Overview Of Car
ซีดานหรูของผู้บริหารหนุ่มหัวใจสปอร์ต เติมเต็มความภูมิฐานด้วยบุคลิกที่สุขุมนุ่มลึก ขับขี่ง่ายและนุ่มนวล แฝงด้วยสมรรถนะอันร้อนแรงจากขุมพลังดีเซล 190 แรงม้าที่พร้อมจะพาคุณโลดแล่นบนท้องถนนอย่างอิสระ ราคา 3,439,000 บาท
BMW 5 Series โฉมล่าสุดรหัส G30 คือยนตรกรรมที่ยอดเยี่ยมที่สุดรุ่นหนึ่งของค่ายใบพัดฟ้าขาว รางวัล What Car? Car of The Year 2017 คือเครื่องยืนยันว่ารถรุ่นนี้พิเศษกว่าคู่แข่งอื่นๆ เพียงใด สำหรับในประเทศไทย BMW เริ่มเปิดตัวและวางจำหน่าย 5 Series G30 เมื่อช่วงกลางปีที่แล้วโดยแบ่งขายเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 520d Sport, 520d Luxury และ 530i M Sport ก่อนที่จะเปิดตัว 5 Series Touring ตัวถังเอสเตท มาเสริมทัพ
5 Series G30 ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากสื่อรถยนต์ต่างประเทศหลายสำนัก ความน่าสนใจของยนตรกรรมรุ่นนี้สร้างความอยากรู้อยากลองให้กับเราเป็นอย่างมาก เพื่อหาคำตอบของคำถามทั้งหมดเราจึงทำการสู่ขอหนึ่งในรุ่นย่อยของ 5 Series ที่เราคิดว่าน่าจะขายดีที่สุดนั่นก็คือ 520d Sport มาทำความรู้จักอย่างใกล้ชิด
520d Sport เป็นรุ่นเริ่มต้นของไลน์อัพและเป็นเพียงรุ่นเดียวที่ประกอบในประเทศ ราคาของรุ่นนี้จึงเข้าถึงได้ง่าย ความน่าสนใจของรุ่นนี้ก็คือแม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ก็สร้างความประทับใจแรกให้กับเราในทันที ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวดูวัยรุ่นกว่าที่คิด มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจหลากหลายอย่าง ตลอดจน BMW Display Key ฟีเจอร์ล้ำๆ สำหรับสั่งการรถยนต์ไร้สายได้อย่างทันท่วงที
สเปครถยนต์
Body Style: | Sedan |
---|---|
Description: | 4 ประตู 5 ที่นั่ง |
Engine: | ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo |
Fuel Consumption: | 20.0 กม./ลิตร (ค่าโรงงาน) |
Fuel Type: | ดีเซล |
Make: | BMW |
Max Power: | 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที |
Max Torque: | 400 นิวตันเมตร ที่ 1,700-2,500 รอบต่อนาที |
Model: | BMW 520d Sport |
Price Guide: | 3,439,000 บาท รวม BSI Standard |
Release Date: | สิงหาคม 2017 |
0-100 km/h: | 7.5 วินาที |
Transmission: | อัตโมนัติ Steptronic 8 สปีด |
หนุ่มใหญ่ใจสปอร์ต
เรานิยาม 520d Sport ว่าเป็นรถผู้บริหารที่มีหัวใจสปอร์ต ที่จริงคนขับรุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องทำธุรกิจหรือเป็นผู้บริหารก็ได้ เพราะรูปลักษณ์ภาพนอกของรถที่ประจักษ์แก่สายตานั้นดูสปอร์ต ผู้ใช้ทุกเพศทุกวัยสามารถขับขี่ได้อย่างภาคภูมิใจ ไม่ได้ดูสูงอายุอย่างที่รถผู้บริหารยุคเก่าเป็น โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยลาย Double Spoke ขนาด 18 นิ้ว และโลโก้ Sport Line ที่บ่งบอกว่านี่คือรุ่น Sport
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A9993.jpg)
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A9996.jpg)
ด้านหน้ารถมาพร้อมไฟหน้า Adaptive LED อัจฉริยะปรับองศาตามพวงมาลัยพร้อมปรับไฟสูงอัตโนมัติ ไฟ DRL เดินเส้นสวยคมตามแบบฉบับ BMW ยุคใหม่ เพิ่มความดุด้วยกระจังหน้าไตคู่สีดำ และไฟตัดหมอก LED ตามสมัยนิยม
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0007-1.jpg)
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0002-1024x683.jpg)
ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED Light Guide ให้ความสวยงามและโดดเด่นมากเวลากลางคืน จบงานด้วยปลายท่อไอเสียคู่สีดำ เพิ่มความดุดันและขับภาพลักษณ์ความสปอร์ตได้เป็นอย่างดี
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0023-1.jpg)
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0019-1.jpg)
อีกหนึ่งฟังก์ชันที่เราชื่นชอบคือประตู Soft Close ก็อย่างว่ารถหรูจะปิดประตูเสียงดังให้น่าตกใจทำไม ว่าไหม?
