Mercedes-Benz C 300 E AMG Dynamic 2019 ปลั๊กอินไฮบริดสุดหรู แรงไม่น้อยหน้าเวอร์ชั่น AMG

Overview Of Car

ซีดานหรูขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 320 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร แรงเกินห้ามใจ อัพเกรดอุปกรณ์ใหม่ ภายในสวยงาม พร้อมความสะดวกสบายแบบจัดเต็ม ราคา 3,215,000 บาท

           C-Class ยังคงเป็นรถที่ขายดีที่สุดของ Mercedes-Benz ไม่ว่าจะปรับโฉม เปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือแตกรุ่นย่อยใดๆ ออกมาก็มักจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเสมอ เมื่อพูดถึงเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในกลุ่ม C-Class  มีการพัฒนามาแล้วถึง 3 เจเนอเรชั่น เจเนอเรชั่นแรกคือ C 300 BlueTEC Hybrid ที่ยังเป็นแบบไฮบริดดั้งเดิมเสียบปลั๊กไม่ได้ ก่อนจะพัฒนาเป็น C 350 e Plug-in Hybrid คราวนี้เสียบปลั๊กได้และมาพร้อมกับพละกำลัง 279 แรงม้า และล่าสุดคือ C 300 e AMG Dynamic ที่อัพเกรดทั้งด้านพละกำลังเป็น 320 แรงม้า และระยะทางขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนที่ไกลถึง 60 กม.

            เรือนร่างของ C 300 e AMG Dynamic ถูกแต่งเติมด้วยแพ็คเกจ AMG Bodystyling กันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต กระจังหน้า Diamond Grille พร้อมล้ออัลลอย AMG ขนาด 18 นิ้ว เรียกว่าสวยสมบูรณ์แบบ ด้วยความยาวตัวถัง 4,702 มม. กว้าง 1,810 มม. สูง 1,432 มม. มันจึงเป็นรถซีดานที่มีขนาดพอเหมาะสำหรับผู้ขับขี่ทุกกลุ่ม ระยะฐานล้อยาว 2,840 มม. ทำให้ภายในห้องโดยสารมีพื้นที่เพียงพอเมื่อต้องนั่งเต็ม 4 คนโดยไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป น้ำหนักตัวรถ 1,835 กก. ถือว่าหนักเอาเรื่องเนื่องจากต้องแบกชุดแบตเตอรี่ไปด้วย

            รูปโฉมภายนอกมีความสปอร์ตทันสมัย ชุดไฟหน้า MULTIBEAM LED พร้อมฟังก์ชั่นเสริมแบบจัดเต็มถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ขณะที่ไฟท้าย LED รูปทรงตัว C ก็ดูโดดเด่นสวยงามยามค่ำคืน ลงตัวกับกันชนท้ายและท่อไอเสียคู่สุดเท่

 

1 of 26

- +

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

11.

12.

13.

14.

15.

16.

17.

18.

19.

20.

21.

22.

23.

24.

25.

26.

สเปครถยนต์

แรงเกินคาด

            พูดได้ว่า C 300 e AMG Dynamic แรงที่สุดในกลุ่ม C-Class (ไม่รวมเวอร์ชั่น AMG) ก็ว่าได้ ขุมพลังเบนซินไฮบริดกำลังรวม 320 แรงม้า มอบความบันเทิงทุกครั้งที่กระแทกคันเร่ง แรงดึงที่เกิดขึ้นทำให้หลังติดเบาะและทะยานไปข้างหน้าอย่างมั่นคง การเร่งความเร็วจาก 60 ไป 120 กม./ชม. ทำได้อย่างว่องไวและไหลลื่น การที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วยเสริมแรงทำให้มันมีอัตราเร่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก โดยรวมแล้วมันเป็นรถที่ขับสนุก กระฉับกระเฉง ตอบสนองว่องไว ขับแล้วไม่เบื่อเลย

            ในโหมด SPORT ความสนุกจะเพิ่มขึ้นอีกระดับ รถตอบสนองไวขึ้น โหมดนี้เกียร์จะลากรอบสูงขึ้น คันเร่งไวขึ้น พวงมาลัยหนักขึ้น ให้ความรู้สึกถึงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างแท้จริง ถ้า SPORT ยังไม่สาแก่ใจ ลอง SPORT+ แล้วจะไม่อยากเชื่อว่านี่คือปลั๊กอินไฮบริดเพราะมันแทบไม่เป็นรอง C43 AMG

            ระบบส่งกำลังของ C 300 e AMG Dynamic เป็นเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด มันทำหน้าที่ได้อย่างเนียนกริ๊บในทุกจังหวะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลง ทั้งยังฉลาดในการปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ ถ้าขับโหมด COMFORT อัตราทดเกียร์จะอยู่ชิดกันเพื่อความต่อเนื่อง ราบรื่น นุ่มนวลไร้รอยต่อ พอโหมด SPORT เกียร์รู้งานทันทีด้วยการปรับอัตราทดให้กว้างขึ้นเพื่อลากรอบสร้างความเร้าใจให้กับผู้ขับขี่ได้แบบถึงอารมณ์ รวมถึงจังหวะชิฟท์ดาวน์จะมีอาการเย่อนิดๆ ให้ได้รับรู้ ไม่ได้เนียนกริ๊บแบบ COMFORT

            พวงมาลัยของ C 300 e AMG Dynamic ปรับตั้งค่ามาเป็นอย่างดีให้รองรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ที่ความเร็วต่ำไม่หนักหรือเบาเกินไป ที่ความเร็วสูงหนักแน่นมั่นคงในทางตรงแต่พอหักเข้าโค้งจะรู้สึกเบา ระยะฟรีพวงมาลัยมีน้อยทำให้การตอบสนองต่อการหักเลี้ยวค่อนข้างไว โดยรวมแล้วเป็นพวงลัยที่มีสมดุลที่ดี

            ช่วงล่างของ C 300 e AMG Dynamic มีความนุ่มนวลและป้องกันแรงสะเทือนได้ดีแม้ว่าจะต้องแบกน้ำหนักกว่า 1.8 ตัน เวลาขับผ่านหลุม ฝาท่อ รอยปะถนน จะรู้สึกแน่นและไม่สะเทือนมาก พอเจอทางที่เป็นคลื่นรถจะโยกไปมาเล็กน้อยแต่ยังซับแรงได้ดีอยู่ การขับความเร็วสูงก็ยังมอบความมั่นใจด้วยความนิ่งและหนึบ ขณะที่การเข้าโค้งก็เป็นไปอย่างแนบเนียนและมีสมดุลที่ดี แบตเตอรี่ที่อยู่ท้ายรถช่วยกดท้ายให้หนึบยิ่งขึ้นตอนเข้าโค้งแต่ก็มีอาการยวบย้วยบ้างเล็กน้อย อาการโยนมีไม่มาก อาการหน้าดื้อจะพบเมื่อเข้าโค้งแรงๆ ด้วยความเร็วสูง โดยรวมแล้วช่วงล่างเอาอยู่กับการขับขี่ทั่วไป แต่ด้วยความแรงระดับ 320 ม้าถ้าอยากซิ่งต้องอัพเกรดช่วงล่าง

            เบรกของ C 300 e AMG Dynamic เป็นดิสก์ 4 ล้อพร้อมฟังก์ชั่นเบรกมือไฟฟ้าและระบบ Brake Hold สำหรับใช้ในเวลารถติด คาลิเปอร์หน้าสีเทา จานเบรกหน้าแบบเจาะรูระบายความร้อน การตอบสนองของแป้นเบรกก็ตามสไตล์รถที่พ่วงระบบไฟฟ้าเข้ามาคือไม่เป็นธรรมชาติแบบเบรกทั่วไป เหยียบช่วงแรกเหมือนฟรีเปล่าต้องเพิ่มน้ำหนักการเหยียบให้ลึกลงไป แรงต้านแป้นเบรกไม่สม่ำเสมอ พลังงานจากการเบรกจะถูกแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าชาร์จกลับแบตเตอรี่ ดังนั้นแค่ยกคันเร่งรถก็เริ่มหน่วงแบบรู้สึกได้แล้ว

            การป้องกันเสียงรบกวนทำได้ดีตามมาตรฐานรถหรู เสียงลมเริ่มเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยินตามขอบกระจกที่ความเร็ว 110 กม./ชม. เสียงยางค่อนข้างเงียบใช้ได้ เสียงเครื่องยนต์ทำงานในขณะขับขี่แทบไม่ได้ยินเลย จะดังชัดๆ ก็ตอนกดเกิน 3,000 รอบต่อนาที ขึ้นไป เช่นเดียวกับการสลับการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ที่แทบไม่รู้สึก

