Shifting sands
Shifting sands
Land Rover Discovery Sport เสียตำแหน่งเอสยูวีหรูขนาดใหญ่ให้กับ Audi Q5 ในปี 2017 และในปีนี้จะสามารถทวงคืนตำแหน่งด้วยการเปลี่ยนแปลงในด้านนโยบายได้หรือไม่? แต่ดูเหมือนรูปลักษณ์ภายนอกและการทำงานที่คล้ายเดิมจะทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างลำบาก
Audi Q5 40 TDI quattro S line
ราคาปกติ 43,395 ปอนด์
(ราว 2,169,750 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 39,602 ปอนด์
(ราว1,980,100 บาท)
ราคาจำหน่ายในไทย
3,399,000 บาท
NEW Land Rover Discovery Sport D180 AWD SE
ราคาปกติ 43,175 ปอนด์
(ราว 2,158,750 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 41,273 ปอนด์
(ราว 2,063,650 บาท)
ราคาจำหน่ายในไทย
4,400,000 บาท
NEW Mercedes-Benz GLC 220d 4Matic Sport
ราคาปกติ 39,820 ปอนด์
(ราว 1,991,000 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 36,355 ปอนด์
(ราว 1,817,750 บาท)
ราคาจำหน่ายในไทย
3,239,000 บาท
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การปรากฏตัวของคู่แข่งใหม่กำลังสั่นคลอนมงกุฎของ Audi Q7 รายแรกคือ Mercedes-Benz GLC ภายใต้การปรับรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ มีเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงและมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องยนต์2.1 ลิตรแบบเก่า นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการตกแต่งภายในให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 10.3 นิ้วสำหรับระบบสาระบันเทิงที่สามารถควบคุมได้ผ่านทาง trackpads นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ที่มาเขย่าบัลลังก์ของ Q5 อีกคันก็คือ Land Rover Discovery Sport เป็นเอสยูวีที่ขับเคี่ยวมาคู่กับ Q5 ก่อนจะกลายเป็นที่ชื่นชอบของเรา ด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี Mild Hybrid เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ มีการพัฒนาการขับขี่และการตกแต่งภายในที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นพร้อมกับระบบสาระบันเทิงใหม่ ทั้งหมดนี้ราวกับจะให้สัญญากับ Q5 ว่านี้จะเป็นการแข่งขันที่หฤโหดมากที่สุด
การขับขี่
สมรรถนะ, การขับขี่, การควบคุม, รายละเอียด
AUDI Q5
. . BEST HANDLING . .
- การวิ่งของ Q5 ค่อนข้างดี ให้ความรู้สึกมั่นคงในการขับขี่และมีการควบคุมที่ดี
รถทั้งสามคันมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เครื่องยนต์ของ GLC มีพละกำลังมากที่สุดคือ 191 แรงม้า Discovery Sport มีน้อยที่สุดคือ 178 แรงม้า นี่อาจดูเหมือนไม่ห่างกันมากนักแต่จากการทดสอบของเรา GLC นั้นเร็วกว่าถึง 3 วินาที ในการเร่ง 0-100 กม./ชม. และเร่งจาก 50-110 กม. ได้เร็วที่สุด สำหรับ Q5 นั้นช้ากว่า GLC ประมาณ 1 วินาที ดังนั้นจึงนับว่าไม่ช้าเลย แต่ด้วยเครดิตของ Discovery Sport ทำให้การโลดแล่นไปบนถนนไม่เงียบเหงามากนัก แต่การคิ๊กดาวน์เร่งแซงนั้นทำได้ดีกว่าคู่แข่ง ส่วนเกียร์อัตโนมัติที่แสนธรรมดาที่จะสังเกตเห็นถึงความต่างได้ชัดเจนเป็นพิเศษเมื่อคุณเร่งความเร็วจากการหยุดนิ่ง จากที่กล่าวมาเกียร์ของ Q5 ไม่ได้เฉียบคมมากที่สุด และ GLC ตอบสนองได้ไวที่สุด ทำให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่นในขณะออกเดินทาง ส่วน Q5 จะกระตุกเล็กน้อยที่ความเร็วต่ำ
LAND ROVER DISCOVERY SPORT
. . BEST RIDE . .
