Overview Of Car
ซีดานหรูรุ่นใหญ่ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานความสปอร์ตได้อย่างลงตัว จัดเต็มความสะดวกสบาย เทคโนโลยีชั้นเลิศ และขุมพลังแห่งอนาคตที่มอบสมรรถนะได้อย่างไร้ที่ติ ราคา 6,999,000 บาท
Mercedes-Benz ให้ความสำคัญกับการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยการนำเสนอรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าในหลายๆ กลุ่มผลิตภัณฑ์ และจะครอบคลุมทุกคลาสในอนาคตอันใกล้นี้ สำหรับเมืองไทย S-Class เป็นหนึ่งในโมเดลที่มีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าให้เลือกนั่นก็คือรหัส S 560 e ซึ่งมาพร้อมกับแพ็คเกจตกแต่ง AMG ทำให้ซีดานไซส์ยักษ์คันนี้ไม่เพียงแต่หรูหราและรักษ์โลกเท่านั้น แต่มันยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่แม้ว่าคุณจะมีลูกโตจนเรียนจบแล้วแต่ขับไปจอดที่ไหนยังก็มีแต่คนเรียกพี่
ในแง่ของความพรีเมียมหรูหรานั้นไม่มีอะไรให้กังขาเพราะนี่คือเรือธงของค่ายดาวสามแฉก ขนาดตัวที่ใหญ่โตบ่งบอกถึงความภูมิฐานสมกับฐานะได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งทีทำให้ซีดานลำยักษ์คันนี้น่าสนใจคือระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่มอบความสนุกสนานได้เหมือนรถขนาดเล็ก รวมถึงระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยระดับสูงที่ไม่ว่าคุณจะขับเองหรือนั่งโดยสารก็อุ่นใจทุกครั้ง นอกจากนี้ S 560 e ยังเป็นโมเดลที่ทาง Mercedes-Benz ประเทศเยอรมันไว้วางใจใช้ไทยเป็นฐานการประกอบด้วย
S 560 e ที่เราได้ขับมาพร้อมกับชุดแต่งภายนอก AMG Bodystyling ประกอบด้วยกันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ต พร้อมกับใส่ล้ออัลลอย AMG แบบ 10 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ จะพบกับจานเบรกเจาะรูระบายความร้อนและชุดคาลิเปอร์เบรกขนาดใหญ่ที่มั่นใจได้เลยว่าความเร็วเท่าไหร่ก็เอาอยู่ และล้ำสมัยสุดๆ กับไฟหน้าระบบ MULTIBEAM LED ที่พ่วงระบบปรับองศาตามการเลี้ยวของพวงมาลัย, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ และระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้งมาอย่างครบครัน
สเปครถยนต์
Body Style: | Sedan |
---|---|
Description: | ซีดานหรูขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ขับเคลื่อนล้อหลัง |
Engine: | เบนซิน V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ + มอเตอร์ไฟฟ้า |
Fuel Consumption: | 22 กม./ลิตร (ประมาณ) |
Fuel Type: | เบนซิน |
Make: | Mercedes-Benz |
Max Power: | 489 แรงม้า (รวมทั้งระบบ) |
Max Torque: | 700 นิวตันเมตร (รวมทั้งระบบ) |
Model: | Mercedes-Benz S 560 e AMG Premium |
Price Guide: | 6,999,000 บาท |
Release Date: | มีนาคม 2019 |
0-100 km/h: | 5.0 วินาที |
Transmission: | เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-Tronic |
การขับขี่
หากจะให้บอกถึงอุปนิสัยของพี่ใหญ่คันนี้ล่ะก็ แน่นอน นี่คือผู้ใหญ่ที่มีความเท่ หล่อเนี๊ยบ และมีความสุภาพนุ่มนวล แต่เมื่อใดที่พี่เขาเอาจริงก็ดุดันไม่ใช่เล่น ขุมพลังไฮบริดเบนซิน V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังรวม 489 แรงม้า ให้ความรู้สึกนุ่มนวลทุกจังหวะ และยังสลับการทำงานได้อย่างแนบเนียนไม่มีอาการสะดุด
