Overview Of Car
Mini Clubman 2020 เอสเตทขนาดคอมแพ็คที่มีทั้งความสนุก พื้นที่ และความอเนกประสงค์ การขับขี่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ Mini เพิ่มเติมด้วยออปชั่นที่พร้อมจะมอบความสุขและความสะดวกสบายให้กับครอบครัว ราคาเริ่มต้น 2,348,000 บาท
Mini เป็นแบรนด์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองจากประวัติศาสตร์อันยาวนานที่มุ่งเน้นพัฒนารถขนาดเล็กที่ขับสนุก โดดเด่น และแตกต่าง จนผู้คนจำนวนไม่น้อยทั่วโลกต่างตกหลุมรักเจ้ารถคันเล็กสไตล์คลาสสิกสุดน่ารักเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม การเป็นรถเล็กอาจมีจุดเด่นหลายอย่าง แต่ Mini เองมองเห็นว่าบทบาทการใช้งานที่หลากหลาย ความอเนกประสงค์ หรือการเป็นรถสำหรับครอบครัวก็จำเป็นสำหรับผู้ซื้อเหมือนกัน ดังนั้น Mini จึงพยายามที่จะสื่อสารถึงการเติบโตของแบรนด์ รีแบรนด์ใหม่ให้เข้าถึงผู้ใช้ในวงกว้างมากขึ้น แต่ในการเติบโตนี้ก็ยังคงไม่ทิ้งรากเหง้าของตัวเองไป
Mini Clubman น่าจะเป็นผลผลิตจากแนวคิดที่ว่ามา เราขอจำกัดความง่ายๆ ให้กับรถคันนี้ว่า “เป็น Mini ที่เพิ่มขนาด แต่ยังสนุกและน่ารักเหมือนเดิม” นี่คือรถที่ผสมผสานตัวตนของ Mini เข้ากับความอเนกประสงค์อย่างลงตัว จึงเป็นรถที่สามารถขับโชว์เท่ๆ หรือใช้งานเป็นรถครอบครัวได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่ง Clubman ที่เราได้มาเทสในวันนี้เป็นรุ่นท็อปสุด Cooper S Clubman Hightrim แม้จะเปิดตัวมาสักพักแต่ก็มีการอัพเดตเรื่อยมา ไปหาคำตอบกันดีกว่าว่ารถคันนี้ดีงามอย่างไร
สเปครถยนต์
Body Style: | Estate |
---|---|
Description: | 5 ประตู 5 ที่นั่ง |
Engine: | เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo |
Fuel Consumption: | 16.9 กม./ลิตร (ค่าโรงงาน) |
Fuel Type: | เบนซิน |
Make: | MINI |
Max Power: | 192 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที |
Max Torque: | 280 นิวตันเมตร ที่ 1,250 รอบต่อนาที |
Model: | Mini Cooper S Clubman Hightrim |
Price Guide: | 3,268,000 บาท |
Release Date: | พฤศจิกายน 2015 |
0-100 km/h: | 7.1 วินาที |
Transmission: | อัตโนมัติ 8 สปีด |
สไตล์ที่ยากจะลอกเลียน
Clubman เป็นรถสไตล์เอสเตท 5 ประตู ตัวรถยังคงเอกลักษณ์ของ Mini เหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นช่วง overhang สั้น, ล้อรถอยู่บริเวณมุมทั้งสี่ของตัวรถ และใช้การขับเคลื่อนล้อหน้า ความยาวตัวรถเพิ่มขึ้นจากรุ่น Hatch 3 ประตูถึง 40 ซม. จุดเด่นที่สุดก็คือท้ายรถที่เป็นประตูแบบ Barn Door หรือประตูตู้กับข้าว พร้อมด้วยไฟท้าย LED ลวดลายวงกลม และตัวอักษร Clubman วางทอดยาวอยู่กึ่งกลางประตูอย่างลงตัว
Clubman คือรถที่ยาวที่สุดของ Mini มีระยะฐานล้อมากที่สุด ดังนั้นพื้นที่ภายในจึงมากมายแบบคนละเรื่องกับพวกรถตระกูล Hatch แนวหลังคาราบเรียบ เสาหน้าตั้งสูง ทำให้เมื่อนั่งในรถแล้วจะรู้สึกโปร่งสบาย ประตูข้างขนาดใหญ่ทำให้ขึ้น-ลงรถสะดวกมาก
