• About
  • Advertise
  • Terms & Conditions
  • Privacy & Policy
  • Team
  • Contact
What Car? Thailand
Mazda-CX-3-Banner-whatcar-728x90-102023
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact
No Result
View All Result
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact
No Result
View All Result
What Car? Thailand
No Result
View All Result
Home Reviews First Drive

Honda City E:HEV 4 ประตูฆ่าไม่ตาย ไม่กระหายน้ำมัน 2020

March 12, 2021
in First Drive, Reviews
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

Overview Of Car

ทางเลือกใหม่เอาใจสายประหยัดน้ำมันจาก Honda City e:HEV เบาะรองรับสรีระโอบอุ้มผู้โดยสารและผู้ขับขี่ได้ดีขึ้น การขับขี่และช่วงล่างค่อนข้างดีคุ้มค่ากับราคา 839,000 บาท

แก๊งซิตี้ คาร์ ธงขาวพร้อมกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ด้วยความแรงที่สวนทางกับการซดน้ำมันเหยียบคล่องสนองไวพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวผสานการทำงานกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ออปชั่นเต็มแม็กซ์ลูกเล่นเพียบแถมลดมลพิษทางอากาศอีก

แม้จะมีหน้าตารูปทรงแบบเดิมจาก ซิตี้ 1.0 เทอร์โบ แต่ภายใน ช่วงล่าง มาเต็มกว่ารุ่นก่อน ๆ แน่นอน โดดเด่นด้านประหยัดเชื้อเพลิงเพราะถูกพัฒนาต่อยอดภายใต้แนวคิด “Ambitious Sedan” รุกตลาดเก๋ง 4 ประตู เปิดตัวรุ่นไฮบริดในคราบเดิมเดินเครื่องด้วยขุมพลังแบบ Fully Hybrid ลองนึกภาพตาม ๆ กันถ้ายังคิดไม่ออกให้คิดถึง Honda Accord Hybrid ขนาดจิ๋วที่ใช้งานคล่องตัวมากขึ้นแต่อาจจะอุปกรณ์ไม่ครบครันเท่านั้นเอง

ถึงใครจะมองว่า Honda City Hatchback ที่ถูกเปิดตัวมาพร้อมกับ Honda City e:HEV นั้นน่าสนใจกว่าอาจจะเป็นเพราะด้วยตัวถังหรือสีฮิตติดเทรนด์แต่สำหรับ e:HEV นั้นกลับขึ้นแท่นรับรางวัลไปอย่างใส ๆ ได้เลยด้วยออปชั่น ภายในที่ติดตั้งเทคโนโลยีใหม่กว่าและการตอบสนองที่ค่อนข้างกินขาดแต่ที่แน่ ๆ ล่ะ ก็เรื่องประหยัดน้ำมันนำจ่าฝูงมาเลยแม้แต่พื้นที่ด้านหลังที่ไม่ต้องพับเบาะก็ใส่ของได้แบบเหลือเฟือ

ถามว่าเราตัดสินจากอะไร ก็เพราะทางทีม What Car Thailand นั้นได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมทริปทดสอบรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นที่ถูกเปิดตัวมาพร้อมกันอย่าง Honda City Hatchback และ Honda City e:HEV ด้วยระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร จากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าสู่เส้นทางเขาใหญ่ด้วยความที่มันเป็นถนนแบบลูกเล่นเยอะเกินไปไม่ว่าจะโค้งเอย เนินหลังเต่าเอย หรือหลุมเล็กน้อยระหว่างทางบ้างซึ่งมันก็สามารถไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความเจ๋งของเก๋ง 4 ประตูคันนี้ได้ดีเหมือนกัน

 

1 of 20
- +

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

11.

12.

13.

14.

15.

16.

17.

18.

19.

20.

