ตอนนี้คุณอาจจะคิดว่าเราทุกคนต่างมีความสนใจในยานพาหนะไฟฟ้า แต่รถยนต์ไฟฟ้าล้วนนั้นเพิ่งจะประสบความสำเร็จในเรื่องของระยะทางขับขี่ สำหรับรถอเนกประสงค์นั้น คุณยังจำเป็นต้องจับคู่ระบบไฟฟ้ากับเครื่องยนต์สันดาปดั้งเดิมเป็นระบบไฮบริดไปก่อน ด้วยลักษณะของระบบไฮบริดที่แทบจะเข้ากับเอสยูวีทุกอย่าง นี่จึงอาจเป็นการทดสอบที่น่าตื่นเต้นที่สุดของเรา
ผู้ท้าชิงคันแรกคือ Volvo XC90 T8 นี่คือรถปลั๊กอินไฮบริด PHEV ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่พอสำหรับระยะทางสั้นๆ เมื่อใช้พลังจากไฟฟ้าอย่างเดียว ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองหรือการเดินทางระยะสั้นไปที่ทำงาน เมื่อแบตเตอรี่หมดลง รถจะสลับเป็นกลับมาใช้เครื่องยนต์ปกติได้อย่างราบรื่น ซึ่งในกรณีนี้เครื่องยนต์เป็นแบบเบนซินเทอร์โบชาร์จและซูเปอร์ชาร์จขนาด 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์ของ XC90 มีขนาดเท่ากับเครื่องเบนซินของ Range Rover Sport P400e ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบเทอร์โบชาร์จแต่นี่คือ Sport รุ่นปรับโฉมใหม่ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงมอเตอร์ไฟฟ้าให้ทรงพลังมากขึ้นและซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อให้เข้ากันได้ดียิ่งขึ้น และมันยังมีระบบสาระบันเทิงจาก Velar ที่ไหลลื่นกว่าเดิม
คันที่ 3 คือ Porsche Cayenne E-Hybrid รุ่นล่าสุด มันใหญ่กว่า Cayenne ที่เอาไว้ใช้งานนอกสถานที่และยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่มากกว่าเดิม นอกจากนี้มันยังมีเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดในทั้ง 3 คันด้วยเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เทอร์โบ
การขับขี่
สมรรถนะ, การขับขี่, เสถียรภาพ, รายละเอียด
การทดสอบสมรรถนะแรกของระบบไฮบริดนั้นคือระยะทางขับขี่ มันจะเดินทางโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่ชาร์จจนเต็มได้ไกลแค่ไหน? ในการทดสอบของเราบนถนนหลายๆ แบบ Sport ขับได้ระยะทางไกลที่สุด 29.6 กม. แต่มีข้อแม้ว่าตัวเลขนี้อาจสูงกว่าความจริงเล็กน้อย เพราะเราไม่สามารถป้องกันเครื่องยนต์เบนซินไม่ให้เข้ามาช่วยทำงานบนทางลาดชันได้ อีก 2 คันมีกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงพอที่จะไต่ขึ้นทางลาดชันด้วยตัวเอง Cayenne ขับได้ 28 กม. และ XC90 ขับได้ 28.3 กม.