- Discovery Sport เหมือนกับรถออฟโรดสมัยก่อนแต่ยังให้ความนุ่มนวลในการขับขี่
ในขณะที่เรากำลังพูดถึงการปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ใน GLC แต่ Discovery Sport นั้นเงียบกว่ารุ่นก่อนมาก Q5 สั่นสะเทือนที่ผ่านพวงมาลัยน้อยที่สุดและราบรื่นในขณะที่เร่งความเร็ว GLC ก็ไม่หนีกันมากนัก ส่วน Discovery Sport ส่งเสียงไม่น่าฟังแต่ก็ยังคงความราบรื่นได้อย่างน่าประทับใจและมีเสียงรบกวนจากถนนน้อยมาก Q5 เป็นรถที่เงียบที่สุดโดยมีเสียงรบกวนจากช่วงล่าง ยาง และลมที่แยกได้ดี ในขณะที่ GLC ส่งเสียงดังที่สุดบนมอเตอร์เวย์
ระบบ Mild Hybrid ไม่ได้ช่วย Discovery Sport แต่อย่างใด นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้อัตราเร่งของมันอยู่ในระดับพื้นๆ และยังให้ความรู้สึกอืดอาดที่สุดบนท้องถนน ส่วนการเข้าโค้งนั้นทำได้รวดเร็วและมีแรงเหวี่ยงมากที่สุด ในขณะที่ระบบควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่จะแทรกแซงทันทีเมื่อคุณพยายามที่จะเร่งความเร็ว แต่อย่างน้อยระบบควบคุมการยึดเกาะก็ทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะไม่งอแง ส่วนพวงมาลัยนั้นแม่นยำแต่มีการตอบสนองที่รุนแรงและพยายามที่จะควบคุมตนเองมากไปหน่อย
MERCEDES-BENZ GLC
- เครื่องดีเซลใหม่ผสานการทำงานที่รวดเร็วและความประหยัดได้อย่างน่าประทับใจ
GLC คล่องแคล่วมากกว่าและให้ความรู้สึกว่าเข้าโค้งได้เร็วและเกาะถนนแน่นกว่า ดังนั้นคุณแทบจะไม่มีปัญหากับข้อจำกัดที่มีเลย แต่ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์จะเข้าแทรกแซงได้อย่างรวดเร็วหากคุณเร่งความเร็ว ปัญหาดังกล่าวไม่เกิดขึ้นกับ Q5 เลย มันให้ความรู้สึกเหมือนรถแฮทช์แบ็คมากกว่าเอสยูวีลำยักษ์ แม้ว่าจะมีแรงเหวี่ยงเล็กน้อยแต่เราพบว่ารถสามารถยึดเกาะถนนได้ดีมากและมีการบังคับทิศทางที่แม่นยำที่สุด หากคุณอยากสนุกกับการขับขี่ที่รวดเร็ว นี่คือรถที่ดีที่สุดในราคายุติธรรม
Q5 มีข้อเสียคือความกระด้างในการขับขี่แต่ไม่ถึงน่าอึดอัด แม้คุณจะทราบถึงความไม่สมบูรณ์แบบนั้น แต่เมื่อรถเคลื่อนผ่านหลุมบนถนนขรุขระคุณจะสัมผัสถึงกระแทกจากเบื้องล่างที่นุ่มนวล GLC ให้ความรู้สึกนุ่มกว่าแต่เราสังเกตได้ถึงแรงกระแทกบนถนนชำรุดได้ชัดเจนกว่าและยิ่งรุนแรงขึ้นบนทางขึ้นเขา
อย่างไรก็ตาม Discovery Sport ให้ความรู้สึกลอยละลิ่วระหว่างการขับโดยเฉพาะบนมอเตอร์เวย์ที่นุ่มสบายเป็นพิเศษ จุดด้อยเพียงอย่างเดียวคือล้อขนาดใหญ่กว่า Q5 แต่ก็มีตัวเลือกเสริมเป็นล้อ 20 นิ้ว
หลังพวงมาลัย
ตำแหน่งนั่งขับ, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต
เราไม่มีข้อร้องเรียนใดๆ เกี่ยวกับการเข้าถึงและการปรับความสูงของพวงมาลัยเลย เบาะนั่งแต่ละตัวมีพื้นที่เพียงพอเหมาะกับผู้ขับขี่ที่มีความสูงที่แตกต่างกัน เมื่อพูดถึงความกล้าหาญ Q5 คงเป็นรถเพียงคันเดียวที่ไม่มีเบาะนั่งปรับไฟฟ้ามาเป็นมาตรฐาน (มีในรุ่น S line) สำหรับ GLC คุณต้องผลักที่นั่งจากตำแหน่งที่ต่ำสุดไปถึงพื้น และผลักไปข้างหน้าและข้างหลังด้วยตัวเอง แต่ความสูงและพนักพิงปรับด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับการรองรับก็ไม่ได้เป็นรองจาก Q5 มากนัก
AUDI Q5
Discovery Sport มีการใช้ระบบปรับไฟฟ้าเต็มรูปแบบสำหรับเบาะคู่หน้าและมีตำแหน่งการขับขี่ที่เหมือนเอสยูวีทั่วไปที่ให้ทั้งสูงและนั่งสบาย เพื่อช่วยทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้นแต่ละคันจะมีเซ็นเซอร์กะระยะทั้งด้านหน้าและด้านหลังมาให้
LAND ROVER DISCOVERY SPORT
จอหน้าปัดดิจิตอลที่กำหนดค่าได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Discovery Sport รุ่น SE มันช่วยให้คุณเห็นข้อมูลมากมายปรากฏอยู่หลังพวงมาลัย ส่วน Q5 และ GLC มาพร้อมกับหน้าปัดแบบอนาล็อกที่มีขนาดเล็กกว่า แต่คุณสามารถเป็นเจ้าของแดชบอร์ดดิจิทัลที่ดีที่สุดของ Audi หากซื้อ Technology Pack เพิ่ม แต่ GLC ไม่มีสิ่งนี้
MERCEDES-BENZ GLC
Q5 อาจจะเป็นรถที่เก่าที่สุดจากทั้งหมดแต่ก็ยังคงยืนหนึ่งในเรื่องคุณภาพของการตกแต่งภายใน นอกเหนือจากมือจับพลาสติกบนประตูแล้ว ทุกส่วนให้สัมผัสและความรู้สึกที่หรูหราดูดีและปุ่มกดต่างๆ ก็ทำหน้าที่ได้อย่างแม่นยำ GLC ดูมีความแวววาวกว่าแต่ให้ความรู้สึกหนักแน่นกว่าซึ่งมาพร้อมกับแดชบอร์ดที่ส่งเสียงดังเมื่อคุณกดปุ่ม คุณจะพบกับพลาสติกที่ดูมีความแข็งใน Discovery Sport แต่ทั้งหมดรู้สึกแน่นหนากว่า GLC
พื้นที่และการใช้งานได้จริง
พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นในการปรับเบาะ, ห้องเก็บสัมภาระ
GLC มีพื้นที่ว่างเหนือศีรษะสำหรับผู้ขับขี่ตัวสูงมากที่สุดและสามารถปรับเบาะคนขับไปด้านหลังได้มากที่สุด Q5 ไม่ได้เป็นรองมากนัก Discovery Sport ที่มีออปชั่นเสริมหลังคากระจกซันรูฟทำให้พื้นที่ถูกลดทอนลงไปแต่ก็ยังมีความสูงถึง 6 ฟุต มากพอที่ไม่ทำให้ผมของคุณเสียทรง แต่ละคันล้วนมีพื้นที่ด้านหน้ามากมายและที่วางแก้วขนาดใหญ่ที่ปลอดภัย
AUDI Q5
Discovery Sport มีพื้นที่สำหรับวางขาด้านหลังที่กว้างขวางที่สุด GLC มีพื้นที่จุดนี้น้อยที่สุดแต่กลับมีพื้นที่เหนือศีรษะสูงที่สุด ส่วน Q5 ให้พื้นที่น้อยสุดทั้งศีรษะและช่วงขา เราอยากบอกว่าเบาะหลังของ GLC ให้ความสบายน้อยที่สุด และรถทุกคันก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับคนนั่งหลัง
