Overview Of Car
กระบะจากมาสด้ากลับมาแล้วในรุ่นพิเศษสุดหล้อ ยกระดับสู่ความสปอร์ตและทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมด้วยภายในที่กว้างขวาง สะดวกสบาย และเครื่องยนต์ที่ทรงพลังสำหรับการทำให้ทุกเป้าหมายกลายเป็นจริง ราคาเริ่มต้น 701,000 บาท
เราอาจจะลืมไปแล้วว่ามาสด้ามีรถกระบะเนื่องด้วยพวกเขามุ่งเน้นกับการพัฒนารถยนต์นั่งภายใต้เทคโนโลยี SKYACTIV ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาพร้อมกับสร้างกระแสความนิยมฮอตฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง ในอดีตกระบะค่ายซูมซูมได้สร้างชื่อเสียงสะสมไว้พอสมควรนับตั้งแต่กระบะขนาดเล็ก Mazda Familia เรื่อยมาจนถึง Mazda Fighter, BT-50 และปัจจุบันกับ BT-50 Pro แต่ก็รู้ๆ กันดีว่ายอดขายกระบะของมาสด้าไมค่อยจะสู้ดีนัก ดังนั้นมันจึงไม่ได้รับการโปรโมตหรือให้ความสำคัญเท่าที่ควรจนเหมือนกับว่ามาสด้าไม่ขายกระบะแล้ว และค่อยๆ หายออกไปจากตลาดแบบเงียบๆ
อย่างไรก็ตาม รถกระบะกับประเทศไทยคือของคู่กัน ถ้ามาสด้าทิ้งรถกระบะไปแล้วหันหน้าเข้าสู่รถยนต์นั่งเต็มตัวก็เหมือนกับการทิ้งโอกาสไปอย่างน่าเสียดายเพราะฐานลูกค้าเดิมก็ยังพอมีอยู่บ้างและอาจจะกำลังรอรุ่นใหม่อยู่ ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าเทคโนโลยี SKYACTIV มาอยู่ในรถกระบะคงจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากทีเดียว แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น วันนี้มาสด้าขอกลับมาทวงบัลลังก์รถกระบะอีกครั้งด้วย Mazda BT-50 Pro Thunder ใหม่
เราอยู่กับ Mazda BT-50 Pro Thunder รุ่นท็อปสุด Double Cab 2.2 Hi-Racer 6AT สีดำ Jet Black ราคา 952,000 บาท กับภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากมาสด้า ประเทศไทย ในการทำให้ “ทุกเป้าหมายเป็นจริงได้” ลองขับทดสอบในสไตล์ What Car? มาดูกันว่ากระบะรุ่นพิเศษจากค่ายซูมซูมคันนี้จะทำได้ดีแค่ไหน?
สเปครถยนต์
Body Style: | Midsize Pick-up Truck |
---|---|
Description: | 4 ประตู 5 ที่นั่ง |
Engine: | ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.2 ลิตร VN Turbo |
Fuel Consumption: | 12.1 กม./ลิตร (ประมาณ) |
Fuel Type: | ดีเซล |
Make: | Mazda |
Max Power: | 150 แรงม้า ที่ 3,700 รอบต่อนาที |
Max Torque: | 375 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที |
Model: | Mazda BT-50 Pro Thunder Double Cab Hi-Racer 2.2L 6AT |
Price Guide: | 952,000 บาท |
Release Date: | กันยายน 2018 |
0-100 km/h: | 12.5 วินาที |
Transmission: | เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด |
การขับขี่
รถเก๋งของมาสด้าขึ้นชื่อในเรื่องการขับขี่และการบังคับควบคุมที่เฉียบคม ขับสนุก ช่วงล่างหนึบแน่น เมื่อมองมาที่ BT-50 Pro Thunder ความยอดเยี่ยมเหล่านั้นไม่ได้ตามมาด้วย ซึ่งอาจเป็นเพราะแนวทางในการพัฒนาที่ต่างกัน แต่ก็ใช้ว่า BT-50 Pro Thunder จะเป็นรถที่ไม่ดี
เมื่อเทียบกับรถกระบะในท้องตลาดเมืองไทย BT-50 Pro Thunder จัดว่าเป็นกระบะที่ขับดีรุ่นหนึ่งโดยจุดเด่นอยู่ที่ความนุ่มนวลทั้งเครื่องยนต์และระบบกันสะเทือน ขุมพลังที่ประจำการภายใต้บอดี้อันใหญ่โตเป็นเครื่องดีเซล 4 สูบ 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 1,500-2,500 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พ่วงเฟืองท้าย LSD
