เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัว Mercedes-AMG GT S น้องใหม่ในตระกูล AMG GT ที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้านเครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบกันสะเทือน ตลอดจนดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก เติมเต็มไลน์อัพรถสปอร์ตสมรรถนะสูงด้วยราคาที่ถูกลง
Mercedes-AMG GT R เป็นยอดสูงสุดของสปอร์ตตระกูล AMG GT โดยมาพร้อมกับราคาค่าตัว 17.4 ล้านบาท ด้วยราคาระดับนี้คนที่สามารถเป็นเจ้าของได้อาจมีไม่มาก การมาของน้องเล็ก GT S ช่วยให้คนที่มองรถสปอร์ตตระกูลนี้เข้าถึงได้งายขึ้นด้วยราคา 14.9 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกัน รถทั้ง 2 รุ่นนี้คือฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ ต่างแค่หัวใจภายในเท่านั้น
ดีไซน์ภายนอกของ GT S โดดเด่นด้วยการออกแบบฝากระโปรงหน้าแบบ jet wing ที่แสดงให้เห็นถึงความกว้าง ปราดเปรียว ดูลู่ขนานไปกับพื้นถนน กระจังหน้าแบบ AMG สอดรับกับฝากระโปรงหน้ายาวและทรงพลัง ช่องรับอากาศที่กว้าง ช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าสู่ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ได้ดียิ่งขึ้น
GT Sมาพร้อมกับชุดล้อ AMG 10 spoke ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ยางหน้า 265/35 R19 ล้อหลังขนาด 20 นิ้ว ยางหลัง 295/30 R30, ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance, ระบบท่อไอเสีย AMG Performance Exhaust System, สปอยเลอร์หลังปรับตามความเร็วอัตโนมัติ และระบบเบรก AMG High-Performance Composite Brake พร้อมคาลิเปอร์สีแดง
โครงสร้างตัวรถน้ำหนักเบาแบบ spaceframe ผลิตจากอลูมิเนียม แม็กนีเซียม และเหล็กกล้า ซึ่งทำให้ตัวรถมีศูนย์ถ่วงที่ต่ำ นอกจากนี้ยังมีเหล็กคานขวางอลูมิเนียมที่ช่วยปกป้องขณะพลิกคว่ำและยังมีวัสดุดูดซับเสียงรบกวนเพิ่มเติมอีกด้วย มิติตัวรถยาว 4,544 มม. กว้าง 1,939 มม. สูง 1,288 มม.
ภายในมาพร้อมเบาะหนัง Nappa ที่อยู่ต่ำเพื่อช่วยโอบล้อมผู้ขับขี่ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง, พวงมาลัย AMG Performance Steering wheel หรือสามารถสร้างความโดดเด่นให้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดเบาะแบบเอเอ็มจีที่สามารถปกป้องร่างกายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้มากขึ้นด้วยพนักพิงหลังที่มีความโค้งและเสริมด้วยวัสดุเพื่อความนุ่มสบายที่ด้านข้างมากกว่าเบาะที่นั่งแบบมาตรฐาน เพิ่มความสปอร์ตแต่หรูหรา ด้วยวัสดุโครเมียมสีเงินบนคอนโซลกลาง ช่องแอร์ และที่พักแขน แผงหน้าปัดกว้าง ทำให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกราวกับถูกโอบล้อมด้วยปีกนก
ห้องโดยสารสามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลาย เพื่อเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่ด้วยเครื่องเล่น DVD รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต COMAND Online พร้อมด้วยระบบเสียง Burmester
ไฉไลต์สำคัญของ GT S คือขุมพลังที่ประจำการอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า แม้ว่าจะเป็นเครื่อง V8 4.0 ลิตร Bi-Turbo บล็อกเดียวกันกับแฝดผู้พี่ แต่ GT S มีพละกำลังน้อยกว่า โดยมีแรงม้าสูงสุด 522 ตัว ที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร ที่ 1,900-5,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด AMG SPEEDSHIFT DCT มีแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัย เร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม.
Mercedes-AMG GT S มีระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL ด้วยการใช้โครงสร้างปีกนกสองชั้นเพื่อรักษาสมดุลของล้อ และติดสปริงไว้ด้านบน ระบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT มีให้เลือก 5 โหมด ได้แก่ Comfort, Sport, Sport+, RACE และ Individual
เกียร์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7 สปีด มีการปรับปรุงให้ใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์สั้นลงโดยเฉพาะเกียร์ 3-7 รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยการติดตั้งปุ่มชิฟท์เกียร์สีเงินที่พวงมาลัยเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แมนนวลได้อย่างสนุกสนาน
ด้านระบบความปลอดภัย ประกอบด้วย ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE® system), ระบบตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบรักษาความเร็ว (Cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist ตลอดจนชุดปะยางฉุกเฉิน
พบตัวจริงของ Mercedes-AMG GT S ได้ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปหรือมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 ระหว่าง วันนี้ – 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.mercedes-benz.co.th หรือ www.facebook.com/MercedesBenzThailand
Gallery