เมื่อใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว สมรรถนะของทั้ง 3 คันนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งและพวกมันยังสามารถวิ่งได้เร็วกว่า 110 กม./ชม. แต่เพื่อความเร็วที่ดีที่สุด คุณต้องข้ามขีดจำกัดและใช้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์เบนซินควบคู่กันไป เราพูดไปแล้วว่า Cayenne มีเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นคุณอาจรู้แล้วว่าเราจะพูดเรื่องอะไร มันเป็นรถที่วิ่งได้เร็วที่สุด XC90 ไม่สามารถเทียบในเรื่องนั้นได้แต่มันยังคงแซง Sport ได้ไม่ว่าคุณจะออกตัวจากแยกไฟแดงหรือเหยียบคันเร่งคิ๊กดาวน์เพื่อเร่งแซงขณะรถเคลื่อนที่ แต่ Sport ก็วิ่งได้เร็วพอตัวแล้วเมื่อคุณใช้สมรรถนะทั้งหมดที่มันมี
คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการสลับการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์เบนซินของทั้ง 3 คันนั้นเกิดขึ้นตอนไหนเพราะคุณแทบจะไม่รู้สึกเลยว่ามันกำลังสลับระบบอยู่ กระบวนการนี้ดูเหมือนจะรู้สึกชัดที่สุดใน Sport แต่นั่นอาจเกิดจากการเปลี่ยนเกียร์ของมัน แม้ว่าเครื่องยนต์ของมันมีเสียงดังขณะเร่งมากกว่า XC90 แต่มันก็ยังไม่แย่นัก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเครื่องยนต์ V6 ที่นุ่มนวลของ Cayenne นั้นมีเสียงที่ดึงดูดใจที่สุด
เบรกของรถไฮบริดหลายรุ่นอาจไม่เข้ากันและมีแรงยึดเกาะเนื่องจากระบบคืนพลังงาน แต่เบรกของ XC90 ค่อนข้างราบรื่นและของ Sport ก็ยังห่างไกลจากคำว่าไม่ดีเช่นกัน น่าเสียดายที่เบรกของ Cayenne เปรียบเสมือนสวิตช์ เมื่อกดไปเบาๆ มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นค่อนข้างเป็นปัญหาเล็กน้อย และคุณยังเกือบหายใจไม่ออกจากเข็มขัดนิรภัยที่รัดแน่นมาก มันน่ารำคาญอย่างมากและไม่สะดวกในการขับรถแม้จะชำนาญแล้วก็ตาม
ที่ความเร็วบนทางด่วน รถทั้ง 3 คันจะดึงดูดคุณด้วยความเงียบสงบ ทั้ง 3 คันมีเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาเบาๆ แต่ Sport มีเสียงยางตกร่องถนนดังกว่า Cayenne ส่วน XC90 เป็นรถที่เงียบที่สุด
ในแง่ของการขับขี่ XC90 เป็นรถที่นุ่มนวลที่สุด มันจึงสะดวกสบายที่สุดบนถนนที่เป็นลอนคลื่น แต่ที่ความเร็วสูงมันจะโคลงมากที่สุด ถ้าคุณเหยียบก้อนหิน คุณจะรู้สึกถึงตัวรถที่สั่น ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน Sport มีอาการเด้งไป-มาเบาๆ การที่ตัวรถเตี้ยกว่ายังส่งแรงกระแทกที่รุนแรงผ่านที่นั่งมากกว่าอีกด้วย แต่พวกมันยังนั่งได้สบาย
ในด้านความสมดุล Cayenne จะเป็นรถที่ขับได้ดีที่สุด สำหรับผู้เริ่มต้นมันจะดูยืดหยุ่นน้อยกว่าจึงไม่มีอาการกระเด้งใดๆ เหมือนกับเอสยูวียกสูงทั่วไป ตัวรถยังคงโยกไปมาอยู่เล็กน้อยแต่ยังน้อยกว่า XC90 ในขณะมันที่มีความเสถียรใกล้เคียงกับ Sport มันก็ยังยืดหยุ่นมากกว่าเมื่อเจอเนินขนาดใหญ่