เพราะว่าความสนุกคือตัวตนของ Mini ดังนั้นมันจึงสะท้อนออกมาที่การออกแบบในหลายๆ ส่วนที่ชอบแฝงลูกเล่นหรือดีไซน์แปลกๆ เจ๋งๆ เข้าไป นี่คือเหตุผลที่หลายๆ คนชื่นชอบเจ้ารถเล็กพวกนี้ Clubman รุ่น Hightrim ของเรามาพร้อมลูกเล่นหลายอย่างสำหรับที่เพิ่มความเท่รอบตัวรถ เริ่มที่สีตัวถังแบบทูโทนหลังคาดำ, คาดสติ๊กเกอร์สีดำที่ฝากระโปรงหน้า, กระจกมองข้างสีคำเงา, มือจับประตูและคิ้วขอบกระจกหน้าต่างสีโครเมี่ยม, ล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 18 นิ้ว, ชายล่างรอบตัวถังเป็นพลาสติกสีดำให้อารมณ์ลุยๆ หน่อย รวมถึงครีบบนหลังคาที่มาพร้อมไฟแสดงสถานะกันขโมยที่จะกระพริบตลอดเวลาเมื่อทำการล็อกรถ เสริมความหล่อด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต พร้อมท่อไอเสียคู่
ภายนอกว่าเจ๋งแล้ว ภายในก็เจ๋งไม่แพ้กัน เราชอบการออกแบบที่แฝงไปด้วยลูกเล่นที่ดูสนุกสนาน กล้าคิดกล้าทำ ไม่ว่าจะเป็นมือจับประตู แผงหน้าจอระบบสาระบันเทิง หน้าปัด ปุ่มเครื่องปรับอากาศ แผงปรับประจกหน้าต่าง แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง ช่องแอร์ ที่เท้าแขนต่างๆ ทุกอย่างเล่นกับวงกลมดูเป็นธีมเดียวกันทั้งห้องโดยสาร ไฟ LED วงกลมกลางแดชบอร์ดหน้าจะเปลี่ยนสีไปตามเมนูบนหน้าจอ ไฟ Ambient light ก็มี สามารถปรับได้หลายสี
ในความทันสมัยก็ยังแฝงความคลาสสิกเอาไว้อย่างน่าปรบมือ ที่เห็นได้ชัดก็คือหน้าปัดที่ยังเป็นเข็มแบบอนาล็อกอยู่ จุดที่เราชอบอีกอย่างคือปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ที่มีลักษณะเป็นสวิตช์งัดขึ้น-ลงคล้ายกับรถแข่งโบราณ ให้อารมณ์เก่าๆ ได้พอสมควร
แม้การออกแบบจะเต็มไปด้วยลูกเล่นแต่คุณภาพวัสดุและการผลิตไม่ใช่เล่นๆ ทุกอย่างละเอียดและประณีตตามมาตรฐานรถยุโรปสมกับราคาค่าตัว
เพิ่มขนาด เพิ่มพื้นที่
ชัดเจนอยู่แล้วว่า Mini Clubman เกิดมาเพื่อเน้นยำถึงความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน ด้วยพื้นที่ภายในที่มากมาย นี่จึงเป็นรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ติดขัด เมื่อเปิดประตูเข้ามานั่งหลังพวงมาลัย คุณจะพบกับความโปร่งสบายพร้อมกับเบาะและพวงมาลัยที่ปรับได้หลากหลายตามต้องการ เบาะมีความนุ่มกำลังดีและโอบกระชับสรีระ ทัศนวิสัยรอบคันดีมาก ประตูหลังมีเสากลางกระจกมาบังซึ่งบางทีอาจจะรู้สึกเกะกะแต่ก็ไม่ได้แย่จนเกินไป พื้นที่เบาะหน้ากว้างขวาง คนตัวสูงนั่งได้ไม่มีปัญหา ที่น่าประทับใจคือเบาะหลังซึ่งกว้างมากๆ นั่ง 3 คนยังไม่รู้สึกอึดอัด ศีรษะไม่ชนเพดาน เข่าไม่ติดเบาะหน้า
ห้องเก็บสัมภาระคือจุดขายของ Clubman ประตูท้ายแบบตู้กับข้าวสร้างความแตกต่างจากรถอเนกประสงค์อื่นๆ เมื่อเปิดออกจะพบกับพื้นที่บรรจุของที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ได้ 3 ใบ หากถือของมาเต็มมือก็สอดเท้าไปใต้กันชนเพื่อเปิดประตูแทนได้ นอกจากนี้ เบาะหลังที่พับแยกแบบ 60/40 และช่องเก็บของขนาดใหญ่ใต้พื้นห้องก็น่าจะถูกใจคนที่ต้องคนของเยอะๆ เป็นประจำ
Clubman ของเรามาพร้อมกับความบันเทิงเต็มรูปแบบ ระบบสาระบันเทิงรองรับการเชื่อมต่อที่ครบครันพร้อมกับหน้าตาเมนูที่สวยงาม ระบบมีความลื่นไหล ควบคุมง่ายผ่านแป้นหมุนเหมือนรถ BMW ฟังก์ชั่นการใช้งานก็ให้มาครบ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านแอพฯ MINI Connected ปิดท้ายด้วยระบบเสียง Harman Kardon ที่รับประกันความไพเราะ