สเปครถยนต์

Body Style:Sedan
Description:รถเก๋ง 4 ประตู
Engine:เบนซิน 1.5 ลิตร แบบ Atkinson Cycle
Fuel Consumption:21.7 กิโลเมตรต่อลิตร
Fuel Type:เบนซิน
Make:Honda
Max Power:109 แรงม้า ที่ 3,500 – 8,000 รอบต่อนาที
Max Torque:253 นิวตันเมตร
Model:Honda City e:HEV
Price Guide:839,000 บาท
Release Date:21 ธันวาคม 2020
0-100 km/h:9.9 วินาที
Transmission:อัตโนมัติ E-CVT

สมรรถนะ

ขุมพลังของ Honda City e:HEV จะเป็นระบบเคลื่อนแบบ Full Hybrid การทำงานจะลักษณะคล้ายกับ Honda Accord  i-MMDพี่น้องร่วมตระกูลกันนั่นแหละ แต่มันจะต่างตรงที่ขนาดความจุเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าอย่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรแบบ Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ สามารถให้กำลังได้ 98 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่มีแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 1 kWh 4 โมดูล 48 เซลล์ เป็นตัวชาร์จส่งกำลังอีกที

ซึ่งการทำงานของมอเตอร์ 2 ตัวนั้น เขาจะแยกหน้าที่กันโดยตัวที่หนึ่งจะขับเคลื่อนหรือปั่นไฟเวลาเบรก ส่วนอีกตัวจะรับบทปั่นไฟหรือ Generator เพียงอย่างเดียว มันคือการทำงานแบบไฮบริดแบบซีรีส์นั่นเองเมื่อเครื่องยนต์และระบบการทำงานแบบมอเตอร์ไฟฟ้ารวมพลังกันแล้วสามารถให้กำลังได้สูงถึง 109 แรงม้า ที่ 3,500 – 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 0-3,000 รอบต่อนาที การปล่อยอัตราก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 85 กรัมต่อกิโลเมตร

ทุกอย่างถูกส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT และหนึ่งความประทับใจคือ Honda City e:HEV ทำการติดตั้งก้าน Paddle Shift ไว้ที่หลังพวงมาลัยไม่ใช่เพื่อไว้เร่งหรือลดความเร็วผ่านเกียร์แต่เป็นการอำนวยความสะดวกเพิ่มความเข้าใจง่ายให้กับผู้ขับที่เคยใช้เบนซิน ดีเซล มาก่อน เราจะเรียนให้คุณผู้อ่านทราบแบบนี้ว่า หากใช้ด้านที่มีสัญลักษณ์ “ – “ นั้นมันรีบทำการหน่วงมอเตอร์ไฟฟ้ามีลักษณะคล้ายกับการที่เราใช้ลดเกียร์ให้ต่ำลงนั่นเองแต่หากคุณใช้ด้าน “ + “ มันจะส่งกำลังให้รถไหลไปได้และสามารถปรับได้ถึง 3 โหมด

การขับขี่

เชื่อว่าหลายคนยังติดภาพที่ว่า หากเป็นอะไรที่เกี่ยวกับการใช้พลังงานไฟฟ้ามันจะแสดงอาการหนืดหนาดยืดยาดแต่จริง ๆ แล้วกับตัว Honda City e:HEV นี่สามารถลบคำสบประมาทเหล่านั้นไปได้เลยนะ แค่ใส่เกียร์ D กดคันเร่งเพื่อสู้รับกับถนนแล้วถือว่าตอบสนองได้ดีพอสมควรแอบมีช้าบ้างเล็กน้อยแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คือ การรวบรวมกำลังทุกอย่างพร้อมเสริฟรอเราหมดแล้วเหมือนมีแรงดึงอะไรสักอย่างมาช่วยในการดีดตัวพุ่งทะยานออกไปในส่วนนี้เอาเรื่องอยู่พอตัวเลยนะ

อัตราเร่งของ Honda City e:HEV นั้นขึ้นอยู่กับกำลังของแบตเตอรี่แทบทุกอย่าง เราจะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าอัตราเร่งมันขึ้นมากน้อยแค่ไหนด้วยเหตุผลมันมีปริมาณไฟในแบตเตอรี่เป็นตัวบงการแต่ยังดีตรงที่ว่าเราใส่กำลังเต็มที่ไปแค่ไหนตัวรถก็ส่งกำลังกลับมาให้เราเท่านั้นเหมือนกันไม่ตุ๋นหลอกให้เราเหยียบฟรีแน่นอน

