Overview Of Car
ภายใต้รถยนต์ขนาดเล็กฝังคุณสมบัติเจ๋ง ๆ ไว้มากมาย ซูซูกิ ดึงความโดดเด่นของสปอร์ตที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันออกมาได้เป็นอย่างดี
สเปครถยนต์
Body Style: | Hatchback |
---|---|
Description: | แฮทช์แบ็กขนาดเล็ก |
Engine: | เบนซิน 4 สูบ 1.2 ลิตร |
Fuel Consumption: | 19.0 กม./ลิตร |
Fuel Type: | เบนซิน |
Make: | SUZUKI |
Max Power: | 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที |
Max Torque: | 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที |
Model: | New Suzuki Swift GL |
Price Guide: | 557,000 บาท |
Release Date: | 10 มีนาคม 2564 |
0-100 km/h: | 12.9 |
Transmission: | อัตโนมัติ CVT |
แฮทช์แบ็กอีโคคาร์ร่างเล็กรุ่นไมเนอร์เชนจ์พระเอกสุดหล่อจากค่ายใหญ่ ซูซูกิ ปรับนิดเปลี่ยนหน่อยเพิ่มออปชั่นภายในและมอบการขับขี่สุดเร้าใจ มากกว่าเดิม เพิ่มทางเลือกย่อยอีก 2 รุ่น ไซส์จิ๋วพลังเหลือ
เราคิดว่าทุกคนคงรู้จักจักรวาลมาร์เวล โดยมีฮีโร่ยอดฮิตเป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักนั่นคือ ไอรอนแมน ซูซูกิ ก็เป็นดังนั้นเช่นกันเพราะ SWIFT กลายเป็นดาวเด่นจากค่ายรถยนต์ดังอย่างซูซูกินับตั้งแต่ถูกเปิดตัวเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย ด้วยขนาดของตัวถังที่เล็กกะทัดรัดผสมผสานความเป็นสปอร์ตเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวจึงกลายเป็นจุดดึงดูดผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี
จนกระทั่งซูซูกิกลับมาสร้างความเร้าใจสำหรับคนรักอีโคคาร์อีกครั้ง SWIFT ถูกจับปรับโฉมให้เป็นอีโคคาร์ขนาดเล็กเพื่อตอบโจทย์และเติมเต็มความต้องการของลูกค้าด้วยการเพิ่มออปชั่นอุปกรณ์เสริมอำนวยความสะดวกขณะขับขี่เพื่อเข้าแข่งขันทางการตลาดได้อย่างทัดเทียม SWIFT ถูกลดสมาชิกในครอบครัวลงไปเหลือเพียงแค่ 2 รุ่นเท่านั้นกับ รุ่น GL และ GLX
นอกจากการเปิดตัว ซูซูกิ ยังลุยเต็มที่ตั้งเป้ายอดขายอีโคคาร์ 12,000 คัน สู่การเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอีโคคาร์เมืองไทย โดยจะเห็นได้จากความสำเร็จตลอดปี 63 ที่ผ่านมา ซูซูกิโตสวนกระแสตลาดที่ 7% มียอดจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2563 รวมทั้งสิ้น 25,528 คัน เป็นไปตามเป้าที่คาดการณ์ไว้
หากแต่การถูกปรับโฉมครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การปรับรูปร่างให้เห็นได้อย่างชัดเจนแต่ถ้าเปรียบ SWIFT เป็นผู้ชายตัวเล็ก 1 คนก็คงเหมือนกับการกินโปรตีนออกกำลังกายเพื่อให้รูปร่างสมบูรณ์
ซึ่ง SWIFT อาจจะยังไม่ได้ถูกพัฒนาทั้งคันขนาดนั้นแต่มันก็ถูกผลิตออกมาพร้อมสำหรับการใช้งานที่สะดวกมากขึ้นด้วยการเพิ่มลูกเล่นออปชั่นภายใน และในเวอร์ชั่น 2021 นี้ หากลองมองไล่มาทีระดับตั้งแต่ภายนอกสู่ภายในสิ่งที่เปลี่ยนไปมีเพียงไม่กี่ตำแหน่งเท่านั้น
โฉมใหม่สปอร์ตกว่าเดิมด้วยกระจังหน้าแบบโครเมียมและล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงาใหม่ขนาด 16 นิ้ว ไฟหน้า LED Projector และไฟท้าย LED โดยมิติของตัวรถมีความยาว 3,845 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,735 มิลลิเมตร ความสูง 1,495 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,450 มิลลิเมตร
นี่จึงเป็นเหตุที่ทางบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดกิจกรรมเชิญชวนสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบสมรรถนะ NEW SUZUKI SWIFT รุ่น GL โฉม 2021 โดยการพาตะลอนรอบเมืองกรุงเทพมหานครเข้าสู่ย่านลาดกระบังด้วยระยะทางราว 110 กิโลเมตร
ในทางเทคนิค NEW SUZUKI SWIFT GL ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ภายใต้ฝากระโปรงนั้นเป็นเครื่องยนต์เบนซิน DUALJET 4 สูบ 1.2 ลิตร 83 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรที่ 4400 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
