Volkswagen และบริษัทผู้เชี่ยวชาญในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเยอรมันชื่อ eClassic ร่วมกันเนรมิต e-Bulli รถตู้ Volkswagen Type 2 เวอร์ชั่นปี 1966 ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้าจากรถซิตี้คาร์ e-Up
รถตู้คลาสสิกคันนี้เป็นการบูรณะใหม่ทั้งคันอย่างสมบูรณ์แบบ แทนที่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้าจากรถ e-Up มันจึงเป็นรถตู้ Type 2 เวอร์ชั่นที่มีพละกำลังมากที่สุด
กำลังเครื่องยนต์ถูกส่งไปยังเพลาหลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 1 สปีด Volkswagen บอกว่ารถตู้คันนี้วิ่งได้ความเร็วสูงสุดที่ 130 กม./ชม. เร็วกว่าเวอร์ชั่นเครื่องเบนซินปกติ 25 กม./ชม. แบตเตอรี่ของ e-Bulli มีความจุ 45kWh ติดตั้งอยู่กลางแชสซีเพื่อความสมดุลของการกระจายน้ำหนักตัวรถ สามารถชาร์จจาก 0 – 80% ใน 40 นาที ระยะทางขับขี่ทำได้มากกว่า 200 กม.
นอกจากระบบขับเคลื่อนใหม่แล้ว eClassic ยังปรับปรุงระบบช่วงล่างใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ โช๊คอัพแบบปรับระดับได้ถูกติดตั้งทั้งล้อหน้าและหลังสำหรับปรับความแข็ง-อ่อนได้ตามต้องการ ดรัมเบรกจากรถตู้เวอร์ชั่นเก่าถูกแทนที่ด้วยจานเบรกประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมครีบระบายความร้อน
ดีไซน์ภายนอกสุดอมตะไม่ได้ถูกปรับอะไรให้ต่างไปจากเดิม มีเพียงแค่เปลี่ยนชุดไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมทำช่องชาร์จไฟซ่อนไว้ที่หลังแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลังรถ
ภายในยังคงรักษาดีไซน์แบบดั้งเดิมเอาไว้ทุกส่วนแต่ถูกปรับให้ดูโมเดิร์นด้วยโทนสีส้ม-ขาวทั้งเบาะนั่งและแผงประตู และยังเพิ่มความมินิมอลด้วยพื้นลายไม้ สิ่งที่เปลี่ยนไปจากรถเวอร์ชั่นคลาสสิกคือคันเกียร์ออโต้และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
ภายใต้ความคลาสสิก e-Bulli ก็ยังมาพร้อมระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสติดตั้งอยู่ที่เพดานด้านหน้าห้องโดยสาร มันรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้อย่างครบครัน รวมถึงแสดงผลข้อมูลการใช้พลังงาน และเล่นเพลงด้วยระบบเครื่องเสียงชั้นเยี่ยม
e-Bulli ไม่ได้เป็นรถพิเศษที่ผลิตขึ้นเพียงคันเดียว eClassic จะผลิตรถตู้ไฟฟ้ารุ่นนี้ออกมาขายจริงโดยราคาค่าตัวในเยอรมันอยู่ที่ 64,900 ยูโร (ราว 2.3 ล้านบาท) นอกจากนี้ Jack’s Garage บริษัทผลิตรถในอังกฤษก็ได้ลิขสิทธิ์ในการผลิตด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นการกลับมาเกิดใหม่ของรถตู้โฟล์กในตำนาน แม้จะไม่ใช่ Mass product แต่ถ้าหากใครต้องการความคลาสสิกไม่มีวันตายแบบนี้ก็สามารถหาซื้อมาครอบครองได้
Gallery