ที่ว่าช่วงล่างเฟิร์มนั้นจริงไหม ? เฟิร์มไม่เฟิร์มเราก็ตัดสินจากความเร็วที่เราทำได้ในขณะนั้นเกือบ ๆ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลตอบรับคือ ว้าวเฉียบอย่างเดียว e:HEV นี่เขาใส่ใจจริง ๆ ดูแลกันดีตัวไม่โยกไม่โยนไม่ลอยสไลด์ตามถนนสวย ๆ ช่วงล่างเป็นมิตรกับถนนได้ดีจริงกระชับติดหนึบไม่น้อยหน้ารุ่นพี่อย่าง Honda Civic แม้แต่นิดเดียวเราพยายามกำลังมองหาข้อเสียอยู่แต่มันก็ยังนึกไม่ออกนะรู้แค่ว่าเมื่อเจอคอสะพานมันจะมีแบบอิ๊อ๊ะบ้างเล็กน้อยถือว่าดูซับแรงสะเทือนได้เพอร์เฟคบวกกับช่วงล่างของด้านหลังที่ทางวิศวกรได้ลงมือปรับจูนมาบ้างมันไม่เลยนิ่งแน่นพอตัว

อีกหนึ่งสิ่งที่เราจะไกด์ไลน์ให้ก็คือ เรื่องหลังการสตาร์ทรถมันมีความเซอร์ไพรส์อยู่อย่างนึงทุกอย่างทำงานหมดยกเว้นเครื่องยนต์ด้วยความที่ว่า หากไฟในแบตเตอรี่มีไม่เพียงพอเครื่องยนต์จะยังไม่ติดส่วนที่ส่งกำลังให้รถออกตัวได้นั้นคือมอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อกดไปจนถึงกำลังแรงเริ่มสูงแล้วเครื่องยนต์จะเป็นเหมือนพระรองเข้ามาช่วยรับช่วงต่อในระยะยาวหรือสั้นก็ต้องสังเกตุเอาที่หน้าจอแสงผลกันไปแต่ที่กล่าวมานี้ระบบจะไม่ปล่อยให้ใช้งานจนไฟในแบตเตอรี่หมดและจะไม่ชาร์จจนเต็มเพื่อช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานโดยมีการปั่นกระแสไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ 40-80% หรือการจอดรถแช่ทิ้งไว้ยังไงระบบก็ยังไม่ยอมให้แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20% แน่นอน ถือว่าช่วยผู้ใช้งานได้ค่อนข้างมากบางทีอาจจะไม่ต้องทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไปจนตลอดการใช้งานเลยก็ได้

พูดถึงการทำงานของช่วงล่างไปเยอะแล้วตอนนี้เรามาโฟกัสกันที่ความประหยัดกันดีกว่า จัดการกดด้วยความเร็วเท่าที่จะทำได้พร้อมเหล่มองหน้าจอมันได้สร้างความประทับใจให้เราแล้วอยู่ที่ 21.7 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าทำได้ไม่ขี้เหร่ไม่จกตาผู้บริโภคอยู่เหมือนกัน

ดีไซน์ภายนอก

สำหรับดีไซน์การออกแบบภายนอกยังไม่หวือหวาและดึงดูดสายตามากเท่าไหร่นักเพราะ Honda City e:HEV ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงเส้นสายทรวดทรงต่าง ๆ แอบเสียดายรูปลักษณ์หน้าตาไปนิดนึง