เมื่อคุณกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ตอนแบตเตอรี่เต็ม คุณจะพบกับความเงียบแต่ระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในรถทำงานเป็นปกติ พอเข้าเกียร์เดินหน้า รถจะเคลื่อนตัวออกไปอย่างนุ่มนวลและไร้เสียงรบกวน การขับขี่ความเร็วต่ำรถจะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้ามาชับเคลื่อนล้อ คุณจะไม่เสียน้ำมันสักหยดรวมถึงไม่ก่อมลพิษแม้แต่มิลลิกรัมเดียว
แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนความจุ 13.5 kWh สามารถช่วยให้คุณขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ราว 50 กม. เมื่อไฟใกล้หมดเครื่องยนต์จะเข้ามารับช่วงต่อโดยอัตโนมัติ อัตราเร่งของ S 560 e ในโหมด Comfort มีมากพอที่จะทำให้คุณยิ้มกว้าง มันดึงให้หลังติดเบาะจนเราลืมไปเลยว่านี่เป็นซีดานขนาดใหญ่พร้อมกับทะยานไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวล
จังหวะเร่งออกตัวเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานผสานกันเพื่อส่งกำลังแรงบิดสูงสุด ในจังหวะยกคันเร่งและเบรกระบบจะทำหน้าที่แปลงพลังงานเป็นกระแสไฟฟ้าชาร์จกลับเข้าไปจัดเก็บที่แบตเตอรี่ กระบวนการนี้ทำให้รถมีความประหยัดมาก
เกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic Plus ทำหน้าที่ได้อย่างลื่นไหลจนแทบไม่มีอากการสะดุดให้เห็น เกียร์มีความฉลาดที่สามารถปรับอัตราทดตามน้ำหนักการเหยียบคันเร่งได้ ขับแบบปกติอัตราทดเกียร์จะชิดกันเพื่อความนุ่มนวล เมื่อเหยียบหนักเกียร์จะรับรู้และปรับอัตราทดให้กว้างขึ้นเพื่อมอบความสนุกในการลากรอบ การคิ๊กดาวน์ต้องเหยียบลึก กำลังที่ได้เหลือๆ กับการเร่งแซง ขณะที่การตอบสนองจากการใช้โหมดเกียร์แมนวล +/- และการใช้แพดเดิลชิฟท์ก็ทำได้รวดเร็ว
S 560 e คือสุดยอดแห่งความนุ่มนวลตัวจริง ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC มอบความนุ่มขั้นสุด อุปสรรคต่างๆ บนพื้นผิวถนนถูกดูดซับไว้เหลือเพียงแรงสะเทือนเบาๆ ขึ้นมายังห้องโดยสาร โช๊คอัพแปรผันความแข็งตามความเร็วที่ใช้ เมื่อคุณขับเร็วจะรู้สึกเฟิร์มขึ้นเล็กน้อยเพื่อความมั่นใจบนความเร็วสูง สามารถเข้าโค้งหนักๆ และจัดการการทรงตัวได้ดี อาการโยนแทบไม่มี ทางตรงก็ยังเกาะถนนหนึบ ไม่โคลง ไม่ส่าย เมื่อเจอรอยปะรอยซ่อมทางก็สามารถขับผ่านไปได้โดยไม่รู้สึกสะเทือนมากนัก
ระบบบังคับเลี้ยวให้ความรู้สึกแบบผสมกันระหว่างความสปอร์ตและความสบาย กล่าวคือที่ความเร็วต่ำจะเบา หมุนควงได้ง่ายโดยไม่ต้องออกแรงมากนัก ขณะเดียวกันก็มีอัตราทดพวงมาลัยที่ค่อนข้างกระชับ ระยะฟรีน้อย และค่อนข้างไวพอสมควร ทำให้การควบคุมทิศทางทำได้ง่ายและแม่นยำ การขับรถขนาดใหญ่แบบในการจราจรที่หนาแน่นจึงไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป เมื่อใช้ความเร็วสูงพวงมาลัยจะหนืดขึ้นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการบังคับควบคุมให้มากขึ้น
ระบบเบรกของ S 560 e ตอบสนองได้ดีเยี่ยมบนพื้นฐานความนุ่มนวล แป้นเบรกมีระยะฟรีไม่มีมาก เหยียบลงไปนิดเดียวก็เริ่มหน่วง แรงต้านการเหยียบมีความเป็นธรรมชาติและส่งต่อน้ำหนักการเหยียบได้สัมพันธ์กับการหน่วงความเร็วทำให้กะระยะเบรกได้ง่าย การเบรกหนักๆ รถไม่มีอาการน่าหวาดเสียวแม่แต่น้อย
S 560 e มาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่สุดล้ำที่ทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้น เราได้ลองใช้ระบบรักษาให้รถอยู่ในช่องจราจรควบคู่กับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามรถคันหน้าบนทางหลวงระหว่างเมือง รถสามารถตรวจจับยานพาหนะข้างหน้าได้ไวและแปรผันความเร็วตามอย่างนุ่มนวล ช่วงที่มีเส้นจราจรชัดๆ รถสามารถโค้งตามทางได้เอง นอกจากนี้ S 560 e ยังมาพร้อม Driving Assistance Package ที่ประกอบด้วย ระบบช่วยหลบหลีกจากการชนด้านหน้า ระบบเตือนมุมอับสายตา ระบบเตือนผู้ขับและหยุดรถอัตโนมัติเมื่อไม่มีการตอบสนอง ระบบช่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE System ระบบสุดล้ำพวกนี้จะช่วยให้ทุกการเดินทางของคุณมีความปลอดภัยขั้นสูงสุด
และแน่นอนว่าเมื่อเป็นรถหรูระดับเรือธง การป้องกันเสียงรบกวนจึงยอดเยี่ยมที่สุด เราขับความเร็วเดินทาง 120 กม./ชม. แต่ยังไม่ได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาตามขอบหน้าต่างเลย เสียงยางมีดังแผ่วๆ เสียงเครื่องยนต์เงียบสนิท จะมีให้ได้ยินบ้างเบาๆ ก็ตอนเร่งเครื่องเท่านั้น ส่วนเสียงช่วงล่างจะดังแบบแน่นๆ เมื่อเจอหลุมบ่อ
ด้านความประหยัดนั้น S 560 e ไม่ทำให้เราผิดหวัง เติมน้ำมันเต็มถังสามารถวิ่งไกลกว่า 600 กม. เราไม่ได้ขับเน้นประหยัด ขับทดสอบแบบผสมทั้งในเมืองและนอกเมือง อัตราสิ้นเปลืองบนระบบของรถขึ้นแสดงที่ 22 กม./ลิตร ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมาก และเท่าที่สังเกตคือเวลาขับในเมืองด้วยความเร็วคงที่ รถจะสลับการทำงานระหว่างมอเตอรไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ตลอด ซึ่งอัตรากินน้ำมันที่ระบบของรถแสดงตัวเลขค่อนข้างประหยัดมาก
เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย
จากความสวยงามภายนอกที่ผสานกับความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว ภายในของ S 560 e คือที่สุดแห่งความเหนือระดับอย่างไร้ที่ติ การตกแต่งต้องใช้คำว่าดีที่สุด เมื่อคุณเปิดประตูเข้ารถคุณจะรู้สึกได้ถึงความหรูหรารอบตัวจากวัสดุคุณภาพเยี่ยมและการตกแต่งที่ละเอียดลออ แดชบอร์ดและแผงประตูเป็นแบบซอฟต์ทัชหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะหุ้มหนัง Nappa ตัดเย็บลวดลาย Diamond Cut อีกทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างก็ถูกประเคนใส่มาให้อย่างครบครัน
ประตูรถขนาดใหญ่ทำให้การเข้า-ออกรถทำได้สะดวก คุณสามารถหาตำแหน่งนั่งขับที่ดีได้ง่ายจากการปรับเบาะไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นจดจำตำแหน่งการปรับ Memory Seat อีกทั้งเบาะนั่งยังมีระบบระบายอากาศและอุ่นเบาะเพื่อความสบายขั้นสุด พวงมาลัยปรับไฟฟ้า ทัศนวิสัยการมองรอบคันดี มุมมองด้านต่างๆ ไม่ถูกบดบัง เสาหน้าไม่ใหญ่จนเกินไป พื้นที่เบาะหน้ามีมากมาย แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ หน้าจอระบบสาระบันเทิง หน้าปัดดิจิตอล ทุกอย่างอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายจากผู้ขับ
เบาะหลังมาพร้อมกับพื้นที่มากมาย ตัวเบาะปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด มีฟังก์ชั่นนวด อุ่นเบาะ และระบายอากาศ เบาะตัวซ้ายมีที่รองขาแบบปรับระดับได้ แถมยังเลื่อนเบาะผู้โดยสารตัวหน้าฝั่งซ้ายได้อีก 40 มม. เบาะตัวกลางดึงลงมาเป็นที่วางแขนได้ มีช่องแอร์ด้านหลัง มีปลั๊กไฟ 220V ที่คอนโซลกลาง นอกจากนี้ที่เบาะหลังยังมีจอมัลติมีเดียแยกสำหรับผู้โดยสารทั้งสองฝั่ง มอบความบันเทิงได้เต็มพิกัด