NEW SUZUKI SWIFT GL พุ่งทะยานออกจุดสตาร์ทโรงแรมบันยันทรี บนถนนสาทร ด้วยความกระฉับกระเฉง ระบบทำงานได้ดีตั้งแต่ต้นส่งกำลังอย่างต่อเนื่อง อัตราเร่งมอบความประทับใจโชว์ของแบบเนียน ๆ เมื่อต้องเข้าสู่ช่วงการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น สวิฟต์ตัวเก่งนี้สามารถลัดเลาะ มุดซ้าย ออกขวาได้อย่างแยบยล
เกียร์ CVT ดีดรอบเครื่องขึ้นสูงไปที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงดึงมีมากพอที่จะทำให้เรารับรู้ถึงความสนุกบนรถยนต์แฮทช์แบ็กคันจิ๋วนี้ แม้แรงม้าไม่สูงมากแต่ก็สามารถดึงดูดความสนใจได้ไม่ยากเช่นกัน
จากถนนทดสอบเส้นแรกเข้าสู่ช่วงที่ 2 ด้วยระยะทางกว่า 44.8 กิโลเมตร ตบไฟเลี้ยวพุ่งตรงขึ้นทางด่วนเพื่อทะยานสู่ชานเมือง เราสังเกตได้ว่า ทุกการเข้าโค้งไม่ว่าซ้ายหรือขวานั้นพวงมาลัยมีระยะฟรีที่เหมาะสมมาก เลี้ยวได้เฉียบคมตามมือเพิ่มความมั่นใจบนท้องถนนได้มากขึ้นเช่นกัน
ไม่เพียงแค่มีพวงมาลัยที่แม่นยำแต่ NEW SUZUKI SWIFT GL ยังมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม HEARTECT เข้ามาช่วยในเรื่องของการถ่วงดุลน้ำหนัก ส่งผลชัดเจนในตอนขับขี่ที่รถสามารถตอบสนองได้อย่างว่องไวในส่วนของการทำอัตราเร่ง พลังล้นเหลือแต่อาจจะไม่จี๊ดจ๊าดมากเท่ากับพวกเครื่องยนต์เทอร์โบ ถึงอย่างไรมันก็เพียงพอต่อการใช้งานกับรถแฮทช์แบ็กไซส์เล็กหนึ่งคัน
สำหรับเรื่องที่ใครก็ต่างรอคอยเกี่ยวกับความประหยัดหรืออัตราการสิ้นเปลืองที่ NEW SUZUKI SWIFT GL โฉม 2021 นี้พอจะทำได้ หากอ้างอิงจาก ECO Sticker ตัวเลขของการประหยัดน้ำมันจะอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร แต่เมื่อได้ทดลองขับจริงจังแบบใช้เวลาเกือบทั้งวันให้หมดไปกับรถแฮทช์แบ็กจิ๋วคันนี้อยู่ที่ 12 กิโลเมตรต่อลิตร ในส่วนตัวแล้วเราถือว่ามันทำได้ดีไม่น่าเกลียดจนไม่กล้าเติมน้ำมัน
นอกจากนี้ยังต่อให้เจอโค้งสาดแรง ๆ ตัวถังไม่ย้วยไม่โยนมาก สามารถรองรับได้ดีด้วยโช๊คอัพแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมคอยล์สปริง ในด้านหน้า และแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมคอยล์สปริงส่งผลให้มีประสิทธิภาพการควบคุมที่กระชับ ฉับไว เฉียบคม การขับขี่โดยรวมจึงมอบความสนุกสนานและตื่นเต้นเร้าใจได้เป็นอย่างดี
กลับเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความอึดอัดบนท้องถนนด้วยจราจรที่ค่อนข้างติดขัด เราตรงเข้าสู่เส้นทางทดสอบช่วงที่ 3 ด้วยระยะทางราว 4.2 กิโลเมตร เพื่อไปถึงจุดมุ่งหมายอันศักดิ์สิทธิ์นั่นคือ วัดมังกรกมลาวาส แน่นอนว่าเราต้องผ่านอะไรมากมายถึงจะเป็นระยะทางสั้น ๆ โชคดีที่ NEW SUZUKI SWIFT GL ติตตั้งระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก ระบบ IDLING STOP ที่ลดมลพิษและลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่งให้เหมาะกับการขับขี่ในเมือง ลดอาการเมื่อยล้าได้อีกนิดด้วย ระบบ Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
ทริปตะลอนรอบเมืองในวันนี้ส่งเราถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัยและทำให้เราตระหนักได้ว่า นอกจาก NEW SUZUKI SWIFT GL จะมีหน้าตาที่หล่อเหลาขึ้นยังกลายเป็นแฮทช์แบ็กจิ๋วที่ขับสนุก คล่องแคล่ว ว่องไว การบังคับควบคุมทำได้เฉียบคมและมีช่วงล่างที่หนึบแน่นติดถนนมอบความมั่นใจในการขับขี่ ถึงแม้มันจะมีความจิ้มลิ้มแต่พอได้ลองจริง ๆ นี่มันคือเล็กพริกขี้หนู อีกหนึ่งคันที่ครบครันด้วยระบบช่วยการขับขี่รวมถึงระบบความปลอดภัยรอบคันกับราคาค่าตัวครึ่งล้านแบบนี้มันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
The Review
SUZUKI SWIFT GL
แทบจะหาข้อด้อยจาก NEW SUZUKI SWIFT GL ไม่เจอเลย คุณสมบัติมันตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
PROS
- ขับสนุก
- ค่อนข้างประหยัดกว่ารุ่นก่อน
- แพลตฟอร์ม HEARTECT เข้ามาช่วยในเรื่องของการถ่วงดุลน้ำหนัก
- เข้าโค้งได้ดีด้วย โช๊คอัพแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท
- มีระบบ Cruise Control
- อัตราเร่งดี
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey