สัมผัสแรก แฮทช์แบ็กครอบครัวรูปลักษณ์แหวกแนวที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกัน มันจะดีกว่าเดิมหรือไม่? ราคาอยู่ที่ 17,055 ปอนด์ (8.5 แสนบาท) คำตัดสิน สะดวกสบาย กว้างขวาง และคุ้มราคา
ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Skoda Octavia 2017 บริษัทผู้ผลิตบอกกับเราถึงการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่และผลที่ได้ก็คือโมเดลปรับโฉมที่สวยที่สุดของบริษัท แต่เรายังไม่แน่ใจเท่าไร มันดูแตกต่างก็จริงแต่ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน มาพร้อมไฟหน้าแยกชิ้น 4 ดวง ไฟท้าย LED และกันชนดีไซน์ใหม่ที่ดูเรียบๆ
ระบบสาระบันเทิงอัพเกรดใหม่ เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยเข้ามาได้แก่ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ โดยมันสามารถตรวจจับคนเดินเท้ารวมทั้งรถยนต์รอบๆ ได้ ระบบเตือนจุดอับสายตาและเซ็นเซอร์เตือนด้านท้าย นอกจากนี้ยังมีระบบ Trailer Assist ที่ช่วยถอยรถขณะลากพ่วงฃให้คุณได้แบบกึ่งอัตโนมัติ รวมถึงพวงมาลัยปรับความร้อน
เป็นอย่างที่เคยเป็น
การขับขี่ Octavia ใหม่ให้ความรู้สึกเหมือนรุ่นก่อนหน้า นั่นคือเรื่องดี เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.4 ลิตร 148 แรงม้า น่าคบหามากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อ Skoda เลิกผลิตเครื่อง 1.6 TDI Greenline ไปแล้วเพราะมันไม่น่าสนใจเท่ากับเครื่องดีเซล 1.6 TDI 115 ที่ยังมีอยู่
เครื่อง 1.4 TSI ไม่ได้ถูกกว่า 1.6 TDI เท่านั้นแต่ยังเร็วกว่าด้วย มันดึงให้หลังติดเบาะตั้งแต่รอบต่ำโดยไม่มีสะดุดจนกระทั่งถึงรอบสูงแถมยังกินน้ำมันน้อย และยังเป็นรถบริษัทที่มีภาษีที่ต่ำที่สุดของ Octavia ทุกรุ่นยกเว้นรุ่นเบนซิน 1.0 ลิตร
พวงมาลัยมีความแม่นยำและน้ำหนักกำลังดี ตัวรถมีการควบคุมและยึดเกาะที่ดีแถมยังเชื่องเท้า ทำให้ Octavia เป็นรถที่ขับง่าย แต่มันจะหมดข้อกังขาเลยหากมอบความสนุกในการขับขี่ได้ดีเหมือน Ford Focus หรือ Seat Leon
Octavia มีอาการสั่นสะเทือนขณะวิ่งบนถนนที่ไม่เรียบในเมืองเหมือนกับที่รุ่นก่อนเป็น และช่วงล่างก็มีเสียงดังเกือบตลอดเวลา นี่คือข้อเสียที่ Skoda ยังไม่ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นในรุ่นใหม่นี้ แต่เมื่อด้วยความเร็วสูงมันก็นุ่มนวลมากขึ้น
กว้างขวางอย่างเหลือเชื่อ
ภายในของ Octavia กว้างขวางเหมือนกับรุ่นก่อน สามารถหาตำแหน่งนั่งขับที่เหมาะสมได้ง่ายจากเบาะที่หุ้มกระชับ และยังมีที่ว่างมากกว่าคู่แข่งทั้งตอนหน้าและตอนหลัง ส่วนห้องเก็บสัมภาระมีขนาดใหญ่กว่ารถขนาดใหญ่บางรุ่นด้วยซ้ำ
ระบบสาระบันเทิงใหม่คือจุดเด่น โดยเฉพาะเวอร์ชั่น Columbus ที่มาพร้อมจอสัมผัส 9.2 นิ้ว ระบบนำทางด้วยดาวเทียม ไวไฟฮอตสปอต และรองรับการเชื่อมต่อออนไลน์ ช่วยให้คุณสามารถท่องเว็บ เช็คการจราจร รายงานสภาพอากาศ รวมถึงค้นหาที่จอดรถใกล้ๆ
การตอบสนองของหน้าจอทำได้รวดเร็ว คุณสามารถสั่งการหน้าจอได้ด้วยการตวัดและจีบนิ้วบนหน้าจอ นอกจากนี้การจัดวางเมนูต่างๆ ที่เรียบง่ายทำให้คุณใช้งานมันได้ง่ายขึ้น โดยรวมตอบเลยว่าดี ปุ่มทางลัดรอบๆ หน้าจอถูกแทนที่ด้วยระบบสัมผัสที่ตอบสนองได้รวดเร็ว มันช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและไม่รบกวนการขับขี่มากเกินไป ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากถนนมาเหลือบมองมากนัก
ส่วนระบบเวอร์ชั่นปกติจะมีฟีเจอร์คล้ายกันแต่จะได้เป็นหน้าจอ 8 นิ้ว ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในรุ่นระดับกลาง SE Technology ส่วนรุ่นระดับล่าง S และ SE ได้หน้าจอ 8 นิ้วเหมือนกันแต่ตัดฟีเจอร์ระบบนำทางด้วยดาวเทียม
ออกไป มีวิทยุดิจิตอล บลูทูธ และ SmartLink+ ควบคุมสมาร์ทโฟนผ่านหน้าจอสัมผัส ดังนั้นคุณสามารถใช้ Google Maps ในการนำทางแทนได้
ยังคงน่าใช้อยู่
แม้ Octavia คันนี้ยังไม่ได้ก้าวไปข้างหน้ามากนัก แต่ Skoda แก้เกมได้อย่างชาญฉลาดด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้ามาและจัดเต็มกับอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบไม่มีกั๊ก มันไม่ได้เป็นรถที่แย่หากตุณชอบในสไตล์ของมัน เครื่องยนต์ 1.4 TSI ยอดเยี่ยมเพียงพอหากคุณใช้งานเป็นรถส่วนตัว และมันก็คุ้มค่าหากคุณใช้งานในเชิงธุรกิจด้วย เครื่อง 2.0 TDI 150 จะประหยัดกว่าหากคุณวิ่งทางไกล ส่วนรุ่น SE และ SE Technology จะให้คุณภาพดีที่สุด
ข้อมูลผู้ซื้อ | |
ขนาดเครื่องยนต์ | 1.4 เบนซิน เทอร์โบ |
ราคา | 968,500 บาท |
กำลังเครื่องยนต์ | 148 แรงม้า |
แรงบิด | 184 ปอนด์ฟุต |
0-100 km/h | 8.1 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 218 km/h |
อัตราสิ้นเปลือง | 19.2 kpl |
Co2 g/km/tax | 121 g/km/20% |
จำนวนถุงลมนิรภัย | 7 |
จำนวนประตู | 5 |
จำนวนเบาะนั่ง | 5 |
เริ่มจำหน่าย | ปัจจุบัน |