Overview Of Car
เอสยูวีท้ายลาดของผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตแต่ไม่ชอบรถเตี้ย มาพร้อมความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร 367 แรงม้า และความสะดวกสบายตามแบบฉบับรถหรู ราคา 4,690,000 บาท
การตัดสินในทำตลาดแบรนด์ Mercedes-AMG อย่างจริงจังของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงยนตรกรรมสมรรถนะสูงของค่ายดาวสามแฉกได้ง่ายขึ้น ด้วยไลน์อัพตัวแรงที่ยกมาขายเกือบครบทุกรุ่นตามที่มีในยุโรป นับเป็นการนำเสนอทางเลือกให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ประกอบกับการเริ่มนำรถ AMG บางรุ่น เข้ามาประกอบในประเทศไทย ส่งผลให้ราคาค่าตัวถูกลงกว่าตอนนำเข้าจากเยอรมันบ้านเกิดมากมาย
Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé เป็นรถยนต์ในครอบครัว AMG รุ่นล่าสุดที่ถูกนำมาประกอบที่โรงงานในประเทศไทยต่อจาก Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ที่น่าตื่นเต้นคือราคาค่าตัวถูกลงจากเดิมที่ 5.79 เป็น 4.69 ล้านบาท ถูกลง 1.1 ล้านบาท ลองคิดดูแล้วกันว่ายนตรกรรม AMG แท้ๆ ความแรงแบบ AMG แท้ๆ ในราคาแบบนี้มันจะเย้ายวนใจเพียงใด
คุณเริ่มสนใจเจ้าเอสยูวีท้ายลาดรุ่นนี้มากขึ้นแล้วใช่ไหม? วันนี้เราอยู่กับ GLC 43 4MATIC Coupé และจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกันอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา รัดเข็มขัด สตาร์ทเครื่อง เข้าเกียร์ แล้วเหยียบคันเร่งไปพร้อมกัน
สเปครถยนต์
Body Style: | Coupé SUV |
---|---|
Description: | 4 ประตู 5 ที่นั่ง |
Engine: | เบนซิน V6 3.0 ลิตร Bi-Turbo |
Fuel Consumption: | 11.8 กม./ลิตร (ค่าโรงงาน) |
Fuel Type: | เบนซิน |
Make: | Mercedes-AMG |
Max Power: | 367 แรงม้า ที่ 5,500–6,000 รอบต่อนาที |
Max Torque: | 520 นิวตันเมตร ที่ 2,000–4,200 รอบต่อนาที |
Model: | Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé |
Price Guide: | 4,690,000 บาท |
Release Date: | กรกฎาคม 2018 |
0-100 km/h: | 4.9 วินาที |
Transmission: | เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-Tronic |
ดีเอ็นเอของ AMG
รูปลักษณ์ภายนอกของ GLC 43 4MATIC Coupé เป็นที่ล่อตาล่อใจอยู่แล้วด้วยตัวถังแบบคูเป้ 4 ประตูยกสูง โดดเด่นด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling รอบคันตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ดุดัน, กันชนหน้า, บันไดข้างสแตนเลส, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED สีดำ, สปอยเลอร์ท้ายทรงตูดเป็ด AMG Spoiler-lip, กันชนท้ายดีไซน์สปอร์ต, และท่อไอเสียแบบ AMG Sports exhaust system ที่เป็นปลายท่อ 2 ท่อ แบบ 4-pipe look ให้ความคมเข้มดุดันทุกทิศทาง ลงตัวด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ขนาด 21 นิ้ว รัดด้วยยางหน้า 255/40 ZR21 ยางหลัง 285/35 ZR21
ไฟหน้าเป็นแบบ LED Intelligent Light System พร้อมระบบปรับองศาตามการเลี้ยวของพวงมาลัยและระบบไฟสูงอัตโนมัติ ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ แบบ LED Fibre-optic ไฟท้าย LED Light Guide สวยงามยามค่ำคืน
