นิยามใหม่ของรถซาลูน 4 ที่นั่ง ภายใต้เปลือกกายหรูหรา สปอร์ต และดุดัน ส่วนภายในก็ไม่ยิ่งหย่อนเพราะมีความทันสมัยอันเพียบพร้อมไปด้วยความสบาย ที่สำคัญสมรรถนะการขับขี่ก็เยี่ยมยอดไม่เป็นรองคู่แข่งระดับเดียวกัน สำหรับราคาอยู่ที่ 13,500,000 บาท
ความหลงใหลในอะไรสักสิ่งหนึ่งอาจไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ บางครั้งการพบกับสิ่งที่สร้างเคมีซึ่งเข้ากันได้กับตัวเรา นั่นแหละก็เป็นเหตุให้เกิดหลงใหลได้ปลื้มแบบไม่คาดฝัน เช่นเดียวกันกับการหายานยนต์คู่ใจที่คุณอาจไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักเมื่อแรกเห็น แต่พอได้นั่งกุมบังเหียนพร้อมแส้ฟาดให้มันวิ่งไป นั่นแหละความรู้สึกที่พูดว่า ‘ใช่’ ก็ปรากฏขึ้นในสมองทันที โดยเมื่อได้ขับ Porsche Panamera 4S คันนี้ คำอุทานในหัวก็บอกว่า…นี่แหละใช่เลย
เพื่อเป็นการพิสูจน์สมการที่คาดไว้ในจิตใจ เราจึงได้เข้าร่วมกิจกรรมทดสอบรถยนต์ Porsche Panamera 4S ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ ภายใต้ท้องฟ้าสดใสอันมีแสงแดดยามบ่ายสุดร้อนระอุ คอยมาเป็นตัวเร่งให้เราอยากจะขับเฆี่ยนเจ้าม้าเยอรมันให้พยศออกลายกันบนสนาม
แรกพบก็รู้ว่าต้องดีกว่าเดิม
Porsche Panamera 4S คันที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้านี้นับเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 แล้ว นับตั้งแต่โมเดลแรกได้ทำตลาดตั้งแต่ปี 2010-2016 ซึ่งยนตกรรมสัญชาติเยอรมันได้ผสมผสานรูปลักษณ์คลาสสิกกับสมรรถนะ ที่เป็นจุดเด่นของตนไว้ได้เหนียวแน่นตลอดมา ยิ่งเฉพาะพานาเมร่าโมเดลปี 2017 ตัวล่าสุด ที่รูปลักษณ์ถูกขัดเกลาให้กลมกลืนระหว่างความหรูหราและทันสมัยไปพร้อมกัน ยิ่งกว่านั้นภายในก็อัดเทคโนโลยีรวมถึงความสบายแบบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร
ภายนอกดูคล้ายกับรถคันอื่นในคล้าย ก็มีรูปทรงโค้งมนปราดเปรียวตามสไตล์การออกแบบของค่าย ขณะเดียวกันโคมไฟหน้าแอลอีดีก็มีลักษณะเดียวกันกับ Porsche Cayenne กับ Macan ตัวปรับโฉมล่าสุด ส่วนด้านหลังนั้นมอบไฟท้ายแอลอีดีโคมแนวนอน และมีท่อไอเสีย 4 ท่อเพื่อสมรรถนะกับเสียงอันไพเราะเร้าใจ
ก่อนหน้านี้เราเคยเข้าไปนั่งในพานาเมร่าโมเดลก่อน ที่เน้นความดุดันหรูหราและทันสมัย ทว่าสิ่งต่างๆ เหล่านั้นไม่สามารถผสมเข้ากันได้ดีเท่าไหร่นัก ทั้งจากปุ่มกดจำนวนมากที่ถูกอัดอยู่ตรงบริเวณคันเกียร์ รวมถึงความสบายที่ให้ผู้โดยสารได้แค่พอใช้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่สำหรับโมเดลล่าสุดนี้คำติต่างๆ ถูกลบหมดสิ้นออกจากทั้งสมองและใจ
คำกล่าวที่เราพูดออกไปไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด เนื่องจากห้องโดยสารของพานาเมร่าถูกออกแบบในสไตล์เรียบง่าย (Minimalist) มีปุ่มกดเท่าที่จำเป็น อีกทั้งการใช้งานฟังก์ชันภายในก็ง่ายขึ้นกว่าเก่า ด้วยระบบสาระบันเทิงที่มาพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ ที่รวมเอาความบันเทิงรวมถึงระบบนำทางไว้ด้วยกันอย่างครบถ้วน ขณะเดียวกันความสบายของผู้โดยสารด้านหน้าก็มีเบาะปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง มาเป็นตัวหลักช่วยผ่อนคลายเมื่อเดินทาง
