Overview Of Car
ซีดาน C-Segment ยอดนิยมอัพเกรดระบบความปลอดภัยในโมเดลปี 2019 ขึ้นไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี Honda Sensing การขับขี่แน่นเฟิร์ม พร้อมรูปลักษณ์หล่อเข้มได้อารมณ์สปอร์ต ราคา 1,219,000 บาท
Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 10 เป็นรถพิกัด C-Segment ที่มียอดขายนำโด่งเป็นอันดับ 1 ในขณะนี้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในแบบที่เข้าใจกลุ่มลูกค้าของตนเองเป็นอย่างดี มีให้เลือกทั้งตัวถังแฮทช์แบ็กและซีดาน รูปลักษณ์ที่เน้นความสปอร์ต ทันสมัย และใส่เทคโนโลยีมาเต็มคัน จึงไม่แปลกที่เราจะเห็น Civic วิ่งกันเกลื่อนถนน
โมเดลปี 2019 นี้ถูกอัพเกรดความยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing ปรับหน้าตาภายนอกใหม่ รวมถึงสีตัวถังใหม่ สีน้ำเงิน Brilliant Sporty ที่ถูกใจวัยรุ่นเป็นอย่างมาก เดิมที Civic เป็นรถที่ขับสนุกอยู่แล้วโดยเฉพาะรุ่น Turbo RS และวันนี้เราจะพาไปดูว่า Civic Turbo RS ที่ถูกอัพเกรดใหม่จะยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า
สเปครถยนต์
Body Style: | Sedan |
---|---|
Description: | Compact Sedan 4 ประตู 4 ที่นั่ง |
Engine: | เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ |
Fuel Consumption: | 14.5 กม./ลิตร (ประมาณ) |
Fuel Type: | เบนซิน |
Make: | Honda |
Max Power: | 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที |
Max Torque: | 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที |
Model: | Honda Civic 1.5 Turbo RS |
Price Guide: | 1,219,000 บาท |
Release Date: | พฤศจิกายน 2018 |
0-100 km/h: | 8.8 วินาที |
Transmission: | เกียร์อัตโนมัติ CVT |
สปอร์ตเข้มเต็มอารมณ์
เพียงแค่เห็น Civic Turbo RS จอดนิ่งอยู่ หัวใจมันก็เต้นเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ นี่คือสปอร์ตซีดานในฝันของชายหนุ่มขาซิ่งทั้งหลายที่สามารถครอบครองได้ง่ายด้วยราคาค่าตัวล้านต้นๆ หน้าตาภายนอกก็อย่างที่เห็นคือสปอร์ตมาตั้งแต่โรงงาน กระจังหน้าสีดำเงาประทับตรา RS บ่งบอกตัวตนชัดเจน พร้อมบอดี้พาร์ทหล่อๆ ล้ออัลลอยสีดำ แถมมีสปอยเลอร์หลังติดมาให้ด้วย ยิ่งเป็นสีน้ำเงิน Brilliant Sporty แบบที่เราได้มาขับนี่นะ บอกได้คำเดียวว่าสุด
ภายในห้องโดยสารของ Civic Turbo RS มาในโทนสีเข้มตัดกับแถบชื้นส่วนสีเงินอลูมิเนียม งานประกอบทำได้สวยงามแน่นหนาตามมาตรฐานแม้จะประกอบด้วยพลาสติกหลายจุดแต่ก็ไม่ได้ดูราคาถูกแต่อย่างใด มีการเพิ่มลูกเล่นตกแต่งให้รู้สึกถึงความสปอร์ตด้วยตะเข็บเบาะ พวงมาลัย แผงประตูต่างๆ สีแดง มีแป้นเหยียบอะลูมิเนียม หน้าปัดเปลี่ยนสีใหม่ให้อารมณ์ยิ่งขึ้น ขณะที่เมนูของหน้าจอเครื่องเสียงก็เปลี่ยนเป็นโทนสีแดงเช่นกัน รวมๆ แล้วมันเร้าใจยิ่งนัก บวกกับตำแหน่งท่านั่งต่ำๆ แบบสปอร์ต ห้อมล้อมด้วยแดชบอร์ดและคอนโซลกลางที่สูง ยิ่งทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีดขึ้นไปอีกเท่าเมื่อกดคันเร่ง
เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ไม่มีตัวดันหลังไฟฟ้า ไม่มีปุ่มจดจำตำแหน่ง (ยังไม่หรูขนาดนั้น) ทัศนะวิสัยเมื่อนั่งประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัยคือแบบสปอร์ตเลย มุมมองหน้ารถดี เสาหน้าไม่ใหญ่เกินจนน่ารำคาญ มุมมองผ่านไหล่ไปกระจกด้านหลังถูกรบกวนเล็กน้อยด้วยแนวหลังคาที่ลาดลง การมีระบบ Honda LaneWatch ช่วยเพิ่มความชัวร์และความปลอดภัยมากขึ้นในขณะเปลี่ยนเลนหรือถอยเข้าซอง
