4,500 คือตัวเลขของยอดจอง Honda Accord เจนเนอเรชั่นที่ 10 นับถึงเดือนสิงหาคม และกว่า 50% เป็น Accord Hybrid ซึ่งน่าแปลกใจอย่างมากที่รถยังไม่ทันจะจอดโชว์ในโชว์รูมแต่กลับมียอดจองหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย นี่คือผลลัพธ์ของความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ก่อนจะเซ็นใบจองในทันทีแม้ว่าจะยังไม่ได้สัมผัสหรือจับต้องรถจริงมาก่อน
Accord Hybrid ใหม่ สวยขึ้น สปอร์ตขึ้น แต่ที่สำคัญเลยคือสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นจากรุ่นก่อน ประกอบกับทิศทางของรถยนต์ไฮบริดที่เริ่มชัดเจนขึ้นหลังจากภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างเต็มสูบ รวมถึงบริษัทแม่ที่มีแผนจะลงทุนเกี่ยวกับยานยนต์ไฮบริดในประเทศอย่างจริงจัง เมื่อมาทบทวนดูแล้ว Accord Hybrid กำลังมีอนาคตที่สดใสเลยทีเดียว นี่จึงเป็นซีดาน D-segment ที่ใครหลายคนต่างเทใจให้ ลูกค้าเชื่อมั่น รถดี แบบนี้ไปด้วยกันได้ยาวๆ
เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงกระแสความยอดเยี่ยมของ Accord Hybrid ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จึงได้จัดทริปทดสอบซีดานหรูรักษ์โลกรุ่นนี้อีกครั้งหลังจากที่พาทุกคนไปคลุกวงในของ Accord 1.5 Turbo EL ไปแล้ว โดยรอบนี้ฮอนด้าพาสื่อมวลชนลงใต้ไปที่ จ.กระบี่ เพื่อสัมผัสกับสมรรถนะและทำความรู้จักฟีเจอร์ใหม่ๆ ของรถบนเส้นทาง กระบี่ – พังงา ระยะทางกว่า 153 กม. คราวนี้เราจะได้รู้จัก Accord Hybrid ขึ้นไปอีกขั้น ขอบอกเลยว่าสนุกแน่นอน
i-MMD ระบบอัจฉริยะ มอบการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม
Accord Hybrid นำเสนอระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า แรงบิด 175 นิวตันเมตร สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะตามความเหมาะสม แต่ละโหมดมีรายละเอียดดังนี้
โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
มอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และในขณะลดความเร็วจะเปลี่ยนพลังงาน
ที่เกิดจากการลดความเร็วให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งในระบบนี้จะให้ความเงียบเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าล้วน เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง โดยในโหมดนี้สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ผู้ขับขี่สามารถกดสวิตช์ EV เพื่อเข้าสู่โหมดนี้ได้โดยตรงโดยจะมีสัญลักษณ์ EV สีเขียวปรากฏขึ้นบนแผงหน้าปัด เมื่อไฟในแบตเตอรี่หมดระบบจะตัดเข้าสู่การทำงานในโหมดใช้เครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ
โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็วและมีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับ ระบบนี้เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็วที่ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง
โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ 100% โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังจากเครื่องไปยังล้อโดยตรง ระบบนี้เหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่
ระบบ i-MMD ใหม่ เป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงสุดถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร
นอกจากนี้ Accord Hybrid ใหม่ มีโหมดการขับขี่แบบสปอร์ตที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างแท้จริง รถจะตอบสนองดีขึ้น อัตราเร่าเร้าใจยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีโหมด ECON ที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองโดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้สัมพันธ์กัน ทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การขับขี่
