Overview Of Car
เอสยูวีรูปทรงคูเป้รุ่นใหม่ เด่นชัดในความสปอร์ตด้วยรูปลักษณ์สุดเร้าใจและขุมพลังประสิทธิภาพสูง สมรรถนะโดดเด่น ขับสนุกบนทางเรียบ แต่ยังลุยบนทางฝุ่นได้แบบไม่เคอะเขิน ราคา 3,999,000 บาท
กระแสความนิยมในวงการยานยนต์กำลังเปลี่ยนไป จากที่อดีตรถเก๋งซีดานคือของสามัญที่แทบทุกบ้านต้องมี ปัจจุบันมันกำลังถูกคุกคามแย่งชิงพื้นที่โรงจอดรถด้วยรถอเนกประสงค์สไตล์ยกสูงที่เรียกว่า “เอสยูวี” ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนไปรถเอสยูวีจึงแบ่งแยกออกเป็นหลายขนาดหลากสไตล์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ถ้าอยากลุยแบบสุดๆ ก็มีพวกออฟโรดแท้ๆ ที่มาพร้อมภาพลักษณ์แข็งแกร่งดุดัน ถ้าเน้นขับสบายๆ ในเมืองก็มีพวกครอสโอเวอร์เอสยูวีที่มาพร้อมรูปลักษณ์ทันสมัยพร้อมความคล่องตัว แต่ถ้าชื่นชอบความเร็วความแรงก็ต้องวิ่งไปหาเอสยูวีสายพันธุ์สปอร์ต
โดยพื้นฐานแล้วเอสยูวีเป็นรถที่มาพร้อมกับพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่มากกว่ารถเก๋งซีดาน มีความอเนกประสงค์กว่า ใส่สัมภาระได้เยอะกว่า นั่งสบายกว่า เอสยูวีสมัยใหม่เน้นการออกแบบให้มีความสปอร์ตมากขึ้นโดยเฉพาะเอสยูวีตระกูล X ของ BMW เห็นได้จากเส้นสายตัวถังที่มีความโฉบเฉี่ยวและมีเหลี่ยมมุมที่ดูบึกบึน เอกลักษณ์อย่างกระจังหน้าไตคู่ Kidney grille ปรากฏอยู่ในทุกโมเดล เมื่อไล่ดูรหัส X1, X3, X5, X7 มันเป็นเอสยูวีรูปทรงดั้งเดิมที่มีขนาดตัวถังใหญ่ขึ้นตามตัวเลข แต่เมื่อความต้องการของคนเราไม่มีสิ้นสุด สิ่งใหม่ที่สร้างสรรค์ยิ่งกว่าย่อมต้องเกิดขึ้น
BMW มองเห็นว่าการจะเป็นเอสยูวีสายพันธุ์สปอร์ตอย่างแท้จริง รูปทรงตัวถังท้ายตัดแบบเดิมๆ คงยังไม่ใช่ ดังนั้นจึงเกิดการฟิวชั่นจับเอาเอสยูวียกสูงกับสปอร์ตคูเป้ท้ายลาดมายำรวมกันเกิดเป็น X4 และ X6 โดยใช้พื้นฐานการพัฒนาจาก X3 และ X5 ตามลำดับ ส่วน X2 ก็เป็นการจับเอา X1 มาเติมแต่งความสปอร์ตเข้าไปเพียงแต่รูปทรงของมันยังไม่เป็นคูเป้ที่เด่นชัดเท่ารุ่นพี่อีก 2 รุ่น
วันนี้เราอยู่กับ X4 xDrive20d M Sport นี่คือเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของ X4 มาในรหัสตัวถัง G02 ราคาค่าตัว 3.999 ล้านบาท วางขายเคียงคู่กับเวอร์ชั่นสมรรถนะสูงอย่าง X4 M ราคา 7.999 ล้านบาท แน่นอนว่าเมื่อเป็น M Sport การตกแต่งภายนอกย่อมต้องแสดงออกถึงความสปอร์ตขั้นสุด เท่ ดุดัน น่าเกรงขาม แถมขุมพลังใต้ฝากระโปรงก็ไม่ธรรมดา จุดประสงค์หลักของรถประเภทคูเป้เอสยูวีคือการขับขี่ที่สนุกสนาน ปราดเปรียวว่องไว เราจึงคาดหวังว่าเจ้า X4 ใหม่น่าจะตอบสนองได้อย่างสนุกสนาน อย่ารอช้า สตาร์ทเครื่อง คาดเข็มขัด เข้าเกียร์ D แล้วเหยียบคันเร่งไปกันเลย
สเปครถยนต์
Body Style: | Coupe SUV |
---|---|
Description: | Mid-size Coupe SUV 4 ประตู 5 ที่นั่ง |
Engine: | ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ |
Fuel Consumption: | 17.9 กม./ลิตร (ค่าโรงงาน) |
Fuel Type: | ดีเซล |
Make: | ฺBMW |
Max Power: | 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที |
Max Torque: | 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที |
Model: | BMW X4 xDrive20d M Sport |
Price Guide: | 3,999,000 บาท |
Release Date: | สิงหาคม 2018 |
0-100 km/h: | 8.0 วินาที |
Transmission: | เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด |
เร้าใจทุกการขับขี่
เราเคยลองขับ X4 ในสนามมาแล้วที่แก่งกระจานเซอร์กิต ในครานั้น X4 ทำได้เยี่ยมทั้งบนแทร็กและออฟโรด ตอบสนองว่องไว คล่องแคล่ว ช่วงล่างให้ความมั่นใจในการสาดโค้ง ทั้งยังนุ่มสบายเมื่อลงทางดิน ประกอบกับแฮนด์ลิ่งของรถที่ดีงามอยู่แล้วทำให้การขับครั้งนั้นเต็มไปด้วยความสนุก แต่นั่นก็เป็นเพียงความสามารถในสนามที่ถูกเซ็ตขึ้นมา แล้วการขับขี่บนถนนจริงล่ะ?
เริ่มที่สมรรถนะก่อนละกัน ขุมพลังที่ประจำการอยู่ใต้ฝากระโปรงของ X4 xDrive20d M Sport คือเครื่องดีเซลรหัส B47D20 แบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแบบ Multi-Stage ที่ช่วยลดอาการรอรอบและตอบสนองในรอบต่ำได้ดี ความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร ผลิตกำลังได้ 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที ดูจากสเปกมันเป็นขุมพลังที่สมน้ำสมเนื้อกับขนาดตัวรถ มีกำลังเพียงพอที่จะมอบความบันเทิงในการขับใช้งานแบบ Street use ทั่วไป เครื่องยนต์บล็อกนี้ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดจากสำนัก ZF พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive อัจฉริยะที่สามารถแปรผันแรงบิดไปยังล้อหน้า-หลังได้ตามสถานการณ์ของการขับเคลื่อนและรูปแบบของผิวถนน
การขับขี่ของเราเริ่มจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร X4 ทะยานฝ่าการจราจรที่แน่นหนาอย่างองอาจ เครื่องดีเซลไม่ส่งเสียงดัง ไม่สั่นสะท้าน แม้จะเร่งรอบสูงก็ยังคงนุ่มนวลประดุจคุณชายจากเมืองผู้ดี การทำงานของเกียร์มีความนุ่มนวลไหลลื่นทั้งจังหวะเพิ่มเกียร์และลดเกียร์ การขับปกติโหมด Comfort อัตราทดเกียร์จะค่อนข้างชิดกันเพื่อมอบความนุ่มลื่นและประหยัดขั้นสุด ลักษณะนิสัยของรถจะขึ้นอยู่กับนิสัยการกดคันเร่ง กดเบาจะนุ่มนวล พอกระทืบก็จะรับรู้ได้ถึงแรงบิด 400 นิวตันเมตรถูกถ่ายลงสู่ล้อทั้งสี่พร้อมกับดึงให้หลังติดเบาะได้ง่ายๆ
ขับความเร็วต่ำไม่มีอะไรให้ต้องกังขา เมื่อได้ระยะกดคันเร่งเราลองกระทืบจนสุด เกียร์คิ๊กดาวน์ลงอย่างไว รอบเครื่องดีดขึ้นสูง พร้อมแรงดึงที่สร้างรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้า X4 พุ่งทะยานจาก 50 สู่ 110 กม./ชม. ในเวลาอันสั้น นี่แค่ในโหมด Comfort เท่านั้น ยิ่งเป็น Sport แล้วล่ะก็จะยิ่งเร้าอารมณ์มากกว่านี้เพราะเกียร์จะอนุญาตให้ลากรอบได้มากขึ้น คันเร่งตอบสนองไวขึ้น ปลดปล่อยความโหดออกมาได้ชัดเจนกว่าปกติพร้อมด้วยเสียงจากปลายท่อ M ที่หวานหูซะเหลือเกิน
ชุดกันสะเทือนของ X4 ถูปรับให้แข็งกว่า X3 เล็กน้อยก็เพราะว่าจุดประสงค์การขับขี่มันต่างกัน รายนั้นเขาเป็นรถสำหรับครอบครัวที่ความนุ่มสบายเป็นปัจจัยสำคัญ แต่นี่คือสปอร์ตเอสยูวีดังนั้นความหนึบแน่นมั่นคงที่ย่านความเร็วสูงจึงต้องมาก่อน ที่ความเร็วต่ำช่วงล่างของ X4 จะออกแนวแน่นๆ ไม่เด้ง ไม่ยวบ ซับแรงได้ดี รูดผ่านเส้นจราจรโดยไม่สะเทือนมากนัก ตกหลุมฝาท่อจะรู้สึกตึงตังเสียงดังหน่อยแต่ยังเอาอยู่