เพียงแค่จอดนิ่งก็ไม่ต้องบอกแล้วว่ามันโดดเด่นเพียงใด แม้ว่ารถตัวถังแบบคูเป้ยกสูงจะเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานแต่ความนิยมกำลังก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้คนจำนวนไม่น้อยชอบความแตกต่าง ชอบสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร จะให้ขับเอสยูวีทรงกล่องแบบเดิมแล้วบอกว่าเป็นสปอร์ตเอสยูวีก็ดูจะไม่จริงสักเท่าไร มันต้องเป็นทรงแบบ GLC 43 4MATIC Coupé นี่แหละ ใครเห็นก็รู้ทันทีว่าสปอร์ต
จบเรื่องของภายนอกไว้พอประมาณ มาต่อที่ภายในกันบ้าง ความสปอร์ตแบบ AMG ถูกถ่ายทอดมายังห้องโดยสารด้วยการตกแต่งลาย AMG Carbon-fibre ที่คอนโซลกลาง รวมถึงประดับประดาด้วยชิ้นส่วนสีเงินอะลูมิเนียม และเดินตะเข็บสีแดงทั้งหมดตั้งแต่พวงมาลัยยันแผงประตู เบาะหนัง AMG Sport seat พวงมาลัย AMG แบบฐานตัด เข็มขัดนิรภัยสีแดง และแป้นเหยียบอะลูมิเนียม บ่อบอกได้ถึงความพิเศษในแบบ AMG ได้เป็นอย่างดี
คุณภาพของภายในห้องโดยสารอยู่ในระดับสูง มีการใช้วัสดุบุนุ่มในหลายๆ ส่วน งานประกอบละเอียดเรียบร้อย แลดูแน่นหนาดีมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าฝีมือการประกอบของคนไทยไม่ได้แพ้คนเยอรมันเลย
การขับขี่
เริ่มตั้งแต่ก้าวขึ้นรถ การมีบันไดข้างทำให้คุณผู้หญิงหรือคนที่ไม่ตัวสูงมากสามารถขึ้น-ลงได้อย่างสะดวก ทั้งยังเพิ่มความสวยงามให้กับตัวรถด้านข้างได้อีกด้วย เมื่อเข้ามานั่งประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัย ความรู้สึกไม่ต่างจากเอสยูวีทั่วไปคือสูงและมีมุมมองด้านหน้าดี กว้างขวาง โปร่งสบาย น่าจะถูกใจคนที่ไม่ชอบความคับแคบของรถสปอร์ตคันเตี้ย แต่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่าเอสยูวีท้ายลาดมาพร้อมกับมุมมองด้านท้ายรถที่จำกัดแถมยังติดสปอยเลอร์อีก จุดนี้ต้องทำใจให้ชิน
หลังจากสตาร์ทรถ การทำงานของเครื่องยนต์รอบเดินเบารู้สึกไม่ต่างจากรถเบนซินทั่วไป เงียบและนุ่มนวล มีเสียงท่อดังอ่อยๆ ให้ได้ยินเล็กน้อย ลองขับช้าๆ ความเร็วต่ำในโหมด Comfort พบว่ารถมีความสุภาพนุ่มนวล พวงมาลัยเบาหมุนควงง่าย ขับคลานตามการจราจรที่แออัดแล้วไม่รู้สึกเหนื่อย เกียร์ทำงานอย่างไร้รอยต่อ โดยรวมให้อารมณ์นุ่มสบายเหมือนกับเอสยูวีหรู ขับในเมืองง่าย คล่องตัว และป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดี
ขุมพลัง V6 3.0 ลิตร Bi-Turbo 367 แรงม้า แสดงพิษสงทันทีที่ต้องการ เมื่อกดคันเร่งหนักเจ้า GLC 43 4MATIC Coupé ก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าทันทีพร้อมกับแรงฉุดที่ดึงให้เราหลังติดเบาะ ก่อนจะแล่นฉิวสู่ความเร็วสูงได้อย่างรวดเร็ว เราไม่ได้ทดสอบอัตราเร่งจริงจังแต่ตัวเลข 0-100 กม./ชม. จากโรงงานเคลมไว้ที่ 4.9 วินาที เท่าที่สัมผัสเรามองว่าพวกเขาไม่ได้โกหก เห็นเป็นเอสยูวีที่ภายนอกดูสุภาพเรียบร้อยแต่อย่าไปท้าแข่งกับเขาเชียว
เกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic ขึ้นชื่ออยู่แล้วด้านความฉลาดและรวดเร็ว เมื่อขับขี่ปกติมันก็ทำหน้าที่ได้อย่างนุ่มนวล ลื่นไหล ไม่ลากรอบ เมื่อใดที่ต้องการอัตราเร่งแบบฉับพลัน เพียงกดแพดเดิลชิฟท์เกียร์ก็จะลดลงต่ำในทันทีพร้อมกับรอบเครื่องดีดขึ้นสูงและแรงดึงที่น่าประทับใจ การกดคันเร่งคิ๊กดาวน์ทำได้เร็วเช่นกัน เร่งแซงรถบรรทุกคันยาวๆ จึงเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังมีโหมดแมนวลเป็นปุ่มกดอยู่ข้างปุ่มหมุนที่คอนโซลกลาง คุณสามารถควบคุมเกียร์ด้วยตัวเองจากแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัย และสัมผัสกับความสปอร์ตแบบ AMG ได้เลยเต็มๆ