เริ่มต้นในตัวเมือง จ.กระบี่ ที่มีการจราจรพลุกพล่าน Accord Hybrid มอบความนุ่มนวลในทุกอิริยาบถ เครื่องยนต์นุ่ม เงียบ ไร้ซึ่งแรงสั่นสะเทือนใดๆ จังหวะสลับการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์สันดาปแทบจะไม่รู้สึกถึงอาการกระตุกใดๆ
เกียร์ E-CVT สุดยอดแห่งความนุ่มนวลตัวจริงไม่ว่าจะเร่งหรือเบรก ขณะที่ระบบพวงมาลัยก็ปรับเซ็ตมาเพื่อความนุ่มนวล น้ำหนักเบามือ หมุนง่าย เบาแรง ระยะฟรีมีน้อยส่งผลให้หักเลี้ยวแล้วหน้ารถตอบสนองค่อนข้างไว ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างเชื่องมือ
ช่วงล่างของ Accord Hybrid จัดการกับอุปสรรคบนพื้นถนนได้น่าประทับใจ รอยปะ รอยต่อ ฝาท่อ คอสะพาน ส่งแรงสะเทือนมายังห้องโดยสารน้อยมาก พร้อมกับให้ความรู้สึกหนึบแน่นได้อารมณ์สปอร์ตเล็กๆ
เมื่อออกสู่ถนนเพชรเกษม เราก็ได้โอกาสยืดเส้นยืดสายเจ้า Accord Hybrid กันพอประมาณ อัตราเร่งตอนกดคันเร่งมาแบบนุ่มๆ มันไม่ได้ดึงแบบหลังติดเบาะ แต่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว หันไปมองหน้าปัดก็ 110 กม./ชม. แล้ว ในจังหวะกดคันเร่ง เกียร์ E-CVT จะดีดรอบเครื่องขึ้นสูงด้วยความนุ่มนวลแล้วค้างลากรอบไว้ ตอนนี้รถจะใช้กำลังขับทั้งจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกัน เครื่องยนต์ส่งเสียงคำรามอย่างสุภาพ พอรถวิ่งความเร็วสูง รอบเครื่องจะค่อยๆ ไต่ระดับลงมา
จังหวะลอยตัวด้วยความเร็วเดินทาง Acoord Hybrid นิ่งสงบไม่มีการโคลงเคลง พร้อมกับความหนักแน่นและเกาะถนน ด้วยการออกแบบแบตเตอรี่ไว้ใต้พื้นห้องโดยสารทำให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ส่งผลให้การสาดเข้าโค้งเป็นไปอย่างมั่นคง รถเกาะโค้งไปแบบเนียนๆ การทรงตัวดี พอเจอโค้งต่อเนื่องซ้าย-ขวาก็สามารถควบคุมตัวรถให้เข้าตามไลน์ได้ง่าย
พวงมาลัยจากที่เบาหวิวตอนขับในเมือง พอใช้ความเร็วมากขึ้นความหนืดก็เพิ่มขึ้นตาม แต่ยังเป็นความหนืดที่ทำให้ขับแล้วรู้สึกมั่นใจ พวงมาลัยนิ่ง แม่นยำ ไม่ว่าจะโค้งไหนๆ ก็เอาอยู่ทั้งหมด
แป้นเบรกของ Accord Hybrid มีน้ำหนักเบา ให้ฟีลแบบนุ่มนวล มีระยะฟรีที่เหมาะสม ความแรงในการจับแปรผันตามน้ำหนักกดของเท้าได้ดี มีความเสถียร การขับขี่กว่า 153 กม. ให้ความมั่นใจได้ดีตลอดทาง
Accord Hybrid มีระบบ Active Noise Control ที่ปล่อยคลื่นเสียงออกมาจากลำโพงเพื่อกลบเสียงรบกวนบางอย่างออกไปการป้องกันเสียงขณะขับความเร็ว 100 กม./ชม. จึงเพอร์เฟกต์มาก เสียงลมไม่มีการเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสาร เสียงยางก็ไม่ดังจนเกินไป ยิ่งถ้าเจอทางลาดยางดีๆ ก็จะเงียบลงไปอีก
ด้านความประหยัดเราไม่ได้วัดแบบจริงจังเพราะเน้นการขับขี่เพื่อดูสมรรถนะ ใช้ความเร็วยืนพื้นที่ 110 กม./ชม. อัดหนักบ้างตามจังหวะและสภาพจราจร ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่หน้าปัดแสดงที่ 14.5 กม./ลิตร เมื่อเทียบกับตัว Turbo แล้วถือว่าประหยัดขึ้นพอสมควร
มาถึงจุดที่เรางุนงงมากๆ ในตอนที่ลองขับครั้งแรกนั่นก็คือแป้นแพดเดิลชิฟท์ที่ติดอยู่หลังพวงมาลัย วิศวกรผู้ออกแบบระบุว่านี่ไม่ใช่แพดเดิลชิฟท์สำหรับเล่นเกียร์ลากรอบในแบบที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยและเข้าใจกัน แต่มันคือระบบที่เอาไว้เพิ่มหรือรถแรงหน่วงของมอเตอร์ไฟฟ้าโดยอาศัยรูปแบบการใช้งานเสมือนแป้นแพดเดิลชิฟท์เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจการทำงานได้ง่ายๆ เมื่อกดแป้น – มอเตอร์ไฟฟ้าจะหน่วง ให้ผลคล้ายกับการที่เราเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำในรถปกติ ถ้ากด + รถก็จะไหลไปได้มากขึ้น ซึ่งระบบนี้มีผลต่อการสร้างแรงหน่วงเท่านั้นไม่มีผลใดๆ ต่อกำลังของเครื่องยนต์
ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย Honda Sensing