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0025-Edit.jpg)
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายใน สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความโอ่อ่ากว้างขวาง โปรงสบายตาด้วยภายในสีดำตัดกับเบาะหุ้มหนัง Dakota สีเบจ แดชบอร์ดหน้ารวมทั้งแผงประตูข้างมีการตกแต่งด้วยวัสดุพลาสติกเงาลวดลายคล้ายหินอ่อนสีเทาเข้ม ตัดด้วยขอบสีอลูมิเนียม การตกแต่งทั้งหมดให้ความสปอร์ตผสมผสานความหรูหราได้อย่างลงตัว วัสดุที่ใช้และคุณภาพการประกอบดีมากๆ ต้องยอมรับเลยว่าฝีมือการประกอบของโรงงาน BMW ประเทศไทยไม่แพ้งานของต่างชาติจริงๆ
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0058.jpg)
แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศรวมถึงหน้าจอระบบสาระบันเทิงออกแบบให้เอียงเข้าหาผู้ขับขี่เล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการใช้งานขณะขับรถ ขณะที่ฝาปิดช่องเก็บของเหนือคันเกียร์ก็เป็นวัสดุสีเดียวกับแดชบอร์ด ให้ความหรูหราขั้นสุด
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0064.jpg)
โอ่อ่าราคาแพง
ภายในของ 520d Sport คือที่สุดแห่งความสบายอย่างแท้จริง พื้นที่บริเวณเบาะหน้าและเบาะหลังกว้างขวาง ที่ว่างช่วงศีรษะและที่ว่างช่วงขามีมากพอสำหรับคนตัวสูงทุกตำแหน่ง เบาะคู่หน้าเป็นทรงสปอร์ต ฝั่งคนขับสามารถปรับแผ่นรองต้นขาและปรับดันหลังได้ ลดปัญหาเมื่อยล้าเมื่อขับขี่นานๆ ได้พอสมควร มาพร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่งเป็นสวิตช์อยู่ข้างประตู
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0104.jpg)
เพราะว่านี่คือรถผู้บริหาร พื้นที่ตอนหลังของ 520d จึงใหญ่โตโอ่อ่ามาก สามารถนั่งได้สูงสุด 3 คน ผู้โดยสารไม่ว่าจะตัวเล็กหรือใหญ่สามารถนั่งได้อย่างสบายอารมณ์ เข้า-ออกรถได้อย่างสะดวก เบาะกลางสามารถดึงลงมาเป็นที่พักแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำได้ ที่สำคัญอุโมงค์กลางไม่ใหญ่เกะกะจนเกินไป มาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกเต็มที่ทั้งม่านบังแดดด้านข้างและกระจกหลัง รวมถึงเครื่องปรับอากาศแยกอิสระซ้าย-ขวา
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0123.jpg)
ระบบความบันเทิงของ 520d Sport มาพร้อมกับจอแสดงผลบนของแดชบอร์ดหน้าขนาด 10.25 นิ้ว เราขอปรบมือดังๆ ให้กับรายละเอียดการแสดงผล คุณภาพกราฟิก และสีสัน ของหน้าจอนี้จริงๆ เพราะมันสวยงามและสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ระบบยังลื่นไหลและตอบสนองต่อการสั่งการได้อย่างรวดเร็ว หน้าตาเมนูอาจจะดูซับซ้อนเข้าใจยากในการใช้งานแรกๆ แต่ถ้าลองเล่นไปสักพักก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0059.jpg)