ข้อดีของรถยกสูงที่แม้จะสปอร์ตเพียงใดก็คือคุณจะรู้สึกนุ่มสบายไม่แข็งกระด้าง ซึ่งถ้าเป็นรถสปอร์ตคันเตี้ยจะไม่มีทางได้พบฟีลแบบนี้เลย GLC 43 4MATIC Coupé ของเรามาพร้อมระบบกันสะเทือน AIR BODY CONTROL ที่มอบความนุ่มหนึบ เกาะถนนเป็นเยี่ยม ระบบกันสะเทือนชุดนี้สามารถเลือกปรับโหมดได้ตั้งแต่ Comfort จนถึง Sport ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณเลย
ที่ความเร็วต่ำระบบกันสะเทือนช่วยป้องกันอุปสรรคต่างๆ จากพื้นถนนได้ดีมาก รอยปะ รอยต่อ ฝาท่อ ร่อง หลุมต่างๆ ไม่ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดใจเลย จังหวะรูดผ่านแถบชะลอความเร็วก็เป็นไปอย่างอย่างนุ่มนวล โดยรวมให้ความนุ่มสบายไม่ต่างจากมาตรฐานเอสยูวีหรู
ที่ความเร็ว 110 กม./ชม. GLC 43 4MATIC Coupé ของเรานิ่งมาก เกาะถนนไม่โคลงเคลง การทรงตัวในขณะเข้าโค้งทำได้ดี อาการโยนมีไม่มาก ประกอบกับพวงมาลัยที่จะเริ่มหนักขึ้นตามความเร็วที่ใช้ ช่วยให้ควบคุมง่าย เพิ่มความมั่นใจทั้งทางตรงและทางโค้ง ในโหมด Sport พวงมาลัยจะหนืดและมีระยะฟรีน้อยกว่าปกติส่งผลถึงการหักเลี้ยวที่ไวขึ้น เฉียบคมขึ้น และมีความแม่นยำ ขนาดวงของพวงมาลัยก็กำลังดี จับแล้วรู้สึกแน่นกระชับมือ
ระบบเบรกของ GLC 43 4MATIC Coupé อลังการงานสร้างด้วยจานเบรกเจาะรูระบายความร้อนประกบคู่คาลิเปอร์เบรก AMG สีเทา ให้อารมณ์เบรกแบบที่เราต้องการคือนุ่มนวลแต่หนึบ น้ำหนักความหน่วงขึ้นอยู่กับการเหยียบโดยจะเริ่มหน่วงเมื่อเหยียบลงไปประมาณ 10% ข้อดีคือกะระยะได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงเยอะในการเหยียบ ไม่ต้องทำความคุ้นชินอะไรมากมายก็ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีอาการเบรกแล้วหัวทิ่ม
GLC 43 4MATIC Coupé เป็นสปอร์ตเอสยูวีที่มอบความสบายตามแบบฉบับรถหรู ดังนั้นการป้องกันเสียงรบกวนจึงดีงามตามไปด้วย ตลอดการขับขี่ของเราไม่ว่าจะในเมืองหรือทางหลวงต่างจังหวัด เสียงจากภายนอกจะเข้ามาน้อยมากถ้าความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. หลังจากนั้นจากเริ่มมีเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาเพิ่มขึ้นตามความเร็ว เสียงยางจะดังกว่ายางคอมฟอร์ททั่วไปอยู่แล้ว แต่ที่น่าสังเกตคือสุ้มเสียงของเครื่องยนต์และท่อไอเสียที่ฟังดูแล้วยังรู้สึกเหมือนเขินๆ ยังไม่กล้าปลดปล่อยออกมาเต็มๆ สักเท่าไร
ไม่ลืมความสะดวกสบาย
นอกจากความสปอร์ตที่เห็นๆ กันอยู่แล้ว จุดเด่นอีกอย่างก็คือความสะดวกสบายที่ไม่ได้หายไปไหน GLC 43 4MATIC Coupé มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน, ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 3 สี, หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำ และระบบอุ่นเบาะ
ด้านระบบความบันเทิงมาพร้อมกับวิทยุ-ซีดี MB Audio 20 ขับกล่อมด้วยระบบเสียงรอบทิศทางจาก Burmester ควบคุมและสั่งงานด้วยทัชแพดและแป้นหมุนบริเวณคอนโซลกลาง หน้าจอของระบบอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม หน้าตาเมนูดูง่าย กราฟิกสีสันสวยงาม ระบบลื่นไหล ตอบสนองเร็ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธและ Apple CarPlay
