบหรูที่ เอเอเอสฯ ยินดีส่งมาให้เราได้ทำความรู้จัก ทันทีที่สบตาเหมือนกับว่ามันมีแรงดึงดูดพิเศษบางอย่างแบบบอกไม่ถูก ด้วยความที่เป็นสีเงิน ถ้าหากอยู่บนบอดี้ของรถรุ่นอื่นอาจจะชวนให้น่าเบื่อ ไร้ซึ่งสีสัน ไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แต่กับ 911 Carrera ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเพียงแค่จอดนิ่ง รอยยิ้มเล็กๆ ก็เริ่มเกิดขึ้นที่มุมปาก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูกันดีกว่าว่าเจ้าชายกบราคา 11.6 ล้านบาทคันนี้มีดีอย่างไรบ้าง

สเปครถยนต์

โดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น

               ว่าด้วยเรื่องของดีไซน์ 911 เป็นรถคูเป้หลังคาลาดเทไปด้านหลัง รูปลักษณ์แบบนี้ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษตั้งแต่ในช่วงยุค 70 เป็นดีไซน์ที่เซ็กซี่และเย้ายวนใจผู้คนทั่วโลก เรียกได้ว่า 911 เป็นรถที่คงเอกลักษณ์ของดีไซน์ดั้งเดิมไว้ร่วมกับปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างลงตัวและไม่เชย

               911 Carrera ของเราโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED Projector ล้อมรอบด้วยไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ 4 ดวง มีเทคโนโลยีไฟหน้า Porsche Dynamic Light System Plus สามารถปรับองศาการส่องสว่างได้ตามการหมุนพวงมาลัย รวมถึงเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ และควบคุมลำแสงไม่ให้เข้าตาเพื่อนร่วมทางที่ขับรถสวนมาในเวลากลางคืน

               กันชนหน้าเป็นช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ใต้ฝากระโปรงหน้าไม่มีเครื่องยนต์เพราะมันอยู่ท้ายรถแต่มีเป็นที่เก็บของขนาด 145 ลิตร สำหรับเดินทางระยะใกล้

               ด้านท้ายโดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ทันสมัย ไฟเบรกแบบ 4 ดวง สปอยเลอร์แบบแอคทีฟสั่งเปิด-ปิดได้ และท่อไอเสียคู่ออกตรงกลางแบบ Sports Exhaust ที่ปรับความดังของเสียงได้ 2 ระดับ สุ้มเสียงโหดดุดันพอสมควร รถที่เราทดสอบมาพร้อมล้ออัลลอยลายมาตรฐานขนาด 20 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero ขนาด 245/35 ZR20 ที่ด้านหน้า และ 305/30 ZR20 ที่ด้านหลัง

เรื่องราวของภายใน

               ภายในห้องโดยสารของ 911 Carrera ให้อารมณ์สปอร์ต ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มตัดกับชิ้นส่วนอะลูมิเนียม งานประกอบต่างๆ ละเอียด เนี๊ยบ และแน่นหนา เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ตให้ความกระชับเวลานั่ง ที่สำคัญปรับไฟฟ้าได้ 14 ทิศทางพร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่งทั้งเบาะคนขับและผู้โดยสาร

               พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน GT-Sport ให้อารมณ์ร่วมต่อการขับขี่อย่างมาก ดีไซน์ของมันชวนให้สัมผัส ก้านพวงมาลัยหนาจับแล้วกระชับถนัดมือ มีร่องนิ้วสำหรับเพิ่มความมั่นคงในความเร็วสูง มีปุ่มมัลติฟังก์ชันสำหรับควบคุมเครื่องเสียง แพดเดิลชิฟท์ และปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ซึ่งใช้งานสะดวกมากเพียงแค่บิด

               จุดที่เราชอบคือหน้าปัดอนาล็อกผสมดิจิตอลวงกลม 5 วง มันให้อารมณ์ดิบแบบรถสปอร์ตดั้งเดิมจริงๆ ชุดหน้าปัดบอกข้อมูลการขับขี่ครบทั้งวัดรอบ ความเร็ว อุณหภูมิน้ำกับน้ำมันเครื่อง ความร้อน ตำแหน่งเกียร์ รวมถึงมีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ที่บอกสถานะต่างๆ ของรถ แรง G ความดันลมยาง รวมทั้งแผนที่นำทาง