ที่พวงมาลัยมีปุ่มเปิด-ปิดระบบอะแด็ปทีฟครูสคอนโทรลที่ก้านขวา พร้อมแพดเดิลชิฟท์ที่ด้านหลัง หน้าปัดดิจิตอลมีความคมชัด อ่านค่าต่างๆ ได้ง่าย เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วมีฟังก์ชั่นครบ ใช้งานง่ายเพราะมีปุ่มทางลัดและปุ่มวอลลุ่มปรับระดับเสียง รองรับการเชื่อมต่อครบครันตามที่รถในสมัยนี้ควรมีทั้ง Bluetooth USB HDMI และ Apple CarPlay รวมถึงคำสั่งเสียง SIRI ระบบเสียงที่ติดตั้งมามีคุณภาพดีใช้ได้ มาพร้อมลำโพงทั้งหมด 8 ตัว หน้าจอตอบสนองเร็วและยังแสดงผลจากกล้องมองหลังด้วย
สำหรับที่ว่างช่วงศีรษะและช่วงขาด้านหน้านั้นมีเพียงพอสำหรับคนตัวสูง การขึ้นลง-รถต้องก้มตัวนิดๆ ได้อารมณ์แบบสปอร์ต เบาะหลังมีพื้นที่มากมายนั่งแล้วเข่าไม่ชนเบาะหน้า องศาพนักพิงเอนกำลังดี นั่งสบายจริงไม่ว่าจะใกล้หรือไกล พื้นที่เหนือศีรษะจะมีปัญญากับคนที่ตัวสูงมากๆ เท่านั้นเนื่องจากแนวหลังคาที่ลาดลง
สมรรถนะอันเร่าร้อน
หัวใจแห่งความแรงของ Civic Turbo RS คือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร VTEC Turbo 173 แรงม้า พร้อมแรงบิด 220 นิวตันเมตร พละกำลังและอัตราเร่งของมันเรียกว่าเหลือๆ กับการขับขี่ทั่วไปในเมืองและนอกเมือง เปรียบเหมือนเป็นคน 2 บุคลิกในร่างเดียว บุคลิกแรกคือสุภาพเรียบร้อยแบบผู้ดี มีความนุ่มนวล ขับแบบหล่อๆ สบายๆ ไปเรื่อย แต่หากอยากพิสูจน์ฤทธิ์เดชของมันแล้วล่ะก็เครื่องเทอร์โบของฮอนด้าไม่เคยทำให้ผิดหวัง จากบุคลิกสุภาพเรียบร้อยกลับกลายเป็นความสนุกตื่นเต้นอย่างน่าประทับใจ เมื่อกดคันเร่งหนักๆ รถดึงให้หลังติดเบาะและเริ่มไต่ขึ้นสู่ความเร็วสูงอย่างรวดเร็วและไหลลื่นไม่มีสะดุด การเร่งแซงหรือมุดซ้ายขวาทำได้อย่างกระฉับกระเฉงและมั่นใจสมกับที่เป็นรถเทอร์โบอย่างแท้จริง
เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด ทำงานได้ต่อเนื่องลื่นไหลแทบไม่รู้สึกถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์เหมือนกับรถฮอนด้าหลายๆ รุ่น และถ้าลองขับในโหมด S ความสนุกตื่นเต้นที่มีจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัยก็เป็นอีกหนึ่งของเล่นที่ช่วยให้การขับขี่สนุกขึ้นไปอีกและตอบสนองได้ไว ช่วยให้การชิฟท์ดาวน์เพื่อเร่งแซงทำได้อย่างสะดวก
พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคืออีกสิ่งที่ฮอนด้าทำออกมาได้ดีมาก มีน้ำหนักกำลังดี ตอบสนองได้รวดเร็วฉับไว คมและมีระยะฟรีน้อย เรียกง่ายๆ คือ ตามสั่ง ที่ความเร็วต่ำมีความหนืดที่เหมาะสมขณะที่ความเร็วสูงก็หนืดยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ส่วนระบบเบรกล้อหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน ส่วนล้อหลังเป็นดิสก์เบรกธรรมดา โดยรวมให้ความมั่นใจในการหยุดรถเป็นอย่างดี มีความนุ่มนวลตามแรงกดที่เท้า เหยียบนิดเดียวก็เริ่มหน่วงทำให้กะระยะเบรกได้ง่าย
อีกประเด็นที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถสักคันหนึ่งคือความประหยัด จากที่เราได้ขับทดสอบมาในระยะทางราวๆ 300 กิโลเมตร ทั้งในเมืองและนอกเมืองกับสภาพจราจรบนถนนปกติ เฉลี่ยแล้วกินน้ำมันราว 15 กม./ลิตร ตัวเลขอาจคลาดเคลื่อนได้ตามใช้งานจริง แต่โดยรวมถ้าขับแบบปกติทั่วไปก็ถือว่าประหยัดมากๆ แล้ว
หนึบแน่นทุกท่วงท่า
