Nissan Kicks คอมแพ็คครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุดเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย นี่คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% แต่ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ นับเป็นเทคโนโลยีขับเคลื่อนใหม่ที่น่าสนใจมาก พร้อมด้วยรูปลักษณ์และฟีเจอร์เด่นๆ รวมถึงราคาที่เย้ายวนใจ
ราคาและรุ่นย่อย
- รุ่น S 889,000 บาท
- รุ่น E 949,000 บาท
- รุ่น V 999,000 บาท
- รุ่น VL 1,049,000 บาท
Nissan Kicks เปิดตัวมาพร้อมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนแบบใหม่ที่ชื่อว่า e-POWER จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือรถยนต์จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยมีเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กคอยทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับทั้งระบบ พูดง่ายๆ คือ Kicks เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% มีคุณสมบัติต่างๆ แบบรถยนต์ไฟฟ้า แต่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน และเติมน้ำมันเบนซิน
e-POWER พลังที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ
e-POWER คือเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กมาสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับทั้งระบบ เทคโนโลยีนี้ประกอบด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) อินเวอร์เตอร์ (Inverter) มอเตอร์ไฟฟ้า (electric motor) และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion battery) จุดแตกต่างจากระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดทั่วไปคือเครื่องยนต์สันดาปภายในไม่ได้ถูกเชื่อมต่อกับล้อ แต่ทำหน้าที่ให้กำเนิดพลังงานไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์ ล้อจะได้รับพลังงานขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ทำให้เทคโนโลยีนี้ไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟจากภายนอกอีกต่อไป
เทคโนโลยี e-POWER ของ Nissan Kicks ใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส HR12DE 3 สูบเรียง 12 วาล์ว DOHC ขนาด 1.2 ลิตร รับหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องยนต์ขนาดเล็กนี้ผลิตกำลังได้ 79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 103 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบต่อนาที ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ EM57 สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ 129 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 – 8,992 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 500 – 3,00 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 1 สปีด แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) มีจำนวน 4 โมดูล
e-POWER ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ One-Pedal ที่ผู้ขับขี่สามารถเร่ง, ลดความเร็วลง, และหยุดรถ โดยใช้เพียงคันเร่งอย่างเดียว (คล้ายกับ e-Pedal ของ Leaf) และยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 แบบ คือ Normal, S, Eco และ EV ซึ่งโหมด Normal จะให้อัตราเร่งและการหยุดรถที่ดีเยี่ยม (โดยการปล่อยเท้าออกจากคันเร่ง) เทียบเท่ากับการหยุดของรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไป โหมด S หรือ Smart Mode รถจะเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งความเร็วและการหยุดรถได้ดีมากยิ่งขึ้น โหมด Eco รถจะปรับการขับเคลื่อนเพื่อการประหยัดน้ำมัน เน้นใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โหมด EV รถปรับให้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งแบตเตอรีอยู่ในระดับต่ำ
การออกแบบที่โดดเด่น
Nissan Kicks ใหม่มีการออกแบบที่ผสมผสานเส้นสายของอารมณ์เข้ากับการใช้งานจริงได้อย่างลงตัว รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบใหม่ให้ปราดเปรียวกว้างและยาวขึ้นภายใต้ปรัชญาในการสร้างสรรค์รถยนต์แบบ “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะ อาทิ กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายแบบบูมเมอแรง หลังคาแบบลอยตัว พร้อมที่บังแดดจากกระจกหน้าไปถึงกระจกข้าง เสาหลังคาท้ายถูกซ่อนพรางสายตาด้วยสีดำที่ผสมผสานเข้ากับกระจกประตูท้าย ในขณะที่หลังคาแบบลอยตัวที่ถูกขยายออกทำให้ดูโดดเด่นสะดุดทุกสายตา
ไฟหน้าแบบ LED มาพร้อมไฟเลี้ยวแบบบูมเมอแรง LED Signature Light และไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ แบบ LED นอกจากนี้ยังมีระบบ Follow-me-home ส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์
ขนาดตัวถังยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,615 มม. น้ำหนัก 1,350 กก. (รุ่น VL) ความจุถังน้ำมัน 41 ลิตร ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว หุ้มยาง 205/55 R17 กันสะเทือนหน้าแแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง กันสะเทือนหลังแบบทอร์ชันบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยระบบเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า รัศมีวงเลี้ยว 5.1 เมตร ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ
ภายในของ Nissan Kicks ออกแบบแดชบอร์ดด้วยลายเส้นของแนวปีกเครื่องร่อนหรือ Gliding Wing ที่เรียบง่ายและทันสมัย รุ่น VL ทูมาในสีทูโทน ดำ/ส้ม โดดเด่นด้วยหน้าปัดดิจิตอล TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงสปอร์ตฐานตัด และเบาะนั่งที่มีขนาดใหญ่
กลางแดชบอร์ดเป็นหน้าจอสีระบบสัมผัสแบบ AIVI ขนาด 8 นิ้วพร้อมระบบสาระบันเทิง Nissan Connect พร้อมการเชื่อมต่อ AM / FM / Bluetooth / USB / AUX-in รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และมีลำโพงคุณภาพสูง 6 ตำแหน่ง
ออปชั่นอื่นๆ ได้แก่ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Intelligent Key – I-Key), ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button), กุญแจระบบ Immobilizer, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ, กระจกไฟฟ้ารอบคันพร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Anti-jam Protection) ด้านคนขับ, ที่วางแก้วตอนหน้า 2 ตำแหน่ง, ช่องวางขวดน้ำบริเวณแผงประตูหน้าและหลัง 4 ตำแหน่ง กล่องเก็บของด้านหน้า, ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า, ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร, ไฟห้องสัมภาระด้านท้าย, ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง และระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา
ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม
Nissan Kicks มาพร้อม 14 เทคโนโลยีจาก Nissan Intelligent Mobility ประกอบด้วย
- เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control)
- เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning)
- เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking)
- เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning system)
- เทคโนโลยีเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection)
- เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror)
- เทคโนโลยีช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานที่ครบครัน ประกอบด้วย
- เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC)
- เทคโนโลยีช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Intelligent Ride Control – IRC)
- เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Intelligent Trace Control – ITC)
- 6 ถุงลมนิรภัย SRS
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ(Pretensioner and Load Limiter Seatbelts)
- ระบบเบรก ABS, EBD และ BA
Nissan Kicks มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีดำ Black Star, สีขาว Storm White, สีแดง Radiant Red, สีเทา Gun Metallic, สีเงิน Brilliant Silver และสีส้ม Monarch Orange นอกจากนี้ยังนำเสนอสีทูโทนมอบความรู้สึกหรูหรามากขึ้นด้วยหลังคาสีดำซึ่งมีให้เลือกเฉพาะในรุ่น VL สำหรับ 4 สีภายนอก คือ สีส้ม Monarch Orange, สีแดง Radiant Red, สีเทา Gun Metallic และสีขาว Storm White
Nissan Kicks ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันแบตเตอรี่เป็นเวลา 10 ปี รับประกันระบบไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี และการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน เปิดจองแล้ววันนี้ กำหนดเริ่มส่งมอบรถในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nissan.co.th หรือ www.facebook.com/NissanThailand/
Gallery