Aston Martin DBS Superleggera เป็นรถที่เร็วและทรงพลังที่สุดในค่าย ณ เวลานี้ Super-GT คันนี้มุ่งเป้าท้าชน Ferrari 812 Superfast
ค่ายรถเมืองผู้ดีทำการชุบชีวิตชื่อ DBS ขึ้นมาอีกครั้งหลังจากเลิกทำตลาดไปในปี 2012 ด้วยโมเดลใหม่ที่จะมาแทน Vanquish S กับขุมพลังในระท็อปคลาส คำว่า Superleggera ที่พ่วงท้ายมาหมายถึง Super light ในภาษาอิตาเลียน และมันชวนให้นึกถึง DBS รุ่นแรกปี 1967 ชื่อ Vanquish ไม่ได้เลิกใช้ แต่บริษัทจะเก็บไว้สำหรับซูเปอร์คาร์เครื่องวางกลางโมเดลใหม่คู่แข่งของ McLaren 720S ที่จะมาในปี 2021
DBS Superleggera สร้างบนพื้นฐานของ DB11 และใช้เครื่องยนต์ V12 5.2 ลิตร เทอร์โบ ที่ Aston ผลิตเอง เครื่องบล็อกนี้ให้กำลังสูงสุด 715 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร ที่ 1800-5000 รอบต่อนาที
เพื่อนำส่งพละกำลังและแรงบิดอันมหาศาล DBS Superleggera จึงมีการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่เป็น 2.9:1 ส่งกำลังทั้งหมดไปสู่ล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.4 วินาที, 0-160 กม. ทำได้ใน 6.4 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ทำได้ต่ำกว่า 9 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม.
DBS Superleggera มาพร้อมกับกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ เพิ่มความดุให้กับตัวรถได้เป็นอย่างมาก พร้อมด้วยไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่แตกต่างจาก DB11 อย่างสิ้นเชิง และเป็นครั้งแรกที่โลโก้รูปปีกบริเวณฝากระโปรงท้ายเปลี่ยนมาเป็นตัวอักษร Aston Martin
ระบบท่อไอเสีย 4 ท่อ ได้รับการปรับจูนให้สุ้มเสียงมีความดุดันและไพเราะมากขึ้น โดยเสียงที่ออกมาดังกว่า DB11 10 เดซิเบล
ชุดบอดี้พาร์ทโดดเด่นด้วยสปลิตเตอร์หน้าสำหรับจัดระเบียบลมที่ไหลผ่านใต้ท้องรถ ดิฟฟิวเซอร์ท้าย และสปอยเลอร์หลัง Aeroblade 2 ที่สามารถสร้างแรงกดด้านหน้า 60 กก. และด้านท้าย 120 กก. แรงกดรวม 180 กก. เป็นแรงกดสำหรับรถโปรดักชั่นคาร์ที่มากที่สุดในค่าย ณ ตอนนี้
DBS Superleggera มีน้ำหนักตัวรถเปล่า 1693 กก. มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว รัดด้วยยาง Pirelli P Zero สเปกพิเศษผสมวัสดุ PNCS สำหรับช่วยลดเสียงรบกวน
DBS Superleggera จะเริ่มขายในช่วงปลายปีนี้โดยเริ่มจากเวอร์คูเป้ 2 ประตูก่อน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 225,000 ปอนด์ (11.25 ล้านบาท) เวอร์ชัน Volante มีกำหนดเข้าสู่ตลาดช่วงต้นปีหน้า
Gallery