เริ่มตั้งแต่สตาร์ทเครื่องปล่อยรอบเดินเบา สังเกตได้ว่าเครื่องยนต์เดินเรียบ แรงสั่นสะเทือนในห้องโดยสารแทบไม่มีเลย เสียงของเครื่องยนต์ก็ฟังดูเรียบร้อย พอเข้าเกียร์ D ปล่อยเบรก รถค่อยๆ ออกไหลตัวอย่างนุ่มนวล เกียร์เปลี่ยนจาก 1-2-3 โดยไร้รอยต่อ
เมื่อกดคันเร่งหนักขึ้นแรงดึงของเครื่องยนต์จะทยอยมาทีละนิดๆ มาแบบนุ่มๆ และส่งให้รถทะยานสู่ความเร็วสูงอย่างสุขุม การคิ๊กดาวน์เพื่อเร่งแซงทำได้ไม่เร็วนัก มีการดีเลย์เล็กน้อยแต่จังหวะเชนจ์เกียร์จากเกียร์สูงลงมากียร์ต่ำนิ่มนวลดี ความรู้สึกคือถ้าเป็นคนชอบกระบะเครื่องแรง ชอบความกระฉับกระเฉง BT-50 Pro Thunder อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ เพราะรถคันนี้ให้อารมณ์ขับง่ายขับสบายๆ มากกว่า
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดของ BT-50 Pro Thunder มีโหมด Sport ให้ควบคุมการใช้เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง โหมดนี้เราสามารถลากรอบเพิ่มความสนุกยิ่งขึ้นได้ หรือถ้าจะเร่งแซงโดยใช้วิธีชิฟท์ดาวน์ก็ทำได้เหมือนกันแต่ผลลัพธ์ไม่ต่างจากเกียร์ D มากเท่าไร โดยรวมแล้วยังอยู่บนพื้นฐานความนุ่มนวล
ระบบกันสะเทือนของ BT-50 Pro Thunder ชวนให้นึกถึงรถเก๋งขึ้นมาทันที ด้านหน้าใช้เป็นปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และโช๊คอัพ 2 จังหวะ ด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อนและโช๊คอัพ 2 จังหวะ โดยรวมแล้วให้ความนุ่มนวลกว่ามาตรฐานของรถกระบะทั่วไป ป้องกันแรงสะเทือนจากอุปสรรคบนพื้นผิวถนนได้ดี ขณะเดียวกันก็ยังเกาะถนน ไม่ยวบย้วย ให้ความรู้สึกมั่นใจทั้งความเร็วต่ำและสูง กันสะเทือนหลังจะเด้งกว่าข้างหน้าเล็กน้อยตามสไตล์แหนบแผ่นซ้อน
จุดที่เรามองว่าน่าจะดีกว่านี้คือพวงมาลัยเพราะที่ความเร็วต่ำค่อนข้างหนัก ต้องใช้แรงในการหมุนเยอะพอสมควร การโยกเข้าพื้นที่แคบๆ แต่ละทีเล่นเอาเหนื่อยได้เหมือนกัน แต่เมื่อลอยตัวบนความเร็วเดินทางแล้วพวงมาลัยจะกลับมาสู่น้ำหนักปกติตามมาตรฐานกระบะทั่วไป คาแร็กเตอร์ของพวงมาลัยก็ยังให้อารมณ์นุ่มนวลอยู่ ระยะฟรีเหมาะสม การควบคุมแม่นยำแต่หน้ารถหันตามการหมุนไม่ไวเท่าที่ควร ข้อดีคือนิ่งและมั่นคงที่ความเร็วสูง
BT-50 Pro Thunder ทรงตัวได้ดีในทางโค้ง รถนิ่งสนิทไม่โคลงเคลง อาการโยนมีบ้างตามาตรฐานรถกระบะ ขณะที่ระบบเบรกให้อารมณ์แบบรถเก๋งเลยคือปรับเซ็ตมาให้เริ่มหน่วงเมื่อเหยียบแป้นเบรกไปประมาณ 20% เพื่อความนุ่มนวลและลดอาการหน้าทิ่ม นำหนักของการหน่วงความเร็วสัมพันธ์กับน้ำหนักการเหยียบเบรก ทำให้กะระยะเบรกได้ง่าย
สิ่งที่น่าประทับใจคือการป้องกันเสียงรบกวน ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. เรายังไม่ได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสาร เสียงยางก็ยังไม่น่ารำคาญเท่าไร การเดินทางไกลด้วย BT-50 Pro Thunder จะสะดวกสบายยิ่งขึ้นเพราะมีครูสคอนโทรลช่วยรักษาความเร็วคงที่ ประกอบกับช่วงล่างที่มอบความมั่นใจได้เป็นอย่างดีในความเร็วสูง และอัตราสิ้นเปลืองที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยรวมเหมาะสมแล้วกับนิยามที่มาสด้ากำหนดไว้คือกระบะสไตล์รถเก๋ง
เราได้ลองขับออฟโรดสั้นๆ ปีนขึ้นเนินดิน ขับลงหลุม BT-50 Pro Thunder ที่ไม่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อสามารถพาเราฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นมาได้สบายๆ กำลังจากเครื่องยนต์มีมากพอที่จะขับลุยอุปสรรคที่สามารถพบเจอได้เป็นครั้งคราวในการขับขี่ทั่วไป ขึ้นเขาลงดอยได้ไม่มีปัญหาแน่นอนสำหรับรถระดับนี้ แค่อย่าเอาไปลุยในทางโหดๆ เกินกำลังของรถก็พอ