Clubman ของเรายังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือ Head-up display ที่จะคอยแสดงผลความเร็วที่ขับรวมถึงแสดงผลระบบนำทางซึ่งใช้งานจริงแล้วสะดวกมาก พวงมาลัยมาพร้อมกับปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบควบคุมความเร็ว น่าเสียดายที่ไม่มีแพดเดิลชิฟท์มาให้
การขับขี่
ด้วยความที่ Clubman เป็นรถที่มีบอดี้ใหญ่โตกว่าตัว Hatch พอสมควรดังนั้นจึงติดตั้งเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าพอสมน้ำสมเนื้อ ขับแล้วต้องไม่อืดจนเกินไป รุ่น Hightrim ของเรามาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,250 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ดูจากตัวเลขแล้วน่าจะรับประกันความสนุกได้แน่ๆ ซึ่งพอขับจริงก็เป็นไปตามคาด เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดี อัตราเร่งมาไว เหยียบติดเท้า ขับแล้วรู้สึกสนุกและไม่อืดแม้ว่ารถจะมีขนาดใหญ่
ชุดเกียร์ทำหน้าที่ได้อย่างลื่นไหลไร้รอยต่อไม่ว่าจะชิฟท์อัพหรือชิฟท์ดาวน์ อัตราทดที่ค่อนข้างชิดระหว่างเกียร์ให้ทั้งความต่อเนื่องและนุ่มนวล ทั้งยังส่งผลถึงความประหยัดการจากไม่ลากรอบด้วย การคิ๊กดาวน์ต้องกดคันเร่งค่อนช้างลึกและจะมีดีเลย์นิดนึงก่อนเกียร์จะลดตำแหน่งลงพร้อมแรงดึงที่เพียงพอกับการเร่งแซง ถ้าอยากขับแมนวลก็โยกคันเกียร์ไปที่ M และใช้การตบขึ้น-ลง อันนี้จะให้ฟีลดิบขึ้นมาหน่อย รีดความสนุกได้มากขึ้น โดยรวมเกียร์มีความนุ่มนวล ฉลาด แต่ไม่เร็วมากนัก เพราะรถคันนี้เน้นที่ความสบายมาก่อน
แน่นอนว่าเมื่อรถใหญ่ขึ้น ความปราดเปรียวคล่องตัวแบบ Mini Hatch ก็ย่อมลดลงไป แลกมาด้วยความนุ่มสบายที่มากขึ้น Clubman เป็นรถที่ขับในเมืองแล้วให้ฟีลเหมือนรถซีดาน มีความสุขุม เงียบ และแทบไม่สั้นสะเทือน ช่วงล่างป้องกันแรงสะเทือนเมื่อเจอหลุมหรือคลื่นได้ดี เมื่อขับความเร็วสูงช่วงล่างก็มีความแน่นหนึบ เกาะถนน และให้ความมั่นใจได้ดีไม่ว่าจะทางตรงหรือทางโค้ง อาการโยนมีน้อย รถทะยานไปด้วยความนิ่งไม่มีส่ายหรือโคลงเคลง
การบังคับควบคุมก็ให้ความมั่นใจและตอบสนองได้ดีตามมาตรฐาน ที่ความเร็วต่ำพวงมาลัยเบาและควบคุมง่าย ระยะฟรีที่เหมาะสมทำให้หน้ารถหันไปตามทิศทางที่หมุนพวงมาลัยได้ไว เมื่อขับเร็วขึ้นพวงมาลัยก็หนักขึ้นไปตามด้วย ความแม่นยำของพวงมาลัยทำให้สามารถเข้าโค้งได้แบบเนียนๆ และกะระยะเลี้ยวได้ง่าย ให้ความมั่นได้เป็นอย่างดี
ระบบเบรกเซ็ตมาเน้นให้ความนุ่มนวลเป็นหลัก ต้องเหยียบลึกลงไปสักนิดจึงจะเริ่มหน่วง ความหน่วงนี้สัมพันธ์กับน้ำหนักเท้าที่เหยียบแป้น ดังนั้นคุณจึงสามารถกะน้ำหนักการเบรกกับความเร็วรถได้อย่างแม่นยำ การป้องกันเสียงรบกวนอยู่ในระดับดี เสียงลมเริ่มเล็ดลอดเข้ามาที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ขึ้นไป เสียงเครื่องยนต์มีความเงียบในรอบเดินเบาและขณะขับขี่ ต่อให้กดคันเร่งก็ยังเป็นเสียงที่ฟังดูเรียบร้อยไม่ดิบห้าวเท่าไร