คุณสามารถควบคุมระบบความบันเทิงของรถได้อย่างง่ายดายผ่านการสัมผัสหน้าจอโดยตรง แต่นั่นมันเก่าไปแล้วสำหรับ BMW เพราะว่ารถคันนี้มาพร้อมแป้นหมุน iDrive อันเลื่องชื่อที่บริเวณคอนโซลกลาง มันสะดวกมากในขณะที่กำลังขับรถอยู่ แถมยังมีปุ่มทางลัดสำหรับกดเข้าฟังก์ชันหลักๆ ได้ นอกจากนี้ยังรองรับคำสั่งเสียงเพียงกดปุ่มรูปไมค์ที่พวงมาลัย ตลอดจน Gesture Control สั่งการด้วยท่าทาง
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0071.jpg)
ข้อเสียอย่างเดียวที่เราคิดว่ารถระดับนี้ไม่น่าตัดออกไปคือกล้องมองหลัง แต่ก็แทนที่ด้วยเซ็นเซอร์เตือนระยะรอบคันที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง โดยจะแสดงการเตือนผ่านหน้าจอกลาง ใช้งานจริงได้ดีไม่แพ้กล้องมองหลังแต่ถ้าใครถนัดมองผ่านกล้องอาจจะเสียอารมณ์บ้างเล็กน้อย
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0117.jpg)
สิ่งหนึ่งที่เราประทับใจคือระบบแผนที่นำทางรุ่น Professional มันบอกรายละเอียดครบ กราฟิกดูง่าย สีสันสวยงาม และยังลื่นไหลดีมาก ทดลองใช้แล้วไม่ผิดหวัง อีกสิ่งที่ชอบคือจอหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วที่แสดงผลเป็นเข็มชี้วัดรอบและวัดความเร็วซึ่งให้อารมณ์สปอร์ตที่แท้จริงกว่าตัวเลขดิจิตอลมาก บอกข้อมูลการขับขี่โดยละเอียดทุกอย่าง แถมสีสันของพื้นหลังจะเปลี่ยนตามโหมดขับขี่ที่เลือกด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ที่เขาว่าสีสื่อถึงอารมณ์ได้คือเรื่องจริง
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0128.jpg)
ใช่ว่า 520d Sport จะหรูหราเพียงอย่างเดียว การใช้งานจริงของรถคันนี้ก็จัดว่าดีด้วยห้องเก็บสัมภาระขนาด 530 ลิตร สะดวกสบายขณะถือของมา 2 มือด้วยระบบ Comfort Access เพียงสอดเท้าไปใต้กันชนหลังฝากระโปรงก็จะเปิดให้โดยอัตโนมัติ รูปทรงของห้องเป็นแนวลึกจึงสามารถใส่ประเป๋าใหญ่ได้หลายใบ
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0036.jpg)
สมรรถนะไม่เป็นรองใคร
ขุมพลังใต้ฝากระโปรงของ 520d Sport คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทคโนโลยี Twin Power Turbo ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับแรงบิดมหาศาลตามสไตล์เครื่องดีเซลกว่า 400 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อหลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีดของ ZF
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0041-Edit.jpg)
หลังจากได้รถมาเราเริ่มทดสอบการขับขี่ในเมือง แม้ตัวรถจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่แต่ยังให้ความคล่องตัวได้ดีพอสมควร ซอกแซกเปลี่ยนเลนทำได้กระฉับกระเฉง ลืมบอกไปว่าเราขับในโหมด Comfort เพราะฉะนั้นรถจึงมอบความสบายอย่างสูงสุด พวงมาลัยให้การควบคุมเป็นไปตามใจสั่ง มีน้ำหนักเบา หมุนควงง่ายสบายมือ