มาที่กระจังหน้าแบบ Gloss Black พร้อมโลโก้ฮอนด้าสีฟ้าแบบใหม่ กระจกมองข้างสีดำปรับพับเก็บเป็นระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ติดสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black เช่นกัน สัญลักษณ์ RS ที่พลาดไม่ได้ถูกติดตั้งทั้งกระจังหน้าและกระโปรงหลัง เสาอากาศแบบ Shark Fin เพิ่มความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ไฟทุกจุดยกชุดเป็น LED และมี Daylight ไฟส่องในเวลากลางวันมาให้เช่นกัน

เพลิดเพลินต่อการขับขี่

หน้าตาภายในเช่นเดิมซึ่งมันก็ยังคงคอนเซปต์เดิม ๆ เหมือนกับที่เคยเห็นกันในรุ่น RS Sedan มาก่อนนั่นแหละ ด้วยภายใต้แนวคิด “Ambitious Beauty” คุมโทนดำเช่นเดียวกับตัวแฮทช์แบ็กกลับมาเน้นพัฒนาพื้นที่ให้มีความสะดวกและอเนกประสงค์ขึ้นแทน

ด้วยความที่ City รุ่นเดิมต้องการผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์คนทุกรุ่นทุกวัยอยู่แล้วลูกเล่นหรือเส้นสายภายในต่าง ๆ มันยังไม่เยอะเท่าที่ควรคิดว่าติดลบส่วนนี้อยู่เท่าที่ควรด้วยหน้าตาของมันที่ดูธรรมดาแต่เน้นใช้งานง่ายมากกว่า เริ่มที่คอนโซลหน้าตกแต่งแบบ Piano Black บริเวณระหว่างเบาะผู้ขับขี่กับด้านข้างมาพร้อมที่พักแขนขนาดใหญ่บวกกับตัว e:HEV นั้นทำการเปลี่ยนเบรกมือจากแบบคันโยกมาเป็นเบรกมือระบบไฟฟ้าแทนพร้อมด้วยระบบ Brake Hold ที่มันจะหยุดรถให้เราอัตโนมัติใช้ได้สะดวกก็ตอนติดไฟแดงอะไรงี้ก็ว่าไป ควบคุมการออกตัวรถด้วยการแตะคันเร่งเท่านั้นเองสะดวกกว่าการสับเกียร์ N หรือ D ไปมา ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องปรับอากาศตอนหลังและช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ช่อง

ด้านระบบอินโฟเทนเมนต์หรือสาระบันเทิงนั้น Honda ทำการติดตั้งหน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เหมือนกับตัวแฮทช์แบ็ก ลำโพง 8 ตัว และสามารถรองรับ Apple CarPlay หรือ Android Auto ได้เหมือนกัน

จอแสดงข้อมูลหรือมาตรวัดการขับขี่แบบ TFT ชนาด 7 นิ้ว ส่วนนี้ก็ยังมีความทันสมัยกว่าตัวแฮทช์แบ็กตระกูลเดียวกันอยู่บ้าง ถัดมาหน่อยเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่มีการควบคุมทิศทางขนาดและน้ำหนักกำลังพอรับกับมือเราและปุ่มควบคุมต่าง ๆ อย่างเครื่องเสียงและการรับ-วางสายโทรศัพท์ แถมมีระบบชะลอความเร็วติดตั้งมาแล้วที่พวงมาลัย

สำหรับเรื่องของที่นั่ง Honda City e:HEV ถูกใส่ใจด้านการออกแบบมาอย่างดีเพื่อรองรับสรีระผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซึ่งเบาะนั่งด้านในเป็นหนังเทียมสลับกับ Suede เดินด้ายสีแดง เบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบเว้าโอบเรามากขึ้นและยังเพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสารด้านหลังเช่นเดียวกัน สัมผัสถือว่านุ่มและสบายมากขึ้นกว่าเดิมนิดนึง

