All-New Range Rover Evoque แลนดิ้งสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการโดยการนำเข้าของ อินช์เคป ประเทศไทย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย มีให้เลือกคบ 2 ระบบขับเคลื่อนคือ เบนซินปลั๊กอินไฮบริด 1.5 ลิตร และดีเซล 2.0 ลิตร พร้อมราคาค่าตัวที่เข้าถึงได้ง่าย
Evoque เจนเนอเรชั่นที่ 2 พัฒนาตนเองจากเอสยูวีสำหรับคนเมืองสุดหรูแบบดั้งเดิม สู่มาตรฐานใหม่ทั้งการออกแบบ สมรรถนะ และความสะดวกสบาย ดีไซน์ภายนอกยังมีลักษณะอันเป็นที่จดจำกับโครงร่างที่คล้ายรถคูเป้เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งมีแบบฉบับมาจากเส้นหลังคาที่เป็นเอกลักษณ์และบั้นท้ายที่กระดกขึ้นซึ่งบ่งบอกตัวตนได้เป็นอย่างดี
ไฟหน้า Premium LED ดูมีระดับมากยิ่งขึ้น พร้อมไฟ Signature Daytime Running Lights เฉียบคมสวยงาม มีระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ ระบบไฟหน้า Follow-me-home ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ และกระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง
มือจับประตูแบบซ่อนกับตัวรถ Flush Deployable เพิ่มความสวยงามเรียบเนียนซึ่งจะเด้งออกมาเมื่อผู้ขับเดินมาใกล้รถก่อนจะเปิดประตู ไฟเลี้ยวแสดงออกถึงความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลังคากระจก Panoramic Sunroof แบบ Fixed หลังคาสีดำ Black Contrast Roof เพิ่มความเท่ด้วยชุดแต่งรอบคัน R-Dynamic รองรับกับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว 5079 Diamond Turned นอกจากนี้ยังมีประตูท้ายไฟฟ้า Power Tailgate ในทุกรุ่น
ภายในห้องโดยสารของ Evoque ใหม่มีการออกแบบอย่างประณีตบรรจงโดยผสมผสานพื้นผิวเรียบและลายเส้นที่ดูเรียบง่าย ทำด้วยวัสดุที่ผ่านการคัดสรรพิเศษสี Matt/Gloss Lines Dark Aluminium พร้อมด้วยไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Interior Lighting ทำให้ห้องโดยสารมีความหรูหราแต่คงไว้ซึ่งความเรียบง่าย เบาะคนขับและผู้โดยสารตัวหน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา Dual Zone มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และการปรับประจุในอากาศของห้องโดยสารที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้นกว่าเดิม
ชุดหน้าปัดดิจิตอลแบบสี TFT Virtual ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ระบบความบันเทิงเป็นจอสัมผัส Touch Pro Duo ขนาด 10 นิ้วที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ตัวใหม่และเร็วขึ้นกว่าเดิม รองรับ Apple CarPlay / Android Auto และระบบนำทาง Navigation Pro ระบบเสียงมาตรฐานเป็นของ Land Rover เอง หน้าจอล่างเป็นระบบปรับอากาศและตั้งค่ารถยนต์ มีปุ่มหมุนให้ใช้งานได้อย่างสะดวกขณะขับรถ
พื้นที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นเดิม ฐานล้อที่ยาวขึ้นทำให้มีพื้นที่เบาะหลังเพิ่มขึ้น 20 มม. มีช่องเก็บของเพิ่มขึ้นกว้างกว่าเดิม และช่องใส่ของตรงกลางที่ปัจจุบันสามารถใส่แท็บเล็ต กระเป๋าถือ และขวดได้อย่างสบาย มีพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มขึ้น 10% (591 ลิตร) และกว้างขึ้น สามารถบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดยาวหรือชุดไม้กอล์ฟ ด้วยพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 1,383 ลิตรเมื่อพับที่นั่งแถวที่สองที่มีความยืดหยุ่น 40:20:40
Evoque ใหม่มี 2 รูปแบบเครื่องยนต์ รูปแบบแรกคือเครื่องยนต์ดีเซล Ingenium 4 สูบเรียง ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 1,500 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ All-Wheel Drive อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 9.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม.