โดยรวม Clubman ถือว่าสอบผ่านที่นำเสนอสไตล์การขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับความนุ่มสบายเพื่อเข้าถึงผู้คนในวงกว้าง แม้ว่าความเป็น โก-คาร์ท ฟีลลิ่ง แข็งๆ คมๆ จะหายไปแต่รถคันใหญ่นี้ก็ยังให้ความสนุกที่มากพอจะสร้างรอยยิ้มได้ นี่คือความตั้งใจที่ Mini พยายามเน้นเพื่อรองรับกับจำนวนผู้โดยสารและสัมภาระที่มากขึ้น การเดินทางที่ไกลขึ้น หรือเป็นรถใช้งานของครอบครัวนั่นเอง
สรุปความน่าใช้
Mini Clubman แสดงออกถึงการเติบโตอย่างชัดเจน จากเดิมที่เป็นรถคันเล็กๆ มุ่งเน้นที่การขับขี่อย่างสนุกสนานและสไตล์ที่โดดเด่นเป็นตัวของตัวเอง สู่การเป็นรถที่ใช้งานจริงได้มากขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและความสะดวกสบายที่ครบครัน ดังนั้นรถคันนี้จึงตอบโจทย์คนที่รัก Mini แต่ต้องการรถที่ครอบคลุมการใช้งานหลายๆ ด้าน ใช้งานคนเดียว ขนของ ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน หรือเป็นรถคันแรกของครอบครัว Mini Clubman สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้
อย่างไรก็ตาม ความสะดวกสบายที่เพิ่มเข้ามาก็ต้องแลกกับความเป็น โก-คาร์ท ฟีลลิ่ง อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mini มาทุกยุคสมัยที่ต้องถูกลดทอนลงไป มันไม่ได้หายไปทั้งหมดจนขับแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่รถ Mini ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นไม่ดีแน่ แต่มันถูกลดลงในระดับที่คนส่วนใหญ่ขับแล้วรับรู้ได้ว่าฟีลแบบนี้คือ Mini ความสนุก ความเฉียบคม ยังคงอยู่ แต่นุ่มนวลและเป็นมิตรมากขึ้น
ทั้งหมดนี้คือตัวตนแบบใหม่ของ Mini ซึ่งเราเชื่อว่ากลุ่มแฟนๆ ที่ชื่นชอบรถเล็กน่าจะหลงรักเอสเตทหน้าตาน่ารักรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าคุณไม่ใช่ Minister และอยากลองของแปลกที่เปี่ยมไปด้วยสไตล์ การได้ลอง Mini Clubman น่าจะเป็นการเปิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่ง
The Review
Mini Clubman
เป็น Mini ที่เติบโตขึ้นทั้งรูปร่าง พื้นที่ คุณภาพการขับขี่ และการใช้งาน โก-คาร์ท ฟีลลิ่ง อาจลดลงไปบ้าง แต่ก็แลกมาด้วยข้อดีด้านอื่นที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาวก Mini ที่กำลังจะมีครอบครัว
PROS
- ภายในกว้างขวาง เหมาะเป็นรถของครอบครัว
- ประตูท้ายแบบ Barn door เปิด-ปิด ง่าย ขนของสะดวก และเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
- การขับขี่แน่นเฟิร์ม เป็นมิตรมากขึ้น นุ่มสบายมากขึ้น
- เครื่องยนต์มีกำลังเพียงพอกับการใช้งานทั้งในเมืองและขับทางไกล
- ดีไซน์ภายนอกดูสปอร์ต ภายในแอบซ่อนความสนุกสนานสไตล์มินิ
- ระบบสาระบันเทิงใช้งานง่าย หน้าตาเมนูสวยงาม หน้าจอมีความคมชัดสูง
CONS
- การขับขี่แบบ โก-คาร์ท ฟีลลิ่ง หายไปบางส่วน ขับไม่สนุกเท่าโมเดล Hatchback
- กระจกหน้าต่างหลังมีเสาของประตูท้ายตั้งบังอยู่ บางทีอาจบดบังการมอง
- เบาะหลังน่าจะพับแยก 40/20/40 เพื่อความยืดหยุ่นที่มากกว่า
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
Mini Clubman DEALS
We collect information from many stores for best price available