และไม่ลืมที่จะใส่ Honda CONNECT มาให้ซึ่งส่วนหลังที่กล่าวถึง Honda CONNECT มันสามารถเช็คประวัติเตือนให้เราเข้ารับบริการที่ศูนย์ (MY SERVICE), เช็กความพร้อม ก่อนเดินทาง (CAR STATUS) ที่สามารถบอกสถานะต่าง ๆ ของรถยนต์อย่างเช่น ระบบไฟฟ้า ระบบเบรก ให้ผู้ใช้งานรับรู้ถึงรายละเอียดความผิดปกติ และหากพบความผิดปกติ แถบสถานะรถยนต์จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม, จอดที่ไหน ก็หาเจอ (FIND MY CAR) การจะทำงานจะคล้ายกับ Find my phone , การควบคุมความเร็วผ่านแอปพลิเคชั่น (GEO FENCE & SPEED ALERT) แจ้งเตือน เมื่อเข้าและออกนอกพื้นที่หรือขับเร็ว , สั่งการระยะไกล (REMOTE VEHICLE CONTROL) ไม่ว่าจะเป็นล็อก และปลดล็อกประตู รวมถึงฝากระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้าย สตาร์ท-ดับเครื่องยนต์พร้อมตั้งค่าอุณหภูมิของระบบปรับอากาศ เปิดสัญญาณไฟหน้า และไฟท้าย สำหรับ The City Turbo รุ่น S จะไม่สามารถตั้งค่าอุณหภูมิของระบบปรับอากาศด้วยแอปพลิเคชันได้ , เมื่อถุงลมนิรภัยหรือระบบความปลอดภัยเริ่มทำงาน (AIRBAG DEPLOYMENT ) TCU จะส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า หรือ Honda Call Center เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือ และสุดท้าย WIFI ที่สามารถแชร์ได้ถึง 5 เครื่อง

สรุปความน่าใช้

ด้วยความที่ Honda City e:HEV นั้นดูสุขุมกว่าตัวแฮทช์แบ็กอยู่พอสมควรมันเหมาะกับทุกวัยไปหมด ใครที่ไม่ได้ชอบความเร็วขนาดนั้นมันพอจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับการซื้อรถสักคัน เรื่องประหยัดน้ำมันก็ทำออกมาค่อนข้างประทับใจแต่ก็จะมีจิ๊จ๊ะบ้างตรงที่ดีไซน์หลาย ๆ อย่างยังไม่ซื้อใจเรามากพอถึงจะบอกว่าทำออกมาภายใต้ชื่อ Honda City แต่ถ้ามีอะไรที่พิเศษขึ้นอีกหน่อยมันจะดีพอไปได้สวย เพราะช่วงล่างและระบบการขับเคลื่อนต่าง ๆ ซิตี้ ตัวนี้ถูกปรับจูนมาเป็นอย่างดีแล้ว ผนวกกับออปชั่นต่าง ๆ ภายในรถ ระบบความปลอดภัยที่ค่อนข้างให้มาอย่างครบครันอย่าง Honda CONNECT ที่คุณสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เลย

                แล้วถ้าเราหยิบยกคู่ซี้ตีแข่งอย่าง Mazda 2 1.5D Sedan เข้ามาเปรียบกัน แน่นอนว่าหน้าตาชนะเลิศปราดเปรียวดูคล่องตัวแต่มาสด้าก็ยังให้เรื่องอัตราการสิ้นเปลืองหรืออัตราเร่งได้เท่าน้องใหม่อย่าง Honda City e:HEV อยู่ดี เอาใจช่วยสำหรับคนที่กำลังติดสินใจซื้อรถสักคันอยู่ในราคาที่มันไม่เจ็บจนเกินไป

มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่

  • สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก)
  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
  • สีขาวแพลทินัม (มุก)
  • สีดำคริสตัล (มุก)
  • สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
  • สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)

The Review

Honda City E:HEV

3.8 Score

การตอบสนอง ช่วงล่าง เครื่องยนต์ ถูกปรับจูนปรับแต่งมาดีจริงระบบความปลอดภัยเทคโนโลยีค่อนข้างมีครบแต่แอบมาตกม้าตายเรื่องของดีไซน์เท่านั้นเอง

