กลับมาให้เป็นเจ้าของกันอีกครั้งกับสีสุดคลาสสิก Ice Blue ของมินิ ที่เคยครองใจแฟน ๆ ในเจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา ในปีนี้ แฟน ๆ ชาวไทย จะได้พบกับ Mini Cooper S Ice Blue Edition ที่มาในลุคเรโทรย้อนยุค แต่พกพาเทคโนโลยีล้ำสมัยและสมรรถนะล่าสุดของมินิมาอย่างเต็มเปี่ยม ภายใต้ตัวถังสีฟ้า Ice Blue ตัดกับฝาครอบกระจกและเส้นสายสีส้ม Solaris Orange บนฝากระโปรงหน้า
Mini Cooper S Ice Blue Edition เสริมความปราดเปรียวด้วยชุดแต่ง John Cooper Works รอบคัน ไม่ว่าจะเป็นสปอยเลอร์หลังคาสีฟ้า Ice Blue ล้ออัลลอย John Cooper Works ลาย Track Spoke ขนาด 17 นิ้ว สีดำแบบ runflat
ดีไซน์ภายในมาในลุคสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วยพวงมาลัยหนังแท้ John Cooper Works เบาะนั่ง John Cooper Works บุผ้า Dinamica แบบสปอร์ตสีดำ Carbon Black ที่รับกับการตกแต่งห้องโดยสารในสไตล์ MINI Yours Piano Black Illuminated พื้นผิวห้องโดยสารสีดำมันวาว พร้อมติดตั้งระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศที่บริเวณมือจับประตูที่สามารถเลือกได้ถึง 12 สี เข้ากับทุกอารมณ์และบรรยากาศ
Mini Cooper S Ice Blue Edition ยังตอกย้ำคาแร็คเตอร์สไตล์อังกฤษอันโดดเด่นด้วยไฟท้ายLED ลายธงยูเนียนแจ็คแห่งสหราชอาณาจักร และไฟหน้าแบบวงแหวนเต็มวงในดีไซน์ใหม่ที่ให้ความสว่างมากขึ้นทั้งในโหมดไฟต่ำและไฟสูง ด้วยไฟหน้า LED พร้อมด้วยไฟ LED Daytime Running Light และฟังก์ชันไฟเลี้ยวภายในวงแหวนเดียวกัน โดยไฟจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีส้มขณะที่ทำการเปิดไฟเลี้ยว
อีกหนึ่งความพิเศษคือลูกเล่น Logo Projection ที่สร้างเอกลักษณ์สะดุดตาด้วยการฉายโลโก้มินิลงบนพื้นนอกตัวรถบริเวณฝั่งคนขับเมื่อเปิดหรือปิดประตูรถ และยังมาพร้อมแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charging) ติดตั้งบริเวณช่องในที่วางแขนกึ่งกลางตัวรถ
เพื่อสร้างความพิเศษและเพิ่มเอกลักษณ์หนึ่งเดียวให้กับตัวรถ ลูกค้าที่จอง Mini Ice Blue Edition ทุกท่านจะสามารถออกแบบกรอบไฟเลี้ยวด้านข้างได้ด้วยตนเอง ซึ่งมินิจะใช้เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์สามมิติในการสร้างสรรค์กรอบไฟเลี้ยวด้านข้างของตัวรถตามความต้องการของลูกค้า โดยสามารถเลือกสี ดีไซน์ และใส่ชื่อตนเองหรือตัวอักษรได้ผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งจะใช้เวลาผลิตประมาณ 6 สัปดาห์หลังจากได้รับการยืนยันแบบและส่งให้กับลูกค้า
Mini Hatch 3 ประตู และ 5 ประตู Ice Blue Edition ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350 – 4,600 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic คลัทช์คู่ 7 สปีด ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 6.7 วินาทีสำหรับมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู และ 6.8 วินาทีสำหรับมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 5 ประตู พร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยล้ำสมัยเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง
ลูกค้าที่สนใจ Mini Ice Blue Edition สามารถทำการจองและสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย บนเว็บไซต์ www.mini.co.th เพียงแค่เลือกรุ่นที่ต้องการ ระบุสาขาของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ กรอกข้อมูลส่วนตัว และชำระค่าจองเป็นจำนวน 100,000 บาท หลังจากนั้นจะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ภายในเวลา 48 ชั่วโมง โดย Mini Cooper S Ice Blue Edition จะเปิดให้ทำการจองผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
ราคาจำหน่าย
- Mini Cooper S Hatch 3dr Ice Blue Edition ราคา 2,880,000 บาท (รวม MSI Standard)
- Mini Cooper S Hatch 5dr Ice Blue Edition ราคา 2,920,000 บาท (รวม MSI Standard)
Gallery