จอกลางแบบ Widescreen ของ S 560 e มีความคมชัดสูงมาก หน้าตาเมนูต่างๆ สวยงามทันสมัย ใช้งานง่ายขณะขับขี่ผ่านปุ่มควบคุมแบบหมุนและทัชแพดที่คอนโซลกลาง ระบบมาพร้อมกับฟังก์ชั่นใช้งานที่ครบครัน และรองรับการเชื่อมต่อทั้งบลูทูธ USB รวมถึง Apple CarPlay และ Android Auto มีระบบนำทางติดมาให้ จากการใช้งานจริงระบบมีความลื่นไหลมาก แถมยังรองรับการสั่งการด้วยเสียง และคุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับระบบเสียง Burmester ที่มีคุณภาพเสียงเข้าขั้นสุดยอดในทุกบทเพลง
ออปชั่นหรูอื่นๆ ได้แก่ระบบปรับอากาศอัตโนมุติแบบ 4 โซน, ช่องชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย, นาฬิกาอนาล็อก, ไฟ Ambient light 64 สี, ระบบควบคุมสภาพแวดล้อมภายในห้องโดยสาร, พวงมาลัย AMG, แป้นเหยียบแบบสปอร์ต เรียกได้ว่าความสะดวกสบายแบบที่คุณต้องการ S 560 e มีให้ทั้งหมด นอกจากนี้คุณจะยังได้พบกับบริการ Mercedes Me Connect ที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างรถและเจ้าของได้แบบไร้สาย สามารถดูสถานะรถหรือสั่งการรถยนต์ได้จากสมาร์ทโฟน รวมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และสอบถามข้อมูลต่างๆ จากคอลเซ็นเตอร์
สรุปความน่าใช้
ไม่ต้องถามหาความสมบูรณ์แบบจากที่ไหนอีกแล้วเพราะ S 560 e มีให้คุณทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่โดนใจ สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ความปลอดภัยระดับสูง ความหรูหรา และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร การขับขี่ของรถคันนี้ทำให้ลืมไปเลยว่านี่คือซีดานขนาดใหญ่ มันทั้งเร็ว แรง กระฉับกระเฉง ปราดเปรียว ขับในเมืองนุ่มสบาย ขับทางไกลยิ่งมีความสุข การควบคุมยอดเยี่ยมทั้งทางตรงและโค้ง แถมยังได้ความประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นี่คืออัครยานยนต์ของคนเหนือระดับอย่างแท้จริง ถ้าคุณกำลังมองหารางวัลให้กับชีวิต นี่แหละคือคำตอบ
The Review
Mercedes-Benz S 560 E AMG Premium
นี่คือที่สุดของซีดานหรูขนาดใหญ่ กว้างขวางและสะดวกสบายขั้นสุด พร้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลครบครัน แม้จะเป็นรถขนาดใหญ่แต่ขับแล้วไม่รู้สึกเทอะทะหรืออืดอาดแต่อย่างใด
PROS
- เป็นยานยนต์หรูที่ตกแต่งแบบสปอร์ตได้อย่างน่าชื่นชม
- ภายในกว้างขวาง มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
- มาพร้อมเทคโนโลยีดิจิทัลสุดล้ำสมัย
- ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดมอบการขับขี่ที่กระฉับกระเฉง เงียบ และประหยัด
- ช่วงล่างนุ่มนวลในระดับสูงสุด
- ภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงและตกแต่งอย่างประณีตหรูหราในทุกรายละเอียด
- เทคโนโลยีช่วยขับขี่และระบบความปลอดภัยมีเยอะ
CONS
- ไม่มีระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อหลัง Rear-Wheel Steering
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
Mercedes-Benz S 560 E AMG Premium DEALS
We collect information from many stores for best price available