PROS

  • ประหยัดน้ำมัน
  • คันเร่งตอบสนอง
  • ช่วงล่างเกาะถนนดีเยี่ยม
  • หน้าปัดแสดงข้อมูลขับขี่ไม่ล้าสมัยมากเกินไป
  • เบรกมือเป็นแบบระบบไฟฟ้าพร้อม Brake Hold

CONS

  • ภายนอกไม่ดึงดูด
  • ภายในก็ยังคงรูปแบบเดิม ๆ
  • รูปร่างทรวดทรงยังไม่ปราดเปรียวพอ

Review Breakdown

  • Driving
  • Engine & Trans
  • Fuel Consumption
  • Practicality
  • Price and Features
  • Design
  • Saftey80%

Honda City E:HEV DEALS

We collect information from many stores for best price available

Best Price

฿839000
  • ็Honda Thailand
    ฿839000 Buy Now

Related Posts

First Drive

รีวิว รถยนต์ All-New Honda Accord รุ่น EL (ลองขับ)

December 25, 2023
Bmw-320d-2023-website-whatcar
Road Test

รีวิว BMW 320d M Sport 2023 ที่เน้นเรื่องการขับขี่เป็นหลัก

Road Trips

Road Trips MG ES และ MG Maxus 9 รถยนต์ไฟฟ้า 100% มาพร้อมความหรูหราที่ใช้งานได้จริง

July 8, 2023
Road Test

BMW iX xDrive40 2023 รถยนต์ไฟฟ้าล้วน ภายนอกโดดเด่น ห้องโดยสารกว้าง พร้อมสมรรถนะเยี่ยม

Road Test

Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD R-Design สุดยอดเอสยูวี แรงม้าเยี่ยม ประหยัดสุดยอด

Road Test

All New Mazda CX-30 รุ่นใหม่ ครอสโอเวอร์เอสยูวี โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ถูกใจคนในเมือง คู่ต่อสู้อีกหลายแบรนด์

Leave Comment

What Car? Thailand

 

นิตยสารและเว็บไซต์ whatcar.co.th เนื้อหาลิขสิทธิ์รถยนต์ที่แรกที่เดียวในไทย เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ จาก What Car? whatcar.com ประเทศอังกฤษซึ่งได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกมายาวนานกว่า 45 ปี.

Follow us

Categories

  • Awards
  • Big Bike
  • Comparison
  • CSR
  • Feature
  • First Drive
  • Insights
  • Inter News
  • New Car
  • News
  • PR
  • Promotion
  • Reviews
  • Road Test
  • Road Trips
  • Tip Technic
  • Uncategorized
  • Your Cars