พื้นที่ของเบาะตอนหน้ากว้างขวาง คนตัวสูงนั่งได้สบาย เบาะหน้าโอบกระชับกำลังดี แน่นอนว่าหลังคาที่ลาดลงทำให้ที่ว่างเหนือศีรษะของเบาะตอนหลังถูกลดทอนลงไป คนตัวสูงมากๆ อาจได้รับผลกระทบ
แม้จะเป็นคูเป้เอสยูวีสมรรถนะสูงแต่ GLC 43 4MATIC Coupé ก็ยังไม่ลืมความอเนกประสงค์ในการใช้งานจริงแบบเอสยูวีทั่วไป พนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับได้แบบ 40:20:40 เป็นระบบพับไฟฟ้าและยังปรับเอนองศาได้ด้วย ห้องเก็บสัมภาระมีขนาดกำลังดี พื้นห้องเรียบเสมอขอบกันชนท้าย มาพร้อมตาข่ายสัมภาระซ้าย – ขวา ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติแบบแฮนด์ฟรี และระบบลดความสูงของท้ายรถเพื่อให้ขนสัมภาระสะดวกยิ่งขึ้น
สรุปความน่าใช้
เมื่อพูดถึงสปอร์ตจากตระกูล AMG หลายคนน่าจะคิดถึงรถยนต์ที่มาพร้อมสมรรถนะอันเร่าร้อน อัตราเร่งกระชากจิต การบังคับควบคุมเฉียบคมประดุจรถแข่งในสนาม รวมถึงรูปลักษณ์ดีไซน์ที่สวยงามดุดัน ซึ่งถ้าเป็นคูเป้ 2 ประตู หรือซาลูน 4 ประตูที่ประทับตรา AMG มันก็ตรงตามนิยามดังที่ว่าครบทุกประการ ถ้าเป็นเอสยูวีจาก AMG ความสปอร์ตอาจไม่เท่าพวกรถเก๋ง แต่สิ่งที่จะได้เพิ่มเข้ามาคือความสะดวกสบายและการใช้งานจริงที่ยังเหมือนกับเอสยูวีปกติ เช่นเดียวกับ GLC 43 4MATIC Coupé ที่คุณจะได้พบกับความยอดเยี่ยมเหล่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังเป็นรถที่สามารถขับขี่ได้ในทุกวัน ขับสนุก สะดวกสบาย ใช้เดินทางไกลเป็นรถครอบครัวได้โดยที่สมาชิกคนอื่นๆ ไม่ต้องบ่นอุบตลอดทาง
GLC 43 4MATIC Coupé ไม่ใช่เอสยูวีที่เร็วที่สุด สมรรถนะ อัตราเร่ง การบังคับควบคุม ช่วงล่าง อาจไม่เลอเลิศที่สุด แต่ทั้งหมดคือกึ่งกลางระหว่างความสปอร์ตและความสบายบนพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน AMG เราบอกได้เลยว่าราคาค่าตัวที่ถูกลงกว่าเดิมถึง 1.1 ล้านบาท เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ถ้าคุณชื่นชอบสปอร์ตเอสยูวีท้ายลาดแบบนี้ คุณไม่ควรมองข้าม Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé เด็ดขาด
The Review
Mercedes-AMG GLC 43 Coupé
รถยนต์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตแต่ไม่ชอบรถเตี้ย ในขณะเดียวกันก็ยังต้องการความอเนกประสงค์ ขับสบาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบๆ พร้อมสมรรถนะสุดติ่งในแบบรถ AMG แท้ๆ
PROS
- สะดวกสบาย กว้างขวาง อุปกรณ์ครบตามแบบฉบับเอสยูวีหรู
- มาพร้อมความอเนกประสงค์ที่ไม่ต่างจากเอสยูวีปกติ
- เครื่องยนต์ทรงพลัง อัตราเร่งดี
- เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด นุ่มนวล ตอบสนองรวดเร็ว
- ช่วงล่างหนึบแน่น ให้ความมั่นใจในความเร็วสูง
CONS
- เสียงเครื่องยนต์สุภาพเรียบร้อยไปหน่อย
- ผู้โดยสารตัวสูงอาจศีรษะติดเพดานเมื่อนั่งเบาะหลัง
- มุมมองผ่านกระจกมองหลังถูกบดบังด้วยสปอยเลอร์ท้าย
- หน้าจอระบบสาระบันเทิงเล็กไปหน่อย
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
Mercedes-AMG GLC 43 Coupé DEALS
We collect information from many stores for best price available