จากจุดเริ่มต้นในการผลิตเครื่องยนต์อากาศยาน ชื่อของ Bayerische Motoren Werke (หรือ Bavarian Motor Works ในภาษาอังกฤษ) เกิดขึ้นบนโลกในปี ค.ศ. 1917 แบรนด์รถยนต์จากเมืองมิวนิกต้องการสร้างการจดจำและสื่อสารตัวตนออกสู่สายตาชาวโลก พวกเขาจึงเริ่มออกแบบตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ด้วยการใช้ชื่อย่อ BMW, ใบพัดเครื่องบิน และสีฟ้า-ขาว ซึ่งเป็นสีประจำรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี
นับตั้งแต่ปีแรกที่ BMW ก่อตั้งขึ้น โลโก้ของแบรนด์ถูกปรับดีไซน์มาแล้วหลายแบบหลายเวอร์ชั่น (ตามแผนภาพด้านล่าง) ทุกเวอร์ชั่นจะคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้คือใบพัดสีฟ้า-ขาว โลโก้ที่เราคุ้นชินในปัจจุบันคือเวอร์ชั่นที่ 5 เปิดตัวในปี 1997 นับเป็นเวลาก็ 23 ปีแล้วที่ตราสัญลักษณ์อันนี้ประทับอยู่บนฝากระโปรงของรถยนต์ BMW ทั่วโลก
ปี 2020 โลโก้ของ BMW เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยครั้งนี้ถูกปรับดีไซน์จากเดิมที่มีการเล่นกับแสงและเงาเป็นรูปแบบ 2 มิติที่ดูแบนราบ เปลี่ยนฟอนต์ใหม่ให้ดูเรียบง่ายยิ่งขึ้น เอาขอบวงแหวนสีดำที่ใช้มาตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกออกแล้วเปลี่ยนเป็นแบบโปร่งใสแทน เช่นเดียวกับสีฟ้า-ขาวก็ถูกปรับใหม่ให้ดูเข้มขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ภาพลักษณ์ใหม่ของโลโก้มีความทันสมัย มินิมอล และแฝงไปด้วยความหมายที่สื่อถึงการเปิดเผยและความโปร่งใส ส่วนที่โปร่งใสของโลโก้นั้นสะท้อนถึงการที่แบรนด์อยากจะชวนเชิญลูกค้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโลกของ BMW
โลโก้ใหม่ถูกแนะนำพร้อมกับรถต้นแบบ BMW Concept i4 สปอร์ตคูเป้ 4 ประตูพลังงานไฟฟ้า โดยปรากฏอยู่บนหลายๆ ส่วนของตัวรถตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า พวงมาลัย ดุมล้อ ไปจนถึงฝากระโปรงท้าย รถต้นแบบคันนี้คืออนาคตของแบรนด์ที่จะก้าวเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยเวอร์ชั่นผลิตจริงของ Concept i4 มีกำหนดออกสู่ตลาดในปี 2021
การเปลี่ยนแปลงโลโก้ครั้งนี้แสดงถึงการเดินทางของ BMW จากโลกแห่งยานยนต์ไปสู่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ รวมถึงภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ที่พร้อมเปิดรับความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ บนโลกดิจิทัล โลโก้ใหม่นี้อาจจะยังไม่ได้มาแทนที่โลโก้ปัจจุบันในทันที แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเราจะได้เห็นรถยนต์ BMW ที่มาพร้อมโลโก้ใหม่บนฝากระโปรงโลดแล่นบนท้องถนนอย่างแน่นอน