Instagram

  • ลาก่อน EQS สวัสดี S-Class รถยนต์ไฟฟ้า : Mercedes จะรวมทั้งสองรุ่นเข้าด้วยกันในปี 2030 ⚡
  • พักเบรกกับค่ายจีน 🇨🇳ที่กำลังลงมาเล่นตลาด ⚡🔋
รถยนต์ไฮบริด (Hybird) นั่งกันไม่ติดและ ญี่ปุ่น 🇯🇵
.
ไม่รู้ว่านุดมีแมว...หรือแมวมีนุดกันแน่ 😆
 "ประกาศิต" ก็เป็นทาสจ๊ะ 555
.
แม่น้ำตาลเป็นแมวที่อายุใกล้ 20 ปี ก็จะดูวัยรุ่นหน่อย 😸
โลกนี้ให้ความสำคัญกับแมวอยู่นะ.... “วันแมวโลก”  International Cat Day 
8 สิงหาคมของทุกปี
.
#InternationalCatDay 
#แม่น้ำตาลหวานเจียบ
  • เดินทางด้วยรถ Benz E 220 d AMG Line 😆🌊🌴
จากเส้นทางภูเก็ต - พังงา ถึง รร.เยาววิทย์ 
ทริป /CSR เมอร์เซเดสเบนซ์ ประเทศไทย
.
ขนาดตัวถัง
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,935 x 1,852 x 1,460 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,939 มิลลิเมตร
.
เครื่องยนต์
.
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก EQ Boost พละกำลัง 23 แรงม้า 205 นิวตันเมตร Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง
.
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.6 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed 238 km/h
.
ภายนอก
- ชุดตกแต่งภายนอก AMG Body Styling
- ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว
- ไฟหน้า LED High Performance
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist
- ระบบกุญแจ Keyless-GO
- ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบเปิด-ปิด ฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate
- ระบบช่วยปิดประตู Power Closing Doors (ประตูดูด)
.
ภายใน และระบบอำนวยความสะดวก
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม Memory Seat
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม Memory Seat
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 2-Zones
- ระบบปรับสมดุลอากาศ - ฟอกอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL (HEPA)
- ม่านบังแดดประตูคู่หลัง
- ม่านบังแดดกระจกบังลมหลัง
- หน้าจอ MBUX Multimedia HyperScreen และ หน้าจอมาตรวัดแบบ 3D
- Passenger Screen หน้าจอแยก สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ที่แยกควบคุมกับจอกลางได้ โดยไม่รบกวนการควบคุมของส่วนกลางภายในรถ
- ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist
- กล้องรอบคัน 360 องศา
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Assist
- ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูลงจากรถ Exit Warning
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Active Distance Assist DISTRONIC with Stop&Go
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Lane Tracing Package
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร Active Lane Keeping Assist
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Collision Warning
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Advanced Driving Assistance System
.
.
#MercedesBenz #EClass #E220d #E220dAMGLine
  • สีดำ....หล่อแบบเข้ม เข้ม 😆
เผยโฉม ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด
ด้วยการตกแต่งภายนอกสีดำสุดเท่ ประกอบด้วย ไดนามิก ชีลด์และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา บันไดข้างตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ 
.
เครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ให้กำลังสูงสุดที่ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ผสานช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น 
.
เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) 
-ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM) 
-ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) 
-ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) 
-ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) 
-ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto High Beam: AHB) 
-กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) 
-พร้อมระบบตรวจจับและแจ้งเตือนวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection: MOD) 
.
ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะทั้งหมดนี้ สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ ด้วยเซ็นเซอร์และเรดาร์ที่ละเอียด แม่นยำ พร้อมปกป้องคุณให้ปลอดภัยในทุกเส้นทางที่ไปในแบบ 360 องศา
.
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน อาทิ หน้าจอขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay ที่พร้อมเชื่อมต่อแบบไร้สาย และ Android Auto 
.
#WHATCARThailand
#MitsubishiMotorsThailand #mitsubishitritonblackedition
#triton #blackedition
  • A5 Sedan ใหม่ ตัวแทน Audi A4 Sedan คู่แข่งใหม่ BMW 3 Series และ Mercedes C-Class
.
ภายนอกออกแบบใหม่ด้วยกระจังหน้าเพรียวขึ้น ไฟหน้าแบบ LED daytime running และไฟท้ายแบบ OLED ที่สามารถปรับการแสดงผลได้สูงสุด 8 รูปแบบ ที่นอกจากจะแสดงความแตกต่างเพื่อความสวยงามแล้ว สำหรับไฟท้ายยังสามารถใช้เป็นการสื่อสารกับรถคันหลังได้อีกด้วย
.
ภายในออกแบบหน้าจอ  3 ชิ้น โดยเลือกใช้แนวคิดการยึดหลักผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ virtual Cockpit ใช้เทคโนโลยีหลอดไฟแบบ OLED ขนาด 11.9 นิ้ว ทำงานร่วมกับหน้าจอกลางขนาด 14.5 นิ้ว เป็นระบบสัมผัส ทั้งยังมีออฟชั่นหน้าจอสำหรับความบันเทิงของผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 10.9 นิ้ว
ความพิเศษยังอยู่ที่ A5 Sedan ที่ติดตั้งฝากระโปรงท้ายแบบยกเปิด เสมือนเป็นรุ่น Sportback จากโรงงาน
.
เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
2.0 TDI
เครื่องยนต์ดีเซล TDI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร  สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch
.
2.0 TFSI
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อคู่หน้าเท่านั้น และรุ่นอัพเกรด 204 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ultra ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch
.
รุ่น S5
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 367 แรงม้า (PS) พร้อมด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48-volt เพื่อลดมลพิษสำหรับการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ
.
#WHATCARThailand
#AUDI #A5Sedan
  • #Promotion #Toyota ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถในงาน #MOTORSHOW2024
#PR #promote #whatcar #whatcarthailnd 🥳👍🫰
  • #Tesla #Cybertruck ลองกระสุนเบอร์ไหนเข้า...? คุ้มนะถ้า 2.5m Baht คนไทยพร้อมซื้อ (รวย)😆🥳😃🧐🤓
#whatcar #whatcarthailand
  • พาชม #Porsche ในงาน Motor Show 2024
#whtacarthailand #whatcar
  • พาชม #Mitsubishi ในงาน Motor Show 2024
#whatcar #whatcarthailnd