LAND ROVER DISCOVERY SPORT
ทั้ง GLC และ Discovery Sport สามารถพับเก็บเบาะหลังได้ด้วยการกดปุ่มที่ห้องเก็บสัมภาระ ส่วน Q5 ต้องใช้มือปรับ เบาะของ GLC พับแยกแบบ 40/20/40 ยืดหยุ่นในการใช้งานที่สุดแต่ไม่สามารถปรับเลื่อนหรือปรับเอนได้ เบาะของ Q5 พับแยกแบบ 60/40 แต่สามารถอัพเกรดเป็นเบาะนั่งแบบเลื่อนและปรับเอนได้ Discovery Sport ชนะเลิศด้วยเบาะแบบปรับเลื่อนและปรับเอนได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมทั้งมีเบาะแถวสามเพิ่มมาแต่พื้นที่เหนือศีรษะให้ความรู้สึกค่อนข้างอึดอัด พื้นที่วางขาก็ไม่แย่แต่มันทำให้ผู้ใหญ่ไม่อยากนั่งนานๆ โดยรวมแล้วเบาะตัวนี้ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน
MERCEDES-BENZ GLC
สำหรับ GLC คุณสามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ 7 ใบใต้แผ่นบังสัมภาระและมีช่องเก็บของพื้นอย่างกว้าง ส่วน Discovery Sport ทำได้ดีกว่าโดยสามารถใส่ได้ 8 ใบ ขณะที่ Q5 ชนะไปด้วยการมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดซึ่งจุได้ 9 ใบ
การซื้อและการเป็นเจ้าของ
ราคา, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัย
แม้ว่า Q5 จะมีราคาสูงที่สุดแต่เมื่อได้ส่วนลดก็ตัดราคา Discovery Sport ได้ GLC มีราคาถูกที่สุดและเป็นคันเดียวที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมภาษีถนนสำหรับรถยนต์ที่มีราคามากกว่า 40,000 ปอนด์ (2 ล้านบาท)
.สิ่งที่คุณต้องจ่าย. ราคาทั้งหมดอยู่ในช่วงการทดสอบ
Audi Q5
ค่าใช้จ่ายต่อการใช้งานแพงที่สุดสำหรับการใช้เป็นรถบริษัท
Land Rover Discovery Sport
ราคาและค่าใช้จ่ายต่อการใช้งานแพงที่สุด แต่ค่าเสื่อมราคาน้อยที่สุด
Mercedes-Benz GLC
ราคาถูกที่สุดไม่ว่าจะซื้อเงินสด เงินผ่อน หรือซื้อเป็นรถบริษัท
สำหรับการผ่อนรายเดือน GLC ถูกที่สุด ตามด้วย Q5 ขณะที่ Discovery Sport มีค่าผ่อนต่อเดือนหนักที่สุด และแน่นอนว่าเราต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงด้วย GLC อยู่ที่เกือบ 14.1 กม./ลิตร ตามมาตรฐานการทดสอบที่เข้มงวดของเรา และเป็นคันเดียวที่มีค่าน้ำมันถูกที่สุดสำหรับผู้ซื้อรถใช้เอง Q5 ประหยัดรองลงมาที่ 13.0 กม./ลิตร ขณะที่Discovery Sport ทำผลงานได้น่าผิดหวังเพราะแม้จะมีระบบไฮบริดมาช่วยแต่ก็ทำได้เพียง 11.8 กม./ลิตร
Q5 มีค่าเสื่อมราคาที่ลดลงช้ากว่าและค่าบริการที่ถูกกว่า GLC ส่วน Discovery Sport ถือว่ามีมูลค่าดีที่สุด สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ของบริษัท GLC โดนภาษีต่ำที่สุด ตามด้วย Discovery Sport และ Q5
