Mazda CX-30 มิติใหม่ของครอสโอเวอร์เอสยูวี กับการออกแบบภายใต้แนวคิด KODO Design – Soul of motion บรรจุเทคโนโลยีขั้นสูงของมาสด้ามาเต็มทั้ง G-Vectoring Control Plus และระบบความปลอดภัย i-Activsense
ราคาและรุ่นย่อย
- รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
- รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
- รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท
หลังจากปล่อยทีเซอร์ยั่วน้ำลายมาสักพัก วันนี้มาสด้าได้ฤกษ์เปิดตัวครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า CX-30 เข้าสู่ตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการ นี่คือรถที่วางตำแหน่งขั้นกลางระหว่าง CX-3 กับ CX-5 กับรูปลักษณ์ดีไซน์ที่มีความโฉบเฉี่ยวมากกว่า หลังคาลาดลงท้ายรถ ถือว่าเป็นมิติใหม่ของมาสด้าที่มีรถในลักษณะนี้
ภาพลักษณ์ที่คุ้นเคย
รูปลักษณ์ภายนอกของ CX-30 ผสานความพลิ้วไหวของรถคูเป้และความแข็งแกร่งของเอสยูวีเข้าด้วยกัน เส้นสาย เหลี่ยมมุมต่างๆ ถูกลดทอนให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อเผยความงามของพื้นที่ว่าง เส้นโค้งที่สมดุล และการเล่นแสงเงา หน้ารถบ่งบอกถึงบุคลิกจากกระจังหน้าซิกเนเจอร์วิงที่เป็นเอกลักษณ์ รวมเข้ากับรูปทรงที่มั่นคงของกันชนหน้า เพื่อให้ได้หน้ารถที่มีลักษณะพุ่งไปข้างหน้า
โคมไฟหน้าและโคมไฟท้าย LED ได้รับการออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวและโดดเด่นกับรูปทรงกระบอกของแสงรูปวงแหวน ชายล่างของกันชนหน้า กันชนหลัง ซุ้มล้อ และชายล่างของประตู เป็นวัสดุพลาสติกสีดำที่ให้อารมณ์เหมือนรถออฟโรด สร้างความแตกต่างจากรถมาสด้ารุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจน ในรุ่น S และ SP จะมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หุ้มยาง 215/55 R18 ส่วนรุ่น C เป็นล้อ 16 นิ้ว หุ้มยางขนาด 215/65 R16
CX-30 พัฒนาต่อยอดมาจากรถเก๋ง Mazda 3 ดังนั้นจึงไม่แปลกที่รายละเอียดหลายๆ ส่วนจะดูคล้ายๆ กัน มิติตัวถังยาว4,395 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,540 มม. ระยะฐานล้อ 2,655 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม. ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายจุ 430 ลิตร มาพร้อมระบบประตูท้ายไฟฟ้า
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ ได้แก่ หลังคาซันรูฟ เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า, ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ, ไฟ Daytime Running Light แบบ LED Signature, สปอยเลอร์หลัง และปลายท่อคู่โครเมี่ยมแบบสปอร์ต
สีของตัวถังมีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีแดง Soul Red Crystal, สีเทา Machine Gray, สีเทานม Poly Metal Gray, สีขาว Snowflake White Pearl, สีดำ Jet Black, สีน้ำเงินเข้ม Deep Crystal Blue และสีเงิน Sonic Silver
ภายในคุณภาพสูง
การออกแบบห้องโดยสารของ CX-30 ยึดหลักปรัชญาการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง แดชบอร์ดหน้าแผ่กว้างทอดยาวจากหน้าปัดไปจรดแผงประตู จัดวางตำแหน่งคันเกียร์ ที่วางแก้ว และปุ่มควบคุมหน้าจอสัมผัสให้กับผู้ขับขี่เพื่อการใช้งานที่สะดวก สีภายในตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลเข้มที่ดูทันสมัยและภูมิฐาน วัสดุที่ใช้และคุณภาพการประกอบอยู่ในระดับท็อปคลาสของค่ายรถญี่ปุ่น
พวงมาลัยสามารถปรับสูง-ต่ำได้ 45 มม. และมีช่วงยืดเข้า-ออก 70 มม. มีแป้นแพดเดิลชิฟท์มาให้เล่นเกียร์ เบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมตัวดันหลังไฟฟ้าและฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง หน้าปัดเป็นแบบกึ่งดิจิตอล วัดรอบแบบเข็ม วัดความเร็วเป็นจอสี TFT ขนาด 7 นิ้วที่แสดงข้อมูลการขับขี่รวมอยู่ในชุดเดียวกัน มีจอแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า Active Driving Head-up Display มาด้วย