อีกรูปแบบคือระบบไฟฟ้าไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเรียง ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิด 280 นิวตันเมตร ที่ 2000 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ All-Wheel Drive อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 207 กม./ชม.
Evoque ใหม่มีระบบ Adaptive Dynamics เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและความคล่องตัวไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมาพร้อม Terrain Response 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีครั้งแรกใน Range Rover ทำงานโดยตรวจจับพื้นผิวการขับขี่โดยอัตโนมัติและปรับการตั้งค่าไปตามสภาพพื้นผิวที่ตรวจจับได้ และยังสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 600 มม. (รุ่นก่อนหน้านี้ลุยได้ 500 มม.)
เบาะนั่งคนขับที่เป็นจุดเด่นของ Range Rover ได้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลด้วย ‘กระจกมองหลัง ClearSight’ รายแรกของรุ่นที่เปลี่ยนเป็นหน้าจอวิดีโอระดับ HD หากการมองภาพด้านหลังถูกรบกวนจากผู้โดยสารหรือสิ่งของขนาดใหญ่ คนขับก็เพียงแค่หมุนสวิตช์ที่ด้านล่างของกระจก จากนั้นกล้องที่ด้านบนของตัวรถจะแสดงภาพสิ่งที่อยู่ด้านหลังรถด้วยความคมชัดสูง หน้าจอให้การมองเห็นที่กว้างขึ้น (50 องศา) และให้การมองเห็นที่ดีกว่ากระจกปกติในที่แสงน้อย
Evoque ใหม่ยังเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่มีเทคโนโลยี Ground View เทคโนโลยีนี้ทำให้มองเห็นสิ่งกีดขวางด้านหน้ารถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแสดงภาพจากกล้องขึ้นบนหน้าจอสัมผัสบนแดชบอร์ดเพื่อให้คนขับได้มองเห็นภาพด้านล่างของหน้ารถแบบ 180 องศา ซึ่งถือว่ามีประโยชน์เวลาจอดรถเข้าซองในที่ที่มีพื้นที่น้อย การมองขอบถนนสูงในเมืองใหญ่ หรือพื้นที่ขรุขระต่างๆ
ระบบความปลอดภัยของ Evoque ใหม่ใส่มาแน่นคัน อาทิ ระบบช่วยออกตัว Low Traction Launch, ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ Roll Stability Control, ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง Torque Vectoring by Braking, ระบบช่วยลงทางลาดชัน Hill Descent Control, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Launch Assist, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, ระบบจำกัดความเร็ว Speed Limiter, ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Keep Assist, ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring, ระบบเตือนเมื่อคนขับมีอาการเหนื่อยล้า Driver Condition Monitor, ระบบเตือนป้ายจราจร Traffic Sign Recognition, กล้องมองภาพรอบคัน,เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด 360 องศา ด้านหน้า – ด้านหลัง และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
All-New Range Rover Evoque วางขายในไทยทั้งหมด 4 รุ่นย่อย แบ่งเป็นดีเซล 2 รุ่น ปลั๊กอินไฮบริด 2 รุ่น ราคาดังนี้
- Range Rover Evoque 1.5 Litre Plug-in Hybrid Petrol SE ราคา 3,999,000 บาท
- Range Rover Evoque 1.5 Litre Plug-in Hybrid Petrol SE R-Dynamic ราคา 4,499,000 บาท
- Range Rover Evoque 2.0 Litre Ingenium Diesel SE ราคา4,999,000 บาท
- Range Rover Evoque 2.0 Litre Ingenium Diesel SE R-Dynamic ราคา 5,499,000 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.landrover.co.th หรือ www.facebook.com/jaguarlandroverthailand/
Gallery