ระบบไฮบริดหลายทางเลือก

            ระบบไฮบริดของ C 300 e AMG Dynamic มี 4 แบบสามารถเลือกการทำงานได้จากสวิตช์ที่คอนโซลกลาง ประกอบด้วย HYBRID เป็นค่ามาตรฐาน รถจะสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และไฟฟ้าให้เอง, E-MODE ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวในการขับเคลื่อน สามารถทำความเร็วได้ถึง 130 กม./ชม., E-SAVE รถจะพยายามคงระดับไฟในแบตเตอรี่ให้คงที่ เหมาะสำหรับการเตรียมพลังไฟไว้ใช้เมื่อจำเป็น และ CHARGE โหมดนี้เครื่องยนต์จะติดเกือบตลอดเวลาเพื่อชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่

            แบตเตอรี่ของ C 300 e มีขนาดความจุ 13.5 kWh เราลองขับ E-MODE บนสภาพการจราจรจริง ขับจากในกรุงเทพฯ ออกนอกเมืองโดยใช้ความเร็วตามสภาพการจราจร ติดบ้าง คลานช้าบ้าง ไหลๆ บ้าง และ 100-120 กม./ชม. ในขณะที่ถนนโล่ง C 300 e ของเราสามารถวิ่งได้ไกลถึง 60 กม. จนรถฟ้องว่าระดับไฟในแบตเตอรี่ต่ำจึงกลับมาขับ HYBRID ปกติ นี่ถือว่าเป็นระยะทางที่ไกลพอสมควร ถ้าคุณวิ่งใช้งานละวันไม่เกิน 60 กม. ก็แทบไม่ต้องเติมน้ำมันเลย

            ในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองต้องดูจากการขับขี่โหมด HYBRID จากการขับขี่ของเราที่ไม่ได้เน้นประหยัด ปรับ COMFORT บ้าง SPORT บ้าง มี SPORT+ บางช่วง ตัวเลขที่โชว์บนหน้าปัดอยู่ราว 7.5 ลิตร/100 กม. แปลงค่าออกมาเป็น 13.3 กม./ลิตร ทั้งนี้ ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองสามารถแปรเปลี่ยนไปได้จากลักษณะการขับขี่ อัดมากกินมาก อัดน้อยกินน้อย แต่มีข้อสังเกตอยู่หนึ่งอย่างคือ โหมด CHARGE จะกินน้ำมันมากที่สุดเพราะต้องทำ 2 หน้าที่คือสร้างพลังขับเคลื่อนและชาร์จไฟไปพร้อมกัน

ภายในหรูเลิศ

            C 300 e AMG Dynamic เป็นรุ่นท็อปของ C-Class ที่วางขายในไทยตอนนี้ ดังนั้นออปชั่นภายในจึงใส่มาเต็มไมมีกั๊ก เริ่มตั้งแต่ระบบกุญแจ Keyless ล็อก/ปลดล็อกรถแค่แตะแถบสี่เหลี่ยมที่มือจับประตู เข้ามาภายในจะพบกับเบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ตหุ้มหนังเกรดพรีเมี่ยม ปรับไฟฟ้าและมีระบบจดจำตำแหน่ง พวงมาลัยปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง-เข้า-ออก กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า

            การเช้า-ออกรถนั้นทำได้ง่าย ตำแหน่งนั่งขับอยู่ต่ำตามมาตรฐานรถซีดานทั่วไป ทัศนวิสัยรอบคันค่อนข้างดี เสา A-pillar ไม่ใหญ่เกินไป มุมมองทะลุที่กระจกหลังกว้างและชัด พื้นที่ของเบาะตอนหน้ามีเพียงพอกับคนสูง 180 ซม. เบาะมีความนุ่ม นั่งสบาย และยังโอบกระชับลำตัวไม่ให้โยกไม่-มาขณะเข้าโค้ง

            เบาะหลังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับคนสูง 180 ซม. เข้า-ออกไม่ลำบาก นั่งสบาย เข่าไม่ชนเบาะหน้า มีพื้นที่ช่วงศีรษะเหลือเล็กน้อย พนักพิงเบาะเอนกำลังดี ฟองน้ำตัวเบาะนุ่มและแน่น มีแอร์ตอนหลังเพื่อความเย็นสบาย เบาะตัวกลางแคบ อุโมงค์กลางค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นอย่านั่งดีกว่าแต่ดึงลงมาเป็นที่วางแก้วน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีม่านบังแดดที่กระจกหลังปรับไฟฟ้าด้วย