ถัดมาในด้านหลังสามารถนั่งได้ 2 คน เนื่องจากตรงกลางระหว่างเบาะคู่หลังมีจอกับปุ่มกดไว้ควบคุมระบบปรับอากาศ 4 ทิศทาง ยิ่งกว่านั้นเบาะหลังยังปรับเอน ปรับดันหลัง และปรับเลื่อนได้เล็กน้อยด้วยระบบไฟฟ้า ขณะเดียวกันพื้นที่เหนือศีรษะกับที่วางขาด้านหลังจัดว่ากว้างขวางกว่ารุ่นก่อนอย่างมาก
สมบูรณ์แบบ สั่งได้ดั่งใจ ระบบช่วยเหลือเพียบ
การขับทดสอบในสนามครั้งนี้เรามีโอกาสสัมผัสมันแค่เพียง 2 รอบสนามเท่านั้น ซึ่งเราเก็บอาการระหว่างขับขี่แบบสปอร์ตเต็มขั้นเป็นหลัก ใครที่หวังจะทราบเรื่องการใช้งานจริงบนท้องถนนคงต้องอดไปตามกัน โดยเมื่อเราโดดขึ้นตำแหน่งขับขี่ก็สามารถปรับพวงมาลัยกับเบาะนั่งได้ละเอียด ซึ่งทั้งสบายและกระชับกับสรีระเป็นที่สุด จากนั้นเราจึงลองหมุนพวงมาลัยก็พบว่ามีน้ำหนักเบาคล่องมือ
หลังจากฟังทีมงานบรรยายเรื่องตัวรถกับเส้นทางทดสอบ เราจึงเริ่มดันเกียร์ PDK 8 สปีด รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกปรับอัตราทดตั้งแต่เกียร์ 1-6 ให้จัดจ้านรีดเร้นกำลังเป็นหลัก ส่วนตั้งแต่เกียร์ 7-8 นั้นเน้นความประหยัดน้ำมันเมื่อเดินทางไกล
เราผลักเกียร์ไปที่ D จากนั้นยกเท้าออกจากเบรกไปกดคันเร่งจมมิด ขุมพลังเบนซินเทอร์โบคู่ V6 ขนาด 2.9 ลิตร ที่สร้างแรงม้า 440 ตัว พร้อมแรงบิด 550 นิวตัน-เมตร ก็พาเราพุ่งทะยานสู่ 100 กม./ชม. แบบดึงหลังติดเบาะพร้อมเสียงคำรามจากท่อไอเสียและเสียงตัดเปลี่ยนเกียร์สุดโหด เรียกว่าแม้จะเป็นรถซาลูนหรูแต่ความสนุกสะใจก็ไม่แพ้เจ้าพวก 718 Cayman หรือ 911 Carrera แต่อย่างใด ไม่ว่าจะกดคันเร่งเท่าใดหรือต้องการพลังแรงบิดแบบไหนก็แค่กดเท้าลงไปเท่านั้น ตัวเครื่องกับเกียร์จะส่งแรงออกมาแบบเหมาะสมที่สุด เกือบลืมเรื่องระบบส่งกำลังในพานาเมร่าเสียสนิท โดยรถคันนี้ขับเคลื่อนล้อหลังแต่จะมีระบบที่คอยส่งกำลังไปยังล้อหน้าอัตโนมัติเมื่อจำเป็น
เมื่อมีเร่งก็ต้องมีชะลอ… โดยระบบเบรกนั้นถูกพัฒนามาตลอดระยะเวลา 60 ปี เจ้าพานาเมร่าร่างโตคันนี้จึงติดตั้งจานเบรกเซรามิกกับคาลิปเปอร์แบบโมโนบล็อก ซึ่งให้การจับตัวรวดเร็วและส่งแรงต้านสู่เท้าผู้ขับขี่เป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังปราศจากอาการเบรกลื่นเมื่อกดใช้งานหนัก และทำให้เราไม่รู้ว่าจะติมันอย่างไร
การตอบสนองของพวงมาลัยเมื่อขับด้วยความเร็วสูงมีความเฉียบคมหนักแน่นที่สุด กล่าวคือมันไม่ได้เบาไวจนทำให้ผู้ขับขี่ด้อยประสบการณ์ตกใจ และก็ไม่ทำให้นักขับมือฉมังรู้เหนื่อยหน่ายใจแต่อย่างใด มันส่งมอบความสนุกและมั่นใจให้แก่คนทุกผู้นามที่คอยบังคับได้อย่างล้นเหลือ ยิ่งเมื่อเจอสถานการณ์หักหลบหรือเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วสูง แค่คุณหักพวงมาลัยไปตามใจคิดแล้วรถจะไปตามทันที ไม่ว่าทางโค้งจะหักขนาดไหนขอให้คุณชะลอความเร็วให้เหมาะสมหรืออาจแรงกว่า หน้ารถก็ทิ่มจิกไปแบบไม่ยอมปล่อยเลยทีเดียว
ระบบช่วงล่างถุงลมในรถคันนี้มีความสมบูรณ์ลงตัวที่สุด โดยในโหมดขับขี่ปกตินั้นมอบความผ่อน
คลายแถมเก็บแรงสะเทือนจากถนนได้ดีมาก ยิ่งกว่านั้นการขับบนสนามทดสอบด้วยความเร็วสูงก็มั่นใจระดับหนึ่ง แต่จะพบอาการโยนตัวเมื่อเข้าโค้งหรือขับสลาลมมากกว่า อีกทั้งตัวถังก็จะยกสูงกว่าปกติเพื่อความนุ่มนวล แต่เมื่อใดก็ตามที่กดโหมดสปอร์ตตัวรถละปรับความสูงให้เตี้ยลง ซึ่งต้องแลกกับอาการกระด้างเล็กน้อยเท่านั้น แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความมั่นใจเป็นที่สุด ไม่ว่าขับด้วยอารมณ์หรือความต้องการแบบไหนตัวรถก็พร้อมไปตามที่ใจสั่ง