Mazda2 รุ่นปรับโฉมใหม่ ปี 2020 ปรับดีไซน์ใหม่ เพิ่มอุปกรณ์หลายอย่าง มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮตช์แบค 5 ประตู วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 546,000 บาท
ช่วงเวลาปลายปีแบบนี้ ตลาดรถยนต์เมืองไทยคึกคักมาก โดยเฉพาะกลุ่มรถเล็กอีโค่คาร์และ B-Segment ที่มีรถใหม่เปิดตัวถี่ยิบ ไล่ตั้งแต่ All-New Nissan Almera, All-New Honda City, Mitsubishi Mirage และ Attrage รุ่นปรับโฉมใหม่, Toyota Yaris ATIV GT รวมถึง Yaris Cross เมื่อเป็นแบบนี้มาสด้าในฐานะผู้นำตลาดรถเล็กคงจะอยู่เฉยไม่ได้ Mazda2 รุ่นปรับโฉมใหม่ ปี 2020 จึงต้องจำเป็นออกมาสู้ศึกครั้งนี้ในช่วงที่ตลาดกำลังร้อนแรง
Mazda2 ใหม่ได้รับออกแบบภายใต้แนวคิด KODO design เจนเนอเรชั่นใหม่ที่มุ่งเน้นความเรียบง่ายแต่งดงามด้วยคอนเซ็ปต์ “Less is More” ภายนอกได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่กันชนหน้า-หลัง กระจังหน้าใหม่แบบเดียวกับรุ่นพี่ ติดตั้งไฟหน้า LED Projector ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบปรับระดับและเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์แบบ LED Signature มีตั้งแต่รุ่น 1.3 S ขึ้นไป
ไฟท้ายปรับใหม่เป็น LED เช่นกัน ล้ออัลลอยมีตั้งแต่ล้อเหล็กพร้อมฝาครอบขนาด 15 นิ้ว ล้ออัลลอย 15 นิ้ว และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้วในรุ่น XD และ XDL ล้อ 15 นิ้วใส่ยางขนาด 185/65 R15 ล้อ 16 นิ้ว ใส่ยางขนาด 185/60 R16
ห้องโดยสารของ Mazda2 ใหม่ได้รับการยกระดับความหรูหราด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง แผงแดชบอร์ดหน้ามี 4 สีตามแต่ละรุ่นย่อย ได้แก่ สีดำในรุ่น 1.3 E, สีเงิน/บรอนซ์ ในรุ่น 1.3 C, สีเงินซาติน/สีบรอนซ์ ในรุ่น 1.3 S และสีเงินซาติน/สีขาว ในรุ่น 1.3 S LEATHER ขึ้นไป เบาะนั่งมีการปรับใหม่มี 4 สีแบ่งตามรุ่นย่อยเช่นกัน ได้แก่ ผ้าสีดำ/เทา ในรุ่น 1.3 E ผ้าสีน้ำตาล ในรุ่น 1.3 C ผ้าสีน้ำเงิน ในรุ่น 1.3 S และหนังสีเทาและผ้า Grand Luxe Suede สีดำ ในรุ่น 1.3 S LEATHER ขึ้นไป
ระบบสาระบันเทิง Mazda Connect ถูกอัพเกรดให้รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้แล้ว แสดงผลบนจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ใช้งานง่ายขณะขับขี่ผ่านแป้นควบคุม Center Commander ที่คอนโซลกลาง
ออปชั่นเด่นอื่นๆ ได้แก่ Active Driving Display จอสกรีนใสแสดงข้อมูลการขับขี่ในระดับสายตาของผู้ขับขี่, Sports Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมควมเร็วคงที่ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่
Mazda2 ใหม่ยังคงมีให้เลือก 2 เครื่องยนต์เหมือนเดิม คือ SKYACTIV-D ดีเซล 4 สูบ 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมดแมนวล ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร
และอีกเครื่องยนต์คือ SKYACTIV-G เบนซิน 4 สูบ 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมดแมนวล ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร ทั้ง 2 เครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5
สิ่งที่ได้รับการอัพเกรดใน Mazda2 ใหม่คือระบบควบคุมขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงหรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ ผู้ขับขี่แก้พวงมาลัยน้อยลง ควบคุมรถง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น สามารถเข้าโค้ง และออกจากโค้งได้อย่างนุ่มนวล ลดอาการเมื่อยล้าสะสมจากการขับรถทางไกลของผู้ขับขี่ และการโคลงตัวไปมาของผู้โดยสาร
เทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ใน Mazda2 ใหม่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจตลอดการเดินทาง ด้วยการส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุรอบคัน อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลังหรือ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ขณะที่ระบบแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา และเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุดเป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในรุ่นนี้
Mazda2 ใหม่มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู และมีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ประกอบด้วย
- สีแดง Soul Red Crystal
- สีเทา Machine Gray
- สีขาว Snowflake White Pearl
- สีน้ำตาล Titanium Flash
- สีดำ Jet Black
- สีขาว Ceramic Metallic
- สีเงิน Sonic Silver
- สีเทา Polymetal Gray (เฉพาะรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู)
มาสด้ามีการปรับเปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยของ Mazda2 ใหม่ให้เป็นไปในทางเดียวกับรถยนต์รุ่นใหญ่ มีการเพิ่มรุ่นย่อยในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1 รุ่น และ ลดรุ่นย่อยในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1 รุ่น ราคาแต่ละรุ่นย่อยเป็นดังนี้
เบนซิน 1.3 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู ราคาเดียวกัน
- รุ่น 1.3 E ราคาจำหน่าย 546,000 บาท
- รุ่น 1.3 C ราคาจำหน่าย 602,000 บาท
- รุ่น 1.3 S ราคาจำหน่าย 627,000 บาท
- รุ่น 1.3 S LEATHER ราคาจำหน่าย 648,000 บาท
- รุ่น 1.3 SP ราคาจำหน่าย 690,000 บาท
ดีเซล 1.5 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู ราคาเดียวกัน
- รุ่น XD ราคาจำหน่าย 782,000 บาท
- รุ่น XDL ราคาจำหน่าย 799,000 บาท
สัมผัส Mazda2 ใหม่ได้แล้วที่บูธมาสด้าในงาน Motor Expo 2019 วันนี้ – 10 ธ.ค. 2562 ณ อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mazda.co.th หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย MazdaThailandOfficial: Facebook/YouTube/Instagram/LINE