เครื่องยนต์และเกียร์ทำงานอย่างสุขุมนุ่มลึก ส่งกำลังอย่างต่อเนื่องลื่นไหลไม่มีสะดุด มอบความนุ่มนวลในทุกจังหวะจนแทบไม่ต่างจากรถเบนซิน แถมเงียบและปราศจากแรงสั่นสะเทือน ระบบกันสะเทือนของ 520d Sport ไม่ต้องบรรยายให้มากความ การขับขี่ผ่านรอยปะถนน ฝาท่อ คอสะพาน ร่องรอยต่าง ให้ความนุ่มนวลขั้นสุด ป้องกันแรงสะเทือนไม่ให้เข้าสู่ห้องโดยสารได้ดีมาก อีกทั้งยังให้ความรู้สึกหนึบแน่นแบบรถหรูไฮโซ เสียงช่วงล่างเวลาตกหลุมก็ไม่ส่งเสียงดังให้รำคาญหู
การขับขี่ 520d Sport ในเมืองหลวงเราไม่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสสมรรถนะเต็มๆ ของรถเลย แต่ซีดานมาดสปอร์ตคันนี้จะทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการจราจรที่หนาแน่นไม่ว่าจะขับเองหรือมีคนขับรถให้ การขับคลานผ่านใจกลางเมืองทำให้คุณดูหล่อสุดๆ ไปเลย
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0177.jpg)
520d Sport มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ Comfort โหมดมาตรฐาน ให้ความนุ่มสบายเป็นหลัก, Sport สำหรับเรียกสมรรถนะสูงสุดของรถออกมาใช้ และ Eco Pro เน้นขับขี่แบบประหยัด หลังจากที่อดทนกับการจราจรของกรุงเทพฯ มานาน ถึงเวลาที่เราจะได้วาดลวดลายของรถคันนี้บนถนนต่างจังหวัดบ้างเสียที ต้องบอกเลยว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้ที่มาพร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร สร้างความประทับได้ตั้งแต่กดคันเร่ง อัตราเร่งที่มันผลิตออกมาดึงให้หลังคุณติดเบาะได้อย่างฉับพลัน และถ้าขับด้วยโหมด Sport ความเมามันส์ของรถคันนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ดุๆ สไตล์ M
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0131.jpg)
ระบบส่งกำลังทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์ได้อย่างกลมกล่อมชวนให้เหยียบเพลินๆ ไปแตะ 120 กม./ชม. ได้ไม่ยาก หากเป็นโหมด Sport เกียร์จะตอบสนองเร็วขึ้น รอบเครื่องจะค้างไว้ในช่วงที่ให้แรงบิดสูงสุดเพื่อมอบความบันเทิงและความเร้าใจแบบที่คุณต้องร้องว๊าว
การขับขี่ความเร็วสูงให้ความมั่นใจได้เป็นอย่างดี พวงมาลัยจะหนืดขึ้นทำให้การควบคุมเป็นไปด้วยความมั่นคง ระยะฟรีที่น้อยทำให้การเปลี่ยนทิศทางทำได้รวดเร็วและแม่นยำ ขณะที่ระบบช่วงล่างก็มอบความนุ่มสบายได้อย่างน่าชื่นชม พร้อมกับมอบความหนึบแน่นทั้งทางตรงและในโค้งได้เป็นอย่างดี ไม่ยวบยาบชวนให้เวียนหัว อาการโยนขณะเข้าโค้งความเร็วสูงมีไม่มาก ซึ่งเราประทับใจกับคุณภาพการขับขี่ของ 520d Sport มากๆ
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0154.jpg)
ระบบเบรกให้ฟีลลิ่งแบบนุ่มนวล กะระยะง่าย ความหน่วงจะเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักเท้าที่กด จัดว่าเป็นเบรกที่เหมาะสมกับกำลังของรถ ให้ความมั่นใจขณะขับขี่ได้ดีในทุกสถานการณ์
ที่ต้องชมอีกอย่างคือการป้องกับเสียงรบกวนภายนอกรถ แน่นอนว่ารถหรูยูโรเปียนมักจะป้องกันเสียงภายนอกได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ซึ่ง 520d Sport ก็ไม่ทำให้ผดหวัง ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. เสียงลมและเสียงยางบดถนนเล็ดลอดเข้ามาน้อยราวกับว่ากำลังขับแค่ 60 กม./ชม. คุณสามารถดื่มด่ำไปกับบทเพลงจากเครื่องเสียงคุณภาพจาก BMW ได้ตลอดการเดินทางโดยไม่เสียอารมณ์
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0075.jpg)
จากการทดลองขับขี่ใช้งานจริงบนถนนในเมืองและนอกเมืองรวมกัน ขับทั้งโหมด Comfort และ Sport สลับไปมาตามอารมณ์ 520d Sport กินไม่จุอย่างที่คิด ตัวเลขบนหน้าปัดแสดงอัตราบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ยราว 15 กม./ลิตร เท่านั้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างประหยัดมากสำหรับรถที่มีขนาดตัวถังใหญ่โตแบบนี้ ความเชื่อที่ว่ารถหรูไม่มาคู่ความประหยัดอาจไม่จริงอีกต่อไป
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A0098.jpg)
สรุปความน่าใช้
BMW 520d Sport คือการต้อนรับเข้าสู่ครอบครัว 5 Series อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ว่าคุณจะอัพเกรดขึ้นมาจาก 3 Series หรือเปลี่ยน 5 Series ที่มีอยู่เดิมเป็นคันใหม่ รถรุ่นนี้คือความสมบูรณ์แบบ ครบ และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป คุณสามารถขับซีดานมาดสปอร์ตคันนี้ได้ในทุกๆ วัน จะใช้เป็นประจำครอบครัวก็ได้ เป็นรถประจำตำแหน่งพร้อมคนขับก็เท่ไม่เบา ซึ่งไม่ว่าจะบทบาทไหน 520d Sport ก็พร้อมจะมอบความสะดวกสบายให้คุณอย่างเต็มที่
![](https://www.whatcar.co.th/wp-content/uploads/2018/07/C5A9982.jpg)
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จัก 520d Sport แบบทะลุปรุโปร่ง เรารู้แล้วว่าทำไมต่างประเทศถึงให้การยอมรับ 5 Series G30 อย่างแพร่หลาย ราคาค่าตัว 3,439,000 บาท แลกกับรูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตทันสมัย สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม อัตราเร่งเร้าใจ การควบคุมดีเลิศ ภายในที่กว้างขวางโอ่อ่า สะดวกสบายด้วยเทคโนโลยีพร้อมทั้งระบบความบันเทิงล่าสุด และระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล เหตุผลเหล่านี้เพียงพอที่ 520d Sport จะจอดอยู่ที่โรงรถของคุณแล้วหรือยัง
The Review
BMW 520d Sport
BMW 520d Sport คือซีดานผู้บริหารที่ครบเครื่องในทุกด้านพร้อมกับรูปลักณ์ดีไซน์ที่ให้ความสปอร์ตกระชากวัย สามารถใช้งานได้ในทุกวัน การขับขี่และการควบคุมดีเยี่ยมสมราคาบีเอ็มดับเบิลยู ขณะที่ช่วงล่างและระบบกันสะเทือนก็ให้ทั้งความนุ่มนวลและเกาะถนนดีมาก ด้วยราคาค่าตัวไม่ถึง 3.5 ล้านบาท การลงทุนคบหากับหนุ่มหล่อมาดสุขุมคันนี้คือสิ่งที่คุ่มค่า
PROS
- รูปลักษณ์ภายนอกสปอร์ต
- ขับขี่ง่าย อัตราเร่งดี ช่วงล่างนุ่มนวล
- ประหยัดน้ำมัน
- ระบบสาระบันเทิงยอดเยี่ยม สีสันของหน้าจอสวยงาม
- ภายในกว้างขวาง ตกแต่งประณีตสวยงาม
CONS
- ไม่มีกล้องมองหลัง
- ไม่มีแพดเดิลชิฟท์
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
BMW 520d Sport DEALS
We collect information from many stores for best price available