               911 Carrera ของเรามีระบบสาระบันเทิง Porsche Communication Managemant แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ฟังก์ชันเด็ดๆ ได้แก่ระบบแผนที่นำทางที่ใช้งานง่าย ฟังก์ชันค้นหาเส้นทางแบบออนไลน์ รองรับการสั่งการด้วยเสียง และรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay จากการใช้งานพบว่าระบบตอบสนองได้รวดเร็ว หน้าตาเมนูอาจดูไม่มีสีสันเท่าไรแต่ใช้งานง่าย

               ระบบเครื่องเสียงเป็นของ BOSE อย่างไรก็ตามเรามองว่าหน้าจอนี้อยู่ต่ำไปหน่อย การใช้งานหรือการมองขณะขับขี่ต้องละสายตาจากถนนค่อนข้างมาก ขณะที่แผงควบคุมใต้หน้าจอและเครื่องปรับอากาศก็อาจสร้างความสับสนได้เพราะมีปุ่มเยอะและวางติดๆ กัน การกดใช้งานบางครั้งอาจติดคันเกียร์

               เมื่อเปิดประตูเข้ามานั่งพบว่าเบาะจะค่อนข้างต่ำตามสไตล์รถสปอร์ต คอนโซลกลางสูง คันเกียร์อยู่ใกล้มือ พวงมาลัยและแดชบอร์ดหน้าอยู่สูง ลองปรับตำแหน่งเบาะจนเข้าที่พบว่าทัศนวิสัยรอบคันดี(เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตด้วยกัน) พื้นที่ด้านหน้ามีเพียงพอ คนตัวสูงนั่งได้ศีรษะไม่ติดเพดานและไม่รู้สึกอึดอัดมากนัก ด้านหลังมีเบาะนั่งได้ 2 คนแต่มันเหมาะสำหรับวางของมากกว่า

               ด้วยความเป็นรถสปอร์ตที่มีความเตี้ยเรี่ยดิน เมื่อเทียบกับรถบ้านทั่วไปแล้วการเข้า-ออกรถจะค่อนข้างลำบากกว่า ต้องก้มหัวย่อตัวสอดเข้าไปนั่ง ถ้าเป็นคนขนาดตัวปกติก็จะเข้า-ออกได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ถ้าเป็นคนตัวใหญ่อาจจะทุลักทุเลหน่อย

ขุมพลัง Turbo รุ่นใหม่

               911 Carrera พร้อมระเบิดพลังความแรงด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน BOXER 3.0 ลิตร DOHC 24 วาล์ว จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดตรงสู่ห้องเผาไหม้ DFI พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VarioCam Plus อัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ ใหกำลังสูงสุด 370 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,700-5,000 รอบต่อนาที

               รถที่เราทดสอบมาพร้อมกับระบบส่งกำลังอัตโนมัติ PDK 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 293 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.51 กม./ลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ 169 กรัม/กิโลเมตร

               แพ็คเสริม Sport Chrono Package ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน มาพร้อมกับสวิตช์ปรับโหมดการขับขี่บนพวงมาลัย มีให้เลือก 4 โหมด ประกอบด้วย Normal Sport Sport Plus และ Individual นอกจากนี้ยังมีโหมด Sport Response เครื่องยนต์และเกียร์จะตอบสนองเร็วขึ้น หากกดปุ่มนี้จะทำให้ระบบขับเคลื่อนเร่งเครื่องยนต์ได้มากสุด 20 วินาที หรือเปรียบเหมือนเป็นการเรียกพลังเสริมสำหรับออกตัวในการแข่งขันทางตรง หรือการเร่งแซง

               ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ ติดตั้งระบบ PASM ระบบนี้จะทำงานด้วยการตรวจจับอาการของตัวรถทั้งแรงเหวี่ยงออกด้านข้าง องศาของพวงมาลัย แรงดันของเบรก แรงบิดเครื่องยนต์และความเร็วที่ใช้อยู่ จากเซ็นเซอร์รอบคันรถ มาประมวลผลที่สมองกลของระบบในเสี้ยววินาที เพื่อปรับความหนืดของโช้คอัพให้เหมาะสมกับการขับขี่ในตอนนั้นและยังสามารถเลือกปรับโหมดสปอร์ตได้จากสวิตช์ควบคุมที่อยู่หลังคันเกียร์ นอกจากนี้ยังช่วยลดความสูงของรถลง 10 มม. เพื่อช่วยให้รถมีเสถียรภาพขณะเข้าโค้งความเร็วสูงมากขึ้น

การขับขี่

               หากเปรียบเป็นคน 911 Carrera น่าจะเป็นคนที่นิสัยภายนอกสุภาพเรียบร้อยแต่เบื้องลึกภายในมีความดิบห้าวแฝงอยู่ เริ่มต้นเราลองขับด้วยโหมด Normal กับการจราจรในเมือง เรื่องยนต์ตอบสนองได้นุ่มนวลดี แต่ฟีลรถสปอร์ตยังไงมันก็คือรถสปอร์ต ทันทีที่กดคันเร่งพลังของรถจะอุบัติขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับดึงให้หลังติดเบาะในทันที ความปราดเปรียว ความกระฉับกระเฉง ทำให้การขับในเมืองไม่น่าเบื่อเลย บวกกับสุ้มเสียงจากท่อที่ดังพอไพเราะ ไม่ลั่นเกินจนไปเตะหูเจ้าหน้าที่

               เกียร์ PDK ส่งต่อกำลังได้อย่างราบรื่นนุ่มนวลแม้จะไม่เรียบสนิทแบบ CVT แต่เรามองว่าให้มันมีจังหวะเล็กๆ เร้าอารมณ์แบบนี้ดีกว่าราบเรียบจืดชืดจนอยากจะหลับ อย่าลืมว่านี่มันสปอร์ต 370 แรงม้า จะให้มันเรียบร้อยดุจซาลูนหรูก็คงไม่ใช่ทาง

               เช่นเดียวกับเกียร์ PDK ช่วงล่างของรถสปอร์ตยังไงก็ไม่นุ่มสบายเท่าซาลูนหรู เราพบว่ารถสามารถป้องกันแรงสะเทือนจากถนนได้ดีในระดับนึงแต่ก็ยังรับรู้ได้ถึงทุกสัมผัสของผิวถนน ยิ่งเป็นผิวคอนกรีตจะยิ่งชัดกว่ายางมะตอย ความแข็ง ความกระด้าง มีให้เห็นแน่นอน แต่เป็นความกระด้างที่พอรับได้

               เรามุ่งหน้าสู่ถนนนอกเมืองที่สามารถทำความเร็วได้แล้วเปลี่ยนเป็นโหมด Sport สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือเครื่องยนต์และเกียร์ตอบสนองเร็วขึ้น รอบมาไวขึ้น เหยียบติดเท้าขึ้น พุ่งขึ้น ดึงหนักกว่าเดิมเล็กน้อย เสียงท่อกลับมาลั่นเป็นปกติ (สามารถปรับให้เบาได้)

               เกียร์ PDK มาพร้อมกับโหมดแมนวลให้คุณสับเกียร์ได้เองตามต้องการ หรือจะตะปบแป้นแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัยก็ได้ โหมดแมนวลนี้หากขับในเมืองเราแนะนำว่าอย่าไปปวดหัวกับมันเลยดีกว่า แต่ถ้าขับนอกเมืองแล้วเจอระยะทางที่พอให้ลองเล่นได้ คุณจะพบกับความดุที่แท้จริงของเกียร์คลัตช์คู่ที่น่าคบที่สุดในโลกลูกหนึ่ง

               ช่วงล่างในโหมดสปอร์ตความนุ่มสบายจะลดลงแล้วแทนที่ด้วยความหนึบแน่น ขับความเร็วสูงนิ่งสนิทดุจติดกาวไว้กับพื้นถนน ไม่มีอาการโคลงเคลงให้หวาดเสียว เข้าโค้งแทบไม่มีอาการโยนให้ ล้อขนาดใหญ่ 20 นิ้วทำให้เวลาเจอรอยปะหรือรอยต่อถนนจะส่งเสียงตึงตังมากหน่อย

               พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้ามีความนิ่ง คุมง่าย ระยะฟรีน้อย น้ำหนักพวงมาลัยสัมพันธ์กับความเร็ว ทำให้การบังคับควบคุมบนความเร็วสูงให้ความมั่นใจได้เป็นอย่างดี การเปลี่ยนเลนทำได้รวดเร็ว ขณะที่การเข้าโค้งก็ยังแม่นยำและไว้ใจได้

               ระบบเบรกให้การตอบสนองที่ดี เบรกหนักตามสไตล์รถสปอร์ต ระยะฟรีของแป้นเบรกมีน้อยทำให้เหยียบปุ๊ปรถก็เริ่มหน่วงในทันที คุณจึงสามารถกะระยะและน้ำหนักการเบรกได้ดั่งใจ ไม่มีอาการหัวคะมำแน่นอน เบรกแบบนี้แหละที่นักขับมีอาชีพต้องการ

               แน่นอนว่ารถสปอร์ตกับการป้องกันเสียงรบกวนเป็นสิ่งตรงกันข้าม แต่ 911 Carrera ก็ทำได้ดีในการขับขี่ในเมืองไม่เกิน 90 กม./ชม. หลังจากนั้นแล้วยางสปอร์ตหน้ากว้าง 305 จะแผดเสียงเตือนสติเราอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เสียงลมก็จะเริ่มดังขึ้นมาตามความเร็วที่ใช้พร้อมกับเสียงท่อที่ตอกย้ำอารมณ์อยู่ด้านท้ายรถ

               อย่าไรก็ตามเราไม่ได้ลองในโหมด Sport Plus และโหมด Sport Response ซึ่งโดยทั่วไปแล้วทั้ง 2 โหมดนี้แทบไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันเพราะมันเหมาะกับขับในสนามแข่งมากกว่า และการเปิดใช้งานสมรรถนะสูงสุดของรถก็ทำให้มันกินจุเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

สรุปความน่าใช้

               911 Carrera เป็นรถสปอร์ตที่สามารถขับขี่ใช้งานได้ในทุกวัน มันขับง่าย ขับในเมืองไม่เหนื่อย เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบในรูปลักษณ์และจิตวิญญาณของ Porsche ต้องการความสะดวกสบายในระดับนึง ไม่ใช่รถซิ่งในสนามที่หาความสบายไม่ได้เลย ในขณะเดียวกันก็ยังมอบสมรรถนะและคาแร็กเตอร์การขับขี่แบบสปอร์ตได้เมื่อต้องการ นี่เป็นรถรุ่นเริ่มต้นที่แรงน้อยที่สุดในตระกูล 911 แต่เรามองว่าความสนุกสนานที่ได้รับนั้นไม่น้อยเลย

               เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ระบบกันสะเทือน พวงมาลัย เบรก ทุกอย่างตอบโจทย์คนรักความเร็วหมด มันให้อารมณ์สปอร์ตได้ตามอุดมคติ และไม่มีอะไรให้ต้องกังขาในด้านประสิทธิภาพการขับขี่ ระบบ ParkAssist ที่มาพร้อมกล้องมองหลังมีมาให้เป็นมาตรฐาน ติดอยู่นิดเดียวคืออุปกรณ์มาตรฐานอย่างครูสคอนโทรลกลับไม่มีให้มาให้ (เป็นออปชันเสริมต้องซื้อเพิ่ม)             

               ถ้าคุณต้องการความมันส์และความเร้าใจที่มากกว่านี้ 911 Carrera S ที่มาพร้อมพละกำลัง 420 แรงม้า แรงบิด 500 นิ้วตันเมตร เป็นอีกตัวเลือกที่น่าจะสร้างความบันเทิงให้กับคุณได้ แถมยังมีระบบ Active Rear-Axle Steering ให้เลือกติดตั้งเพิ่มเข้าไป การขับความเร็วสูงจะมีเสถียรภาพมากขึ้น การขับในเมืองก็จะคล้องตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม 911 Carrera คันนี้สามารถเพื่อนเดินทางที่สื่อสัตย์ได้ และมันก็พร้อมจะมอบความสุขให้กับคุณในทุกๆ วันของชีวิต