Lamborghini Urus เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้การนำเข้าและจัดจำหน่ายของ เรนาสโซ มอเตอร์ มาพร้อมดีเอ็นเอของแบรนด์ลัมโบร์กินี ทั้งดีไซน์ สมรรถนะ และการมอบประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตที่เหนือระดับ ครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันและทุกสภาพการขับขี่
Urus เป็นซูเปอร์เอสยูวีคันแรกของโลกที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอของลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ผสมผสานกับความเอนกประสงค์ของรถเอสยูวีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง หากเทียบกันตัวต่อตัวแล้วถือว่ายังไม่มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเลยในตลาดโลก นี่จึงเป็นเอสยูวีที่แรงที่สุดก็ว่าได้
Urus รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง มาพร้อมกับความหรูหราและทรงพลังที่สุดและยังให้ประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร การออกแบบรูปทรงและเส้นสายของตัวรถยังคงเอกลักษณ์ความเป็นลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ทั้งรูปทรงด้านหน้าที่ดูปราดเปรียว ลาดลง และช่องรับอากาศด้านหน้าที่เป็นรูปตัว Y เข้ากันกับไฟหน้าแบบ LED ที่ดูเพรียวบาง โฉบเฉี่ยวด้วยประตูแบบไร้ขอบ และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 21 นิ้ว
มิติตัวรถยาว 5,112 มม. กว้าง 2,181 มม. สูง 1,638 มม. ความยาวฐานล้อ 3,003 มม. น้ำหนักรถเปล่า 2.2 ตัน กระจายน้ำหนักเฉลี่ยหน้า-หลังแบบ 58/42 ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
ห้องโดยสารภายในสปอร์ตหรู สะท้อนเอกลักษณ์ลัมโบร์กินีด้วยดีไซน์ทรงหกเหลี่ยมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นช่องระบายอากาศ ที่จับประตู และที่วางแก้ว นอกจากนี้อูรุสยังขับเคลื่อนด้วยสุดยอดเทคโนโลยีแห่งการขับขี่และความสะดวกสบาย เช่น พวงมาลัยสามก้านพร้อมระบบลดการสั่นสะเทือนและระบบมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัยสำหรับควบคุมระบบสาระบันเทิง Lamborghini Infotainment System-LIS ทั้งการตั้งค่าในรถยนต์, Apple CarPlay, Android Auto, โทรศัพท์ และระบบนำทาง
มาพร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะไร้กุญแจ พร้อมระบบปลดล็อคประตูรถแบบสัมผัสที่ประตูและกระโปรงหลัง เบาะนั่งปรับไฟฟ้าอัตโนมัติ และ EGO Mode ที่สามารถปรับเปลี่ยนคาแรกเตอร์ของรถให้ผู้ขับขี่เกิดความพึงพอใจสูงสุด
Urus ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร Twin-Turbo ให้กำลังสูงสุด 650 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายกลางและระบบควบคุมการกระจายแรงบิดที่เฟืองท้าย
ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที, 0-200 กม./ชม. ทำได้ใน 12.8 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 305 กม./ชม. อัตราส่วนแรงม้าต่อที่ทำแรงม้าได้ถึง 162.7 แรงม้าต่อลิตร และอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักรถทำได้ดีที่สุดที่ 3.38 กก./แรงม้า จึงจัดได้ว่า Urus มีสมรรถนะสูงสุดในรถเอสยูวีในระดับเดียวกัน
จุดเด่นที่ทำให้ Urus เหนือชั้นกว่าสปอร์ตเอสยูว่าทั่วไปก็คือระบบ Tamburo ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกมากถึง 6 โหมด ได้แก่
- STRADA สำหรับการขับขี่ทั่วไปที่ให้ความสบายเหนือชั้น
- SPORT สำหรับการขับขี่อย่างมั่นคงและแม่นยำในความเร็วสูง
- CORSA สำหรับการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะ และความแม่นยำสูงสุด
- NEVE สำหรับการขับขี่บนถนนที่มีหิมะ
- TERRA สำหรับการขับขี่แบบออฟโร้ด
- SABBIA สำหรับการขับขี่แบบออฟโร้ดบนผืนทราย
แชสซิสและระบบช่วงล่างของ Urus จัดเต็มด้วยอุปกรณ์ขั้นเทพแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ต ระบบกันสะเทือนเป็นแบบถุงลมพร้อมโช๊คอัพแปรผันที่สามารถมอบความนุ่มสบายสูงสุดและสามารถปรับให้มีการการตอบสนองแบบสปอร์ตได้อย่างทันท่วงที มีระบบควบคุมการทรงตัว Active Roll stabilization system ด้านระบบเบรกเป็นจานคาร์บอนเซรามิกเจาะรูระบายความร้อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านหน้า 430 มม. หนา 40 มม. พร้อมคาลิเปอร์ 10 ลูกสูบ ด้านหลัง 370 มม. หนา 30 มม. พร้อมคาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ ระยะเบรกจาก 100-0 กม./ชม. อยูที่ 33.7 เมตร
ทั้งนี้ Urus ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ทันสมัย Advanced Driver Assistance Systems-ADAS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของลัมโบร์กินี ให้ความมั่นคง ปลอดภัย และสุนทรียภาพในการขับขี่สูงสุด รวมทั้งระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เซนเซอร์หน้าและหลังสำหรับจอดรถ ครูสคอนโทรล และระบบ PreCongnition ที่ช่วยป้องกันหรือบรรเทาความรุนแรงจากการปะทะ นอกจากนี้ ยังมีออฟชั่น ADAS ซึ่งมีระบบช่วยเหลือในการขับขี่บนท้องถนน เช่น กล้องจับภาพด้านบน และฟังก์ชั่นตะขอพ่วงรถด้านท้าย เป็นต้น
Lamborghini Urus มีราคาเริ่มต้นที่ 23.42 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง และบริการบำรุงครบวงจรเป็นเวลา 5 ปี พบตัวจริงของกระทิงเปลี่ยวสายพันธุ์อเนกประสงค์ได้ที่บูธ Lamborghini ภายในงาน Motor Expo 2018 ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.lamborghini.com/en-en/models/urus
Gallery