Cayenne ยังมีการควบคุมที่ดีกว่าคู่แข่งอีกด้วย เมื่อพิจารณาว่ารถเหล่านี้มีน้ำหนักมากกว่ารถปกติเนื่องจากแบตเตอรี่และมอเตอร์ ความชำนาญในการเข้าโค้งของ Cayenne จึงน่าประทับใจ คุณสามารถเร่งเครื่องและพอใจจากการยึดเกาะและการทรงตัวที่นิ่งและความรู้สึกของการเชื่อมต่อกับพื้นถนนที่คุณได้รับผ่านพวงมาลัยแม่นยำและมั่นคง กล่าวได้ว่าการบังคับเลี้ยวนั้นมั่นคงเหมือนขับที่ระดับความเร็วในเมือง
Sport มีการบังคับเลี้ยวดีที่สุดโดยรวม มันแม่นยำและน่าพอใจระดับหนึ่งที่ความเร็วสูง และยังเบาพอสำหรับวิ่งในเมือง อย่างไรก็ตาม Sport เป็นรถที่หนักที่สุดในที่นี้และด้วยเหตุนี้ยางของมันจึงต้องดิ้นรนให้ยึดติดอยู่กับท้องถนนให้ได้ มันจะสิ้นสุดการยึดเกาะทันทีที่ออกจากโค้งและทิ้งให้คุณรู้สึกว่าสิ่งดีๆ อย่างเดียวของรถคือตราโลโก้
XC90 ไม่ได้แกล้งทำตัวหรูหรา ตัวถังค่อนข้างโยนมากเวลาผ่านโค้งและพวงมาลัยก็ดูยืดย้วยราวกับยางยืด ดังนั้นข้อจำกัดของมันก็คือความรู้สึกที่ให้ผู้ขับไม่ค่อยมั่นใจระหว่างผ่านโค้ง พวงมาลัยเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดเมื่อขับในเมืองและ XC90 ยังมีการยึดเกาะดีกว่า Sport มันจึงสามารถวิ่งผ่านโค้งได้เร็วกว่า
หลังพวงมาลัย
ตำแหน่งการขับขี่, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต
รถทั้ง 3 คันให้สภาพแวดล้อมที่ดีแก่ผู้ขับ อย่างน้อยก็ในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างที่นั่ง, แป้นเหยียบ และพวงมาลัย นั่นหมายความว่าคุณจะรู้สึกสบายในการเดินทางไกล เบาะนั่งของ XC90 ดีที่สุดด้วยรูปทรงที่ดูเหมือนจะลงตัวพอดีและฐานเบาะนั่งที่ยืดได้สำหรับคนขายาว มันมีการรองรับด้านข้างน้อยที่สุดเมื่อขับผ่านโค้ง ทั้ง 3 คันมาพร้อมกับเบาะปรับไฟฟ้า รวมถึงตัวดันหลังปรับไฟฟ้าใน Sport และ XC90 ส่วนของ Cayenne คุณต้องอัพเกรดเป็นเบาะแบบ 14 ทิศทางพร้อมฟังก์ชั่นจดจำตำแหน่งถึงจะได้ตัวดันหลัง
ทัศนวิสัยที่ดีที่สุดให้มองไปที่ Sport แม้มันจะปิดกั้นคุณด้วยคอนโซลกลางขนาดใหญ่และแดชบอร์ดที่สูง แต่เบาะนั่งของมันก็ยังยกจัวคุณให้อยู่เหนือแทบทุกสิ่ง มันให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายและหรูหรามาก ขณะที่ Cayenne ที่มีตำแหน่งนั่งขับต่ำกว่าอาจทำให้ผิดหวังได้หากคุณมีแนวโน้มที่จะเจอกับการจราจรที่ติดขัด
เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะมองเห็นด้านหลังด้วยมุมมองเหนือหัวไหล่ที่จำกัดและไม่มีกล้องมองหลังเป็นมาตรฐาน XC90 นั้นยังมองเห็นด้านหลังได้ง่ายกว่า เว้นแต่จะมีการใช้เบาะแถว 3 ในขณะที่เสาหลังที่บางขึ้นของ Sport ทำให้มองเห็นได้ง่ายขึ้นและคุณยังได้รับกล้องมองหลังในทั้งคู่ด้วย ทั้ง 3 มีข้อดีในเรื่องของเซ็นเซอร์ช่วยจอดด้านหน้าและด้านหลังเป็นมาตรฐาน