การปรับเซ็ตช่วงล่างแบบสปอร์ตส่งผลต่อการควบคุมตัวรถบนความเร็วสูง X4 นิ่งมาก ไม่มีอาการส่ายหรือโคลงเคลงให้เห็น ขับเร็วรู้เลยว่าหนึบจริง ทางตรงว่าดีแล้ว การเข้าโค้งก็ทำได้น่าประทับใจเช่นกัน รถนิ่งมาก ไม่ออกอาการโยนตัวมากนัก ล้อยางขนาด 19 นิ้วให้ความสปอร์ตแบบเต็มอารมณ์แต่พอมาขับจริงก็ไม่ได้ส่งผลต่อแฮนด์ลิ่งของรถ
ความมั่นใจในการขับขี่ที่ดีส่วนหนึ่งเป็นผลจากระบบบังคับเลี้ยวชั้นเลิศของ BMW มันสามารถแปรผันน้ำหนักพวงมาลัยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความเร็วต่ำเบาสบาย คุณผู้หญิงกดไลก์รัวๆ ยิ่งซิ่งก็ยิ่งหนักขึ้นตามความเร็ว แต่ที่น่าประทับใจคืออัตราทดพวงมาลัยที่ปรับจูนมาได้ดีมาก มันมีระยะฟรีที่เหมาะสม ไม่ว่าจะขับช้าหรือเร็วก็ควบคุมได้ง่าย แถมยังแม่นยำมากๆ เมื่อเปลี่ยนเป็นโหมด Sport จะเห็นได้ชัดว่าพวงมาลัยจะมีความกระชับมากขึ้นอีกนิด
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ช่วยทำให้เกิดความเสถียรเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะตอนเข้าโค้งหรือวิ่งฝ่าพื้นผิวถนนที่เปียกลื่น การขับขี่ปกติระบบจะสั่งให้ขับเคลื่อนเฉพาะที่ล้อคู่หลัง เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่ารถกำลังไต่ขึ้นทางชันหรือกำลังวิ่งอยู่บนผิวถนนที่มีความเปียกลื่น ระบบสั่งให้ถ่ายกำลังมาช่วยขับเคลื่อนที่ล้อคู่หน้าแปรผันอัตราส่วนการขับเคลื่อนตามแต่ละสถานการณ์ของการขับขี่ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า X4 นั้นมีความสมดุลในทุกสภาพพื้นผิว
ระบบเบรกของ X4 มีคุณภาพในการหยุดยั้งพลังของรถ ไม่ว่าจะหวดมาด้วยความเร็วเท่าไรเบรกก็ตอบสนองได้อย่างมั่นใจ ระยะฟรีแป้นเบรกไม่เยอะมาก นี่คือสิ่งเราชอบเพราะมันไม่ต้องทำความคุ้นชินอะไรเยอะ ถ่ายทอดน้ำหนักการเบรกได้เป็นธรรมชาติ แรงต้านของแป้นเบรกก็ไม่มากไม่น้อยเกินไป ลองเบรกสุดๆ ให้ ABS ทำงานก็ไม่พบว่ารถจะเสียการควบคุมแต่อย่างใด เสียงรบกวนในขณะขับขี่ต้องยอมรับว่าดังกว่า X3 ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. เราได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาตอบขอบกระจกเบาๆ เสียงยางที่ย่านความเร็วเดียวกันนี้ก็ไม่รู้สึกหนวกหูเกินไป
นอกจากลักษณะนิสัยแบบสปอร์ตแล้ว X4 ยังไม่ลืมความปลอดภัยในขณะขับขี่ด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือมากมายที่จำเป็นต้องใช้ อาทิเช่น ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา พวกนี้จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยที่ความเร็วต่ำ X4 ก็ยังมีระบบเบรกอัตโนมัติพร้อมตรวจจับรถและคนเดินถนนมาเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง และระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยจอด ทั้งนี้ X4 ยังมีเพียงแค่ครูสคอนโทรลปกติที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระการขับได้ในบางช่วง
หล่อทะลุเฟรม
