สัมผัสแรก อัพเดทรูปลักษณ์ภายนอกและใส่ระบบสาระบันเทิงรุ่นใหม่ ราคาอยู่ที่ 17,625 ปอนด์ (8.8 แสนบาท) คำตัดสิน ภายในที่มีคุณภาพสูงขึ้นทำให้มันเป็นรถที่ดีขึ้นกว่าเดิมจากที่ดีอยู่แล้ว
รถหลายรุ่นใช้กำลังเครื่องยนต์มากำหนดกลุ่มในการทำตลาด อีกหลายรุ่นอยู่ในระดับต้นๆ ด้วยความโดดเด่นมาหลายทศวรรษเฉกเช่นกับ Golf ที่พิสูจน์แล้วด้วยยอดขายกว่า 33 ล้านคันตั้งแต่มันเปิดตัวในปี 1974
ผลพวงจากการโกงค่าไอเสียยังคงสร้างผลกระทบกับ VW อย่างหนัก ประกอบกับกฎหมายค่าไอเสียที่เข้มงวดมากขึ้น และการมาของคู่แข่งใหม่ๆ ส่งผลให้ Golf ต้องเสียตำแหน่งรถยนต์ยอดเยี่ยมไป Volkswagen ทำการอัพเดทรถคันนี้เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งรุ่นอื่นๆ จนกว่า All-New Golf จะวางขายในปี 2019
มองครั้งแรกมันมีความแตกต่างกับโมเดลก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย ด้านหน้ามาพร้อมกันชนและกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้า LED พร้อมไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ ด้านหลังมาพร้อมไฟท้าย LED และกันชนหลังใหม่ ไฮไลต์เด่นของการไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้คือภายในที่ได้รับการปัดฝุ่นใหม่ มาพร้อมชุดหน้าปัดดิจิตอล HD ขนาด 12.3 นิ้ว แทนที่หน้าปัดแบบเดิมชื่อว่า Active Info Display
เปิดฝากระโปรง
ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทางเทคนิคของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร เมื่อก่อน Golf ดูเหมือนจะเป็นรถแฟชั่น มีการขับขี่ธรรมดาๆ แต่ปัจจุบันมันมีคุณภาพมากขึ้น ขับสบาย และใช้งานจริงได้ดี
แม้รถที่เราได้มาขับจะมีล้อขนาด 17 นิ้ว มันก็ยังขับสบายและเอาอยู่กับถนนที่ขรุขระ ชัดเจนว่า Golf มีการควบคุมที่ดีพอๆ กับ Ford Focus และมีเรือนร่างที่บางกว่า Audi A3 และที่ความเร็วสูงพวงมาลัยของ Golf ก็มีน้ำหนักและการตอบสนองที่ดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อีกมากโข
เครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร 148 แรงม้า นั้นน่ายกย่องมาก มันเหนือกว่าเวอร์ชั่น 1.4 TSI 123 แรงม้า แถมประหยัดด้วย แต่ยังช้ากว่าเครื่องเบนซิน TSI 1.0 ลิตร 3 สูบ 108 แรงม้ารุ่นปรับปรุงอยู่ มันให้กำลังตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้คุณสามารถเร่งสู่ความเร็วสูง
ได้อย่างราบรื่นและสบายหู
มันเงียบอย่างน่าประทับใจในช่วงความเร็วสูง และสามารถตัดการทำงานของลูกสูบบางตัวเมื่อเครื่องยนต์ทำงานไม่หนักได้ ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้น เราบันทึกได้ 18.41 กม./ลิตร ในการขับปกติ น้อยกว่าตัวเลข 19.61 กม./ลิตร ของผู้ผลิตแค่นิดเดียว
เสียงรบกวนจากลมและถนนที่ต่ำเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มันเป็นรถสำหรับครอบครัวที่ดีที่สุดคันนึงในตอนนี้
เรื่องของเทคโนโลยี
ด้านสรีระศาสตร์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มันมีที่ว่างระหว่างเบาะกับพวงมาลัยที่กว้าง คุณสามารถหาตำแหน่งที่นั่งสบายที่สุดได้ง่าย และต้องขอบคุณเสากลางขนาดเล็กที่ทำให้ Golf เป็นรถที่มีทัศนวิสัยรอบคันดีที่สุดในคลาส
ในปีที่ผ่านมาดีไซน์ภายในแบบโมโนโครมของ Golf พบเห็นได้บ่อยขึ้น ดังนั้นมันจึงได้รับการปรับแต่งใหม่ในส่วนของแดชบอร์ด คอนโซลกลาง และแผงประตู การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ภายในของ Golf ดูพรีเมียมมากขึ้น แม้จะมีส่วนประกอบของพลาสติกแข็งอยู่บ้างโดยเฉพาะบริเวณด้านล่างและด้านหลังแต่วัสดุทุกอย่างที
่ใช้มีคุณภาพสูง
จุดเด่นของการอัพเกรดในครั้งนี้คือ Active Info Display นี่คือจอแสดงผลดิจิตอลที่มาแทนที่แผงหน้าปัดแบบเดิม ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งการแสดงผลข้อมูลได้โดยตรงจากด้านหน้าของคุณ มันใช้งานง่ายและมองเห็นชัดเจนมาก
อย่างไรก็ตามระบบสาระบันเทิง Discover Pro กลับทำได้น่าผิดหวัง แม้มันจะมีเกสเจอร์คอนโทรลเป็นครั้งแรกในคลาสนี้ที่คุณสามารถเลื่อนดูเมนูและเปลี่ยนสถานีวิทยุได้โดยการกวาดมือที่บริเวณด้านหน้าของจอ แต่ระบบนี้ทำให้กวนใจขณะขับขี่และช้า ยังดีที่สามารถใช้งาน Apple CarPlay, และ Android Auto หรือ MirrorLink ได้ ซึ่งควบคุมได้ง่ายขณะขับรถ
ราคาและความคุ้มค่า
ราคาของโมเดลใหม่นี้กับเครื่อง 1.5 ลิตรใหม่ยังไม่ได้ประกาศออกมา แต่น่าจะอยู่ที่ราวๆ 20,000 ปอนด์ (1 ล้านบาท) สำหรับรุ่นตกแต่ง SE ราคาที่แท้จริงของ Golf ในตอนนี้น่าจะต่ำกว่ารุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ราว 650 ปอนด์ (32,500 บาท) แม้มันจะมีออปชั่นที่มีราคาแพงที่สุดในคลาสก็ตาม
ตอนนี้เราใช้เวลาทำความเข้าใจกับมันเพียงแค่สั้นๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความไฮคลาสของภายในที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับที่เราพบในรถราคาแพงที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ในที่สุดแล้ว นอกเหนือจากเกสเจอร์คอนโทรลที่ไม่ค่อยโอเค การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการเพิ่มสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นด้วยแพ็คเกจที่คุ้มค่า
ข้อมูลผู้ซื้อ | |
Volkswagen Golf 1.5 TSI Evo SE | |
ขนาดเครื่องยนต์ | เบนซิน 1.5 ลิตร |
ราคา | 1,000,000 บาท |
กำลังเครื่องยนต์ | 148 แรงม้า |
แรงบิด | 184 ปอนด์ฟุต |
0-100 km/h | 8.3 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 215 km/h |
อัตราสิ้นเปลือง | 19.61 kpl |
Co2 g/km/tax | 129 g/km/20% |
จำนวนถุงลมนิรภัย | 7 |
จำนวนประตู | 3-5 |
จำนวนเบาะนั่ง | 5 |
เริ่มจำหน่าย | ปัจจุบัน |