Kia Sorento 1.6 T-GDi Hybrid 2
Kia Sorento รุ่นก่อนเป็นรถยนต์เอสยูวีที่มีความอเนกประสงค์มากที่สุดสำหรับผู้โดยสาร 7 คน และรุ่นล่าสุดก็ยังคงความอเนกประสงค์แบบเดียวกันไว้เหมือนเดิม โดยเบาะนั่งแถวที่สามของมันมีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าแบรนด์คู่แข่งอย่าง Land Rover Discovery Sport, Peugeot 5008 และ Skoda Kodiaq เสียอีก
อย่างไรก็ตาม มีความต่างจาก Sorento รุ่นเก่าอยู่พอสมควร รถยนต์คันใหม่นี้เปิดตัวมาในรูปแบบไฮบริด มันจึงเป็นการผสมผสานระหว่างความสามารถในการประหยัดน้ำมันในการวิ่งทางจริงและการปล่อยมลพิษน้อยลง ระบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน, มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์อัตโนมัติต่างทำงานสอดคล้องกันอย่างยอดเยี่ยมและส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและสมรรถนะที่โดดเด่น
ความสบายก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ Sorento โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเลือกรุ่นเริ่มต้น level 2 เพราะมันมีล้อที่เล็กลงและล่ำสัน จึงมีผลลัพธ์ดีกว่ารุ่นที่มีราคาสูงกว่า มันยังมีระบบเลี้ยวช่วยให้คุณขับขี่ไปบนถนนชนบทได้อย่างมั่นใจและสามารถวิ่งบนถนนที่คดเคี้ยวด้วยความเร็วประมาณวิ่งในเมืองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
Sorento ผ่านการผลิตมาอย่างดีพร้อมอุปกรณ์ภายในต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน มันยังมีตำแหน่งคนขับสูงพอที่จะทำให้เจ้าของ HGV อิจฉา รวมถึงยังมีประกันถึง 7 ปี มันจึงเป็นรถยนต์ที่โดดเด่นในทุก ๆ ด้านอย่างแท้จริง
ถูกใจใช่เลย, พื้นที่ภายในขนาดใหญ่, ประหยัดแต่ทรงพลัง, ขับขี่สบาย, อุปกรณ์ครบครัน
เราชอบ
ภาพรวม
ภายในที่กว้างขวางคือสิ่งจำเป็นที่รถยนต์เซกเมนต์นี้ต้องมี แต่เราก็ยังต้องการความรู้สึกเหนือระดับ, เข้าถึงได้ง่าย และพื้นที่ท้ายรถที่มีขนาดพอเหมาะพอดีเอสยูวีขนาดใหญ่ส่วนมากจะเป็นการซื้อในฐานะรถยนต์ส่วนตัว ราคาซื้อขายและค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้งานจึงเป็นข้อแข่งขันที่สำคัญและในขณะที่ความสบายและความประณีตเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าความรู้สึกในการขับขี่ รถยนต์ที่ดีจะต้องขับง่ายและไม่ทำให้เด็ก ๆ เวียนหัว
ขับดีที่สุด
ดีไซน์ของ Defender ตัวใหม่ได้รับอิทธิพลจากรุ่นดั้งเดิมอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกมันมีความต่างจาก Discovery และ Rang Rover รุ่นล่าสุด นั่นหมายความว่ามันจะไม่มีการกระแทกแบบฮาร์ดคอร์กระเด้งไปกระดอนมาหรือมีแกนที่แข็งทื่อ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะนุ่มนวลไปเสียหมด
Defender รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับระบบช่วงล่างสำหรับการเดินทางทุกรูปแบบและมีความสูงจากรถถึงพื้นดินมากขึ้น แถมมันยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่แบบออฟโรด ซึ่งรวมถึงระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อถาวรและระบบการตอบสนองต่อสภาพถนนทุลักทุเล การทำงานของมันนั้นคุณสามารถปรับตั้งค่ารถยนต์ของคุณตามถนนรูปแบบต่าง ๆ อีกทั้งคุณยังมีระบบ ClearSight Ground View ที่จะช่วยให้คุณมองเห็นอุปสรรคต่าง ๆ ที่อยู่ตรงพื้นก่อนที่รถจะไปถึงอีกด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นการพิสูจน์แล้วว่ามันสามารถรับมือกับถนนอันทุลักทุเลได้อย่างยอดเยี่ยมกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วยกลไกอันทันสมัย ระบบเลี้ยวของมันช่วยบังคับตำแหน่งและทิศทางได้ดั่งใจคุณต้องการ ระบบช่วงล่างจะช่วยให้คุณเคลื่อนที่ผ่านฝาท่อและตัวหนอนอย่างนุ่มนวล มันมาพร้อมกับความศิวิไลซ์ยิ่งกว่า Jeep Wrangler คู่แข่งคนสำคัญเสียอีก