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นมัลติลิ้งก์พร้อมเหล็กกันโคลง โดยรวมเซ็ตอัพมาเน้นความแน่นเฟิร์มแต่ก็ดูดซับแรงสะเทือนจากถนนได้อย่างน่าประทับใจ ขับผ่านฝาท่อ หลุมบ่อหรือรอยต่อถนนมีแรงสะเทือนส่งขึ้นมาให้รู้สึกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรียกว่าจัดการได้อยู่หมัด ยิ่งช่วงเข้าโค้งไม่ว่าจะความเร็วต่ำหรือสูงรถสามารถเกาะไปกับโค้งได้แบบเนียนๆ นิ่มๆ ผ่านได้สบายๆ แถมไม่ยวบย้วยอีกต่างหาก อาการโยนก็มีน้อย ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการที่รถได้ถูกออกแบบให้กว้างขึ้นและเตี้ยลงจาก Civic FB ทำให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำลง จึงช่วยให้มีความเกาะถนนมากขึ้นนั่นเอง
อีกอย่างคือเมื่อใช้ความเร็วสูงรถยังคงนิ่งมาก ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อีกโขเลยสำหรับผู้ที่ชอบความเร็ว ส่วนประเด็นเรื่องเสียงรบกวนถือว่าสอบผ่านแบบไม่มีข้อกังขา รถเก็บเสียงสภาพแวดล้อมการจราจรในกรุงเทพได้อยู่หมัด ขณะที่วิ่งความเร็วสูงบนถนนต่างจังหวัดก็เก็บเสียงได้ดีในระดับที่น่าพอใจ เสียงลมจะแทรกเข้ามาเมื่อขับเกิน 100 กม./ชม. แต่นั่งข้างหลังจะได้ยินเสียงยางบดถนนดังกว่าข้างหน้าเล็กน้อย
ดีงามอย่างโดดเด่น
จุดที่ต้องพูดถึงเลยคือเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing ที่เพิ่มเข้ามาซึ่งประกอบด้วย 5 ฟังก์ชั่น ได้แก่ ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKAS), ระบบเตือนและควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทาง (RDM with LDW), ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามคันหน้าและปรับความเร็วตามคันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF) และสุดท้ายระบบไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนมันจะทั้งส่งเสียงเตือนและสั่นที่พวงมาลัยเมื่อคุณถลำออกนอกเลน สามารถกดปิดระบบได้ถ้าไม่อยากใช้ ขณะที่ระบบระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามคันหน้าก็ช่วยคลายความเมื่อยล้าได้มากเมื่อขับทางไกลยาวๆ เราลองใช้งานดูพบว่ามันให้ความสะดวกสบายอย่างมาก พอรถคันหน้าเบรกระบบก็จะสั่งให้รถของเราเบรกตามอย่างนุ่มนวล ฟังก์ชั่นความปลอดภัยเหล่าถือว่าสมเหตุสมผลกับราคาค่าตัวที่เพิ่มเข้ามา เพื่อความอุ่นใจที่เพิ่มขึ้นมันก็คุ้มที่จะจ่าย
Civic Turbo RS เป็นสปอร์ตซีดานที่สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่ออกจากไลน์ผลิต คุณแทบไม่ต้องไม่แต่งเติมอะไรเลยเพราะมันยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ถ้ารักการต่อยอดก็สามารถจัดให้หล่อสุดๆ ได้โดยไม่อายใคร นี่คือรถที่ขับสนุก อัตราเร่งดีเยี่ยมตามสไตล์รถเทอร์โบ ปราดเปรียว กระฉับกระเฉง ช่วงล่างแน่นเฟิร์ม การควบคุมดีงาม เรามองว่านี่คือซีดาน C-Segment ของคนรักการขับขี่ที่ยากจะหาคู่แข่งมาต่อกร และเราคิดว่าความนิยมของ Civic เจนฯ 10 จะยังคงอยู่ไปอีกนาน
The Review
Honda Civic Turbo RS
Honda Civic Turbo RS เป็นซีดานที่สมบูรณ์แบบ หล่อตั้งแต่ออกจากโชว์รูม การขับขี่ให้อารมณ์สปอร์ตเต็มขั้น ระบบความปลอดภัยครบครัน นี่คือหนึ่งในรถที่ดีที่สุดในคลาส
PROS
- รูปลักษณ์ภายนอกสปอร์ตเต็มอารมณ์
- เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ตอบสนองเยี่ยม แรงสะใจ
- การบังคับควบคุมแบบสปอร์ต ว่องไว กระฉับกระเฉง
- ออปชั่นภายในครบครัน
- ระบบความปลอดภัยดีงามด้วยเทคโนโลยี Honda Sensing
CONS
- คนตัวสูงจะมีปัญหากับการนั่งเบาะหลัง
- มุมมองผ่านไหล่ไปกระจกหลังมีน้อยจากแนวหลังคาที่ลาดลง
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
Honda Civic Turbo RS DEALS
We collect information from many stores for best price available