Cayenne มีรูปแบบแดชบอร์ดที่น่าผิดหวังที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อจะใช้ก้านที่ควบคุมระบบครูสคอนโทรล มันกลับซ่อนตัวอยู่หลังพวงมาลัยและใช้งานจริงยาก แผงสวิตช์ส่วนกลางยังทำให้มองเห็นได้ยากอีกด้วยและสวิตช์ระบบสัมผัสนั้นก็ยังใช้งานได้ยาก พวงมาลัยวงเล็กๆ ที่อาจจะดูหรูแต่มันบดบังการมองไปที่หน้าปัด แถมหน้าปัดยังเป็นการผสมผสานระหว่างดิจิตอลและอนาล็อกซึ่งคู่แข่งอีก 2 คันเป็นหน้าปัดดิจิตอลแล้ว
คุณจะได้รับสวิตช์สำหรับการปรับอุณหภูมิใน Cayenne ส่วนใน XC90 นั้น ตัวควบคุมเหล่านี้อยู่บนหน้าจอสัมผัส สิ่งนี้อาจเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อคุณเดินทาง ทำให้คุณต้องเบนความสนใจจากถนน อันที่จริงแดชบอร์ดของ Sport นั้นใช้งานง่ายที่สุด จริงอยู่ที่การควบคุมสภาพอากาศบางส่วนก็อยู่บนหน้าจอสัมผัส (ใต้จอระบบสื่อสาระบันเทิง) แต่มันเป็นมุมที่คุณมองเห็นได้ชัดและยังมีปุ่มควบคุมแบบหมุนและปุ่มที่ใช้งานง่ายขณะขับรถ
การผสมผสานที่สวยงามระหว่างไม้ โครเมี่ยม และหนังบุนุ่มของ XC90 รวมถึงหัวเกียร์คริสตัล (ออปชั่นเสริม) ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่มีระดับ แต่ขณะที่ภายในของมันกำลังดูดีนั้นกลับมีช่องว่างตรงขอบอยู่สองสามแห่ง Cayenne ดูน่าเบื่อเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกัน แต่มันกลับหาข้อตำหนิได้ยากกว่าแม้จะมีพลาสติกที่ดูราคาถูกอยู่สองสามที่เช่นบนพวงมาลัย นั่นทำให้ Sport เหนือกว่าเล็กน้อยเพราะมันนำเสนอการผสมผสานที่ดีที่สุดของวัสดุที่มีคุณภาพ ความทนทาน และความหรูหรา
พื้นที่และการใช้งานได้จริง
พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นในการนั่ง, ห้องเก็บสัมภาระ
คุณจำเป็นต้องเอาหมอนและผ้าห่มมาปูนอนเพื่อที่จะมีปัญหากับพื้นที่ด้านหน้าของรถเหล่านี้ XC90 มีพื้นที่วางเท้ามากที่สุด ในขณะที่ Cayenne ซึ่งเป็นคันเดียวที่ไม่มีหลังคาซันรูฟมีพื้นที่เหนือศีรษะมากที่สุด จริงๆ แล้วทุกคันดีต่อผู้โดยสารตัวสูงมากๆ อยู่แล้ว นอกจากนี้ทุกคันยังกว้างจนคุณสามารถเหยียดตัวไปด้านข้างได้อีกด้วย คุณจึงไม่ต้องกระแทกศอกใส่ผู้ช่วยขับของคุณ ในขณะเดียวกันช่องเก็บของก็มีมากมาย แต่ละจุดจะมีช่องลับไว้เก็บทุกอย่างตั้งแต่ถ้วยยันกิ๊บหนีบผม
เมื่อดูที่เบาะแถวหลัง เป็นอีกครั้งที่ไม่มีคันไหนรู้สึกแคบเลย แต่ Sport มีพื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางเท้าน้อยที่สุด ทั้ง Cayenne และ XC90 มีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกหลายเซนติเมตรเพื่อเหยียดตัวออกไปในทุกทิศทาง รวมถึงพื้นที่สำหรับวางเท้าใต้ที่เบาะหน้าที่มากมาย Cayenne เหนือกว่าในด้านพื้นที่วางเท้า ขณะที่ XC90 มีพื้นที่เหนือศีรษะน้อยกว่าเล็กน้อยเพราะมีหลังคาแบบพาโนรามากินพื้นที่