ยกระดับภาพลักษณ์
นับเป็นแนวคิดที่น่าสนใจของมาสด้าที่วางกลยุทธ์ให้ BT-50 Pro Thunder ไม่ต้องต่อกรกับคู่แข่งโดยตรง แต่ฉีกหนีภาพลักษณ์แบบเดิมๆ ของรถกระบะที่เน้นความแข็งแกร่งดุดันมาเป็นความอเนกประสงค์ เน้นลูกค้าที่ต้องการความหรูหรา ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันที่หลากหลายเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ที่มีความชื่นชอบในการใช้รถกระบะสไตล์รถเก๋ง
BT-50 Pro Thunder ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรุ่น Hi-Racer ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง มีให้เลือกทั้งฟรีสไตล์แค็บ 2 ประตู และ ดับเบิลแค็บ 4 ประตู ดีไซน์ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่แบบซี่โครเมียมแนวนอนให้ความหรูหรา ประกบข้างด้วยไฟหน้าฮาโลเจนระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ถัดลงมาเป็นกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความสปอร์ตยิ่งขึ้นพร้อมกับไฟตัดหมอก หันมาด้านข้างจะพบกับสติ๊กเกอร์กราฟิกลาย Thunder และบันไดข้างดีไซน์สปอร์ต ลงตัวกับล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65 R17 ส่วนด้านท้ายไม่มีอะไรใหม่ มีกล้องมองหลังซ่อนไว้ใต้โลโก้มาสด้า
BT-50 Pro Thunder มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ประกอบด้วย สีขาว Cool White, สีเงิน Aluminium Metallic, สีดำ Jet Black และสีขาวมุก Snow Flake
เรื่องดีไซน์อาจจะดูธรรมดาๆ ไม่แข็งแกร่งดุดันตามแบบฉบับรถกระบะยุคใหม่ แต่นี่คือความแตกต่างอย่างที่มาสด้าต้องการ ซึ่งก็คือหนีจากภาพลักษณ์เดิมๆ ของรถกระบะเมืองไทยที่คล้ายกันไปหมด นำเสนอสิ่งใหม่ในแบบของตัวเอง โดดเด่นด้วยตัวเอง สะท้อนออกมาเป็นภาพลักษณ์ของกระบะระดับพรีเมียมที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเรามองว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ
ภายในไม่หวือหวาแต่น่าชื่นชม
มาต่อกันที่ภายใน BT-50 Pro Thunder ยังคงโดดเด่นที่ความกว้างขวางของห้องโดยสาร มาในโทนสีดำ ตกแต่งด้วยพลาสติกแข็งเป็นส่วนใหญ่ คุณภาพการประกอบดูดี แข็งแรง แน่นหนา เบาะนั่งเป็นวัสดุหนัง ปรับมือทั้งหมด ภายในดูเรียบง่ายไม่หวือหวาแต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็มีครบตามมาตรฐานรถกระบะราคาต่ำกว่า 1 ล้าน เน้นการใช้งานที่ครอบคลุม จุดที่เราชอบคือตำแหน่งนั่งขับที่อยู่สูงทำให้มองเห็นรอบทิศทางได้ชัดเจน ประกอบกับห้องโดยสารที่ดูโปร่ง เสา A ที่เรียวเล็ก กระจกมองข้างใหญ่ แถมเบาะคนขับยังใหญ่และนุ่มด้วย โดยรวมทำให้การขับขี่รถคันนี้สะดวกสบายมาก
เบาะหลังของ BT-50 Pro Thunder นั่งสบายจริง มีพื้นที่กว้างมาก ผู้ใหญ่ 3 คนสามารถนั่ง ได้สบายๆ โดยที่หัวเข่าไม่ชนเบาะหน้า พนักพิงชันไปนิดแต่ก็ยังไม่ทำให้เมื่อยมาก เบาะกลางดึงลงมาเป็นที่วางแก้วได้ มีช่องจ่ายไฟ 12V การมีบันไดข้างช่วยให้ขึ้น-ลงได้สะดวกยิ่งขึ้น
จุดที่น่าชื่นชมอีกที่ก็คือหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แม้ว่าหน้าตาเมนู สีสันกราฟิกและความคมชัด จะยังไม่ดีที่สุด แต่ก็มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ครบครันเพียงพอกับการการใช้งานทั่วไป อาทิ วิทยุ เรื่องเล่น CD, DVD รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ ช่อง AUX, USB มีครบ ตลอดจนระบบนำทางที่หน้าตาอาจไม่สวยแต่ใช้งานจริงแล้วจับ GPS ได้ไวและไม่พาหลง การตอบสนองต่อการจิ้มรวดเร็วดี และระบบเสียงก็มีคุณภาพดีใช้ได้
ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา หน้าปัดแบบเข็มให้อารมณ์แบบรถยนต์นั่งร่วมค่าย มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID บอกอัตราสิ้นเปลือง ความเร็วเฉลี่ย ระยะทางคงเหลือ และอุณหภูมิ ทีเด็ดอีกอย่างคือเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง ภาพจากกล้องมองหลังจะแสดงที่กระจกมองหลัง มีเส้นไกด์สำหรับช่วยในการถอยเข้าซองพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดระยะคอยส่งสัญญาณเตือน
BT-50 Pro Thunder อัดแน่นด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญ อาทิ ระบบเบรก ABS และกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเพิ่มแรงเบรกฉุกเฉิน EBA และระบบเบรกอัตโนมัติ BOS, เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ 3 จุด 2 ตำแหน่ง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น, ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินกะพริบเมื่อเบรกฉุกเฉิน ESS ตลอดจนกุญแจนิรภัย Immobilizer
สรุปความน่าใช้
ท่ามกลางสงครามรถกระบะเมืองไทยที่ห้ำหั่นกันอย่างหนักหน่วงและรุ่นแรงโดยที่ไม่มีใครยอมใคร ผู้คนอาจลืมไปแล้วว่ามาสด้ายังทำรถกระบะอยู่ การมาของ BT-50 Pro Thunder เป็นการประกาศว่ามาสด้ายังไม่ได้ไปไหนแต่เป็นการซุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อจู่โจมแบบสายฟ้าฟาด
ด้วยความแตกต่างจากรถกระบะแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาด BT-50 Pro Thunder นำเสนอในจุดที่ไม่มีใครเหมือนนั่นคือความสบายแบบรถเก๋งที่มาพร้อมการขับขี่ที่นุ่มนวล ช่วงล่างหนึบแน่นซับแรงสะเทือนได้ดี เครื่องยนต์ทรงพลัง การควบคุมไว้ใจได้ มีความอเนกประสงค์ และมีภายในที่กว้างขวาง นี่คืออีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ชอบความต่าง และเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากได้กระบะขับสบายดีๆ สักคัน
อย่างไรก็ตาม ชื่อชั้นและกระแสนิยมของกระบะมาสด้าในตอนนี้อาจจะเป็นรองคู่แข่งอยู่หลายก้าว แต่ BT-50 Pro Thunder กลับมาจุดประกายเป้าหมายของมาสด้าในการทวงคืนความยิ่งใหญ่ในวงการรถกระบะเมืองไทยอีกครั้ง และย้ำเตือนว่ากระบะมาสด้ายังอยู่นะไม่ได้หายไปไหน โดยตั้งแต่เปิดตัวไปในเดือนกันยายน ยอดจองมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่าการตั้งเป้าหมายและพยายามทำให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงคือสิ่งที่มาสด้ากำลังทำอยู่ เช่นเดียวกับ BT-50 Pro Thunder ที่พร้อมจะพาคุณไปยังเป้าหมายที่ต้องการไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
The Review
Mazda BT-50 Pro Thunder
เป็นกระบะทางเลือกที่โดดเด่นในด้านเครื่องยนต์ที่มีความสมูธนุ่มนวล อัตราเร่งไม่รุ่นแรงแต่ว่าขับสบาย เหมาะสำหรับคนที่ชอบความแตกต่างและต้องการความพรีเมียมแบบรถเก๋ง
PROS
- รูปลักษณ์ภายนอกสปอร์ตขึ้นกว่าเดิม
- ภายในกว้างขวาง
- เครื่องยนต์นุ่มนวล
- ช่วงล่างหนึบ เกาะถนนดี
- เกียร์ส่งต่อกำลังได้นุ่มนวล
CONS
- พวงมาลัยค่อนข้างหนักที่ความเร็วต่ำ
- อุปกรณ์ภายในมีน้อยไปหน่อย
- อุปกรณ์ความปลอดภัยยังไม่ครบ
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
Mazda BT-50 Pro Thunder DEALS
We collect information from many stores for best price available