ชุดแต่งภายนอก M Sport คือแพ็คเกจเดียวที่มีให้เลือก ดังนั้น X4 จึงหล่อเหลามาตั้งแต่เกิด กันชนหน้ามาพร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ กระจังหน้าไตคู่มีระบบเปิด-ปิดซี่กระจังอัตโนมัติ ไฟหน้า Adaptive LED มีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มาพร้อมไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ แบบวงแหวนหกเหลี่ยม เราดีใจที่ BMW ยังไม่ลืมติดไฟตัดหมอกมาให้
รูปทรงของรถเป็นแบบคูเป้ท้ายลาด มีขนาดความยาวรวม 4,752 มม. กว้าง 1,918 มม. สูง 1,621 มม. ความยาวฐานล้อ 2,864 มม. เส้นสายตัวรถมีการออกแบบอย่างลงตัว ที่หลังคามีสปอยเลอร์เล็กๆ ติดมาเป็นมาตรฐาน ไฟท้ายเป็น LED สอดรับลงตัวกับดีไซน์ท้ายรถที่โดดเด่นด้วยชุดกันชนแบบสปอร์ตและท่อไอเสียโครเมี่ยม ซุ้มล้อออกแบบมาพอดีกับชุดล้ออัลลอย M Double-Spoke แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว หุ้มด้วยยางรันแฟลต Bridgestone Alenza 001 ยางหน้าขนาด 245/50 R19 ยางหลัง 245/50 R19
ภายในสวยหรู
ห้องโดยสารของ X4 จะมีแพทเทิร์นคล้ายกับ X3 โดดเด่นที่ความเรียบหรูที่ผสมความสปอร์ตได้อย่างลงตัวด้วยชิ้นส่วนสีเงินอะลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ แน่นอนว่าระดับคุณภาพการผลิตและวัสดุที่ใช้ต้องขั้นเทพและเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้ว แดชบอร์ดเป็นวัสดุซฟอต์ทัชตัดด้วยการเดินเข็บด้ายสีแดง แผงควบคุมกลางแดชบอร์ดออกแบบให้เยื้องเข้าหาผู้ขับเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการใช้งานขณะขับขี่ การจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและง่ายต่อการใช้งาน
เบาะนั่งของ X4 มีตำแหน่งที่สูงอารมณ์เดียวกับนั่งขับระกระบะ มีความนุ่มสบายและโอบกระชับกับลำตัว เป็นเบาะทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Vernesca เดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง ปรับไฟฟ้าได้หลายทิศทางและมีฟังก์ชั่นจดจำตำแหน่งที่ฝั่งคนขับ พวงมายังทรง M Sport นุ่มน่าสัมผัส จับแล้วเต็มไม้เต็มมือดีนักแล ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง-เข้า-ออก มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและครูสคอนโทรลมาพร้อมสรรพ และที่ขาดไม่ได้ก็คือแป้นแพดเดิลชิฟท์ที่ด้านหลัง
ชุดหน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบดิจิตอลความคมชัดสูงขนาด 12.3 นิ้ว เป็นจอด้านทำให้ลดแสงสะท้อนลงไปได้เยอะ กราฟิกสวย คมชัด อ่านง่าย จัดวางในรูปแบบที่ให้อารมณ์เหมือนหน้าปัดแบบเข็มอนาล็อก หน้าตาของมันจะเปลี่ยนไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้ด้วย
ระบบสาระบันเทิง iDrive แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว วางตำแหน่งได้ดีในระดับสายตา ควบคุมง่ายจากแป้นหมุนที่คอนโซลกลางพร้อมปุ่มทางลัดเข้าเมนูสำคัญ มันใช้งานง่าย และยังคงเป็นระบบปฏิบัติการในรถยนต์ที่เราชื่นชอบที่สุด ระบบมีความลื่นไหล ตอบสนองเร็ว มีข้อมูลและลูกเล่นต่างๆ เยอะ รองรับทุกการเชื่อมต่ออย่างครบครัน มีระบบนำทางที่เชื่อใจได้ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและการเคลื่อนไหวของมือ และรองรับระบบเชื่อมต่อ BMW ConnectedDrive เติมเต็มความสุนทรียิ่งขึ้นด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon 600 วัตต์กับคุณภาพเสียงที่ไม่ต้องไปอัพเกรดอะไรเพิ่มแล้ว และยังมีแท่นชาร์จไร้สาย กับหลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ด้านพื้นที่ภายในห้องโดยสารนั้น เบาะตอนหน้ามีพื้นที่กว้างขวางไม่ต่างจาก X3 คนตัวสูงเข้า-ออก ลุก-นั่งสบาย ทัศนวิสัยหน้ารถและด้านข้างรถดีเยี่ยม ส่วนการมองผ่านกระจกมองหลังอย่าไปหวังว่ามันจะกว้างกับรถรูปทรงแบบนี้ ที่ต้องชื่นชมคือการอกแบบพื้นที่เบาะหลังเพราะแนวหลังคาที่ลาดลงยังไงก็ต้องรบกวนพื้นที่ช่วงศีรษะของผู้โดยสารอยู่แล้ว แต่ X4 ก็ไม่ได้ทำให้คนตัวสูง 180 ซม. รู้สึกอึดอัดไม่อยากนั่ง ยกเว้นตอนก้าวขึ้นรดที่ต้องระวังหัวโขกนิดนึง เบาะหลังออกแบบมาให้นั่งสบายเมื่อเดินทางไกล เต็มที่นั่งได้ 3 คน แต่ขอสบายๆ 2 ดีกว่า เบาะกลางดึงลงมาเป็นที่วางแขนพร้อมช่องวางแก้วน้ำได้ พนักพิงปรับเอนได้แต่ไม่สามารถเลื่อนตัวเบาะหน้า-หลังได้ นวมเบาะมีความนุ่มและโอบกระชับลำตัวดี
ห้องเก็บสัมภาระคือสิ่งที่ต้องทำใจเมื่อคุณเลือกซื้อรถยนต์รูปทรงนี้ มันจุได้น้อยกว่า X3 แต่ข้อดีก็มีคือเบาะหลังพับแยกแบบ 40/20/40 พื้นที่เก็บสัมภาระปกติมี 525 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลงจะเพิ่มเป็น 1,430 ลิตร พับแล้วจะราบเป็นพื้นเดียวกัน ขอบห้องไม่สูงมากทำให้ง่ายต่อการขนถ่ายสัมภาระ และจะสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยประตูท้ายไฟฟ้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
สรุปความน่าใช้
BMW X4 xDrive20d M Sport คือยานยนต์ยกสูงที่มาพร้อมนิสัยรักสนุก มันปราดเปรียว ว่องไว คล่องตัว มีการควบคุมแบบสปอร์ต หนึบแน่น กระชับ ทุกอย่างเหมาะสมกับรูปลักษณ์แบบสปอร์ตคูเป้ แม้ว่านี่จะไม่ใช่เครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดแต่มันกลับสมดุลทั้งการขับใช้งานในเมืองและวิ่งออกต่างจังหวัด ได้ทั้งการขับขี่แบบสบายๆ กับคนรู้ใจ หากอยากซิ่งก็เพียงแค่กดโหมด Sport ซึ่งให้ความมั่นใจได้ดีที่ความเร็วสูง นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่ไว้ใจ และได้ออปชั่นที่สมกับราคาค่าตัวเกือบ 4 ล้านบาท เอาเป็นว่าเอสยูวีรูปทรงแบบนี้ยังมีไม่เยอะบนท้องถนน ถ้าคุณอยากเด่น ถ้าคุณชอบความสปอร์ต จัดไปเลยอย่ารอช้า
The Review
BMW X4
ถ้าอยากโดดเด่นบนท้องถนน ถ้าชอบความสปอร์ตแบบถอนตัวไม่ขึ้น BMW X4 คือคำตอบ
PROS
- รูปทรงท้ายลาดแบบรถคูเป้ บ่งบอกความสปอร์ตอย่างชัดเจน
- เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดี
- ขับสนุก การควบคุมเฉียบคม
- ช่วงล่างแบบสปอร์ตให้ความมั่นใจได้ดี
- ระบบสาระบันเทิงยอดเยี่ยม
CONS
- การเข้าออกประตูหลังต้องระวังศีรษะ
- มุมมองผ่านกระจกมองหลังค่อนข้างจำกัด
- ห้องเก็บสัมภาระมีพื้นที่ลดลง
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality70%
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
BMW X4 DEALS
We collect information from many stores for best price available