มีเพียง Sport เท่านั้นที่มีพื้นห้องโดยสารราบ ผู้โดยสารตรงกลางจึงไม่จำเป็นต้องนั่งคร่อมอุโมงค์เพลากลาง Cayenne และ XC90 จะมีพื้นที่ช่วงไหล่มากกว่าเพื่อจุคนตัวใหญ่ 3 คน
รถทุกคันมีเบาะหลังที่ปรับเอนได้ เบาะของ Cayenne และ XC90 สามารถเลื่อนไป-มาเพื่อช่วยให้คุณมีความจุห้องเก็บสัมภาระเพิ่มขึ้นได้เมื่อต้องการ นอกจากนี้ XC90 ยังมี 7 ที่นั่ง เบาะแถว 3 แบบพับออกได้อาจดูขวางทางเข้า เนื่องจากคนที่นั่งแถวกลางอาจจะเข้ายาก แต่มันก็มีขนาดใหญ่พอสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ขนาดตัวปานกลาง
เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทั้ง 3 คันมีพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระที่น้อยกว่าเอสสยูวีระบบปกติ คุณก็รู้ว่าแบตเตอรี่ต้องซ่อนอยู่ตรงไหนซักที่ แต่ห้องเก็บสัมภาระของ XC90 นั้นยังกว้างใหญ่ มีพื้นที่เพียงพอที่จะจุกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กได้ถึง 10 ใบ ในขณะที่คู่แข่งอีก 2 คันจุได้แค่ 7 ใบเท่านั้น เบาะหลังของ Cayenne และ XC90 พับแยกแบบ 40/20/40 ของ Sport พับแยก 60/40 ทุกคันมีพื้นห้องเก็บสัมภาระเกือบจะแบนราบ
การซื้อและการเป็นเจ้าของ
ราคา อุปกรณ์ ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความมั่นคง
Porsche ไม่มีส่วนลดให้ แต่ Cayenne ก็ยังมีราคานปกติต่ำที่สุดซึ่งหมายความว่ามันถูกกว่า 2.5 แสนบาทเมื่อเทียบกับ Sport หลังจากที่มีการต่อรองราคาแล้ว ขณะที่ XC90 แม้จะมีส่วนลดมากมายแต่ราคากลับถูกกว่าเพียง 40,000 บาท
Cayenne มีค่าเสื่อมราคาช้ามากอย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็นเงื่อนไขในดีลการผ่อน PCP ในข้อตกลง 36 เดือน เงินมัดจำ 3.5 แสนบาท และจำกัดการขับ 16,000 กม./ปี คุณจะจ่ายน้อยกว่าที่ต้องจ่ายสำหรับ Sport และน้อยกว่า XC90 จำไว้ว่า XC90 ถูกที่สุดในการเช่าซื้อ
ในเส้นทางการทดสอบของเรา XC90 พิสูจน์แล้วว่ามันประหยัดที่สุดเมื่อแบตเตอรี่หมดและยังเป็นรถเพียงคันเดียวที่วิ่งได้มากกว่า 10.6 กม./ลิตร อย่างไรก็ตาม หากคุณบวกค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอด 3 ปี Cayenne มีแนวโน้มที่จะมีราคาถูกที่สุดด้วยในสัดส่วนที่มาก
Cayenne ยังไม่ได้ผ่านการทดสอบการประหยัดเชื้อเพลิง WLTP แบบใหม่จึงยังไม่มีค่าการใช้เชื้อเพลิงอย่างเป็นทางการ XC90 และ Sport ได้รับการทดสอบแล้ว การปล่อย CO2 ของ Cayenne ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นเป็นมลพิษต่อโลกมากที่สุดจากทั้ง 3 คัน มันน่าจะเป็นรถที่ถูกที่สุดในการใช้งานแบบรถบริษัท ขณะที่ Sport นั้นแพงที่สุด