Q5 และ Discovery Sport แทบจะเหมือนกันคือไม่มีอุปกรณ์มาตรฐานบางตัวเหมือนที่ GLC มี และไม่สามารถซื้อเพิ่มเองได้ โดยคุณจะต้องขยับไปซื้อรุ่นสูงกว่าเท่านั้น ทุกคันจะมีระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Discovery Sport มีจอเพื่อดูจุดอับสายตาในการจอดและมีระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน
แม้ว่า Euro NCAP ได้ทำการทดสอบรถทั้งสามคันนี้แล้วแต่นั่นก็ผ่านมาแล้วหลายปี ทั้งนี้รถทุกคันได้ยกระดับมาตรฐานของตัวเองขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทำให้การเปรียบเทียบรถยนต์ทั้งสามคันนั้นยุ่งยาก โดยแต่ละคนก็ได้ไป 5 ดาวเต็ม
.. WHATCAR? SAY ..
ถึงเวลาต้องมาวิเคราะห์ข้อมูลที่กล่าวมาและเรียบเรียงคำตัดสินแล้ว แม้ว่า GLC และ Discovery Sport จะมีพัฒนาการที่ดีมากแต่ความพยายามเหล่านี้ยังคงไม่เพียงพอ
Q5 ยังคงเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดในราคาประมาณ 40,000 ปอนด์ (2 ล้านบาท) ด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหรา เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม และการควบคุมชั้นยอด ทำให้คุณสามารถสนุกสนานไปบนท้องถนน นอกจากนี้หากคุณเพิ่ม Convenience Pack เพื่อเบาะนั่งแบบที่ปรับเลื่อนและปรับเอนได้จะยิ่งใช้งานได้เต็มที่มากกว่า GLC
เราประทับใจ GLC ในด้านสมรรถนะที่แข็งแกร่งและความประหยัดของเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ แม้การตกแต่งภายในจะมีความบอบบางและคุณไม่สามารถเพิ่มออปชั่นให้กับรุ่น Sport ได้ รวมถึงเบาะหน้าที่ค่อนข้างแย่ หากคุณอยากลอง AMG Line น่าจะเข้าท่ากว่า แต่นั่นหมายความว่าดีพอสำหรับการได้ที่สาม เมื่อ Discovery Sport มีชุดอุปกรณ์มาตรฐานที่ดีกว่า มีเบาะแถวสามและให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากกว่าในการขับขี่
ข้อดี : ขับดี, ว่องไว การควบคุมดี, คุณภาพการตกแต่งภายในที่ยอดเยี่ยม, ห้องเก็บสัมภาระใหญ่ที่สุด
ข้อเสีย : ช่วงล่างแข็งไปนิด, คู่แข่งมีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังมากกว่า
อุปกรณ์เสริมแนะนำ : สีเมทัลลิก, Convenience Pack
ข้อดี : เป็นเพียงคันเดียวเท่านั้นที่มี 7 ที่นั่ง ตำแหน่งการขับสูง มีพื้นที่กว้างสำหรับผู้โดยสาร การขับขี่ที่นุ่มนวล
ข้อเสีย : อืดอาดที่สุด, ความน่าเชื่อถือต่ำ, คู่แข่งคันอื่นมีการควบคุมที่ดีกว่า
อุปกรณ์เสริมแนะนำ : สีเมทัลลิก
ข้อดี : อัตราเร่งดีที่สุด, เครื่องยนต์ประหยัด, ราคาถูกกว่าทุกคัน
ข้อเสีย : คุณภาพการขับขี่แบบผสมผสาน เบาะนั่งไม่สบาย มีออปชั่นที่จำกัด, ไม่รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
อุปกรณ์เสริมแนะนำ : สีเมทัลลิก