Newsletter

© 2022 What Car? Thailand - Designed by Coinfinity Power.

  • About
  • Advertise
  • Terms & Conditions
  • Privacy & Policy
  • Team
  • Contact

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และอำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ รวมถึงช่วยให้เราปรับปรุงการนำเสนอเนื้อหาตรงตามความต้องการของท่าน โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้นโยบายคุกกี้ กด “ยอมรับ”
Cookie settingsยอมรับ
Manage consent

Privacy Overview

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.
Necessary
Always Enabled
Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. These cookies ensure basic functionalities and security features of the website, anonymously.
CookieDurationDescription
cookielawinfo-checkbox-advertisement1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Advertisement" category .
cookielawinfo-checkbox-analytics1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Analytics" category .
cookielawinfo-checkbox-functional1 yearThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessary1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Necessary" category .
cookielawinfo-checkbox-others1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to store the user consent for cookies in the category "Others".
cookielawinfo-checkbox-performance1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to store the user consent for cookies in the category "Performance".
CookieLawInfoConsent1 yearRecords the default button state of the corresponding category & the status of CCPA. It works only in coordination with the primary cookie.
Functional
Functional cookies help to perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collect feedbacks, and other third-party features.
Performance
Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.
CookieDurationDescription
_lscache_vary2 daysNo description available.
Analytics
Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.
CookieDurationDescription
_ga2 yearsThe _ga cookie, installed by Google Analytics, calculates visitor, session and campaign data and also keeps track of site usage for the site's analytics report. The cookie stores information anonymously and assigns a randomly generated number to recognize unique visitors.
_gat_gtag_UA_51917967_11 minuteSet by Google to distinguish users.
_gid1 dayInstalled by Google Analytics, _gid cookie stores information on how visitors use a website, while also creating an analytics report of the website's performance. Some of the data that are collected include the number of visitors, their source, and the pages they visit anonymously.
Advertisement
Advertisement cookies are used to provide visitors with relevant ads and marketing campaigns. These cookies track visitors across websites and collect information to provide customized ads.
CookieDurationDescription
_fbpsessionThis cookie is set by Facebook to display advertisements when either on Facebook or on a digital platform powered by Facebook advertising, after visiting the website.
advanced_ads_browser_width1 monthThis cookie is set by Advanced ads plugin.This cookie is used to measure and store the user browser width for adverts.
personalization_id2 yearsTwitter sets this cookie to integrate and share features for social media and also store information about how the user uses the website, for tracking and targeting.
Others
Other uncategorized cookies are those that are being analyzed and have not been classified into a category as yet.
CookieDurationDescription
jnews_view_counter_visits[0]2 months 2 days 15 hoursNo description
muc_ads2 yearsNo description
pvc_visits[0]1 dayThis cookie is created by post-views-counter. This cookie is used to count the number of visits to a post. It also helps in preventing repeat views of a post by a visitor.
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo
No Result
View All Result
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact

© 2021 What Car? Thailand - Designed by Coinfinity Power.