CX-30 ใช้จอแสดงผล Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมการทำงานผ่านปุ่มหมุน Center Commander ที่คอนโซลกลาง หน้าจอดังกล่าวแสดงผลระบบสาระบันเทิง Mazda Connect รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ, Apple CarPlay, Android Auto มีระบบนำทาง Navigation System และยังรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต พร้อมด้วยช่องเชื่อมต่อ AUX, USB และช่องชาร์จไฟ 12V ระบบเสียงในรุ่นท็อป 2.0 SP เป็นของ BOSE ลำโพง 12 ตำแหน่ง พร้อมซับวูฟเฟอร์
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง,ระบบเบรกมือไฟฟ้า, ระบบ Auto Brake Hold, ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button รวมถึงเบาะนั่งหลังแยกพับ 60/40 พร้อมที่วางแขนและช่องวางแก้วน้ำ
ขุมพลัง SKYACTIV-G
CX-30 มีขายเพียงเครื่องยนต์เดียวคือเครื่องยนต์ SKYACTIV-G เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร DOHC ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีโหมดเกียร์แมนวลมาให้เล่น ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร รองรับน้ำมัน E85 ถังน้ำมันจุ 51 ลิตร
CX-30 ยังมาพร้อม Sport Mode ที่จะช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้เร้าใจยิ่งขึ้น ระบบพวงมาลัยแบบเพาเวอร์ไฟฟ้า EPAS กันสะเทือนหน้า McPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง กันสะเทือนหน้า Torsion Beam ระบบเบรกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ
ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus หรือ GVC Plus ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐานใน CX-30 ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเลี้ยวโดยการใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหันเหของรถ นอกเหนือจากการควบคุมเครื่องยนต์แบบเดิมด้วย GVC ให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมรถมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ มาสด้ายังปรับปรุงประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง เพิ่มฉนวนป้องกันเสียงและวัสดุซับเสียงรอบห้องโดยสารเพื่อความสบายหูขณะขับขี่
ระบบความปลอดภัย i-Activsense
CX-30 มาพร้อมรายการอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มหน้ากระดาษ เริ่มตั้งแต่ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่เพิ่มความสามารถในการตรวจจับพร้อมการป้องกันอุบัติเหตุรอบทิศทาง ประกอบด้วยระบบต่างๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Advanced SBS)
- ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (SBS-R)
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (SBS-RC)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (ALH)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS)
- ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน (LAS)
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA)
- ระบบควบคุมความเร็วรถอัติโนมัติ (MRCC)
- ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า (CTS)
ในด้านความปลอดภัยเชิงปกป้อง CX-30 ยังมาพร้อมโครงสร้างตัวถังเหล็กกล้าทนแรงดึงสูงที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบา สามารถดูดซับและช่วยลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ CX-30 ก็ให้อุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานมาให้อย่างครบครัน อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล (TCS) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA) เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง 6 ตำแหน่ง จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX รวมถึงกุญแจ Immobilizer
Mazda CX-30 พร้อมให้สัมผัสตัวจริงแล้ววันนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจไปดูรถได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ www.mazda.co.th หรือ www.facebook.com/MazdaThailandOfficial
Gallery