รถแต่ละคันมาพร้อมกับหัวชาร์จแบบสามขา คุณจะต้องซื้อสายไฟ Type 2 เพื่อใช้คู่กับตัวชาร์จที่บ้านขนาด 7kWh และยังช่วยให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 50% ได้ใน 2 ชั่วโมงครึ่ง คุณจะพบของออปชั่นมากมายใน XC90 ส่วน Sport จะมีอุปกรณ์เพียงพอที่จะให้ความบันเทิง Cayenne ค่อนข้างมีอุปกรณ์น้อยเมื่อเทียบกัน
Sport ยังไม่ได้รับการทดสอบการชนโดย Euro NCAP ดังนั้นเราจึงไม่สามารถให้คะแนนด้านความปลอดภัยได้ Cayenne และ XC90 ได้รับคะแนนรวม 5 ดาว แต่คะแนนของ XC90 นั้นน่าประทับใจกว่า ทั้ง 3 คันมาพร้อมกับระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ มีเพียง Sport และ XC90 เท่านั้นที่มีระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลนเป็นมาตรฐาน ขณะที่ระบบเตือนจุดอับสายตาเป็นเพียงหนึ่งในออปชั่นเสริมด้านความปลอดภัยที่มีให้ในแต่ละคัน
WHATCAR? SAYS
รถไฮบริดคันหนึ่งในบรรดาทั้งหมดนี้ได้สร้างทางเลือกที่เสมือนจริงกับรถดีเซลธรรมดา หากคุณรักษาแบตเตอรี่ให้เต็มไว้และเดินทางในระยะสั้นๆ บิลค่าน้ำมันของคุณอาจว่างเปล่า แม้แต่ในการเดินทางระยะไกล พวกมันจะประหยัดกว่าที่คุณคิดและพวกมันยังเป็นรถบริษัทที่ราคาถูกอีกด้วย
XC90 สะดวกสบาย มีอุปกรณ์ครบครัน และได้รับการตกแต่งอย่างดีเป็นผู้ชนะของเรา มันเป็นรถที่สมบูรณ์แบบที่สุดและยังใช้งานได้จริงมากกว่าคู่แข่งมาก มันจึงได้หลายดาว
Cayenne อาจใช้งานจริงได้ไม่ดีเท่า XC90 แต่มันเหนือกว่า Range Rover Sport และเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับนักขับตัวจริง มันเป็นรถที่ถูกที่สุดเวลาขับ มันจึงได้รับการยกย่องให้อยู่เหนือ Range Rover Sport ซึ่งมีการตกแต่งภายในที่ดีที่สุด, แพ้คู่แข่งแค่ในเรื่องพื้นที่ รวมไปถึงความน่าเชื่อถือตามการสำรวจล่าสุดของเรา ทำให้มันได้อันดับที่สาม แต่มันก็ยังคงเป็นรถที่น่าสนใจมาก
Volvo XC90
ข้อดี ตำแหน่งการขับดีที่สุด, เป็นคันเดียวที่มี 7 ที่นั่ง, ห้องเก็บสัมภาระใหญ่มาก, เงียบที่สุด, ปลอดภัยมาก
ข้อเสีย การควบคุมแย่, ขับไม่ค่อยคล่องตัวในเมือง, ค่าเสื่อมราคามากที่สุด
อุปกรณ์เสริมแนะนำ ระบบเชื่อมต่อมือถือ
Porsche Cayenne
ข้อดี การขับเฉียบคมที่สุด, การขับสะดวกสบายที่สุด, ต้นทุนการใช้งานถูกที่สุด
ข้อเสีย อุปกรณ์น้อย, เบรกไม่ดี, ปุ่มบนแดชบอร์ดใช้งานยาก
อุปกรณ์เสริมแนะนำ ระบบกันสะเทือนถุงลม
Range Rover Sport
ข้อดี การตกแต่งภายในหรูที่สุด, มูลค่าขายคืนสูง, ตำแหน่งการขับดีที่สุด, การนำทางดีเยี่ยม
ข้อเสีย กระปุกเกียร์ช้า, การขับไม่ราบรื่น, ที่นั่งด้านหลังแคบที่สุด, ห้องเก็บสัมภาระเล็กที่สุด, สถิติความน่าเชื่อถือแย่ที่สุด
อุปกรณ์เสริมแนะนำ ระบบเชื่อมต่อมือถือ