Honda Sensing เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Accord Hybrid และ Accord Hybrid Tech เท่านั้น เทคโนโลยีนี้ผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่และช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่ และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่นความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ประกอบด้วย
- ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) เป็นระบบที่ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถคันข้างหน้า รถสวนทาง หรือคนเดินถนนอยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีที่มีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนองหรือในกรณีที่อยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกให้อัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) เป็นระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องและเรดาร์ตรวจจับรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามรถคันหน้าอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) กล้องด้านหน้า
จะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ภายในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับจากการขับขี่ - ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW) เป็นระบบที่ใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางจนอาจเกิดอุบัติเหตุ ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็ว (ในกรณีเส้นแบ่งถนนเป็นเส้นทึบ) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) เป็นระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือมีรถยนต์ด้านหน้า
อีกหนึ่งความล้ำของ Accord Hybrid ก็คือระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) ที่จะมาช่วยให้การถอยเข้าซองเป็นเรื่องง่ายโดยมือไม่ต้องจับพวงมาลัย ผู้ขับเพียงแค่ควบคุมความเร็วของรถไม่ให้เกิน 7 กม./ชม. วิธีการใช้งานคือ
- เข้าสู่โหมดใช้งานระบบกล้องมองภาพรอบทิศทางซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือกดปุ่มใช้งานกล้องมองภาพรอบทิศทางที่ก้านที่ปัดน้ำฝนด้านซ้าย หรือกดจากเมนูของหน้าจอเครื่องเสียง
- เข้าเกียร์ D จากนั้นกดปุ่มรูปพวงมาลัยที่มีตัว P ในหน้าจอสัมผัสเพื่อเข้าสู่ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ สามารถเลือกได้ว่าจะถอยหลังเข้าซองหรือจอดแนวขนานจากเมนูของระบบ
- ระบบจะแสดงกรอบสีเขียวเพื่อกำหนดพื้นที่จอดทางด้านซ้ายและด้านขวาที่หน้าจอ โดยเส้นประเป็นเส้นที่ระบบจำลองมาเมื่อไม่มีเส้นช่องจอด และจะเปลี่ยนเป็นเส้นทึบเมื่อระบบสามารถจับเส้นช่องจอดได้
- กด “เริ่มต้น – จอดทางด้านขวา” ขณะที่เหยียบเบรก และยังคงอยู่ในเกียร์ D
- ผู้ขับทำการ เดินหน้า ถอยหลัง หรือ เหยียบเบรก ตามที่ระบบแนะนำที่หน้าจอเครื่องเสียง ในขณะเดียวกัน ระบบจะทำการควบคุมพวงมาลัยให้โดยอัตโนมัติ
- เมื่อพบสิ่งกีดขวางและมีโอกาสการชน ระบบจะเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
- หากรถเคลื่อนที่ตรงข้ามกับทิศทางที่ระบบแนะนำ การทำงานของระบบช่วยจอดอัจฉริยะจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
สรุปความน่าใช้
Accord Hybrid เป็นรถไฮบริดระดับท็อปของตลาดเมืองไทยอย่างไม่ต้องสงสัย การทดสอบในวันนี้ทำให้เรารู้จักตัวรถมากขึ้นทั้งเรื่องของการขับขี่ รวมไปถึงการทำงานของเกียร์และตัวหน่วงความเร็วที่ทุกท่านน่าจะเข้าใจระบบมันมากขึ้น เรายังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า Accord Hybrid เป็นรถที่เหมาะกับคนที่ชอบการขับขี่ ชอบรถใหญ่ ชอบความสะดวกสบาย ให้ฟีลสปอร์ตหน่อยๆ มีสมรรถนะที่ดี พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ดังนั้น ถ้าสิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์ คุณก็ไม่ควรรอช้าที่จะเซ็นใบจอง
ขอขอบคุณ ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย สำหรับทริปทดสอบในครั้งนี้
ดูรายละเอียดสเปกรถยนต์ได้ที่ http://bit.ly/2HIQAqm
Gallery