            แดชบอร์ดมีการบุนุ่มด้วยหนังสังเคราะห์ งานประกอบและวัสดุที่ใช้ดีงามตามมาตรฐานรถเบนซ์ ตกแต่งด้วยพลาสติกสีเงินอะลูมิเนียม แผงเครื่องปรับอากาศและคอนโซลกลางเป็นลายไม้สวยหรูดูแพง ถัดลงมาเป็นทัชแพดและแป้นหมุนควบคุมหน้าจอระบบสาระบันเทิง พร้อมด้วยปุ่มปรับค่าต่างๆ ของรถ อาทิ DYNAMIC SELECT และปรับเลือกโหมด HYBRID แบบต่างๆ

            พวงมาลัยแบบสปอร์ต AMG 3 ก้าน มาพร้อมปุ่มกดและทัชแพดสำหรับควบคุมเครื่องเสียงที่ก้านซ้าย อะแด็ปทีฟครูสคอนโทรลและทัชแพดควบคุมจอมาตรวัดดิจิตอลอยู่ก้านขวา มีแป้นแพดเดิลชิฟท์อยู่หลังพวงมาลัย ปุ่มต่างๆ บนพวงมาลัยมันค่อนข้างเยอะต้องใช้เวลาเล่นสักพักก็จะใช้งานได้ราบรื่น ก้านไฟเลี้ยวอยู่ทางซ้ายของคอพวงมาลัย ทางขวาเป็นก้านเปลี่ยนเกียร์

            ชุดมาตรวัดดิจิตอลของ C 300 e AMG Dynamic เป็นจอสีความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ปรับการแสดงผลได้ 3 แบบ คือ Classic, Sport และ Progressive กราฟิกสวยงามอลังการ แถมบอกข้อมูลการขับขี่ได้เยอะและละเอียดมาก ข้อเสียคือสะท้อนแสงแดดบ้างในเวลากลางวัน

            ระบบสาระบันเทิงของ C 300 e AMG Dynamic เป็นรุ่นล่าสุด แสดงผลบนจอขนาด 10.25 นิ้ว ฟังก์ชั่นครบ สีสัน กราฟิก ความคมชัด หน้าตาเมนู การใช้งาน ความลื่นไหล เอาไป 10/10 แถมยังรองรับการเชื่อมต่อ Mercedes me Connect ระบบเสียงเป็นของ Burmester ไว้ใจได้เรื่องคุณภาพเสียง แถมหน้าจอนี้ยังแสดงภาพจากกล้อง 360 องศา ที่คุณภาพของภาพนั้นดีมาก ปรับมุมมองได้หลายแบบตามถนัด

            ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ แยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา สามารถสั่งเปิดแอร์ล่วงหน้าได้จากแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เติมเต็มความอลังการยามค่ำคืนด้วยไฟบรรยากาศรอบห้องโดยสารที่เลือกปรับได้มากมายถึง 64 สี นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist รวมถึงฝากระโปรงท้ายแบบแฮนด์ฟรี ห้องเก็บสัมภาระจุ 300 ลิตร ติดพื้นที่วางแบตเตอรี่เล็กน้อย พนักพิงเบาะหลังพับได้

สรุปความน่าใช้

            C 300 e AMG Dynamic เป็นรถเสียบปลั๊กที่ต้องบอกว่าเกินคาดในหลายๆ ด้าน มองภายนอกมันมีความสปอร์ต แต่เหนือความสปอร์ตคือสมรรถนะความแรงจากระบบขับเคลื่อนลูกผสมเบนซินไฟฟ้าที่ชวนตะลึง มันเร็วมาก อัตราเร่งจัดจ้านเกือบเทียบเท่า C43 AMG ด้วยซ้ำ นี่คือรถที่เวลาปกติขับสบายดูไร้พิษสง แต่ถ้าถูกท้าทายเมื่อไรได้เรื่องแน่นอน ในแง่การบังคับควบคุมถ้าขับขี่ทั่วไปไม่มีปัญหา ถ้าอยากซิ่งต้องอัพเกรด เพราะมันไม่ใช้รถซิ่งแท้ๆ แบบ AMG

            ในเรื่องออปชั่น นี่คือตัวท็อปของ C-Class ที่วางขายในปัจจุบัน ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมาไม่ครบ คุณได้ทุกอย่างที่ต้องการแน่ในราคา 3 ล้านต้น และด้วยระยะทางขับขี่โหมดไฟฟ้าล้วน 60 กม. คุณแทบจะไม่ต้องเข้าปั้มน้ำมันเลยตลอดสัปดาห์แค่ชาร์จไฟให้เต็มแล้วขับใช้งานอย่างสบายใจ นี่แหละประหยัดค่าน้ำมันได้จริงๆ