รถยนต์ประเภทเอสยูวีสำหรับครอบครัวมาในเจเนอเรชั่นใหม่พร้อมขุมพลังไฮบริดและภายในสุดไฮเทคเตรียมลงแข่งชนคู่ต่อสู้อย่าง Audi Q3 และ Volvo XC40
แม้ว่า Nissan Qashqai จะไม่ใช่เอสยูวีครอบครัวรุ่นแรกของตลาดแต่มันก็เป็นรถรุ่นแรกที่บ่งบอกว่าเอสยูวีไม่จำเป็นต้องแกร่ง ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีคุณสมบัติออฟโรด และมีค่าใช้จ่ายต่อการใช้งานที่สูงและตอนนี้นิสสันใส่เกียร์เดินหน้าในการเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมอีกครั้งกับการเตรียมเปิดตัว All-New Qashqai ในปีหน้า Qashqai นี้ถูกผลิตที่โรงงานนิสสันในเมืองซันเดอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ
Qashqai พร้อมแล้วที่จะเผชิญคู่ต่อสู้อย่าง Seat Ateca และ Skoda Karoq ไปจนถึง Audi Q3 และ Volvo XC40 มันมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ก้าวร้าวดุดันด้วยแรงบันดาลใจจากรถต้นแบบ IMq แถมยังมีภายในสุดไฮเทคและขุมพลังไฮบริดที่ยอดเยี่ยม
ขุมพลัง
IMq โดดเด่นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในแต่ละเพลาคอยสร้างกำลัง 335 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตรลงสู่ล้อ แทนที่จะใช้การเสียบปลั๊กแต่มันกลับใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กความจุ 1.5 ลิตร ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าป้อนเข้าสู่แบตเตอรี่ที่สำคัญคือ เครื่องยนต์นี้ไม่ข้องเกี่ยวกับการขับเคลื่อนล้อรถเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งนิสสันเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า e-POWER
นอกจากจะมีไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดหลายเวอร์ชั่นใน Qashqai ใหม่แล้ว นิสสันก็ยังไม่ทิ้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลแบบดั้งเดิมออกไป ส่วนเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนจะตามออกมาภายหลัง
โฉมใหม่หน้าตาล้ำ
ในขณะที่งานออกแบบสุดล้ำของ IMq ถูกลดทอนลงในเวอร์ชั่นผลิตจริง นิสสันได้แสดงให้เห็นว่า JUKE ใหม่ถูกเติมเต็มความดุดันเข้าไปได้อย่างไร ในเบื้องต้นไฟหน้า LED ทรงเรียวบางและกระจังหน้าขนาดใหญ่น่าจะเป็นส่วนประกอบหลักของ Qashqai ใหม่ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อาทิ กล้องข้างรถก็จะกลายเป็นกระจกมองข้างปกติแต่อาจจะยังมีไว้เป็นอุปกรณ์ในรุ่นสเปกสูง
ภายในสุดสบาย
ภายในคาดว่าน่าจะได้เห็นการปรับปรุงด้านคุณภาพวัสดุรวมถึงจอมาตรวัดดิจิตอลแทนที่มาตรวัดแบบเข็มอนาล็อกเดิมและอย่างน้อยต้องมีหน้าจอสัมผัสกลางแดชบอร์ด นิสสันกำลังเดินตามรถยนต์แบรนด์พรีเมียมอย่าง Audi และ Land Rover ในการเอาเครื่องปรับอากาศมาอยู่ในหน้าจอระบบสาระบันเทิง นอกจากนี้คาดว่าจะได้เห็นซอฟต์แวร์ระบบสาระบันเทิงของในเวอร์ชั่นใหม่ซึ่ง Qashqai ตัวปัจจุบันสอบตกในด้านนี้ทั้งฟีเจอร์การใช้งานและกราฟฟิก
Qashqai ใหม่ยังถูกออกแบบให้กว้างกว่ารุ่นปัจจุบันด้วยพื้นที่ช่วงศรีษะและช่วงขาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มขนาดห้องเก็บสัมภาระ นั่นเป็นข่าวดีเพราะปัจจุบันพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งส่วนใหญ่
เราคาดว่าน่าจะมีค่าตัวเริ่มที่ 23,000 ปอนด์ ราว 1.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 20,195 ปอนด์ ราว 1 ล้านบาท แม้ว่าราคามันจะแพงกว่าคู่แข่งบางรุ่นแต่จะสมเหตุสมผลทันทีเมื่อซื้อแบบ PCP