สำหรับ NEW MG EP PLUS เป็นการยกระดับการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้จริงให้ชัดเจนยิ่งขึ้นจาก MG EP รุ่นปกติ ซึ่งยังคงสะท้อนมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่ไม่ใช่มีดีแค่ดีไซน์แต่จะต้องตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง
ภายนอก
ด้านมิติตัวถังและพื้นที่การใช้งาน (Dimension) ขนาดใหญ่ มีไฟท้าย LED แบบ ELECTRIC PULSE DESIGN และไฟหน้าแบบ PROJECTOR มาพร้อมไฟ LED DAYTIME RUNNING LIGHTS มาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต
ดีไซน์ภายในให้ความสุนทรีย์
ภายในกว้างขวางสามารถบรรทุกได้ทั้งคนและของ ได้อย่างเต็มที่กับจุดเด่นของการเป็นรถประเภทสเตชั่นแวกอนที่มีพื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,456 ลิตร พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมทั้งชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถขนสัมภาระและอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากกว่าเดิมเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้า นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารดีไซน์ให้ความรู้สึกโอบล้อม และสามารถควบคุมระบบต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง สะดวกสบายตลอดการเดินทาง พร้อมใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยวัสดุ SOFT TOUCH ตกแต่งด้วยวัสดุดีไซน์ลาย CARBONYXE ให้สัมผัสที่หรูหรา ประณีต มาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้า ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ANTI-CURVED SURFACE DESIGN โอบรับกับเส้นสายสรีระ นั่งสบาย ลดความเมื่อยล้าในการเดินทาง รวมไปถึงยังมีหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (DIGITAL MULTI-FUNCTION DISPLAY) ที่คมชัดทำให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องง่าย
ระบบสาระบันเทิง
หน้าจอ TOUCHSCREEN ขนาด 8 นิ้ว พร้อมรองรับ Apple CarPlay
มั่นใจทุกเส้นทางกบับความปลอดภัยของ MG
NEW MG EP Plus ครบรอบคันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยตามมาตรฐาน ให้ความมั่นใจตลอดเส้นทาง สร้างความอุ่นใจให้ทุกชีวิต ซึ่งมีความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัย (Convenience & Safety) ที่ครบครันทั้งฟังก์ชั่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น
- กล้องมองหลังและสัญญาณเตือน
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH
- CRUISE CONTROL ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- AVH (AUTO VEHICLE HOLD) ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง
-
ABS (ANTI-LOCK BRAKING SYSTEM) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน
พร้อมการติดตั้งระบบกรองอากาศ PM 2.5 ที่สามารถดักจับและป้องกัน ฝุ่นละอองอนุภาคเล็กภายในห้องโดยสาร และแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า เพิ่มความเรียบร้อยและสะดวกในการบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งในรูปแบบ Active และ Passive Safety ครบครันจึงให้ความมั่นใจในการขับขี่
สมรรถนะเด่นของ EV
ด้านสมรรถนะของ EV (EV Performance) ชูจุดเด่นของการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากับแรงบิดสูงสุดที่มาตั้งแต่ต้น ทำให้เร่งได้แบบทันใจไม่ต้องรอรอบ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา เพียง 8 วินาที มีมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะเยี่ยมเร่งแรงสูงสุดได้ถึง 120 kW / 163 แรงม้า ซึ่งตอบสนองการขับขี่ได้ดั่งใจและด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM จึงช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้สภาวะต่างๆ
ราคาและรุ่น
NEW MG EP PLUS ราคาจำหน่าย 998,000 บาท มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีเงิน (Metallic Grey) และสีดำ (Black Knight)